1 ตุลาคม 2552 22:28 น.

** สุราษฎร์...ในความทรงจำ**

คนกุลา

rubber11w091.jpg
...........................................


เครื่องคล้อยลอยร่อนลงตรงทางวิ่ง
น้องชายดิ่งรีบมาจากนาสาร
รักเหมือนน้องวันสมัยวัยทำงาน
เดี๋ยวนี้ท่านโตใหญ่ในการเมือง

มาบ้านดอนครั้งนี้นับกี่ครั้ง
เคยมานั่งทำการงานต่อเนื่อง
พักโรมแรมใกล้ใกล้ไม่สิ้นเปลือง
เจ้าของเรื่องจัดไว้ให้อย่างดี

ก่อนไปพักน้องพาไปท่าข้าม
นั่งร้านงามอร่อยลิ้นลือถิ่นที่
โต๊ะริมนั่งฝั่งน้ำงามตาปี
สายนทีคลี่เรื่องราวชาวบ้านดอน

หลังบรรยายจบลงตรงช่วงเช้า
เขาพาเข้าในหมายรายการก่อน
ดูสวนปาล์มตามกำหนดทุกบทตอน
ก่อนจากจรตรงไปเมืองไชยา

ไปเยือนเยี่ยมสวนปาล์มนามทักษิณ
เคยได้ยินชื่อนี้นานนักหนา
บรรยายฟังเข้าใจได้คลับคลา
เพราะผู้มาไม่เคยดูรู้เรื่องปาล์ม

ออกจากสวนปาล์มเข้ายามบ่าย
ตะวันคลายคล้ายคลาดไม่อาจห้าม
ไปวัดธารน้ำไหลใจติดตาม
กราบงามงามพุทธทาสสะอาดองค์

กราบหุ่นท่านเหมือนจริงแท้สิ่งสร้าง
ดังรูปร่างเมื่อครั้งยังเป็นสงฆ์
มรณภาพตราบความดีที่ดำรง
พิศดูองค์อีกครั้งยังอาลัย

แวะเดินวนตามที่มีคนเล่า
ดูมะพร้าวนาฬิเกฤๅเฉไฉ
มะพร้าวเดี่ยวยืนต้นฉงนใจ
สอนอะไร...เวลาหรือปริศนาธรรม

เลยล่วงโรงมหรสพพบทุกสิ่ง
แต่เวลายิ่งไล่ล่าเข้ามาย้ำ
กราบพระท่านอธิบายขยายคำ
ขออภัยหลายล้ำจำจรลี

ตรงไปเมืองไชยากราบพระธาตุ
ดังได้กราบบาทบงส์พระทรงศรี
เป็นวัดเก่าเล่าเรื่องเมืองเคยมี
ส่งศักดิ์ศรีเรืองรุ่งกรุงพันพาน

จุดสุดท้ายเยือนพุมเรียงเคยเคียงที่
มาพบมีคนเล่ากล่าวคำขาน
แต่แปลกใจทำใมอยู่คู่ตำนาน
ฝีมือการทอผ้าไหมให้งุนงง

ก็ขิดผ้าแพรไหมใครเทียมเจ้า
เคยคลอเคล้าเย้าข้างอย่างไหลหลง
มาพุมเรียงเห็นกี่ไหมไล่ลายลง
ดังเวียนวงกลับอีสานแดนบ้านเฮา

จากพุมเรียงตะวันลอยลงคล้อยเคลื่อน
แดดเลือนเลือนเคลื่อนสาดทาบลาดเขา
คงต้องจำจากกันครั้นฟ้าเทา
ต้องเร่งเร้าไปถึงท่าเวลาบิน

......................


มาตามขอ  ไม่รอ  คราวหลัง
ร้อยกรองดัง  ตามใจ  โฉมฉิน
หากยินยอม  ขอพี่  ได้ยิน
จะขีดดิน  สอเล่า  เพื่อสาวพยอม

มาบ้านดอน  พบงามงอน  สดสวย
ดำขำด้วย  ลมเล  เห-ย้อม
ตาดำขลับ  ยอมรับ  ว่ายอม
ใคร่เด็ดดอม...บัวผุดดิน..รินร่ายชายรอ

ยามนุ้ยนาด  สวยชาติ  สวยจ้าน
มาจวนหน้าหวาน  แค่บ้าน  คนสวย
พาไหว้พระ  ตะพี่นี่  กราบด้วย
พ่อท่านช่วย  ให้ได้ชม  สมใจ...
นี่นุ้ยเหอ...ให้ได้ชม  สมใจ

ลำนำกลอนใต้  ไม่หมาย  เทียบเคียง
จำใจเรียง  ร่ายร่ำ  คำไข
พอเขียนได้  เพราะเคย  ได้ไป
กรองหัวใจ  เรียงราย  ได้มา

....................................


หมดเวลาต้องจำไกลจากไปแล้ว
เหมือนหมดแววหวังไหวจำไกลหน้า
อีกเมื่อไรคืนบ้านดอนหวนย้อนมา
ช่วยแก้วตาหน้านวลทำสวนปาล์ม


.................................................
 

เห็นว่ามีกลอนนำเที่ยวเมืองไทย เลยขอขุดกลอนที่แต่งไว้ มาร่วม
ด้วยช่วยกันนะครับ

คำศัพท์ท้องถิ่น

จวน......แปลว่า         พบ
นุ้ย..........."               น้องสาว
เหอ.........."               ครับ   คะ  เนาะ (เป็นคำลงท้าย..)
ตะ  ต้า......"               นะ   
สวยชาติ  สวยจ้าน ..."       สวยมากจริงๆ
แค่บ้าน......."             ที่บ้าน
ลมเล........"                ลมทะเล



คนกุลา

ในวสันต์

 				
1 ตุลาคม 2552 21:45 น.

**มหาชัย..ในคำนึง**

คนกุลา

22_1205983389.jpg
...............


โอหนอว่าวัยวันช่างสั้นมาก
นับจากวันเคยเนาเยาว์สมัย
ผ่านเลยห้วงล่วงลับนับวันวัย
เทียวท่องไปในฝันอันยืดยาว

มหาชัยในจินตนาการนับนานมาก
จนเลอะเลื่อนเลือนหลากหากจะเล่า
ด้วยดวงใจได้ดื่มกินรินเรื่องราว
กับนวลเจ้าเนื้อทองเหมือนต้องมนตร์

นั่งรถไฟตามทางรางลิบลิ่ว
ผ่านแถวทิวสวนหลากหลายหมากผล
ดังดุจฝันจับจินต์เคยยินยล
หนทางบนหมอนกลางรางรถไฟ

เที่ยวเส้นทางรถไฟในวันนั้น
ยังใช้กันเป็นงานตราบวันใหม่
นิ่งนั่งสบตารับกับจอมใจ
เมื่อวันไปเยือนถิ่นเธอยินยอม

คิดคุยร่วมนั่งเรียงคู่เคียงขวัญ
จับมือกันเพลงครวญมาท่าฉลอม
ไหว้หลวงพ่อบ้านแหลมกะแก้มพะยอม
แว่วเพลงกล่อมว่าหนุ่มหมายว่ายข้ามมา

ยามจากลามหาชัยไปบ้านแพ้ว
นานมากแล้วไม่ได้ไปใจห่วงหา
เรือเคยล่องคลองดำเนินเนิ่นนานนา
เปียกฝอยน้ำกระเซ็นซ่าปร่าเนื้อตัว

บ้านแพ้วพึ่งตลาดน้ำตามประวัติ
เห็นชัดชัดคลองรายร่ายร่องทั่ว
ปลูกผักผลสวนกล้วยไม้ไม่เกรงกลัว
ทำกันทั่วพ่นฉีดยาฆ่าแมลง

บ้านแพ้วกับมหาชัยไม่ต่างฝัน
แต่น้ำนั่นแตกต่างกันอย่างแกล้ง
น้ำบ้านแพ้วเยียบยั้งยังจืดแรง
มหาชัยแปร่งน้ำเรื่อเจือรสเค็ม

หากผ่านมาคราไหนใครไม่ทราบ
นาเกลืออาบแดดบ่ายพรายสีเข้ม
ภาพกังหันหมุนระหัดจัดน้ำเค็ม
เพื่อเติมเต็มก่อนตากเกล็ดเป็นเม็ดเกลือ

น้ำไล่ลิ้วปลิวระไวไหวระลอก
กลัวผิวชอกแห้งคล้ำช้ำดอกเหงื่อ
ราคาเกลือเกื้อหนุนคอยจุนเจือ
หมวกคลุมเพื่อปิดผ้ามิดสนิทใน

ออกทะเลเร่เรือเมื่อก่อนนี้
ไต้เรือมีแต่ลูกจีนถิ่นไหนไหน
เป็นคนคุมเรือนำทุกลำไป
เพราะเคยไกลกลายมาฝ่าฝั่งชล

จนวันนี้เพ-ลาผ่านอาจนานมาก
อีสานจากลูกเรือเรียนเปลี่ยนแปลงหน
เป็นไต้ก๋งธงเรือเมื่อท่องทน
ลูกเรือล้นเป็นพม่ากะคนมอญ

ชาวมหาชัยใจซื่อถือสัตย์ยิ่ง
เมืองพันท้ายนรสิงห์นามกระฉ่อน
ยอมเสียชีพดำรงตนจนม้วยมรณ์
เป็นผลย้อนขุดสนองฯคลองมหาชัย

เมื่อวันที่เมืองสมุทรสุดสายน้ำ
คนหลายล้ำต่างกันเผ่าพันธ์ใหม่
ตราบเท่าที่คนที่นี่ยังมีใจ
คนเมืองไกลก็ยังกล้ามาทำงาน

หอมเอยหอมกลิ่นทะเลร่ำ
เช้าค่ำเคยคาวปลาว่าหอมหวาน
รสเค็มปร่ามาเติมฝันในวันวาน
จึงแตกพ่านม่านมอญซ่อนเต็มเมือง

ลูกน้ำเค็มมักจริงใจไม่ลวงหลอก
แล่นเรือออกนอกท่าอย่ามีเรื่อง
ศพฝังศพทำใมให้เปล่าเปลือง
สุสานเนื่องทะเลกล้ามาแต่ใร

อยากกลับไปไหว้พระนะอีกครั้ง     
เพื่อฟื้นฟังคำหวานเคยขานไข    
เพื่อปลุกปลอบย้ำฝันวันต่อไป     
ถึงมหาชัยวันนี้ไม่มีเธอ     

  เรืออวนรุนอวนลากกรากเทียบท่า     
เรียงละลานสะพานปลามาเสมอ     
ทอดสมอรายเรียงเพียงได้เจอ
เหมือนรอเธอเมียงชะม้ายชายตามอง

เพรียงเกาะเสาปูนเก่าไม่เข้าท่า
ใจเหว่ว้าเกาะเยือนเหมือนยิ่งหมอง
ลอยลำเรือเพรื่อหน้าน้ำตานอง
ล่วงปากคลองออกทะเลเร่หาปลา

นับแต่นี้ไม่มีคนดีแล้ว
หวังพราวแพรวไม่มีนี่แก้วจ๋า
น้ำกับฟ้าในเงาฝันของวันลา
คล้ายบอกว่านับแต่นี้ไม่มีวัน

ในบางคืนคลื่นคลั่งดั่งน้ำบ้า
คนหาปลาพรั่นผวาพร่าประหวั่น
ทะเลคืบทะเลศอกบอกต่อกัน
เพื่อไม่พลันประมาทพลั้งแม้ครั้งเดียว

จุดประทัดหวังให้ได้มีโชค
ร่ายโศลกทูลกรมหลวงฯล่วงชลเชี่ยว
กลางทะเลเห่ลมกลมคลื่นเกลียว
เปลี่ยวแสนเปลี่ยวประทัดใจไม่คุคืน

""""""""""""

คนกุลา 
ในวสันต์ 

  

21_1205983302.jpg7_1205949270.jpg 

credit ภาพจาก คุณ ชาลี oknation.net/blog				
30 กันยายน 2552 23:04 น.

** ฟากฟ้า..เพียงฝัน**

คนกุลา

attachment.php?s=0ad11add2b8941db74c2596.
 
  ๐ หิมาลัยดั่งห้วง                 หทัยฝัน
คลอม่านเมฆเสกสรรค์          ช่อแก้ว
วาววับสุรีย์พลัน                     ยามส่อง   แสงแฮ
ทิวเทือกงามเพริศแพร้ว        แต่งฟ้าสวรรค์สรวงฯ

  ๐ ยามยลเห็นภาพนั้น         งามตา   จริงเฮย
ใจอิ่มเอิบคราวมา                 ถิ่นนี้
ควรสุขยิ่งในครา                  เยือนเยี่ยม    นางเฮย
หากคู่เคียงคลอชี้                  ดั่งให้ชมฝัน..ฯ

  ๐ เรียมมายืนอยู่คล้าย         คอยใคร
หนาวเมื่อลมพัดไกว              ดั่งเย้า
แดนฝันเร่งดวงใจ                คนึงนุช   นางนา
ภูสุดสูงไยเร้า                        เร่งให้ใจหวาม..ฯ

  ๐ หิมาลัยดั่งสร้อย              เทวา    งามเอย
สรรม่านกรองเมฆา              เสกสร้าง
มองเห็นภาพกลางนภา          ปานวาด   แม่เฮย
งามมิเคยราร้าง                   ทุกห้วงกาลสมัย..ฯ

   ๐ ชมภูเขาหากเจ้า             คลอเคียง
หวังร่วมปองขวัญเพียง          ชิดไกล้
สารคำขับขานเสียง               หมายสื่อ   ใจนา
ยามเมื่อเยือนหมายได้          ร่วมน้องสายสมร..ฯ

   ๐ เขาไหวหวามท่ามฟ้า       พราวพราย   ท่านนา
มาเปลี่ยวจึงเดียวดาย           หม่นแท้
ยลใดหากหาคลาย                ใจคิด   ถึงนา
อุกอั่งทรวงเกินแก้                ฟากฟ้าพาหมอง..ฯ



.........

คนกุลา
ในวสันต์




 

attachment.php?s=0ad11add2b8941db74c2596				
26 กันยายน 2552 17:20 น.

**เปิดบุญ**

คนกุลา

20090402061051.jpg 
  ๏ เยินยอยังทั่วด้าว         แดนไตร
เป็นมิ่งขวัญผองไท           ทั่วหล้า
จงมาโปรดอวยชัย           พรมอบ   มาเฮย
หวังสุขไปภายหน้า          ทุกข์ร้ายมลายสูญ..ฯ

  ๏ วันทาลงแทบเท้า        พุทธองค์
ธรรมเนื่องนำประสงค์      ส่งให้
บูชาเพื่อธำรง                  ชูศาสน์    ท่านเอย
มวลพระสงฆ์คงไว้            สืบเชื้อคงศีล..ฯ

  ๏ ขอพรธตรฐเบื้อง           บูรพา
ท้าววิรูปักษา                    อีกข้าง
วิรุฬหกคุมครุฑา               มาปก    ปักนา
เวสสุวัณฤๅร้าง                 รักษ์แคว้นแดนสรวงฯ

  ๏ ถึงธรณีแม่ผู้                ครองดิน  ทั่วเฮย
ไหลสู่คงคาริน                   แหล่งน้ำ
วาโยพัดรวยริน                 คราโบก   
หวังส่งเตโชซ้ำ                  มอดไหม้เทวษขวัญ..ฯ
  
  ๏ เปิดใจหวังเทอดฟ้า        คัคนางค์
ใจเมื่อหมายปล่อยวาง         เพริศแพร้ว
กายใจทั่วสรรพางค์            คราวก่อ   เกิดนา
ทำจิตใสราวแก้ว               กราบเท้าพระคุณ..ฯ

 ๏ ขอบุญบังเกิดแล้ว           ทุกกาล
อันสั่งสมมานาน                 เนิ่นช้า
ศีลทานโปรดบันดาล           มาส่ง     ผลแฮ
หวังเทพในทุกหล้า             ช่วยข้าฯเปิดบุญ..ฯ


                   
          .........

คนกุลา
ในวสันต์

 
20090402060815.jpg20090402060849.jpg				
25 กันยายน 2552 21:17 น.

**แสนคำนึง**

คนกุลา

46255219491.jpg
 ๐ ฝนครวญคราสลับด้วย            แสงไฟ   
คืนค่ำพรมไรไร                         หยดย้อย
ปานปรางพร่างชลใส                   เพียงหยาด    รินนา
เรียมนั่งเดียวดายร้อย                ถักถ้อยคำสรรค์..ฯ

  ๐ ยามยลฝนหลั่งหล้า                โลมดิน  นางเอย
เหมือนอาบลงบนจินต์                 ภักดิ์นี้
ยามแสนห่างยังถวิล                    เกินเอ่ย    คำแฮ
หวังว่าใครบอกชี้                        ช่องให้ถึงสมร..ฯ

  ๐ เพียงคราวใดห่างน้อง             นวลนาง   แม่เอย
กลัวนักใจจืดจาง                         จึ่งย้ำ
คราจรจากฤดีคราง                      คนึงสุด     นุชเฮย
ผิว์หวั่นใครกรายกล้ำ                  ชื่นเนื้อเรียมถนอม...ฯ

  ๐ แสนคำนึงพี่เฝ้า                     รำพัน
ยามห่างหายนางพลัน                   พรากข้าฯ
ขานกรองร่ำจำนรรจ์                    มาสู่       นางนา
หวังรับคำลอยฟ้า                         ส่งข้ามขอบสรวง..ฯ
 
  ๐ ถวิลหวนกอรักได้                   ถักทอ
ใจหากราวคอยรอ                        ดอกสร้อย
นวลใจพี่เคยคลอ                         หาห่าง      กายแฮ
หวังภักดิ์นวลสาวน้อย                   ที่ได้ร่วมฝัน...ฯ

   ๐ ใจยังคงเรียกย้ำ                     รอขวัญ
ในทุกยามสายัณห์                        ค่ำเช้า
นานนมแต่ปางบรรพ์                   เรียมร่ำ      รอนา
งามพรั่งหวังรักเจ้า                       แห่ห้อมคืนหอม..ฯ

.
 
คนกุลา
ในวสันต์

.........

 

63-20050512041436.jpg36255214440.jpg				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกุลา
Lovings  คนกุลา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกุลา
Lovings  คนกุลา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกุลา
Lovings  คนกุลา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคนกุลา