ฮือๆๆๆ เมตตาหนูเถิด ช่วยหนูหน่อยน้าค้า

เสี้ยว

ช่วยอ่านไอ้นี่หน่อยนะคะ เรื่องมันมีอยู่ว่า
**************************************************************************
ถ้าคุณถามเพื่อนบ้านของผมว่า 
เขาทำมาหากินอะไร เขาจะต้องตอบว่า 
เขาเป็นนักพนันมืออาชีพ มีเบื้องหลังพัวพันในองค์กรอาชญากรรมต่างๆ
แต่ความจริง 
เขาเป็นตัวแทนขายประกันที่ไม่ค่อยศรัทธาในธุรกิจของตน
ตามแบบฉบับของคนฉลาด ความรู้สึกนี้ ครอบคลุมไปถึงปรัชญาชีวิตของเขา
ที่ว่า เราทุกคนเป็นนักพนันเขาประกาศ 
ชีวิตก็เหมือนกับการทอดลูกเต๋า ไพ่โปกเกอร์ หรือม้าแข่ง
เขาสาธยายและทิ้งท้ายว่า
แต่ผมชอบชีวิตแบบนี้
เขาเชื่อเรื่องการไม่เสี่ยงอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง
ในสถานการณ์ที่ทั้ง 2 ฝ่ายคู่คี่กัน 
เขาจะพนันไว้ทั้ง 2 ฝ่าย 
บนผนังห้องทำงานของเขามีปรัชญาชีวิตเขียนไว้ดังนี้
- จงเชื่อถือวางใจในมิตนสหาย  แต่เป็นผู้ตัดไพ่เองเสมอ
- จงวางใจในพระเจ้า และพึงสร้างบ้านบนที่สูง
- จงรักเพื่อนบ้าน และเลือกอยู่ในทำเลที่มีเพื่อนบ้านดีๆ
- คนวิ่งเร็วไม่ชนะเสมอไป ผ่านที่มีกำลังอาจจะไม่ชนะสงครามทุกครั้ง
  แต่ในการพนันเราต้องถือฝ่ายข้างที่ได้เปรียบ
- เมื่อเขาตบแก้มซ้าย จงหันแก้มขวาให้เขาตบ
  แต่ก็ต้องยึดหลักสายกลางไม่ปล่อยให้เป็นอย่างนั้นตลอดไป
- จงระลึกไว้เสมอว่า ช้าๆได้พร้า 2 เล่มงาม
  แต่ถ้าใครงุ่มง่ามก็ชวด
- แพ้ชนะไม่สำคัญ สำคัญที่เล่นอย่างไร และคติในการเล่น คือเล่นให้ชนะ
**************************************************************************
ปัญหาที่เสี้ยวแก้ไม่ตกคือ ไอ้เรื่องข้างบนเนี้ย 
สำหรับเสี้ยวนะ เสี้ยวว่ามันเข้าใจยาก 
มีคนเสนอให้เสี้ยวเอาเรื่องนี้ลงหนังสือเล่มหนึ่งที่เสี้ยวรับผิดชอบอยู่ หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือครบรอบ 10 ปีของชมรมแห่งหนึ่งในโรงเรียน เพราะฉะนั้น คนที่อ่านก็คือ เด็กประมาณ ป.4 ไปจนถึง รุ่นพี่ๆอายุประมาณ 30 ซึ่งเสี้ยวคิดว่า ผู้อ่านส่วนใหญ่ตีความเรื่องนี้ไม่ออกแน่ 
ตัวเสี้ยวเองอ่านไม่รู้เรื่อง ต้องเอาไปให้อาจารย์ท่านหนึ่งอธิบายให้ฟังจนเข้าใจ และอาจารย์ก็บอกว่า เรื่องนี้ก็ดีนะ เอาลงหนังสือก็ได้ แต่ต้องเอาไปเกลาเล็กน้อย หรือสรุปอะไรตอนท้ายเล็กน้อย ให้ผู้อ่านเข้าใจ ความหมายที่แฝงอยู่ ตรงนี้แหละคือปัญหา ....เสี้ยวไม่รู้จะทำยังไงให้คนอ่านเข้าใจ ก็เลยอยากขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ thaipoem ช่วยแนะนำหน่อยน่ะค่ะ				
comments powered by Disqus
  • ส้มโอ (วรรณกาญจน์)

    22 กรกฎาคม 2545 22:55 น. - comment id 4261

    เสี้ยว ให้ อ.อธิบาย เข้าใจแล้วนี่นา ก็ตามนั้นแหละ แต่เท่าที่ ส้มโอ อ่านด้วยการใช้วิจารณญาณ อันน้อยนิด กับสมองที่กำลังจะขาด ออกซิเจน (เพราะดึกแล้ว) เข้าใจวว่าคนเขียนมีอารมณ์ เย้นหยันโลกมาก เหมือนฉวยโอกาสที่ทุกคนกำลังสร้างความดี หาผลประโยชน์ใส่ตัว (คือเขารู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว แต่จะทำชั่ว!น่ะ และทำแบบ เนียนมากด้วย)
  • เสี้ยว

    22 กรกฎาคม 2545 23:05 น. - comment id 4262

    ที่ส้มโอเข้าใจนั่นแหละคือสิ่งที่เสี้ยวกลัว เพราะที่อ.อธิบายมันหมายความว่าให้เชื่อมั่นและศรัทธา แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องระมัดระวังและตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาทด้วย ชีวิตถึงจะดำเนินได้อย่างมีความสุข
    
    แต่เสี้ยวไม่อยากเขียนอย่างนี้ลงไป เพราะรู้สึกว่าภาษามันไม่ค่อยสวย .......ทำไงดีคะเนี่ย
  • โคลอน

    22 กรกฎาคม 2545 23:14 น. - comment id 4263

    อืม...อ่านแล้วก็พอจะสรุปแนวคิดได้ว่า***จงมีความเชื่อมั่นในตัวเองเสมอไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม แต่ก็ต้องรู้จักยอมรับความจริงด้วย***
  • ธนรัฐ สวัสดิชัย

    23 กรกฎาคม 2545 00:51 น. - comment id 4266

    ร้อยคน ร้อยความคิด....
    ให้คนที่อ่านสรุปเอาเองดีก่าจ้า....
  • คนที่แอบดูอยู่ห่างๆ

    23 กรกฎาคม 2545 20:24 น. - comment id 4280

    อ่านแล้วงงเล็กน้อยนะเนี่ย
  • monki

    25 กรกฎาคม 2545 06:45 น. - comment id 4308

    เฮือก แต่เราอ่านแล้วรู้สึกว่าเค้าพูดเหมือนว่า
    มีความศรัทธาได้ แต่อย่าปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามสิ่งที่ฟ้ากำหนดอย่างเดียว เหนือสิ่งอื่นใดต้องเชื่อในตัวเอง -_-
    
    พออ่านอันนี้แล้วฟังปัญหาที่เสี้ยวบอก เราดันนึกไปถึงเรื่องเจ้าชายน้อยอ่ะ คือเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องที่ให้ข้อคิดที่เมื่อคนต่างวัยมาอ่านก็อาจจะได้อะไรไม่เหมือนกัน เป็นไปได้ไหมว่าจะผูกเรื่อง หรือว่าใส่ความเป็นเรื่องราวให้มันมากกว่านี้ คือพอเด็กมาอ่านเนี่ยะเค้าก็จะได้อ่านรู้เรื่อง[แม้อาจจะไม่ได้รับข้อคิดอะไรเยอะเท่าที่อาจารย์บอกมาก็ไม่เป็นไร] แต่เค้าก็จะเข้าใจเรื่องราวได้ในระดับนึง ส่วนคนที่เค้าโตแล้วก็สามารถที่จะคิดหรือสรุปอะไรให้ตัวเองได้อีกแบบนึง
    
    ไม่เห็นด้วยกับการชี้นำให้เค้าฟังไปเลยว่าเรื่องนี้มันให้แง่คิดอะไร แบบ... นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า... งี้อ่ะ เราว่าน่าจะให้มันเป็นเรื่องที่เปิดๆ เข้าไว้ ให้อิสระคนอ่านนิดนึง
    
    แหะ ไม่รู้ช่วยอะไรได้เปล่านะ แต่มาแสดงความเห็นอ่ะค่ะ
  • dokkoon

    25 กรกฎาคม 2545 10:15 น. - comment id 4311

    ดูเหมือน คนเขียนต้องการชี้ให้เห็นถึงปรัชญาที่ต้องยอมรับ กับความเป็นจริงที่ต้องเป็น การแปรความจะเป็นตามประสบการณ์และทัศนคติของผู้อ่าน  สำหรับ dokkoon เห็นว่าเป็นงานที่ดีเช่นกัน เอาไว้เตือนสติ ว่าอย่าไปสุดขั้วกับอุดมคติ ในขณะที่ต้องอยู่ในสังคมที่ความเป็นจริงมันเป็นไป  ในขณะเดียวกัน ก็อย่าเอาแต่ประโยชน์ ให้ยึดถือปรัชญาและศีลธรรม ไปด้วย 
    
    เพราะต้องอยู่ในสังคมที่จมอยู่
    จึงต้องรู้เท่าทันจำมั่นไว้
    แต่อย่าปล่อยตัวและปล่อยใจ
    เอาแต่ได้ตลอดไปใครต่อใครจะเกลียดชัง
    
    แต่อย่าเอาถือคติมากไปนะ
    เพราะก็จะเสียเปรียบไม่ได้ดังหวัง
    ต้องถือทางสายกลางให้ตรองตรั่ง
    เพราะต้องยังอยู่ได้ในสังคม
    
    
  • เสี้ยว

    25 กรกฎาคม 2545 21:31 น. - comment id 4323

    ขอบคุณทุกๆคำแนะนำนะคะ จะลองเอาไปคิดดูค่ะ  ^_______^
  • โคลอน

    28 กรกฎาคม 2545 20:03 น. - comment id 4376

    พึงไว้ใจ...แต่อย่าวางใจ
    
    พอดีอ่านเจอประโยคนี้ในหนังสือจ๊ะ..
  • ตะวัน

    30 กรกฎาคม 2545 11:32 น. - comment id 4391

    ผมว่านะ เขาเป็นคนที่หน่อมแน้มอยู่หน่อยๆ ดูเหมือนเขาเป็นคนกล้าได้กล้าเสีย แต่จริงๆแล้วก็ปอดแหก ดูเหมือนว่าปรัชญาแต่ละอย่างของเขาสวยหรูในทางทฤษฏี แต่ผมว่าในทางปฎิบัติเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องทำยังไง 
    
    ดูยังไงเขาเป็นแค่มนุษย์เดินดินที่ชอบเพ้อฝันทั่วๆไป นักฝันส่วนใหญ่ชอบเอานู่นนี่มาประดิษฐ์ประดอย แล้วมันก็ปรากฎชัดว่ามันเป็นแค่เรื่องเลื่อนลอยเมื่อมีคนขอให้ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง
    
    เขาอาจจะเป็นนักอ่านที่ดี นักเขียนที่ดี ที่สามารถเอาหลักปรัชญาของศาสนาอื่นมารวมเข้าด้วยกันได้ เอาเรื่องง่ายมาเขียนให้อ่านยากได้ แต่ไม่ได้แปลว่าเขาเป็นนักคิดที่ดี ในเมื่อเขาอาจยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าจุดกึ่งกลางของปรัชญาของเขา(ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง)มันอยู่ตรงไหน
    
    สรุปแล้วเรื่องของเรื่องมันก็แค่เขาอยากบอกกับเราว่าชีวิตมันเต็มไปด้วยความเสี่ยง เหมือนกับการเล่นการพนัน เรา(มนุษย์ที่ต้องใช้ชีวิต)ก็เหมือนกับนักพนัน ปรัชญาส่วนตัวของเขาคือต้องไม่พนันในฝ่ายที่เสียเปรียบ
    
    ซึ่งผมไม่เชื่อครับว่าเขาจะมองออกว่าฝ่ายที่ได้เปรียบมันคือฝ่ายใด
  • เสี้ยว

    1 สิงหาคม 2545 15:52 น. - comment id 4462

    อืม...น่าคิดๆ...ขอบคุณนะคะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน