17 มิถุนายน 2553 19:35 น.

งดงาม..ด้วยความเข้าใจ

ฉางน้อย

  เป็นการยากนักนะกับการที่คนแปลกหน้าสองคนจะมารู้จักทักทายกัน

กว่าที่จะสนิทสนมคุ้นเคยกันถึงขั้นเรียนรู้นิสัยใจคอซึ่งกันและกัน

กว่าที่คนสองคนจะเกี่ยวก้อยเดินเคียงกัน 

กว่าจะเกิดความผูกพันกันและกัน

ทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลานานแค่ไหนกัน

          และก็เป็นการง่ายอีกเช่นกัน หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะมาตัดรอน
ความสัมพันธ์อันดีของเราสองคน
ด้วยวาจาแห่งความไม่เข้าใจกันเพียงไม่กี่คำพูด

     เพียงแค่นี้ต้นกล้าแห่งมิตรภาพย่อมไม่มีวันเจริญเติบโตงดงามไปได้เลย

          ขอเถอะนะ..มีอะไรก็ขอให้พูดคุยกันให้เข้าใจ
 อย่าให้ความคลางแคลงใจ
มาตัดความสัมพันธ์อันดีระหว่างเราสองคนไปเลย

          มิตรภาพของคนสองคนเปรียบเสมือนต้นกล้า
ที่รอวันเจริญเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่
ซึ่งกว่าจะเติบโตมีลำต้นที่แข็งแรง งดงามหลายคนโอบ 
ต้นไม้เหล่านี้ก็ใช้เวลานานนับหลายปี

     แต่ทว่า..ต้นกล้าต้นนี้กลับถูกทำลายลงภายในพริบตาชั่วระยะเวลาไม่กี่นาที
ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยเลื่อยไฟฟ้านั่นเอง

     เราสองคนคงไม่ต้องการเป็นดั่งต้นไม้ต้นนั้นใช่ไหม ?

          ฉันไม่ขอสัญญาด้วยปาก แต่ขอสัญญาด้วยหัวใจของฉันคนนี้
ว่าจะประคับประคอง บำรุงดูแล ถนอมและรักษาต้นกล้าแห่งมิตรภาพ
ให้เจริญงดงามด้วยความเข้าใจ
เพื่อต้นกล้าต้นนี้จะได้เติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ต่อไปให้จงได้

     ต้นกล้าเล็กๆเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่
 เปรียบเสมือนหัวใจแห่งมิตรภาพที่งดงาม..ด้วยความเข้าใจ

                        ............................................
 				
18 เมษายน 2553 01:17 น.

นิทานหนูนุ้ย

ฉางน้อย

คำเตือนก่อนอ่านนิทานเรื่องนี้.......

เนื่องด้วยนิทานเรื่องนี้เป็นเสียง   sound track  

ฉะนั้นควรมีดิกชันนารีเฉพาะศัทพ์ทางวิชาการ

พากษ์เสียงภาษาไทยในวงเล็บโดย เหล่าสหายลิง 3 ตัว 

555555)
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

วันนึงเท่งชวนนุ้ยไปลัก (ลัก คือ ขโมย) ไก่ ที่ใต้ถุนบ้านหลังนึง 

   เท่ง126.gif :  อ้ายนุ้ย ตอเดียวมึ้งเดินย้องๆ TLC_019-20080430_YoYoXiXi.gifนะอย่าเดินย๊าบๆ
 ( ไอ้นุ้ย เดี๋ยวเวลาเดินไปต้องย่องไปนะอย่าเดินให้มีเสียงดัง)

  หนูนุ้ย130.gif บายโยแล้วกูTLC_002-20080430_YoYoXiXi.gif  ว่าแต่ตอเดียวเหร่าอี้ไปหยบกันเท่ไหนดี  
 ( กูทำได้อยู่แล้ว  ว่าแต่เดี๋ยวเราจะไปแอบกันตรงไหนดี)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++

พอไปถึงปรากฎว่าไก่ไม่ได้นอนใต้ถุนบ้านแต่กลับไปนอนบนต้นไม้

เท่ง126.gif :  อ้ายนุ้ย กูไม่เห็นไก่เท่ใต้ถุนเลย กูว่าสาอี้นอนปลายไม้  TLC_076-20080430_YoYoXiXi.gif
  (ไอ้นุ้ย กูไม่เห็นไก่นอนที่ใต้ถุนบ้านเลย กูว่าน่าจะนอนบนต้นไม้)

  หนูนุ้ยTLC_086-20080430_YoYoXiXi.gif :  ท้าพันนั้นกูว่าเหยาต้นไม้หรือแยงให้มั้นบินลงมาดีหวา กูขึ้นต้นไม้ไม่รอด TLC_24-20080502_yoyo.gif
( ถ้าอย่างนั้นกูว่าขย่มต้นไม้หรือแหย่ไก่ให้มันบินลงมาดีกว่า กูขึ้นต้นไม้ไม่ไหว) 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ว่าแล้วทั้งคู่ก็จัดการตามที่คิด สักครู่............

หนูนุ้ยTLC_086-20080430_YoYoXiXi.gif :  อ้ายเท่งมึ้งอย่ายุงกูถี  กูอี้ แยง เหลย  TLC_022-20080430_YoYoXiXi.gif
( ไอ้เท่งมึงอย่าดึงกูสิว่ะ กูจะ แหย่ อีก)

แต่พอหนูนุ้ยหันกลับไปดูไม่ใช่เท่งที่ดึงกลับเป็นเจ้าของไก่หน้าตาบึ้งตึง TLC_123-20080430_YoYoXiXi.gifพร้อมปืนลูกซอง 

   หนูนุ้ยกลัวมาก ถึงกับนั่งย๊องลงเท่ใต้ต้นไม้  TLC_052-20080430_YoYoXiXi.gifTLC_024-20080430_YoYoXiXi.gif
( หนูนุ้ยกลัวมาก ถึงกับนั่งยองๆก้มหัวมิดนิ่งสนิทลงที่ใต้ต้นไม้)

เท่งเห็นท่าไม่ดี

เท่ง 126.gif :  อ้ายนุ้ยเหอกูหยายก่อนแล้วเหวย TLC_115-20080430_YoYoXiXi.gifTLC_12-20080502_yoyo.gif
(ไอ้นุ้ยกูไปก่อนนะโว้ย)

แล้วเท่งก็วิ่งหนีไปอย่างไม่คิดชีวิตปล่อยให้หนูนุ้ยรับกรรมแต่เพียงผู้เดียว

ฝ่ายหนูนุ้ย ก็ร้องไห้แงๆๆTLC_100-20080430_YoYoXiXi.gifTLC_051-20080430_YoYoXiXi.gif
หนูนุ้ยคิดในใจ อย่าให้เจอเชียวไอ่เท่ง ตรูจะปาหัวมัง....TLC_114-20080430_YoYoXiXi.gif

           นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าคบไอ่เท่งเด็ดขาดนิ 555555  

........................................................................................
Egg_Head_003_Emoticon.gif.Egg_Head_003_Emoticon.gif.Egg_Head_003_Emoticon.gif.

................................................................................. 

เป็นเรื่องเล่าแต่กาลก่อนนะคะ นำมาเล่าขำๆ

นิทานพื้นบ้านภาคใต้คะ 

สาเหตที่นำมาลงเรื่องสั้นเพราะแก้ไขได้ง่าย  

หากลงในส่วนของกระทู้จะแก้ไขไม่ได้เลยคะ				
11 เมษายน 2553 03:08 น.

ลุงเชยเจ้าปัญหา

ฉางน้อย

....ขออภัยเพื่อนๆ พี่ๆบ้านนี้ทุกท่าน

บังเอิญว่า ฉางน้อยเขียนเรื่องสั้น ลุงเชย 

แล้ว (แอบ)มีเมล์กระแสวิพากษ์วิจารณ์พาดพิงไปยังบุคคลอิ่น

ทั้งๆที่บุคคลที่ 3 นั้น เขาไม่รู้ไม่ทราบเรื่องอะไรด้วย

แต่บังเอิญเหมือนกันตรงที่เขา เขียนกลอนลุงเชยเหมือนกัน

...... เขาผู้นั้นคือ คุณอรุณสุข  และนี่คือ กลอน ลุงเชยของคุณอรุณสุขคะ

ขออนุญาตแปะลิงค์นะคะ


  http://thaipoem.com/forever/ipage/poem113376.html 

  
   คุณอรุณสุข เขียนกลอนลุงเชยปี 51 ฉางน้อยดั๊นไปเม้นท์คนแรก

แล้วต่อมาเมื่อไม่กี่วันนี่เอง  8  เม.ย. 53  

ฉางน้อยไปเขียนเรื่องสั้น ลุงเชย

ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น แต่เปลี่ยนเป็นนามแฝงหรือนามสมมติ

..........ทีนี้ เรื่องมีอยู่ว่า เพื่อน หรือ แฟน (คลับ)ของคุณอรุณสุขเกิดอาการ

สงสัย เลยส่งเมล์ไปถามความเป็นจริง  5555555

ว่า คุณอรุณสุข คือ ลุงเชยท่านนั้นที่ฉางน้อยไปเจอหรือ ไม่

ขอตอบแบบฟันธงว่า ไม่เคย คะ ไม่เคยไปพบเจอกันเล๊ยยย

....... แหมๆ นะ ช่างคิดไปได้ คุณๆที่ส่งเมล์ไปถามเนี่ยะ

 ขอบคุณที่พัฒนาความคิดสมอง ทำให้สมองของฉางน้อยได้คิดนะคะ

แหมๆ เป็นการกระตุ้นสมองดีแท้ หลังจากเบื่อการเมืองมานาน อิอิ

....... แค่อยากบอกว่า ลุงเชย หรือคุณอรุณสุขนั้น คนละคนกันค่ะ 

ให้ตายซิโรบิน.....คิดไปได้ไงเนี่ยะ

ใครสงสัยอะไร เมล์ถามฉางน้อยโดยตรงดีกว่านะคะ

...........

ฉางน้อยเพิ่งมาอ่านคอมเม้นท์ของคุณอรุณสุข ตอนแรก ยัง งง ค่ะ 

อ่านไปสองรอบ ถึง บางอ้อ 555555

อ่ะนะ คนเรา เรื่องสร้างสรรค์ไม่อยากคิดกันล่ะ 

เรื่องอื่นคิดกันเก่งนักล่ะ  

 .......... เดี๋ยวส่งลิงค์ให้อ่านคะ 

  เม้นท์ที่ 75 ของคุณอรุณสุข ผู้ถูกพาดพุง เอ้ย พาดพิง  

และคุณอรุณสุข ได้ออกมาบอกแล้วว่า ลุงเชยในเรื่องของฉางน้อยนั้น

คนละคนกะเขาคะ  ขอให้เข้าใจตามนี้ด้วย


ลิงค์ข้างล่างนี้ เป็นเรื่องสั้น ลุงเชย ของฉางน้อยนะคะ

      http://thaipoem.com/forever/ipage/story10935.html             


.............. เหนื่อยใจ ไม่ห้ามความคิดใครได้เน้อ ........

ก็เข้าใจว่า มนุษย์คือสัตว์สังคม ย่อมอยากรุ้ อยากเห็น 

อยากได้ยินเรื่องราวของคนรอบข้าง เนอะ 

......................................................................

    ข้างล่างนี้คือ คอมเม้นท์ของคุณอรุณสุขที่เธอได้มาชี้แจงข้อเท็จจริงกันค่ะ 
....................

   ความคิดเห็นที่ 75 : หมายเลข 61957  

ต้องขอคั่นเวลาสนุก ของ คุณฉางน้อยซักนิดครับ

 พอดีมีคน เมลมาถามถึงว่า ลุงเชย ที่คุณฉางอ้างถึงนั้น 
เป็นลุงเชยที่อรุณสุข เขียนถึงหรือหมายถึง ตัวของอรุณสุขหรอืไม่ นั้น

 ต้องขอเรียนชี้แจงแทรกไว้ซักนิดนะครับ เพราะ
มีมิตรสหายสงสัยกัน

  ก็ขอใช้พื้นที่ ชี้แจง ซัก
นิด หวังว่า คุณฉาง จะไม่ว่ากระไร นะครับ

ลุงเชย ที่อรุณฯเขียน และได้เคยลงกลอนนั้น
เป็นการจินตนาการ ขึ้นให้เป็นเรื่องราว
เท่านั้น ไม่มีตัวตนจริง 

ส่วนตัวผู้เขียนคืออรุณสุขนั้น ก็มิใช่ ลุงเชยที่ไปพบ คุณฉาง 

ดังนั้นก็ขอใช้พื้นที่ ตรงนี้ชี้แจง บรรดามิตร
สหายของอรุณที่ยังสงสัย นะครับ ว่า ไม่ใช่คนทางนี้ครับ 

และต้องขออภัยคุณฉางน้อย ที่มา
ใช้พื้นที่ส่วนบุคคล อันนี้นะครับ.


สำหรับกรณีที่คุณฉางเล่ามา ก็นับว่าโชคดี
ที่ยังมีเพื่อนไปด้วย ก็ต้องระวัง ครับ 
โดยเฉพาะบรรดาสุภาพสตรีทั้งหลาย
ก็น่าจะเก็บไว้เป็นอุทาหรณ์ได้ดีทีเดียวครับ.

 
อรุณสุข แสงอุทัย 11 เม.ย. 53 - 00:07 IP 125.26.2.9  
    
.................................

 
  แล้วด้านล่างนี้ เป็นเม้นท์ที่ฉางน้อยไปตอบคุณอรุณสุขไว้ค่ะ



    ความคิดเห็นที่ 77 : หมายเลข 61959  

76.....สวัสดียามดึกๆค่ะคุณอรุณสุข

ขอบอกว่า งง มากๆนะคะกับการที่คุณมาเยี่ยมทักทายฉางน้อย 

เพราะตามปกติคุณไม่ค่อยได้มาทักทายในเรื่องสั้นของเพื่อนๆเลย 

แค่แปลกใจค่ะ  จะบอกไรดีน๊า   

..... คุณมาชี้แจง มาบอก มาอธิบายเรื่องลุงเชยในที่กระทู้เรื่องสั้นนี้ 

ก็อย่างที่บอกไงคะ ว่า ลุงเชย เป็นนามสมมุติไงคะ  แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในปลายปี 48

แต่จำเป็นต้องปกปิดนามจริง ชื่อจริง เพราะลุงท่านนั้นอายุก็เกือบ 50 แล้วคะ

ชื่อเสียงเรียงนามของท่านก็ อักษร ช.หมือนกัน

จรรยาบรรณของคนที่เขียนเรื่องราวคะ คงพอจะเข้าใจคำนี้ เนอะ

อ่ะนะ เพื่อนคุณอรุณก็เหลือเกินนะคะ แทนที่จะเมล์มาถามฉางน้อยโดยตรงก็ไม่ถาม

ดั๊น ไปถามคุณซะงั้น 

ไม่เป็นไรคะ ไม่ซีเรียส แต่ขอถามนิดได้ป่ะคะ

1.....เพื่อนคุณอรุณสุข ทำไมอยากรู้จัง เนอะ เพื่อนคุณชื่ออะไร ผู้หญิง ผู้ชายบอกได้ไหมคะ

(ฉางน้อยว่า คุณคงบอกไม่ได้ โอเค ไม่เป็นไรเนอะ )

2....ฝากบอกเพื่อนคุณอรุณสุขด้วยนะคะ ว่า สงสัยอะไร เมล์มาสอบถามโดยตรงที่ฉางน้อยได้คะ

ไม่ว่า เอ็ม เมล์นะคะ 

เมล์ก็เห็นอยู่โต้งๆ  ยินดีตอบค่ะ

3.....เรื่องสั้นลุงเชยของฉางน้อยเกิดขั้นตั้งแต่ปลายปี 48 ก็จริง แต่ก็เพิ่งนำมาคิดเขียน 

แต่กลอนของคุณอรุณสุข กลอนลุงเชย เขียนไว้ตั้งแต่ปี 51...

วันที่ 11 มี.ค 51 เวลา 19. 17น.

ซึ่ง กลอนนี้ของคุณ ฉางน้อยก็ไปเม้นท์เป็นคึนแรกด้วยซิคะ

แต่สงสัยว่า ทำไม๊ ทำไม เพื่อนคุณอ่านเรื่องสั้น

ลุงเชยของฉางน้อยแล้ว  ไปค้นหาอ่านกลอนเก่าๆของคุณ 

แหมๆ เก่งจังเนอะ สืบแสวงหาอ่านย้อนหลังตั้งหลายปี อิอิ

เพื่อนคุณน่ะ แฟนคลับตัวจรีงนะเนี่ยะ ยกย่องๆๆ

กลอนลุงเชยของคุณอรุณสุขน่ะ ฉางน้อยเม้นท์ไปแล้ว ก็แล้วไป ไม่ได้กลับไปอ่านคำตอบของคุณด้วยซ้ำ

..........

ฉางน้อยยินดีรับฟัง ข้อความที่คุณอรุณสุขพูดมา ยินดีรับฟังด้วยความเต็มใจ

แต่ก็ยัง งง ว่า ต่อไปนี้ เวลาจะพูดอะไร เขียนอะไร คงต้องใช้อักษรย่อกันแล้วกระมัง

ชื่อ ตาสี ตาสา ตาอยู่ ตาคง ลุงเชย ลุงชอบ ลุงชู

ชื่อเหล่านี้ มิสมควรซ้ำกันเลยหรืออย่างไร  

อยากจะพูดอะไรมากกว่านี้ คิดคำพูดไม่ออกจริงๆค่ะ 

เฮ้อ... ประเทศไทย

.........ฉางน้อยเข้าใจนะคะ คุณอรุณสุข เขียนกลอนตามจินตนาการ 

เช่นกันคะ ฉางน้อยก็เขียนเรื่องราวตามที่ได้พบเจอมา

แต่คนอ่านน่ะซิคะ แหมๆ ช่างกระไร  เสาะแสวงหากลอนเก่าๆปี 51 ของคุณ 

แล้วมาอ่านเรื่องลุงเชยของฉางน้อย

เสร็จแล้วนำมาปะติดปะต่อ  555555

เป็นเรื่องเลยซิคะคุณอรุณสุข

.....ปะติดปะต่อเรื่องราวเอง คิดเอง เออเอง

กำกับบทเอง ว่า ลุงเชย ก็คือ คนนี้แน่ คนนั้นแน่ 

แค่นั้นไม่พอ ยัง ยังไม่พอ ส่งเมล์ไปถามคุณอรุณสุขดีกว่า กระหายข่าวสารข้อมูลมากไปหน่อย  เหอ เหอ..

..... เอาเป็นว่า คุณอรุณสุข แก้ตัวกับบรรดาแฟนๆคลับให้ดีนะคะ ฮ่าๆ 

กลัวจังการพาดพุงถึงบุคคลที่ 3 เนี่ยะ

แหม ตัวละคนเรื่องนี้มีน้อยแล้วนะเนี่ยะ 

ยังโดนพาดพิงอึกน๊อ 

........ เฮ้อออออออ.....คิดหนักนะเนี่ยะ

ต่อไปจะเขียนเรื่องสั้น ตั้งชื่อกันอย่างไรดีล่ะเนี่ยะ  เดี๋ยวไปทับ ซ้ำชื่อคนอื่นอีก 

...............................

ขออภัย ที่พูดวกไปวนมา กำลังเครียดการเมืองคะ 

มาอ่านเจอเม้นท์ของคุณอรุณสุขอีก เลือดบ้ากำเริบคะ 555555

ไม่ได้โทษคุณอรุณสุขนะคะ  

ขอบคุณ คุณอรุณสุขด้วยซ้ำไป ทำให้ฉางน้อยได้รู้ว่า มีคนอ่านเรื่องของฉางน้อยด้วย

อ่านแล้ว ก็คิดเอง เออเองไงคะ

   ถ้าคุณอรุณสุขไม่มาบอกกล่าว ก็ไม่ทราบเลยค่ะ จริงๆ

ไม่ทราบว่า มีคนที่มีความคิดแบบนี้อยู่ด้วย

แต่น่าขัน ที่สงสัยมา ลงทุนส่งเมล์ไปถามข่าวคราว 

................

.... คุณอรุณสุขคะ ทุกคนที่นี่ มาเล่น เขียนกลอน เขียนเรื่องสั้น เพื่อผ่อนคลายสมอง

ฉางน้อยไม่ว่าคุณสักนิดเดียวที่มาชี้แจงเรื่องราวคะ

ต่างคนอาจมาอ่าน แล้ว คิดเอง เออเอง จินตนาการเองได้ต่างๆนาๆตามปรารถนา

บางคนเขียนกลอน ยังโดนค่อนขอด

บางคนเขียนกลอนแล้วทำให้คนอ่านคิดว่า เอะ เขาเขียนถึงเราหรือเปล่า

เอะ เขาจีบเราหรือเปล่า  555555

บางคนว่า เอะ เขาให้เราเป็นนางเอกหรือเปล่า

เช่นเดียวกับกะ ลุงเชย ของคุณอรุณสุข 

กะ ลุงเชยของฉางน้อยไงคะ

ทั้งคุณ ทั้งฉางน้อย ต่างคน ต่างเขียน ไม่ได้คิดไรเลยสักนิดเดียย

แต่คนอ่าน หรือ เพื่อนๆของแต่ละฝ่ายซิคะตัวแปรสำคัญ 

ต่างก็แปรเจตนาเป็นอย่างอื่น 

ทั้งๆที่คุณและฉางน้อยไม่รุ้ไรด้วยซ้ำไป
......................

กำลังนั่งดูข่าวการเมืองดุเดือด พวกสื่อต่างๆนี่ละ ตัวดี  เขียนเมล์ เอ้ย เขียนข่าวให้แตกแยกกันก็ได้ เขียนข่าวให้รักกันก็ดี

พอรัฐบาลไม่ยื่นมือแก้ปัญหา หาว่าไม่มีปัญญา 

หาว่า รัฐบาลชุดนี้หน่อมแหน้ม

พอรัฐบาลเข้าไปแก้ปัญหา หาว่าทำรุนแรงกับประชาชน  จะให้ทำยังไงดีเนอะ

..... คำว่า " สื่อ" น่ากลัวนะคะ ดาบสองคม 

...... อ่ะ ลืมไป คุยเรื่อง ลุงเชย ไหง ออกเรื่องรัฐบาลไปได้หนอ ? 

อย่าถือสาฉางน้อยนะคะคุณอรุณสุข

หวังว่า คุณคงเข้าใจ ว่า สิ่งที่ฉางน้อยเขียนไป ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะทำร้ายจิตใจใครบางคนเน้อ

......ต่ะแล่ม ต่ะแล่ม ต่ะแล่ม ......

...............................................

ปล.1  กะว่าจะเขียนมากกว่านี้ แต่ยังคิดไม่ออกคะ

เดี๋ยวคิดได้ จะมาอีกรอบนะคะ  

ปล. 2  " เพื่อน คนรอบข้าง สังคมรอบตัวเรา ล้วนเป็นกระจกส่องให้เราเห็นความดี ความไม่ดี ข้อบกพร่องของเรา

แต่ถ้ากระจกบานนั้นมีรอยร้าว มีรอยขุ่นมัวล่ะคะ ทำไง ???????

ปล. 3  อย่าเชื่อในสิ่งที่เพื่อนๆพบเห็น

อย่าเชื่อในสิ่งที่คนอื่นเล่าให้ฟัง

อย่าเชื่อในสิ่งที่ เพื่อนๆอ่านเจอ

ปล. 4 สงสัยสิ่งใด โปรดกลับไปอ่านข้างบนอีกครั้ง หุหุ........
  
........ ขอบคุณนะคะที่ทำให้ฉางน้อยทราบว่า ยังมีคนสนใจเรื่องราวของ ฉางน้อย เอ้ย ของลุงเชย อีกมากมาย 

ทั้งไม่แสดงตัว ทั้งแอบอ่าน  5555555

........แทนคำขอบคุณ.....

   
 ฉางน้อย 11 เม.ย. 53 - 02:32 IP 58.9.132.205  
     				
8 เมษายน 2553 01:07 น.

" ลุงเชย "

ฉางน้อย

ประมาณปลายปี 48 ได้มั้งที่ฉันเริ่มเล่นเน๊ตใหม่ๆ แต่ยังไม่ชำนาญการเล่นเอ็ม

หรือ msn มากนัก จนกระทั่งรู้จักเพื่อนๆพี่ๆคนใต้ด้วยกัน 
เริ่มสนิทพอที่จะให้เบอร์โทรกัน

     กระทั่งในคืนหนึ่ง   ตึ่ง..ตึ๊ง... ใครหว่า แอดหา กดรับดิ ลองๆ

" สวัสดีครับ...น้องฉางน้อยใช่ไหมครับ ? "

" เอ่อ ..ค่ะ สวัสดีคะ ใครคะเนี่ยะ ? ฉางน้อยสงสัย

" ชื่อ ลุงเชยจ๊ะ " 

" แล้วลุงได้อีเมล์หนูยังไงคะเนี่ยะ ? " 

     คุยไปคุยมา ซักถามพูดคุยปรากฏว่า พี่สาวคนหนึ่งที่
เป็นเพื่อนรุ่นพี่คนใต้ให้อีเมล์ของฉางน้อยไปกับลุงคนนนี้  
ฉางน้อยถึงบางอ้อ ......

น่าเจ็บใจตรงที่ให้ทั้งเมล์ ทั้งเบอร์มือถือนี่ซิ เวง...

..160.gif

        ไม่กี่วันผ่านไป " เอ่อ..หนู อาทิตย์นี้ว่างไหม ไปกินข้าวกับลุงไหม ? 

( ซวยล่ะซิตรู )  คิดในใจ ทำไงดีว๊า ....

" หนูไม่ว่างคะ พอดีนัดเพื่อนไว้ค่ะ ไกลมาก " 
ไม่ได้โกหก แต่เอาตัวรอดไว้ก่อน 55555

" เหรอ แถวไหนล่ะ เผื่อลุงไปได้ " น้านนน ไม่วายๆ

" โน่นนน  ท่าพระจันทร์แน่ะคะลุง " 
อะไรๆ ก็ท่าพระจันทร์ไว้ก่อน ถิ่นเราเอง 55555

" อ่อ ลุงกำลังจะไปดูพระพอดี แถวนั้นเช่าพระเยอะนะ
แล้วเจอกันนะหนู" 

ลุงพูดเหมือนรีบสรุปปิดยอดขายสินค้า ฮ่า...

" เดี๋ยวๆๆลุง หนูนัดเพื่อนไว้นะคะ " 

ฉันรีบโต้แย้งเท่าที่โอกาสจะอำนวย (วีรวรรณ)

" ไม่เป็นไรน่ะ เพื่อนหนูคนเดียว ลุงเลี้ยงได้ 
ไปถึงแล้วลุงจะโทรหานะ " 

       ฉางน้อยเอ๋อกิน ใบ้รับประทาน 

..160.gif

" เฮ้ย..เอาไงดี(วะ)พี่หนึ่ง ลุงคนนั้น โห น่ากลัวฟร่ะ " 
ฉางน้อยสุมหัวคิดกะพี่หนึ่ง

" ไอ้บ้าเอ้ย แล้วรับนัดมังทำไมฟร่ะ ตายแน่แกร 
ฉางน้อย ตายแน่ " 

" ก็ตรู เอ้ย ก็วา ปฏิเสธคนไม่เป็นอ่ะ ทำไงดี บอกดิ "
 สีหน้าสำนึกผิดนิดๆ อิอิ

" พี่หนึ่ง ช่วยหน่อยดิ นะๆๆ นะ เป็นพี่ไม่ช่วยน้อง 
แล้วมังจะช่วยใครฟร่ะ" หยอดอีกนิด อิอิ

" เออ ๆๆ...เดี๋ยวจัดการให้ บ้า หาเรื่องแท้ๆ "
 พี่หนึ่งไม่วายบ่น ไม่บ้ายอเท่าไหร่นิ


...160.gif

" เอ่อ ...หนูฉางน้อยใช่ไหมนี่ ตัวจริงขาวน่ารักเชียว " 
โห ป้อนลูกยอมาแต่ไกล ลุงจำได้
เพราะฉันใส่ผ้าใบ เกงยีนส์ หมวกแก๊ป อันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของฉัน อิอิ

ลุงเชยที่ฉันเห็นตรงหน้า หาได้เชยสมชื่อไม่ 
เอื้อมมือคว้าหมับต้นแขนของฉางน้อย

ฉันสะดุ้งโหยงรีบโดดหนีราวกับเจอตุ๊กตากระโดดเกาะ

" เอ่อ นี่เพื่อนหนูคะ ชื่อ พี่หนึ่ง "  ฉันรีบแนะนำให้รู้จักพี่หนึ่ง
 พลางหลบให้พ้นรัศมีมือไม้ลุงเชย 5555 
( คนอย่างฉันก็กลัวเป็นเหมือนกันน๊าจะบอกให้ )

" ไปๆ ไปหาอะไรกินกัน เดี๋ยวลุงเลี้ยงเอง "
 ลุงเชยไม่ชายตาเหลียวมองพี่หนึ่งสักแว่บ 55555

" ตายแน่แกร ..."  พี่หนึ่งทำน้ำเสียงหยันๆแปลกๆ ขู่ซะน่ากลัว 

       ร้านอาหารแห่งนั้น เป็นโต๊ะไม้ยาวๆที่นั่งกันได้หลายๆคน 
พอจะนึกออกนะคะฉันเดินนำหน้า นั่งลงก่อนใครๆ 

และก่อนที่ลุงเชยจะหย่อนก้นมานั่งเบียดไหล่ฉันนั้น
พี่หนึ่ง ก็แทรกตัว(อันผอมๆเหมือนจิ้งจกอดข้าว)
มุดมานั่งคั่นกลางระหว่างฉันกับลุงเชย

"  ลุงๆ ที่แคบจัง ลุงขยับไปนั่งฝั่งโน้นได้ป่ะ ร้อนด้วยเนี่ยะ " 
 พี่หนึ่งพูดตีหน้าซื่อ (บื้อ )บอกลุง ลอยหน้าลอยตา ทำไม่รู้ไม่ชี้

ลุงเชยจำใจไปนั่งฝั่งตรงข้าม แต่ไม่มองหน้าพี่หนึ่งเลยสักนิด

ฉันอดที่จะแอบอมยิ้มเสียมิได้ ยังไง พี่หนึ่งก็น่ารักเสมอพี่ชายคนนี้

...160.gif

   ระหว่างรออาหารมา ก็คุยกันไปเรื่อยๆเปื่อยๆ 
แต่สายตาลุงซิ อะจึ๋ยๆๆ น่ากลัว

พี่หนึ่งแกล้งถาม ได้เบอร์โทรฉางน้อยมายังไง ใครให้มา
 ลุงก็บอกว่า รู้จักผู้หญิงคนหนึ่งเขาให้มา บอกว่า ฉางน้อยเป็นเด็กน่ารัก 
นิสัยดี เป็นน้องสาวเธอเอง
 ลุงบอกว่า รู้จักกับพี่สาวคนนี้ที่เวปหาคู่  หาแฟน 

ฉางน้อยอุทาน " ห๋า เวปหาคู่เหรอลุง "

พี่หนึ่งหันมองฉางน้อยราวสายตาคาดโทษไว้กะจะกินเลือดกินเนื้อ 
ฉันทำได้เพียง ส่ายหน้าเบาๆ เพื่อบอกว่า 
" ตรูม่ะรู้นะ ตรูม่ะเกี่ยว อย่ามองตรูแบบนั้นดิเฟร้ย "

       กินข้าวเสร็จ ออกมายืนหน้าร้าน พวกเรากล่าวขอบคุณลุงเชย

แต่ทว่าไม่เป็นแบบนั้นซิ ลุงเชยคว้ามือฉางน้อยหมับชวนไปเดินเที่ยวต่อ 
ทำเอาฉันสะดุ้งโหยงสะบัดมือพรึ่บ มองหน้าพี่หนึ่งประมาณว่า
 ช่วยตรูหน่อยดิว๊า 

" เอ่อ ลุงคะ หนูนัดพี่หนึ่ง ไปดูหนังสือที่ร้านนี้น่ะคะ "
ปากบอกลุงไปแบบนั้น แต่สายตามองพี่หนึ่ง 
รับมุขหน่อยดิว๊าพี่หนึ่ง รับมุขๆๆๆ

" จริงไหมพี่หนึ่ง ? " เงียบ 

      ป๊าบบ เหยียบตาปลาเข้าให้ เรียกสติพี่หนึ่งคืนมา มัวเหม่อ 5555
" อ่อๆ ครับๆ ยัยนี่มันจะไปหาซื้อหนังสือครับลุง "
" เอ่อ ลุงครับ งั้น ผมและฉางน้อยขอขอบคุณ
 และขอลาตรงนี้เลยแล้วกันนะครับ หวัดดีครับลุง "

ไม่รอช้า พี่หนึ่งกึ่งลากกึ่งจูงปลอกคอ เอ้ย ข้อมือฉางน้อย
หายวับไปกับฝูงชนแถวท่าพระจันทร์

ไม่กล้าแม้แต่จะเหลียวมองข้างหลัง กลัวลุงตามมาจริงๆ 5555

แต่ฉันคิดนะว่า ลุงเชยคงยืนอึ้ง งง เป็นไก่ตาแตก

..160.gif

    ณ. ชั้น 2 ของร้านนายอินทร์ ท่าพระจันทร์ยามบ่ายๆ

" ไอ้บ้าเอ้ย ไม่รู้บ้างหรือไง ว่า ลุงนี่นะ เป็นเสือผู้หญิงเลยล่ะ "
 พี่หนึ่งต่อว่าฉัน

" ไม่อ่ะ ตรูไม่รู้ไรทั้งนั้น รู้อย่างเดียว ตอนนี้ตรูกลัว ตรูจะกลับบ้าน "

" ทีงี้ทำกลัว ทีตอนแรกทำไมไม่กลัว ทำไมแร่ดๆออกมาได้ล่ะ "

 ปากคอเราะร้ายได้เสมอพี่หนึ่งฉ๊านนนนน 
พี่หนึ่งพูดไม่พูดเปล่า ทำตาขวางด้วยดิ 

" ไปๆๆ กลับบ้านเดี๋ยวนี้เลยไป " พี่หนึ่งไล่ฉันกลับบ้าน

" พี่หนึ่ง ไปส่งวาหน่อยดิ ป้ายรถเมล์อ่ะ กลัว(ว่ะ) " 55555 

" เออ รู้จักกลัวแล้วหรือไง  ..... ฯลฯ " พี่หนึ่ง บ่นๆๆ และก็ บ่นๆๆ

" อย่าบ่นได้ไหม รู้แล้วน่ะ วันหน้าไม่ทำแล้วน่ะ "

" นี่ ขนาดมากันสองคนนะ ลุงยังกล้าทำแบบนี้
 ถ้าแกรมาคนเดียว เสร็จอีตาลุงแน่ไอ่ฉางน้อย " 

พี่หนึ่งไม่วายที่จะเลิกบ่น พร้อมทั้งทำทำเอามือปาดคอตัวเอง

      แค่พี่หนึ่งพูด ฉันหลับตาเห็นภาพ สยอง อะจึ๋ยๆๆๆๆ

ตั้งแต่วันนั้นมา ฉันจิตตกมากพอสมควร ระแวงไปหมด
 กลัวเจอคนแบบลุงเชย(ที่ไม่เชยเหมือนชื่อ)
.
160.gif

     ทุกวันนี้ พี่หนึ่งยังเป็นพี่ชายที่น่ารักมากคนหนึ่ง เ
เพราะเขาเฮฮาบ้าบอ พูดจาภาษาเดียวกันกะฉัน 
ต๊องๆพอๆกัน 555555( ชมนะเนี่ยะพี่หนึ่ง)
  
        เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า .." อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจลุงเชย "  ..

ปล. ชื่อ " ลุงเชย " เป็นเพียงนามสมมต (แต่เหตุการณ์จริงๆ) 
หากว่าชื่อนี้ไปพ้องกับใครต้องขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วย ไม่ได้ตั้งใจค่ะ 

 160.gif

                          ( ฉางน้อย ทะเลไร้คลื่น )      

              kapook_27127.gif				
21 มีนาคม 2553 18:37 น.

"เสาร์5 (100ปีมีครั้งเดียว)

ฉางน้อย

00558_1.jpgเช้าวันเสาร์ที่ 20 มี.ค.กำลังหลับสบาย เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังข้างหู
เอาอีกแล้ว โทรมาปลุกแต่เช้าอีกล่ะ ยิ่งขี้เกียจตื่นเช้าๆ อิอิ

" ยัยวา ๆ ตื่นได้แล้ว ไวๆเลย ไปใส่บาตรพระก่อน เดี๋ยวค่อยมานอนต่อ "
พี่เมี่ยงล่ะทุกทีเลยชอบโทรมาปลุกเช้าๆ
" รู้แล้ว เดี๋ยวไปน่ะ นอนก่อนไม่ได้เหรอ ทำไมต้องเป็นวันนี้ด้วยนะ " 
ยัยวาหาเรื่องต่อรอง

" ไม่ได้ๆ ต้องเป็นวันนี้เพราะ วันนี้เป็นวันเสาร์ 5 นะวาไม่เคยได้ยินเหรอไง "
" เสาร์ 5 คือไร แล้วทำไมต้องเป็นวันนี้ด้วยอ่ะ ? " วาสงสัย
" ไปใส่บาตรพระก่อน เดี๋ยวค่อยมานอนต่อ แล้วจะเล่าให้ฟัง เร็วๆ "
พี่เมี่ยงยังคงกำชับ เร่งให้ลุกไปใส่บาตรพระ
" แล้วเดี๋ยวสายๆค่อยออกไปวัดไปทำบุญไหว้พระด้วย ไปป่าวล่ะ "
" ไปๆๆ ไปซิพี่เมี่ยง " อิอิ ไม่รอช้าละยัยวา 

" อ้าว โยม ไม่เห็นหน้านานเลยนะ วันนี้ทำไมตื่นไวได้ล่ะโยม "
โห หลวงพี่ตอกย้ำด้วยแน่ะ แม้แต่หลวงพี่ยังไม่วายสงสัย 55555
" แหะ..แหะ.. ไม่มีอะไรหรอกคะหลวงพี่ " 
วา จนมุมกับคำถามหลวงพี่ 
" วันนี้วันเสาร์ 5 นี่คะ เลยใส่บาตรสักหน่อย "
"ดีแล้วล่ะโยม วันมงคลนะ ทำการสิ่งใดก็สมหวัง "
ซ๊าธุ๊....................
..68.gif

" วา ลงไปใส่บาตรพระยังเนี่ยะ ? "
ผ่านไปราว 15 นาที โห พี่เมี่ยงฉ๊าน โทรมาถามอีกแน่ะ
" ใส่แล้ว ใส่นมกล่องกะขนมไปอ่ะ ไม่ยอมบอกล่วงหน้านี่ "
" นี่ๆ พระแซววาด้วย นานๆเห็นหน้าโยมที 5555 " 
วาเล่าให้พี่เมี่ยงฟังขำๆ

" ก็โยมขี้เกียจตื่นเช้าๆนี่เนอะ บอกหลวงพี่ไปซิ "
" นอนต่อได้ยังเนี่ยะ ไหนว่าไปวัดสายๆไง " 
วารีบเปลี่ยนเรื่องพูด ก่อนจะเข้าตัวเองไปมากกว่านี้
" อืม ถ้าใส่บาตรพระแล้วก็นอนต่อได้ เดี๋ยวสายๆค่อยออกไป "
พี่เมี่ยงอนุโลม แต่ไม่วายคุยต่อเรื่อง เสาร์ 5

" วันนี้นะวาเป็นวันเสาร์ห้า เพราะนับตามจันทรคติ คือ 
ตรงกับวันเสาร์ 5 คือ ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ซึ่ง100 ปีมีครั้งเดียว
ถือว่าเป็นวันธงไชยกฐินวัน เป็นฤกษ์งามยามดี " พี่เมี่ยงคุยให้ฟัง
" อ๋อค่ะ ...." วารับฟังอย่างสนใจ เพราะตัวเองไม่เคยทราบเรื่องเหล่านี้มาก่อน

" ในปีนี้วันเสาร์ห้ายังเป็นวันพระจันทร์เด่น พระศุกร์เด่น
ส่งผลให้เป็นเสาร์ห้า มหาเศรษฐี คือ โดดเด่นในเรื่องของ โชคลาภ
วาสนา เมตตา มหานิยม ดังนั้นนะวา
ถ้าใครมีโอกาสไปร่วมทำบุญที่วัดใดก็ตามก็จะได้รับบารมี ต่างๆเช่น
อยู่ยงคงกะพัน มีอำนาจ บารมี ความร่ำรวย มีโชคลาภอาบอิ่มใจ
รวมทั้ง เป็นที่รักแก่มนุษย์และเทวดาทั้งหลาย เข้าใจยังหือ ? "
พี่เมี่ยงอธิบายซะยาวเหยียด

" อ๋อ ค่ะ ... ถ้างั้น วันนี้ก็เป็นวันดีซิพี่เมี่ยง เป็นวันมงคลน่ะ ? 
ยิหวาถามพี่เมี่ยงกลับไป

" เสาร์ 5 น่ะ เป็นดิถีที่ยกย่องว่ายอดเยี่ยมในการประกอบฤกษ์ยาม
ถึอว่าเสาร์ 5 เปนดิถีอำมฤตโชค หรือความสำเร็จ
แต่เสาร์ 5 นี่ไม่ใช่ฤกษ์ยามเพื่อประกอบการมงคล
หรือเพื่อประกอบการทางศาสนานะวา เสาร์ 5 เหมาะสำหรับปลุกเสกเครื่องรางของขลัง

" แหม วา คิดว่าเหมือนกันซะอีก คิดว่าเป็นวันที่เหมาะกับพิธีมงคลด้วยนะเนี่ยะ "
ยิหวา ยังไม่วายหายคลางแคลงใจ

" ฟังนะวา เสาร์ห้านี่นะ โบราณาจารย์ถือว่าเป็นวันแข็ง
ซึ่งเหมาะแก่การประกอบพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลมากกว่านะ
และในรอบ ๑๐๐ ปีจะมีเพียงครั้งเดียว เข้าใจยัง วานี่ไม่รุ้อะไรสักอย่าง "
แน่ะ พี่เมี่ยงมีตบท้ายด้วย แหมๆๆ

สรุป ยัยวาไม่ต้องนอนต่อแระ ฟังพี่เมี่ยงเล่าเรื่องเสาร์ 5 ตาสว่าง อิอิ
...68.gif

สายๆหน่อยก็ไปไหว้พระที่วัดพระแก้ว ผู้คนไม่ค่อยเยอะมากนัก ยังนึกแปลกใจ
ทำไมดูบางตาจัง หรือว่า พวกเขาไม่ทราบเรื่องวันดีเสาร์ 5 กันนะ
คนไทยก็พอมีบ้าง แต่น้อย ไม่เหมือนฝรั่ง มาเป็นกรุ๊ปทัวร์

ออกจากวัดพระแก้ว เดินต่อไปที่ศาลหลักเมือง เยื้องๆกับวัดพระแก้ว
แดดร้อนได้ใจจังเล๊ย พี่เมี่ยงบอก ศรีทนได้ เอ้ย พี่ทนได้เพื่อวันนี้ วันดีเสาร์ 5 อิอิ

ออกจากศาลหลักเมือง ก็ขี้นรถเมล์ฟรีเพื่อประชาชนต่อไปยังวัดไตรมิตร เยาวราช

กว่าจะถึงวัดไตรมิตรก็เผชิญหน้ากะพวกเสื้อแดงสักหน่อย อิอิ 
ตะลึงกับผู้คนที่เห็นตรงหน้า เยอะมาก ผู้คนล้นหลามด้วยจิตศรัทธา
พี่เมี่ยงบอก รีบทำบุญไหว้พระ แล้วออกจากวัดเลยดีกว่า
ไม่ไหวแล้ว ร้อนมาก เดินเป็นหมาหอบแดด 

ป่าวน๊า ไม่ได้ว่าพี่เมี่ยงน๊า ว่าวาเองต่างหาก อิอิ
68.gif

กลับบ้านกันดีกว่า ยิหวาเสื้อสีฟ้า เดินฝ่าดง(ทรีน)เสื้อแดง 5555 
เสียวสันหลังวาบๆ ตรูจะโดนป่าวว๊า อิอิ 
พี่เมี่ยงเสื้อสีน้ำเงิน คงคิดเหมือนวาป่าวหว่า ไม่กล้าถาม อิอิ

สุดท้ายกลับบ้านกันด้วยความสวัสดิภาพ เพราะอานิสงของเสาร์ 5
และจากการไปทำบุญไหว้พระกันมา อะแฮ่มๆๆ...
55555 คิดในใจ รอดแระเรา กลับมาผึ่งพุง นอนเกาสะดือที่บ้านต่อ อิอิ

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เข้าวัดเข้าวาอุราเบิกบาน รอดพ้นหมู่มารที่ผลาญใจเรา...แฮ่..แฮ่...

.68.gif

                          ( ฉางน้อย ทะเลไร้คลื่น )

                 cd25.gif				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฉางน้อย
Lovings  ฉางน้อย เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฉางน้อย
Lovings  ฉางน้อย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฉางน้อย
Lovings  ฉางน้อย เลิฟ 1 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงฉางน้อย