คิดยังไงกับสภาวะ'การเมืองไทยวุ่นวาย' เหตุการณ์นี้คิดว่าใครเป็นต้นเหตุ ใครผิด ใครถูก แต่ละฝ่ายควรทำอย่างไรต่อไป....
16 กุมภาพันธ์ 2549 22:07 น. - comment id 13382
เราคิดว่าต่างฝ่ายต่างเถียงกันอยู่นี้ คงไม่มีไรเกิดมาแน่ เอาเป็นว่า ให้สนธิ อยุดพูด และให้ทักสินเลิกโกง ให้ไปสาบานเลยดิ ว่าถ้าโกงขอให้ท้องเสีย บ้านไฟดับ สีลอก ......ฯลฯ
16 กุมภาพันธ์ 2549 22:08 น. - comment id 13383
ให้ทักษินลาออกแล้วเลือกตั้งใหม่เลย จบ!
16 กุมภาพันธ์ 2549 22:09 น. - comment id 13384
หยุดทั้งคู่ เปนไงเปนงั้นต่อ
16 กุมภาพันธ์ 2549 22:11 น. - comment id 13385
ไม่รู้ดิ ร้ายทั้งคู่ น่าจะเอาไปฆ่าทิ้งทั้ง 2 คนเลย ( 555555555555555555555555555555555555555555555+) ล้อเล่น
17 กุมภาพันธ์ 2549 01:36 น. - comment id 13387
**.. สำหรับนายกฯ ผมชาชินมากกกกกก แต่ที่ทำให้ผมผิดหวังก็คือ บรรดาผู้ที่อวดอ้างว่าตนมีอุดมการณ์ทั้งหลาย สุดท้ายก็แพ้อำนาจของเงินและยศถาบรรดาศักดิ์.... เสียดายนะครับ สำหรับผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลายในสายกฎหมาย กลับนำเอาวิชาความรู้ที่ครูบาอาจารย์สั่งสอน พร้อมจิตวิญญาณที่สั่งสม มาขายกันง่ายๆ... ผมแม้จะยังไม่จบปริญญาตรี แต่ผมก็ติดตามข่าวสารบ้านเมือง และก็รู้ดีอยู่ว่าท่านนำกฎหมายมาหาช่องทางที่ไม่ซื่อ... ผมได้อ่านข้อความนึงและเหมาะแก่การมอบให้ท่านด้วยว่า \" ท่านกำลังทรยศต่อคำปฏิญาณที่ให้ไว้เมื่อวันรับปริญญา \"................. ไม่มีใครหรอกครับที่ไม่อยากมีเงิน แต่หากมีเงินแล้วต้องขายศักดิ์ศรี ผมว่าท่านน่าจะนำปริญญาที่ได้ส่งคืนแก่สถาบันอันสูงค่าที่ท่านเรียนมาเสียดีกว่า เพราะมหาวิทยาลัยไม่ได้สอนให้นักศึกษาออกมาเป็นคน ( เยี่ยงโจร ) **.. เป็นเรื่องยาก หากถาม ความถูกผิด หนึ่งชีวิต ต่างก็รัก มั่นศักดิ์ศรี ทุกมาตรา นั้นจะมั่ว ชั่วเลวดี ย่อมอยู่ที่ มือใคร จะใช้มัน...
17 กุมภาพันธ์ 2549 08:58 น. - comment id 13389
ทั้งสองคนต่างก็หาผลประโยชน์ทั้งนั้นแหละค่ะ เพียงแต่ว่าผลประโยชน์ของใครจะส่งผลเสียกับประเทศชาติน้อยกว่า เราก็ควรจะสนับสนุนฝ่ายนั้น อย่างไรก็ตาม เสี้ยวก็ยังเห็นว่าเราไปบ้าจี้ตามเกมเค้าทำไม เค้า 2 คนกำลังทะเลาะกัน โดยใช้ประเทศเวที และเอาประชาชนเป็นกองเชียร์ ทำไมเราไม่เปิดตากว้างๆ พิจารณาการกระทำของนายก ไปฟังคุณสนธิ ฟังได้ แต่ฟังเพื่อประกอบการตัดสินใจเท่านั้น ไม่ใช่ไปตกเป็นเครื่องมือของเค้า ไม่ได้มองคุณสนธิในแง่ร้ายนะคะ เพียงแต่ว่าหลังๆนี่รู้สึกว่าแต่ละการกระทำมันแปลกๆชอบกล เอาแต่ไล่เค้า ไม่เสนอทางแก้ใหม่ ถ้าถามว่าแต่ละฝ่ายควรทำอย่างไรต่อไป คุณสนธิควรจะหยุดไล่เค้าได้แล้ว เหตุผลก็คือ 1.มีนิสิตรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยในกทม.คนนึงบอกว่า \"เมื่อประชาชนรากหญ้า ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของประเทศนั้น ยังรัก และชื่นชมทักษิณอยู่ ถ้าเราไปไล่นายกออก ประชาชนเหล่านั้นก็จะมาไล่เรา\" ผลสุดท้ายก็จะลงเอยด้วยการที่ประชาชนทะเลาะกันเอง 2. อีกประการหนึ่ง บรรดาผู้เล่นหุ้นทั้งหลายดีใจกันยกใหญ่ที่ศาลรธน.ไม่รับพิจารณามาตรา 208 แปลว่า ศาลรธน. ยินดีที่จะให้ทักษิณอยู่ต่อ พูดตรงนี้เพื่ออะไร ก็เพื่อชี้ให้เห็นว่า นอกจากบรรดาพี่น้องรากหญ้าแล้ว พวกเล่นหุ้นก็อยากให้ทักษิณอยู่ต่อเช่นกัน ด้วยเหตุผลง่ายๆว่า มันทำให้หุ้นขึ้น เข้าใจว่าการออกมาไล่ทักษิณเป็นการแสดงพลังของประชาชน แต่เมื่อประชาชนแตกเสียงกันเองแล้ว มันก็เสี่ยงอย่างยิ่งที่จะทำให้คนไทยมานั่งทะเลาะกันเอง 2. การที่จะให้เค้าออกเพื่อรับผิดชอบนี่มันรับผิดชอบตรงไหน จะแน่ใจได้อย่างไรว่า เมื่อพ้นจากตำแหน่งแล้ว เค้าจะอยู่เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆที่เค้าก่อขึ้น ออกไปแล้วอย่างมากที่สุดก็ติดคุก ไม่ก็เนรเทศ แล้วมันช่วยให้สมบัติของชาติที่เค้าขายไปกลับมาได้ไหม เค้านั่นแหละที่จะต้องแก้สิ่งที่เค้าทำ 3. ขณะนี้ทักษิณอยู่ในแสงสว่าง แม้ว่าพยายามจะแอบอยู่ในเงาก็ตาม สิ่งต่างๆที่เค้าได้ลงมือทำไปเมื่อปีก่อนๆ มันเริ่มปรากฎผลแล้วในวันนี้ การที่เราจับเขามัดไว้กับตำแหน่งนายก เราจะสามารถเห็นได้ว่าสิ่งต่างๆนั้นมันมีอะไรบ้าง ดีกว่าที่จะปล่อยเขาไป แล้วผลประโยชน์ที่เขาได้รับจากการกระทำในปีก่อนๆนั้น ก็จะอยู่ในความมืดมากยิ่งขึ้น ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น 4. คล้ายๆข้อ 1 คือ ประชานิยมยังไงก็ได้ผลอยู่ สำหรับคนที่ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ คะแนนนิยมของเขายังสูงอยู่ ถ้าเอาเขาออก แล้วเกิดเขาสมัครรับเลือกตั้งใหม่ล่ะ หรืออาจจะส่งใครในนามพรรคมาใหม่ เค้าก็ยังมีสิทธิ์คงจะได้รับเลือกตั้งอยู่ เมื่อถึงเวลานั้น ถ้าคุณอยากจะไล่เขาก็ยิ่งไล่ไม่ได้ใหญ่ ฝ่ายทักษิณควรทำอะไร ไม่ต้องพูดถึงการแสดงความบริสุทธิ์ เพราะว่ารุ้ว่าทำไม่ได้อยู่แล้ว สิ่งที่ควรทำอย่างยิ่งคือ เปิดให้มีการแก้รัฐธรรมนูญโดยภาคประชาชนเสีย แค่นี้ละมั้ง ที่พอจะหวังได้จากคนคนนี้
17 กุมภาพันธ์ 2549 10:05 น. - comment id 13391
เอ็งกินเหล้าเมายาไม่ว่าดอก แต่อย่าออกนอกทางให้เสียผล เอ็งอย่ากินสินบาทคาดสินบน เรามันชนชั้นปัญญาตุลาการ องค์เจ้ารพี
17 กุมภาพันธ์ 2549 10:10 น. - comment id 13392
เอ็งกินธรรมนั้นเล่า เมาไม่ผิด เป็นบัณฑิตจิตเที่ยงธรรม ต้องสืบสาน คุณธรรมใช่อยู่แต่ ในกระบาน ตุลาการ ไว้สืบสาน คุณความดี คนเหล่ามากล้วนอยู่ กันเป็นผอง ทั้งพี่น้องทั้งญาติ ก็มากนี่ แต่ใครเล่าจะคอยเฝ้า คุณธรรมมี ก็มีที่ศาลปัญญา ตุลาการ เป็นที่พึ่งพิงพัก ยามลำบาก บ้างเป็นสากคอยตำ ให้อับฉาน เอ็งจงเฝ้าประตูธรรมเถิด ให้เปิดนาน ตีกะบานคนไม่ดีหลี่ประตูลง อย่าริคิดจ้องจับ แต่บับเบี้ย มันเป็นเพลี้ยคอยชักใย ให้ลุ่มหลง สังคมแต่จะแย่ และแย่ลง เจ้าคือคนผู้ผดุงคุณธรรม เขียนโดยคุณ ก๊อง-ต๊อง เอามาแบ่งปัน
17 กุมภาพันธ์ 2549 10:53 น. - comment id 13393
ไม่ใคร่เห็นด้วยกับความเห็นที่ 6 เท่านี้แหละ
17 กุมภาพันธ์ 2549 13:31 น. - comment id 13396
สนธิ กับ ทักษิณ เป็นอีกภาคหนึ่งของกันและกัน ประหนึ่งด้านหัวและก้อยของเหรียญ ฉะนั้น สองด้านรวมกัน จึงเป็นเงินสมบูรณ์แบบ พูดอีกนัยหนึ่งคือ เป็นทุนนิยม แบบ บูรณาการ เมื่อเจอเหรียญหนึ่งเหรียญ ตกอยู่... คนมีปัญญา ย่อมใช้เงินนั้นไปลงทุน คนฉลาด ย่อมใช้เงินนั้นไปชำระหนี้ คนโง่ ย่อมนำเหรียญนั้น ไปเล่นปั่นแปะ
17 กุมภาพันธ์ 2549 13:34 น. - comment id 13397
ชื่อ สนธิ มีกำลังพระเคราะห์ทั้งหมด 20 [รายละเอียดการแยกชื่อ ส=7 น=5 ธ=4 สระอิ=4 ] นามสกุล ลิ้มทองกุล มีกำลังพระเคราะห์ทั้งหมด 34 [รายละเอียดการแยกนามสกุล ล=6 สระอิ=4 ไม้โท=2 ม=5 ท=1 อ=6 ง=2 ก=1 สระอุ=1 ล=6 ] รวมชื่อและนามสกุล สนธิ ลิ้มทองกุล มีกำลังพระเคราะห์ทั้งหมด 54 [เลข 54 พลังมหาราชาโชคความสำเร็จ ] กำลังพระเคราะห์ได้เลข ๕๔ เป็นเลขที่แสดงถึงนิมิตแห่งความสำเร็จ ชีวิตมักจะได้คุ้มครองจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นคนรู้ง่าย มีสติ ปัญญาแตกฉานเข้าใจอะไรได้งาย อุปสรรคในชีวิตมีน้อยแต่ต้องระวังอุบัติเหตุจากยานพาหนะ และระวังเรื่องเกี่ยวกับสายตา เพราะเลข ๕๔ บวกกันได้ ๙ ดาวเกตุธาตุลม
17 กุมภาพันธ์ 2549 13:36 น. - comment id 13398
ชื่อ ทักษิณ มีกำลังพระเคราะห์ทั้งหมด 19 [รายละเอียดการแยกชื่อ ท=1 ไม้หันอากาศ=4 ก=1 ษ=4 สระอิ=4 ณ=5 ] นามสกุล ชินวัตร มีกำลังพระเคราะห์ทั้งหมด 28 [รายละเอียดการแยกนามสกุล ช=2 สระอิ=4 น=5 ว=6 ไม้หันอากาศ=4 ต=3 ร=4 ] รวมชื่อและนามสกุล ทักษิณ ชินวัตร มีกำลังพระเคราะห์ทั้งหมด 47 [เลข 47 พลังแห่งความเพียร ] กำลังพระเคราะห์ได้เลข ๔๗ เป็นเลขเข้มแข็งเลขหนึ่ง แต่อิทธิพลเลข ๗ ดาวเสาร์ ทำให้ชีวิตมีความระทมขมขื่นแอบแฝงอยู่ มักจะใจอ่อนเชื่อคนง่าย แต่ถ้าดื้อรั้นขึ้นมาก็ยากที่จะหยุดได้ ต้องระวังการหลงผิด จะเป็นตัวทำลายอนาคตอันรุ่งเรือง แต่ก็เป็น คนที่มีความขยันหมั่นเพียรดี มักจะได้รับความสำเร็จจากความพยายามอันเหนื่อยยาก กว่าจะพบเป้าหมาย ต้องใช้ความ พยายามอันเหนื่อยยากกว่าจะพบเป้าหมาย ต้องใช้ความพยายามและอดทนเป็นอย่างสูง
18 กุมภาพันธ์ 2549 12:46 น. - comment id 13419
แวะมาเยี่ยมค่ะ
18 กุมภาพันธ์ 2549 12:50 น. - comment id 13420
**.. จดหมายถึง... นัก(การเมือง)นิติศาสตร์ ในสภาวการณ์ปัจจุบันที่เกิดขึ้น กระผมเองไม่ฝักใฝ่ทั้งนายกทักษิณ และไม่ฝักใฝ่สนธิ เช่นกัน หากแต่วันนี้จุดยืนของผมคือยืนเคียงข้างประชาชน เพราะผมก็เป็นนักศึกษาคนหนึ่ง และที่สำคัญยิ่งผมรักในสายทางนิติศาสตร์ที่มีและเป็นอยู่ในวันนี้ ... สิ่งที่เกิดขึ้นอาจทำให้หลายๆคนต้องผิดหวัง โดยเฉพาะนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ภาพที่ปรากฏคือการที่ผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมายหลายๆท่าน ที่บางคนเรียกว่าอาจารย์... กลับไปรับใช้นักการเมือง นำความรู้ที่มีอย่างเชี่ยวชาญไปใช้เพื่อหาผลประโยชน์ส่วนตนและนาย เสียดายยิ่งกับความน่าเชื่อถือที่บรรดานักศึกษามีให้และเสียดายยิ่งความรู้ที่มีมาตลอดชั่วทั้งชีวิต เพียงเพื่อยศฐาบรรดาศักดิ์และเงินทองก็สามารถทำให้คนทรยศต่ออุดมการณ์ได้... นิติศาสตร์ ไม่ใช่เพียงศาสตร์แห่งกฎหมายเท่านั้น แต่คือศาสตร์แห่งความยุติธรรม เมื่อคนร่างกฎหมายมือไม่สะอาดแล้ว จะกล่าวได้ว่ากฎหมายนั้นอำนวยความยุติธรรมได้อย่างไร พอเถอะครับ... อย่าเอาตัวท่านเองเข้าไปแลกกับสิ่งเหล่านี้อีกเลย และอย่าลืม การดำเนินรอยตามบทพระราชนิพนธ์ในพระองค์เจ้ารพีพัฒน์ศักดิ์ พระบิดาแห่งกฎหมายไทย ที่พวกเราเลือดนิติศาสตร์เรียกพระองค์ว่า \"พ่อ\" หรือ \"องค์พ่อ\" \" เอ็งกินเหล้าเมายาไม่ว่าหรอก แต่อย่าออกนอกทางไปให้เสียผล เอ็งอย่ากินสินบาทคาดสินบน เรามันชนชั้นปัญญา... ตุลาการ \" กลับมาเป็นคนดีของพวกเราอย่างเดิม นะครับ
18 กุมภาพันธ์ 2549 17:27 น. - comment id 13426
คุณต่อง จิงนะคะที่พูดมา แต่เขาก็หลงอำนาจน่ะนะ ประเภทรวยไม่พอซะที แล้วก็ จดหมายนั่นใช่ได้นะคะ เห็นด้วยคะ ............................... คุณแทนคุณแทนไท คนเปนนักการเมืองไม่น่าทะอย่างงั้นเลยเช่นกันค่ะ ................................. พระเจ้าช่วย!!!! ดูดวงแม่นจังมาดูให้มั้งสิ ................................ คุณแสงไร้เงา มาทักทายเช่นกันค่า ..................................
21 กุมภาพันธ์ 2549 14:01 น. - comment id 13498
ทักษิณ ควรออกไป เพราะขายชาติ เราไม่จำเป็นต้องสนใจสนธิมากมาย แต่เราต้องสนใจผลประโยชน์ของตัวเอง ตอนแรกก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ตอนหลังฟังนักวิชาการหลาย ๆ คน และเช็คข้อมูลหลาย ๆ ด้าน ทราบจากญาติเราที่ทำมาหากินกับรัฐบาลแล้ว รู้สึกว่าที่ทักษิณ ทำอยู่กำสมควรโดนไล่ และไม่ชอบที่เขาเป็นคนจาบจ้วงด้วย ชอบตีค่าทุกอย่างเป็นเงิน ไม่เข้าท่าอย่างยิ่ง ย้ำ ไม่ควรสนใจสนธิหรือรายการเมืองไทยรายสัปดาห์หันมามองดูตัวเราเองดีที่สุด น้ำ ไฟ ภาษี เตรียมจะขึ้นกันอีกแล้ว รัฐบาลชุดนี้ ไป ๆ ให้พ้นแหละดีที่สุด
23 กุมภาพันธ์ 2549 16:56 น. - comment id 13552
ตรงนี้ไม่ขอแสดงความคิดเห็นว่าใครผิดใครถูก คนที่โกงกินก็สมควรรู้อยู่แก่ใจ ว่าตัวเป็นอย่างไร ไม่ต้องมารอให้ใครไล่ สมควรรู้ตัวเองดี
24 กุมภาพันธ์ 2549 18:11 น. - comment id 13568
ถ้าให้ดีก็ลาออกซะ แต่ถ้าบอกว่าประชาชนยังเลือกอยู่ก็ยุบสภา เลือกใหม่ ท่านอาจได้ แต่คราวฝ่ายค้านอาจถึง 200 นะ
25 มีนาคม 2549 08:11 น. - comment id 13824
การที่คุณสนธิ นำประเด็นเหล่านั้น มาพูดขยายจนเกินความจริง เพื่อสร้างอารมณ์ร่วม ให้ฝูงชนที่ไม่รู้ข้อมูลทั้งหมดบ้าคลั่ง และใช้กลุ่มคนและองค์กรที่หลงเชื่อคำพูดของคุณสนธิเหล่านี้ มากดดันทำให้ประเทศของเราทุกคนแตกแยกนั้น เป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนที่มีใจเป็นกลาง รับไม่ได้ อะไรที่ทำให้คุณสนธิ รอพระราชวินิจฉัยของในหลวง หรือรอการตรวจสอบนายกตามกระบวนการระบบประชาธิปไตยไม่ได้ คำถาม 4 ประเด็นใหญ่ ซึ่งมีคำถามย่อยนับสิบข้อ ที่อยากให้คุณสนธิตอบเหล่านี้ จะค่อยๆปูพื้นให้ทุกคนที่มีใจเป็นกลาง เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ดีขึ้น (1) คุณสนธิและผู้บริหารของกลุ่มผู้จัดการ บริหารบริษัทเมเนเจอร์ มีเดีย ซึ่งเป็นของมหาชน ด้วยความโปร่งใสหรือไม่ มีการยักยอกเงินเข้ากระเป๋าส่วนตัวของใครหรือเปล่า กรณีที่ 1 หมู่เกาะ The British Virgin Island ที่คุณสนธิออกมาด่านายกทักษิณปาวๆ คุณสนธิยังจำได้ไหมว่า ใครไปจดทะเบียนบริษัท Manager International Holding Company Limited ที่หมู่เกาะนี้ ด้วยเงินเพียงแค่ 1,000 เหรียญสหรัฐ แต่กลับนำมาขายให้ บริษัท เมเนเจอร์ มีเดีย (มหาชน) ซึ่งเป็นของผู้ถือหุ้นทุกคน ด้วยเงินถึง 7,228,000 เหรียญสหรัฐ เงินกำไรร่วม 200 ล้านบาทนี้ หายไปอยู่กระเป๋าใคร นอกจากนั้นเงินที่ บริษัทเมเนเจอร์ให้บริษัทนี้ยืมไปอีก 700 ล้านบาท หายไปไหน (ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่กลุ่มผู้จัดการ ทำรายงานเองและส่งให้ตลาดหลักทรัพย์เอง ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2547 สามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ตลาดหลักทรัพย์) กรณีที่ 2 เงินโฆษณากว่า 100 ล้านบาท ซึ่งควรเป็นของผู้ถือหุ้นทุกคน หายไปไหน เมื่อไหร่จะได้คืน ทำไมมีการเปิดบริษํทส่วนตัว ที่ชื่อ เวิลด์ไวด์ มีเดีย ซึ่งก็ตั้งอยู่บนถนนพระอาทิตย์ เพื่อรับเงินค่าโฆษณาแทนบริษัทมหาชน และทำไมบริษํทนี้ถึงอมเงินเอาไว้ และไม่ยอมจ่ายเงินคืนให้บริษัทซึ่งเป็นของมหาชนสักที ทั้งที่รับเงินมา 2-3 ปีแล้ว ที่น่าสงสัยยิ่งกว่านั้น ทำไมบริษํท เมเนเจอร์ มีเดีย (มหาชน) ถึงยังให้บริษัทนี้ หาโฆษณาและรับเงินแทนอยู่ ทั้งๆที่ก็รู้ว่าบริษัทนี้เบี้ยวเงินมาเป็นปีแล้ว นอกจากนั้น ทำไมบริษัทเมเนเจอร์ มีเดียถึงนับยอดรายได้โฆษณาที่น่าจะได้จากบริษํทเวิลด์ไวด์ มีเดียนี้เป็นหนี้สงสัยจะสูญในทันที จนมีผลทำให้ผลประกอบรวมของบริษัทเมเนเจอร์ มีเดียเองซึ่งควรจะเป็นกำไร กลายเป็นขาดทุน นี่เป็นสาเหตุหรือเปล่า ที่ทำให้ผู้ตรวจสอบบัญชีที่บริษํท เมเนเจอร์ มีเดียจ้างเอง ไม่ยอมเซ็นไว้วางใจบริษัทเมเนเจอร์ มีเดียหลายไตรมาสติดต่อกันแล้ว (จากข้อมูลที่กลุ่มผู้จัดการ ทำส่งให้ตลาดหลักทรัพย์เอง ระหว่างปี 2547 - 2549) (2) คุณสนธิและกลุ่มผู้จัดการ ใช้ความเป็นสื่อ บังคับและเบียดบังผลประโยชน์ของรัฐ เข้าตัวหรือเปล่า หลังจากที่คุณเจิมศักดิ์ และกลุ่มเนชั่นออกมาปูดข่าวว่า รัฐบาลทักษิณช่วยลดหนี้ของกลุ่มผู้จัดการ จาก 20,000 ล้านบาท เหลือแค่ 6,000 ล้านบาท ในปี 2545แล้ว คุณสนธิและกลุ่มผู้จัดการได้รับการลดหนี้จากสถาบันการเงินของรัฐ อีกกี่ครั้ง (เพื่อความเป็นธรรมในการรับรู้ข้อมูล คุณสนธิ ออกมาปฏิเสธว่ากลุ่มผู้จัดการ มีหนี้อยู่ ในขณะนั้น 8,000 กว่าล้านบาท ไม่ใช่ 20,000 ล้านบาทตามที่คุณเจิมศักดิ์กล่าวหา) ทำไมขณะที่คุณวิโรจน์ นวลแขทำงานที่แบงก์กรุงไทย คุณสนธิถึงได้รับการลดหนี้ที่เคยลดมาแล้วอีก จาก 1,421.73 ล้านบาท เหลือเพียงแค่ 259 ล้านบาท แล้วยิ่งกว่านั้น ทำไมธนาคารกรุงไทย ถึงขนาดยอมให้คุณสนธิไม่ต้องจ่ายคืนเป็นเงินสด โดยยอมกระทั่งให้ใช้คืนเป็นค่าโฆษณาราคาแพง จนเราได้เห็นโฆษณาชุดผู้ใหญ่ลี ที่มีค่าแอร์ไทม์ครั้งละหลายแสนบาท อย่างถี่ยิบ คุณสนธิคิดว่า ธนาคารของรัฐอย่างกรุงไทยมีความจำเป็นต้องโฆษณาตัวเองกับสื่อของคุณสนธิแค่ที่เดียว เป็นร้อยๆล้านบาทเลยหรือ (จากข้อมูลที่กลุ่มผู้จัดการ ทำส่งให้ตลาดหลักทรัพย์เอง ในปี 2547 ดูข้อมูลได้ที่ตลาดหลักทรัพย์) นอกจากนั้นแล้ว คุณสนธิใช้วิธีไหน ถึงทำให้รัฐวิสาหกิจอื่นของรัฐอย่างเช่น การบินไทย ปตท และบริษัทเอกชนในเครือชินวัตรลงโฆษณาจำนวนมากกับสื่อของผู้จัดการ จนยอดรายได้โฆษณาของกลุ่มพุ่งขึ้นถึงกว่า 40% หลังจากที่นายกทักษิณ เข้ามาบริหารประเทศ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ จากกรณีศึกษาของกลุ่มผู้จัดการ ในรายงานสถานการณ์ด้านสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนในรอบปี 2546 ของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย โดย ผศ. ดร.วิลาสินี พิพิธกุล คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) (3) การที่คุณสนธิออกมาปลุกระดมมวลชนตอนนี้ แบบถอยหลังไม่ได้ เป็นเพราะกลุ่มผู้จัดการกำลังเกิดวิกฤติทางการเงิน ซึ่งถ้าไม่ได้อำนาจรัฐหรือกลุ่มทุนเข้าช่วยเหลือ อาจถึงขั้นปิดตัวเองเลยใช่หรือเปล่า อะไรที่ทำให้คุณสนธิ อุทานว่า ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง ประเด็นนี้ต้องศึกษาเงื่อนเวลาอยู่ 2 จุด ก) ก.ล.ต. ได้ออกกฏมานานแล้วว่า จะถอดถอนบริษัทซึ่งอยู่ในหมวดฟื้นฟูของตลาดหลักทรัพย์ และมี***ส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ ออกจากตลาดหลักทรัพย์ ภายในเดือนมีนาคม 2549 ข) ศาลล้มละลายกลาง ได้ยินยอมขยายเวลาแผนฟื้นฟูของบริษัทเมเนเจอร์มีเดียออกไปจากเดิมสิ้นสุดวันที่ 26 กรกฏาคม 2548 กลายเป็นสิ้นสุดวันที่ 3 สิงหาคม 2549 เพื่อให้บริษํทเมเนเจอร์มีเดีย หาผู้ร่วมทุนใหม่มูลค่า 350 ล้านบาทให้ได้ทันตามกำหนด ซึ่งถ้านำมาเรียงดู จะอ่านได้ง่ายๆดังนี้ ถ้ากลุ่มผู้จัดการหาเงินเพิ่มทุน 350 ล้านบาทไม่ได้ภายในเดือนมีนาคม หรือไม่มีอำนาจจากไหนมาบีบ กลต ให้เปลี่ยนแปลงหรือผ่อนผันกฏ บริษํทเมเนเจอร์มีเดีย มีสิทธิจะโดนถอดออกจากตลาดหลักทรัพย์เดือนหน้า! และถ้ายังไม่ได้เงินก่อนเดือนสิงหาคม และศาลไม่ยินยอมให้ขยายเวลาแผนฟื้นฟูบริษัทอีก บริษัทเมเนเจอร์ก็อาจจะต้องปิดตัวเองลง ภายในปีนี้! คำถามก็คือ ถ้าสมมติว่า เมื่อต้นปีที่แล้ว มีกัลยาณมิตรยอมช่วยคุณสนธิ ตอนนี้คุณสนธิจะวาดภาพให้ประชาชนมองนายกทักษิณเป็นคนชั่วร้ายที่สุด หรือเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีที่สุดของประเทศไทย คุณสนธิจะหานักลงทุนปกติที่ไหน มาช่วยลงทุนเงิน 350 ล้านบาท กับบริษัทที่มีหนี้มากกว่าสินทรัพย์ 200 กว่าล้านบาท แถมยังขาดทุนสะสมเพิ่มตลอด และผู้ตรวจสอบบัญชียังไม่รับรองความโปร่งใสอีก ทำไมเงินกว่าร้อยล้านบาท ที่อยู่ในบริษัทเวิลด์ไวด์มีเดีย ไม่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ หรือจ่ายคืนให้บริษํทเมเนเจอร์มีเดีย ซึ่งจะทำให้ฐานะการเงินของบริษัทเมเนเจอร์ดีขึ้นเยอะ และต้องการเงินเพิ่มทุนอีกเพียงแค่ร้อยกว่าล้าน ก็จะมี***ส่วนผู้ถือหุ้นเป็นบวกแล้ว ตลอดปีที่ผ่านมา คุณสนธิได้ขอร้องให้ใครมาช่วยบ้าง มีใครยอมช่วย และไม่ยอมช่วยบ้าง และคุณสนธิคิดยังไงกับคนที่ไม่ยอมช่วย ถ้านายกทักษิณไม่ช่วย คุณสนธิก็ต้องหาใครคนอื่น ที่ช่วยคุณสนธิได้ใช่หรือเปล่า (4) ถ้ากลุ่มผู้จัดการถูกถอดออกจากตลาดหลักทรัพย์ และไม่ผ่านเกณท์การฟื้นฟูบริษัทในกลางปีนี้ จนอาจถูกเจ้าหนี้บังคับให้ปิดตัวเองลง คุณสนธิ จะปลุกระดมคนว่า รัฐบาลคุกคามสื่อหรือเปล่า เมื่อไหร่คุณสนธิถึงจะหยุด หรือประเทศจะแตกแยกกันอีกเท่าไหร่คุณสนธิก็ไม่สนใจ ขอเพียงธุรกิจของคุณสนธิยังอยู่ได้ แค่นั้นเองหรือ ถ้าคุณสนธิตอบได้ทุกประเด็น และทุกคำถามย่อย คุณสนธิถึงจะเคลียร์ตัวเองได้ว่า การปลุกระดมคนครั้งนี้ ไม่ได้ทำเพื่อตัวคุณสนธิเอง โดยหลอกใช้ประชาชนนับแสนเป็นเครื่องมือ