21 กุมภาพันธ์ 2550 20:39 น.

รามราชท้ายน้ำ

กุหลาบน้ำตา



      รามราชท้ายน้ำ  เป็นเรื่องเล่าของปู่ย่าตายาย  เท็จจริงอย่างไร

กุหลาบน้ำตา ไม่สามารถรู้ได้  ว่ากันว่า  เป็นเรื่องราวการเดินทาง

ของเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ( พระเจ้าศรีธรรมโศกราช ) โดยเสด็จ

ทางชลมารค ณ คลองเลียบเมือง  และเมื่อมาถึง บ้านท้ายน้ำ  ได้เกิด

เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น  โปรดติดตามต่อไป ในกาพย์ห่อโคลง นะครับ



       กุหลาบน้ำตา ลองนำคำเล่าขาน มาแปลงเป็นกานท์กลอน



        ศรีธรรมโศกกษัตริย์           รามราช

เสด็จเยือนถิ่นทรงประพาส           เรือหลวง

จากเลียบเมืองถึงบ้านกาศ            ท้ายน้ำ

ถือฤกษ์เก้าเดินดวง                      ดารดาษราชรัตน์  เรือนา

        ถือฤกษ์นพรัตน์                  จอมกษัตริย์ยุรยาตร

จากเลียบเมืองบ้านกาศ               ถิ่นท้ายน้ำย่ำฟ้าสาง

        พร้อมพลทหารรักษ์              ประดับศักดิ์อัษฎางค์

ราชรัตน์นามเรือกลาง                  ถือมงคลประโคมครัน

        เรือล่อง ณ ทางถิ่น                ปักษีบินระกาขัน

พร้อมสรรพราชภัณฑ์                   รพีภัทรกระจัดเรียง

        ผ่านไทรและโพธิ์พฤกษ์       ย่ำยามดึกสงัดเสียง

หมู่ภมรอ่อนสำเนียง                    ยุรยาตร ณ กลางชล

        พระพายส่ายโหยหวน          ดูเรรวนแลสับสน

มองทั่วทุกตัวคน                          ยิ่งเคลือบแคลงสำแดงเดช




         พระพายโหยโรยเรื้อ             เรือหลวง

จันทราทรเด่นดวง                          ดื่นดาษ

ยามราตรีกาลลวง                            ลึกลับ

ดั่งเทพสำแดงประกาศ                    กู่ก้องร้องชัย

        สายชลไหลวนกลับ                  ดั่งเปรียบกับกึ่งอาเพศ

ฤกษ์ลดหมดสังเกต                         เสมือนเหตุจะร้ายแรง

        ฝนบ้าเมฆาคลั่ง                       ทุ้งกระทั่งสิ้นคลังแสง

เดชฤทธิ์ผิดสำแดง                           ระเดียดาษจะฟาดฟัน

        เรือหลวงโคลงแคลนคลอน       ท้ายเรือร่อนระส่ายสัน

ธงริ้งปลิวอนันต์                                ดูอนาถเกินคาดคิด

        กิ่งพฤกษ์ผนึกหัก                     บรรจงปักบนเรือติด

การณ์ร้ายกลายเป็นพิษ                    สุดจะพร่ำหรือคร่ำครวญ

        เหรามานอนขวาง                    ณ ชลกลางดูผันผวน

ชนม์ชีพเหมือนติดตรวน                  สุดจะตรึกรำลึกลา

        อ้าโอษฐ์เหมือนโกรธจัด          หางสะบัดขัดช่วงขา

ร่อนกายฝ่ายธารา                           สายชลร่ายเป็นกลายเกลียว

        พลทหารพาลเข้ายุทธ             แขนขาหลุดดูน่าเสียว

เลือดทรุดสุดจะเยียว                       ถ้าเข้ายั้งต้องพลั้งตาย

        เลือดสาดชาดแดงสด              สุดสลดทรุดสลาย

เลือดหลากธาราราย                         ทั้งชลสายเลือดกายกอง




        เหราขวางทางชล                 ชลาราศ

อาเพศกลายร้ายกาจ                   กึ่งสลอน

พลทหารพาลถึงฆาต                    คราคร่ำ

ทุกข์หลากยากจะย้อน                  ยลเบื้องเมืองหลวง  นครนอ

          เหรามุดยุดเรือ                       จนหางเสือขาดสยอง

พลทหารพาลลงกอง                         เกลือกกลิ้งกลับลงทับกัน

          จอมกษัตริย์สุดขัดจิต             รำลึกคิดผิดสิ่งสรรพ์ 

พลฆาตอนาถครัน                             สุดจะครวญหวนถึงดวง

           ถอดทรงบรรจงกราบ              ศิโรราบพิธีหลวง

ร่ายเวชเดชกลลวง                            ฤาจะเลื่อนหรือเคลื่อนกาย

           โอมศรีรุจิเรจ                         ฤทธิ์อาเพศวินาศสลาย

จอมเหราเพรียกพากาย                      หาย ณกลางชลธี

           ฤทธิ์เวชจอมกษัตริย์               เหราบัดบ่ายร่างหนี

เหตุร้ายกลับกลายดี                           ด้วยฤทธีเจ้านคร

           ฟ้าสางสร่างทั่วหล้า                  พื้นนภาประภัสสร

ด้วยเดชฤทธิรอน                               รามราชจอมณรงค์

           รามราช ณ ท้ายน้ำ                   มุ่งจะนำจุดประสงค์

เมืองนครสิธำรงค์                               ฉลองราชประกาศไกล

           นิยายแต่เบื้องบรรพ์                 มาเสกสรรค์พิศมัย

ลูกหลานจึ่งเข้าใจ                              บรรจงน้อมประนอมคุณ				
21 กุมภาพันธ์ 2550 19:57 น.

นิยาย...คนบ้า

กุหลาบน้ำตา



         ร่างโซกายโทรมทรุด...

เราจะหยุด... หรือเดินต่อ...

เดินมากไป... หรือเพียงพอ...

ต้องไม่ท้อ... เดินต่อดีกว่า...

         เก็บเล็กผสมน้อย...

มาติดร้อย... ห้อยกายา...

เราคนดี... หรือคนบ้า...

อย่ามองมา... ต้องบ้าตาม...

         โหร้อนแสนร้อนจัด...

ลมไม่พัด... ซัดคำถาม...

กำลังคอย... หรือติดตาม...

แม่คนงาม... น้องทรามวัย...

          ชีวิตหนอชีวิต...

พลั้งพลาดติด... ผิดวิสัย...

มีเพียงหนึ่ง... หรือสองใจ...

เอ๊ะทำไม... จึงแปรปรวน...

          อิ่มมื้ออดมามาก...

สงสารปาก... น่ากำสรวล...

อย่ามาทัก... หรือชักชวน...

มาก่อแกวน... รำคาญใจ...

          เป็นคนหรือปนสัตว์...

แสนอึดอัด... อยากแจ้งไข...

เราเดินมา... หรือเดินไป...

ภายในใจ... อยากจะจร...

          เดินพร่ำอยู่ผู้เดียว...

อุ้ยน่าเสียว... ลางสังหรณ์...

เราคนเมือง... หรือดงดอน...

อยากพักผ่อน... สักหนึ่งคืน...

          น้ำหล่นนั่นฝนตก...

วณิพก... อย่าขัดขืน...

ต้องก่อไฟ... ถ้าหาฟืน...

ยามดึกดื่น... ฝืนการเดิน...

           เหนื่อยท้อหนอคนบ้า...

ใครเดินมา... อุ้ยน่าเขิน...

มีเงินมาก... หรือน้อยเกิน...

เราต้องเดิน... เดินต่อไป...				
19 กุมภาพันธ์ 2550 18:57 น.

เริงรื่น...เพราะ....ชื่นรัก ฉบับ โตฎกฉันท์๑๒

กุหลาบน้ำตา



       อุรเริงอุรรื่น                 จิตชื่นก็สบาย

อุรรัก ฤ มิคลาย                   กลเคลื่อน ฤ มิคลอน

       ทวิรักทวิปลื้ม                สิจะลืม ฤ สินอน

กศเกยณ ฤ หมอน               จิตฝัน ฤ จะกลัว

       นิรราศผิวแผ้ว              นภแนวสิสลัว

มนร่วมจิรตัว                        ดรทรุด ฤ จะทรง

       ฤดิหลามฤดิล้น              อุรทน ฤ จะหลง

นุชรักสิจะคง                         อุรรัก ฤ มิคลาย

       วรนุชวรนารถ               วรพาฏวรกาย

ดนุมั่นจิตหมาย                     มนรื่นอภิรมย์				
19 กุมภาพันธ์ 2550 18:49 น.

เพียง.....คำนินทา

กุหลาบน้ำตา



      คำนินทาคือวาจามาแนมเหน็บ

คำนินทาหรือจะเจ็บจนหวั่นไหว

คำนินทามาสักร้อยไม่สนใจ

คำนินทาก็ว่าไปไม่ไหวติง


      คำนินทาภาษาคนที่จนตรอก

คำนินทาเอ่ยอ้างออกบอกชายหญิง

คำนินทาเพียงลมพาอย่าประวิง

คำนินทาที่แน่จริงคือสิ่งดี


      นินทาเพื่อนมิมองตนนั่นคนบ้า

เอาวาจามาใส่ร้ายคิดป้ายสี

เอาความชั่วมาใส่ตนปนราคี

คนแบบนี้ไม่ควรคบประสบเจอ


        เพียงนินทาอย่าถือสาเอามาโกรธ

จะเป็นโทษเมื่อภายหลังคิดพลั้งเผลอ

เพียงนินทาอย่าเฉียวฉุนหนุนบำเรอ

จะพาลเจอกับคนพาลผลาญชีพตน				
19 กุมภาพันธ์ 2550 18:38 น.

มายาแห่งชีวิต

กุหลาบน้ำตา



        โลกหมุนเปลี่ยนเวียนหันตามขั้นตอน

โลกสวมบทรสละครร่อนเฉิดฉาย

โลกบรรเลงดนตรีกาลผ่านเชิงชาย

โลกลงสีเลงระบายตามสายลม


        มายาหลอนมายาลวงมายาโลก

มายาโศกสลดหนักมักสาสม

ชีวิตคล้อยคละความตามอารมณ์

โลกระทมมายารุกทุกข์ถึงชนม์


        วัฎจักรแห่งชีวิตลิขิตเขียน

ต้องเกิดตายว่ายเวียนระเมียรผล

เจ็บและแก่กระแสชีพแห่งตัวคน

หนีไม่พ้นต้องค้นพบประสบเจอ


        เอาเงินตรามาแปลงค่าราคาชีพ

ราคาบีบคั้นถึงตัวมัวเสนอ

เอาทรัพย์สินภายนอกบอกบำเรอ

ต้องพร่ำเพ้อเสนอตนบนมายา				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกุหลาบน้ำตา
Lovings  กุหลาบน้ำตา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกุหลาบน้ำตา
Lovings  กุหลาบน้ำตา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกุหลาบน้ำตา
Lovings  กุหลาบน้ำตา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกุหลาบน้ำตา