22 พฤศจิกายน 2548 00:31 น.

อารมณ์ - อันตราย

แดดเช้า

 กระแสลมเชี่ยวกรากน้ำหลากไหล
กระแสใจเชี่ยววนจนพล่านฝัน
กระแสคิดบิดเบือนเหมือนคว้างวัน
กระแสหวั่นฟุ้งกระจายคล้ายเงาเวียน

ฉันจ่อมจมงมงายอับอายบ้า
บังเบื้องหน้าพายุประทุเฉวียน
โลกวิ่งวุ่นหมุนหม่นบนเปลวเทียน
ไฟร้อนเจียนจุ่มจับกับหัวใจ

แล้วลุกเพลิงเชิงตะกอนย้อนเผาผลาญ
ระริกร่านเริงระบำช้ำเพียงไหน
กับกองฟืนยืนเร่ากับเถ้าไฟ
ลุกหมกไหม้โหมแรงจนแห้งตอ

กระแสไฟไหม้ฟาดโกรธกราดเกรี้ยว
ขึ้งเคียดเคี่ยวคร่ำขุ่นหมกมุ่นก่อ
เทาะเถ้าดำคล้ำอาฆาตสาดควันพอ
ให้เหี่ยวห่อโศกระทดจนหมดไฟ

อัดอารมณ์อันตรายกรายกลบติด
โดยเชื้อจิตจุดเชื้อเพลิงระเริงได้
หลั่งสายน้ำกระหน่ำเชี่ยวคลื่นเกลียวใด
ลมโหมใจเจ็บหนัก รัก-เกลียด-กลัว

จึงตั้งมั่นภูผาชันไม่หวั่นไหว
ต้านแรงใจเกลียวคลื่นในคืนสลัว
เกราะ-กรอบกั้นแกร่งสติมิเมามัว
ล้อมเป็นรั้วกันอารมณ์โถมอันตราย.				
19 พฤศจิกายน 2548 20:06 น.

กระต่ายในเงาจันทร์

แดดเช้า

ยังมีเงาเก่าก่อนย้อนอดีต
เรื่องจารีตเล่าต่อพอเป็นหวัง
หนึ่งกระต่ายคล้ายเฝ้าเงาภินท์พัง
ณ จันทร์ขังแสงนวลให้ครวญรอ

หันหน้าพร่างกระจ่างต่างหน้าโลก
กระต่ายโศกเบื้องหลังเงาเฝ้าเติมต่อ
สร้างอนุสรณ์วอนร่ำคำถักทอ
อ้อนวอนขอให้เห็นจันทร์เพ็ญตา

มีกระต่ายเพศผู้หวังสู่สม
ซ่อนภิรมย์ฝันฟุ้งปรุงเปี่ยมค่า
อยากสัมผัสกระต่ายในจันทรา
วาดฝันว่าวันไหนได้ชื่นชม

แอบฝันเพียงพบรักปักใจฝัน
คล้องจิตมั่นสบตาคราสุขสม
อาจโศกเศร้าเหงาเหว่ว้าหว่างอารมณ์
ณ คืนค่ำสายลมหนาวพรมมา

วะหวิวหว่างว้างเวิ้งกลางเชิงเขา
พิศเพียงเงากระต่ายคล้ายไขว่หา
ท่ามอารมณ์ตรมขมข่มอุรา
มองด้านหน้าเคว้งคว้างอยู่กลางไพร

เบื้องหลังโหวงโล่งเตียนเจียนใจขาด
เขาชันลาดชอกช้ำแทบร่ำไห้
พบกระต่ายสาวน้อยคอยปลอบใจ
เสพรักไว้แทนกระต่ายในนวลจันทร์

จึงเป็นเรื่องเล่าขานจากจันทร์เจ้า
ความรักเฝ้าหวงแหนแทนความฝัน
กระต่ายหมายพิศชื่นยังยืนยัน
จะรักมั่นกระต่ายในจันทร์ดวง

ผ่านเลยวันผันคืนชื่นโศกสุข
โลกยังปลุกเปลี่ยนวนบนวันล่วง
คืนแล้วคืนเล่า ... เจ้ากระต่ายคล้ายเหน็บทรวง
กระต่ายบนจันทร์ช่วงยังนิ่งมอง

ณ ความจริงอิงซ่อนจันทร์จรหมุน
ด้านหน้าคุ้นกระต่ายคล้ายหม่นหมอง
ไม่อาจสืบเชื้อสายในครรลอง
ได้แต่ปองโลกนี้ทุกวี่วัน

หลายความหวังหลั่งไหลในใจข้า
เหมือนกระต่ายบนจันทราล้าความฝัน
ซ่อนเงามืดแห่งปริศนาอันตีบตัน
ได้แค่หันด้านสว่างอย่างกล้ำกลืน.				
18 พฤศจิกายน 2548 09:54 น.

ตลาดศรัทธา

แดดเช้า

เร่เข้ามา เร่เข้ามา ... เขาค้าขาย
มีศรัทธาเรียงรายหลากหลายสี
คำยกยอปอปั้นสรรหามี
ยิ้มดีดีก็รอขายใครอยากเอา

แค่คุณมีเงินตรามาสาดให้
ตลาดนี้คึกคักได้ไม่เงียบเหงา
ทุกคนคอยรอยยิ้มอิ่มมัวเมา
จุดศรัทธาลวงเขลาบนเงาลาง

หรือคุณมีคำเยินยอพอสรรเสริญ
ศรัทธาพอเพลิดเพลินพลุพราวพร่าง
เร่เข้ามา เร่เข้ามา ศรัทธาวาง
จะเสกสร้างทุกต้องการประสานใจ

อาจคุณมีเกียรติยศพอทดแทน
ศรัทธาหลั่งล้านแสนโกฏิแน่นไหล
หลั่งมาเพื่อเกื้อกูลพออุ่นไอ
ชดเชยใส่ชีวิตพร่องทิศทาง

ฤๅคุณมีสิ่งสุขพอปลุกปลอบ
เอาใจมอบใส่ใจได้ทุกอย่าง
ใช้ความรักถักทอสอพลอพราง
เพื่อคว้าความเปล่าว่างแห่งศรัทธา

เร่เข้ามา เร่เข้ามา ตลาดนี้
ยังคงมีสิ่งเนื่องหนุนมากคุณค่า
แหล่งซื้อขายศรัทธาปลอมหลอมมารยา
ตามประสาคนเขลาขายเงาใจ.  				
17 พฤศจิกายน 2548 12:25 น.

นิทาน กา กับ หงส์

แดดเช้า

กาลครั้งหนึ่งนานมามีเรื่องเล่า
หงส์นงเยาว์อยากค้นหนทางใหม่
จึงบินเที่ยวเทียวตะลอนจรร่ำไป
อยากพบเพื่อนรู้ใจระหว่างทาง

หงส์ถลาบินท่องลำคลองบึง
สบตาซึ้งคบหากาดำกร่าง
ซักถามสืบเสาะเรื่องเนื่องอำพราง
มีทางพร่างมืดมนที่หนใด

กาเริ่มเบ่งละเลงก้องป่าของกู
กูผู้รู้ทุกหนที่ที่ผ่านได้
ทั้งบนบกในน้ำมุดดำไป
อยากรู้จักเพียงไหนให้ถามกู

หงส์ชื่นชมกาดำพูดพร่ำเพ้อ
ยื่นคำมั่นเสมอจะเคียงอยู่
เป็นเพื่อนกาอย่าทิ้งกันมั่นใจพรู
หลั่งใจสู่กาดำเหมือนมิตรแท้

กาเห็นหงส์ระหงบางร่างงามนัก
ริษยาใจหนักจึงเย้าแหย่
"สีผิวเจ้าขาวเกินไม่น่าแล
ต้องกันแก้อันตรายด้วยทาดำ"

จึงเอาโคลนป้ายหงส์ลงละเลง
ทำท่าเก่งลงมือหนักขยับขยำ
หงส์เสียใจกาใจร้ายกรายกระทำ
กายหงส์ช้ำด้วยกามาราวี

จึงผละห่างจากกาดำใจชั่วช้า
ไม่โกรธกาแต่โทษตนไร้ศักดิ์ศรี
ค่าของหงส์คงล้ำที่ความดี
ไม่น่าลงมาป่นปี้ด้วยมือกา

กาโกรธหงส์ลงประกาศว่าชาติชั่ว
น่าเกลียดกลัวเนรคุณไม่หนุนค่า
กาอุปการะทุกอย่างทั้งผ่านมา
หงส์แกร่งกล้าเพราะใครลองไตร่ตรอง

ป่าวประกาศสัญชาติกาหยาบช้านัก
ก้องเสียงหนักยิ่งประจานความหม่นหมอง
กาบอกว่าข้านี้แน่ให้แลมอง
เด่นใหญ่กว่าใครผองลองทวนดู

หงส์ทะยานผ่านฟ้าถลาร่อน
งามกายอ่อนชดช้อยคล้อยบินกู่
การิษยาหงส์นักจักเชิดชู
บอกว่างามเพราะกูรู้บ้างนะ

บรรดาสัตว์ทั้งหมดจดจำคำ
ระลึกร่ำประจานกาว่ากักขฬะ
เที่ยวอวดเบ่งตัวตนพ้นพันธะ
หวังเพียงสักการะจากมวลมิตร

ยิ่งใครห่างจากกากายิ่งโกรธ
หมายกล่าวโทษหงส์ใส่ร้ายในสิ่งผิด
หงส์คงร่อนถลาบินสู่ถิ่นคิด
ไม่หลงติดกับกาไม่อาลัย

ด้วยเสวนากับคนพาลพาลให้เสีย
หงส์อ่อนเพลียพลาดชีวิตผิดเหลวไหล
การเรียนรู้ต้องรู้คิดรู้หลีกภัย
รู้สัญญาณแห่งฟอนไฟในใจคน

จึงจะงามตามหงส์ทรงศักดิ์ศรี
อย่าคลุกคลีกับกาพาสับสน
นิทานเล่าเรื่องนี้ที่บอกตน
รู้คิดค้นคบใครให้ตริตรอง.				
16 พฤศจิกายน 2548 22:12 น.

กรุ่นกลิ่นดอกแก้ว

แดดเช้า

 ณ สวนแก้วแว่วเสียงพร้องเพลงหวาน
คีตกานท์ผ่านยินใจชวนฝัน
หลายคนนั่งหลั่งลิขิตคิดวาดวัน
ขีดภาพคั่นกาลเวลา ณ ที่นี้

สวนแก้วยังเบิกบานคนขานรับ
หนุ่มสาวซับน้ำตากันที่นี่
ศิลปินถวิลหาภาพดีดี
วิชาการล้นปรี่ยังมีเติม

รั้วสีเขียว "ศิลปากร" ย้อนความหลัง
ฉันยังฝังใจจดจำพจน์เพิ่ม
นั่งเขียนกลอนวอนร่ำคำเดิมเดิม
อันจะเสริมคำรักให้หนักพอ

ณ สวนแก้วแว่วแล้วคีตกานท์
ใครสักคนขับขานสานเติมต่อ
ลากรอยร่องริ้วสีที่เร้นรอ
ปลายดินสอละเลงลงลานคำ

หอมกรุ่นกลิ่นกำจายในสวนแก้ว
หายเหนื่อยแล้วหลังเรียนเพียรคำร่ำ
ม้าหินอ่อนผ่อนพักถักลำนำ
กำจายพร่ำพรั่งพรูเพียงรู้ใจ

ดอกแก้วบานเบิกเบ่งละเลงสวน
ปลอบใจถ้วนทุกเหนื่อยอ่อนยามอ่อนไหว
สูดสายลมบริสุทธิ์พร่างพิงร่มใบ
ร่วงดอกใส่หอมนักเหมือนทักเตือน

กำลังใจได้กลับมาอีกครานี้
คิดถึงวันดีดีที่มีเพื่อน
ดอกแก้วยังสะพรั่งหลั่งใจเยือน
เปี่ยมเสมือนแรงดลใจในคำกวี

ณ สวนแก้วแว่วเสียงพร้องเพลงหวาน
คีตกานท์ศาลาศิลป์ยินทุกที่
แม้ฉันห่างสถานศึกษาแห่งไมตรี
ยังยินดีคิดถวิล "ศิลปากร". 				
Calendar
Lovers  2 คน เลิฟแดดเช้า
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแดดเช้า
Lovings  แดดเช้า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแดดเช้า
Lovings  แดดเช้า เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแดดเช้า