20 กรกฎาคม 2554 21:17 น.

**กาพย์ห่อโคลงเจนละ ๒**

คนกุลา


ตำนานเจนละ
๒)

๐ ปฐมฐานแรกเริ่มนั้น...........​....ริมมูล
เป็นเพราะความสมบูรณ์..........​....ยิ่งแล้ว
เสริม”เจนละ”รวมศูนย์.........​......เติบใหญ่
กระทั่งเถลิงฉัตรแก้ว...........​........ฝ่ายฟ้าแดนอีศาน..ฯ

.....................คน กุลา ๒๙ มีถุน ๕๔

๐ ตามตำนานแรกเริ่ม
แต่ตั้งเดิมก่อนเก่านั้น
เป็นเมืองขึ้น-ฟูนัน
เมื่อพร้อมพลันก็แข็งเมือง

๐ ท้าวสะสมกำพล
มากผู้คนหนุนเนื่อง
กุย จาม ขอม ลาว ร่วมเมือง
ทบนองเนืองสร้างชุมชน

๐ สามารถรวมเหล่ากอ
และเริ่มก่อสร้างไพร่พล
เข้มแข็งเติบใหญ่จน
ประกาศกล้าขึ้นเป็นไท

๐ สองพี่น้องเก่งรบ
สามารถสยบริปูไกล
ก่อนเชษฐาตั้งเวียงชัย
“จัมปานาค”ที่ริมมูล

๐ เถลิงฉัตรแห่งเจนละ
ชัยชนะก็เพิ่มพูน
ขยายเขตจรดนาดูน
“จัมปาศรี”บุรีงาม ๚ะ๛

.....................คน กุลา ๒๐ กรกฎ ๕๔

(กว่าจะมาเป็น ไทย ภาค ๒)



				
20 กรกฎาคม 2554 02:11 น.

**กาพย์ห่อโคลงเจนละ ๑**

คนกุลา



ร่ายสุภาพ :
ณ สถานวิมานอินทร์...ธ เยินยินยอท้าว....ทั่วถิ่นด้าวแดนไกล
หลังไศลภูมิประเทศ....รวมขอบเขตุขัณฑ์เข้า......ปราบจอมเจ้าถิ่นพนม
ชื่นเชยชมหมู่มิตร......รอบรายทิศแซ่ซ้อง........ทุ่งรวงทองงามล้ำ
จัดส่งน้ำชลประทาน.....ห้วยละหานตบแต่ง......หมั่นจัดแจงคลองท่อ
ขุดเบิกบ่อบาราย........ให้วัวควายฉ่ำชื่น....ผู้คนหมื่นแสนมา
ร่วมพาราก่อร่าง........หมายมุ่งสร้างเมืองบ้าน.....ที่ฝั่งย่านชีมูล
หวังเทิดทูลแว่นฟ้า......ยามเมื่อกรายเถลิงหล้า....ฝั่งน้ำงามแสน..ท่านเฮย 



ตำนานเจนละ
๑)

๐ จำเนียรกาลเนิ่นแล้ว.....สอ​งพัน ปีนา
เกิดก่อขอบเขตุขัณฑ์..........ใ​หญ่กว้าง
องค์ภววรมัน...................​..หมายก่อ
รวมไพร่พลหวังสร้าง..........ถ​ิ่นท้าวสืบปฐม. ๚ะ๛..

.....................

๐ จำเนียรกาลนับนานเนิ่น
ที่ขอบเขินแนวไศล
สองพันปีล่วงไป
อาณาจักรในตำนาน

๐ มีหน่อเนื้อกษัตรา
องค์ราชาจากห้วงกาล
รวมพลแนวท้องธาร
หมายสร้างบ้านมุ่งแปงเมือง

๐ นามภววรมัน
ตั้งต้นฝันงามประเทือง
วงศ์”เสนะ”ให้ลือเลือง
ขยายแคว้นข้ามแดนดง

๐ เข้ายึดวยาธปุระ
ศูนย์กลาง ณ พนมพงศ์
ขยายฐานอย่างมั่นคง
กรีฑาทัพขึ้นปราบดาฯ

๐ แยกตัวจากฟูนัน
เถลิงไอศวรรย์แห่งจัมปาฯ
นำทัพกับอนุชา
ประกาศกล้าฉลองชัย๚ะ๛

.....................คน กุลา ๒๐ กค. ๕๔

(กว่าจะมาเป็น ไทย ภาค ๒)

 				
16 กรกฎาคม 2554 21:53 น.

**.ใจ..คิดถึง**

คนกุลา


๐ ผืนฟ้ามืดชืดคล้ำฟ่อนดำเมฆ
ดั่งเทพเสกสั่งสรวงดับห้วงหน
แสดม่วงแดงแฝงครามเมื่อยามยล
ย้ำมัวหม่นหมองหน้าคนมาไกล

๐ เมื่อจากไปใครอยู่ไม่รู้หรอก
ฟังเสียงบอกบ่งไว้จำได้ไหม
อยากรู้จริงสิ่งหมางที่บางใจ
ไม่รู้ใครคล้ายเป็นอย่างเช่นเรา

๐ ลำดวนเอยเคยหมายพี่ได้จาก
คงไม่ยากหากผู้เคยรู้เหงา
ในเนิ่นนานปานกางม่านบางเบา
คำก่อนเก่าเลือนหายหลายเพลา

๐ ปาดน้ำตาปร่าปรางเมื่อร้างขวัญ
ยามไกลกันเกินเห็นราวเร้นหน้า
ขอคำนึงถึงบ้างแม้บางครา
เพื่อรักษาโศกตรมไม่สมปอง

๐ คู่เคยคบครั้งนี้อยู่ที่ไหน
เก็บหัวใจเจ็บจนเศร้าหม่นหมอง
ป้ายน้ำตาทาคราบรินอาบนอง
ปาดเกลี่ยยองใยแก้มซ้ำแต้มรอย


........................คน  กุลา  ๑๕  กค.  ๕๔
 				
16 กรกฎาคม 2554 00:57 น.

**กอ เอ๋ย กอ ไก่**

คนกุลา

 
(กลบทเบญจวรรณห้าสี)

๐ การก่อเกิดกิจการให้สานต่อ
ขาดเขินขอขีดเขียนพากเพียรหมาย
คือคนคาดเคียงคำลำนำราย
โง่งมงายเงอะงะอย่าละเรียน

๐ จึงจดจารจากใจเรียงใส่สิ้น
เฉิดโฉมฉินฉาวโฉ่โธ่ยังเขียน
ชิงชังชอบชมเชยเคยแวะเวียน
ซึมซับเซียนซอกซอนที่ซ่อนนัย

๐ ญาติหญิงใหญ่ญญ่ายกระจายหมู่
ดุจได้ดูดวงแดหวังแก้ไข
ตอนตกต่ำตรอมตรมยากข่มใจ
ถกเถียงไถถากถูเขาดูแคลน

๐ ท่องเที่ยวทางทุกที่มีค่าล้ำ
ธาตุเธียรธรรมธารธมภิรมย์แสน
เนิ่นนานนับแนบเนากลับเศร้าแทน
บดบี้แบนเบียดบังก็ยังทน

๐ เปิดปมปิดป้องปานกลัวพาลหมอง
ผลิตผลิผองผลีผลามหางามผล
เฝ้าฝึกฝืนแฝงฝังตั้งผจญ
พฤกษ์พงพนพากเพียรแม้นเจียนตาย

๐ เฟื่องฟากฟ้าฟูฟ่องอย่าพองขน
ภัทร์ภาคย์ภณเภทภัยให้ห่างหาย
มวลมิ่งมิตรมุ่งมั่นมีมากมาย
ยินย่ายายเยินยอหมายคลอเคียง

๐ รับรสรักรื่นเริงบันเทิงสินธุ์
ฤฤๅฤณฤกษ์ฤติยามาส่งเสียง
ลมลับเลยแล้งลาคราเคยเคียง
วาดวังเวียงวัดวาบอกว่างาม

๐ ศัสตร์ศรศิลป์ศักดิ์ศรีฤทธีแกร่​ง
สาดสีแสงใสส่องผ่องไหวหวาม
หากหุนหันหกเหินเกินใครตาม
โอ้อ้ายอามอิงไออุ่นในทรวง

๐ การก่อเกิดกิจการให้สานต่อ
ขาดเขินขอขีดเขียนเพียรใหญ่​หลวง
อกอิ่มอาบเอิบอวลล้วนใช่ลวง
เฮาเฮ็ดเฮือนฮามฮวงจุ้ยห่วง​จำ


....................คน กุลา ๑๖ กค. ๕๔
 				
15 กรกฎาคม 2554 18:02 น.

**อาสาฬหบูชา**

คนกุลา


๐ ปฐมเทศนากาล
ลุอาสาฬหบูชา
ไสวดวงสิจันทรา
ประดับฟ้าสถิตย์ไกล

๐ ธ โปรดปัญจวัคคีย์
พระทรงมีวินิจฉัย
นิโลบล ณ แหล่งใด
ก็สี่เหล่าเสมือนคน

๐ หะเหล่าแรกก็รอแรง
วะวับแสงตะวันดล
ผลิบานเบิกระบายชล
กระจายผลไสวงาม

๐ ก็เหล่าสองระเรื่อริม
ประปริ่มโผล่พยายาม
ประจักษ์แจ้งจะบานตาม
นะ หมู่แรกมิทันนาน

๐ ผิเหล่าสาม ฤ จมนอง
ณ ห้วงท้องชลาธาร
แสวงหาประจวบการ
ชอุ่มช่อก็หลายวัน

๐ สิเหล่าสี่จะจมโคลน
เกาะกอโคน มินานพลัน
ผิปูปลาจะพากัน
เลาะกัดกิน ณ ใต้ตม

๐ สดับเทศนาธรรม
สว่างล้ำมโนรมย์
ประหนึ่งฝนประพร่างพรม
ระลึกรู้ประดุจดัง

๐ ก็แก้วสามประการเคียง
ประดับเรียงประสานพลัง
พระพุทธังพระธัมมัง
พระสังฆังก็พร้อมพล

๐ ประดิษฐ์แต่บุราณกาล
และนับนานกระทั่งจน
อดีตกาลลุบัดดล
ประกาศชนประพฤติตัว

๐ มนัสน้อมประนมกร
ประจงวอนมิหมองมัว
ฤดีหวังจะพันพัว
ระเรียงถ้อยสิบูชา

..............................คน  กุลา ๑๕ กค. ๕๔

(ภุชงคประยาตฉันท์  ๑๒)
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกุลา
Lovings  คนกุลา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกุลา
Lovings  คนกุลา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกุลา
Lovings  คนกุลา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคนกุลา