ช่ออักษราลี
๐ ในความมืดอันขื่นขมท่ามลมหนาว
ไร้แสงดาวพราวพร่างเหมือนอย่างเห็น
ไม่มีเดือนเคลื่อนลอยคล้อยอย่างเป็น
ดั่งเหมือนเช่นสวรรค์ปิดสู่นิทรา
๐ ผ่านวารคืนยาวนานในกาลค่ำ
ผ่านมืดดำแห่งฝันถลันผวา
ผ่านความเย็นยะเยียบเฉียบอุรา
ผ่านดงป่าน่าสะพรึงตรึงดวงใจ
๐ สักกี่วารกี่กาลหนอจักรอเห็น
ฟ้าจะเป็นเฉกแสงทองอันผ่องใส
อีกซักหน่อยมืดปรอยคล้อยคลาไคล
อีกเมื่อไหร่ก็จะรอไม่ท้อเลย
๐ พร่ำพ้อรออุ่นอรุณรุ่ง
แสงจรุงพุ่งเฉลาเช้าเฉลย
เพราะเมฆใหญ่มาบังแสงเช่นอย่างเคย
เมฆเอื้อนเอ่ยฟ้านี้มีข้าครอง
๐ ข้าจักบดบังแสงแห่งอาทิตย์
จะลิขิตชะตาดาวที่พราวฟ่อง
แสงดวงเดือนให้เลือนหลงจากรงรอง
ข้าจักครองดาวดินฟ้าใ