26 พฤศจิกายน 2547 14:02 น.

คราบ..

ผู้เฒ่า

เกร็งกล้ามเนื้อ เกื้อกำลัง ส่งยังข้อ
แฝงรอยต่อ ข้อกระดูก เพื่อเคลื่อนไหว
ขยับเลื้อย ตัวคด ลดเลี้ยวไป
แอบอาศัย ที่เปลี่ยว เพียงเดียวดาย

กินเนื้อสัตว์ คอยล่า เป็นอาหาร
ตามสันดาน เรียกงู รู้ความหมาย
อสรพิษ ฤทธิ์นั้น อันตราย
แค่เฉียดกราย เห็นตัว ยังกลัวกัน

ธรรมชาติ สร้างรวม อยู่ร่วมโลก
คนสับโขก แบ่งเบียด คอยเดียดฉันท์
คนต่างหาก สมองเปล่า มิเท่าทัน
มักแบ่งปัน ค่าชีวิต คิดแต่ตน

อันวิสัย ของงู ดูดีดี
มันหรือมี ความลับ ให้สับสน
ไร้มารยา ปนเป วางเล่ห์กล
ต่างกับคน เหลี่ยมคู นั้นดูพราว

แม้เปรียบเทียบ วาจา สุภาษิต
ยังลิขิต คำลาม แบบสามหาว
มันเป็นสัตว์ มิเขื่อง รู้เรื่องราว
คนสร้างคาว แต่งคำ ริยำแทน

มันลอกคราบ ธรรมชาติ เป็นศาสตร์สอน
สิ้นขั้นตอน คราบล่วง มิหวงแหน
ต่างจากคน อดสู ชอบดูแคลน
ยังเหนียวแน่น รักษาคราบ เพื่อภาพตน

คราบเอ๋ยคราบ ภาพเหียน ที่เพียรสร้าง
ลด-ละ-วาง ให้ลับ อย่าสับสน
มิยั่งยืน หรอกหนา ชะตาคน
ยามหลุดพ้น คนรู้ จะดูดี

สละเปลือก ทิ้งคราบ วางภาพเด่น
แม้ลำเค็ญ คลายทุกข์ จะสุขี
ทางสุดท้าย อับจน ต่างคนมี
มิอาจหนี เชิงตะกอน นอนนิรันดร์..@				
23 พฤศจิกายน 2547 21:42 น.

เกลียดจันทร์

ผู้เฒ่า

เสียงเพลงแว่ว บรรเลง วังเวงนัก
คนเคยรัก ผ่านพบ เขาหลบหนี
กระทงน้อย ลอยล่อง ท่องนที
ในวารี แสงสะพรั่ง พรรณนา

นภาสรรค์ จันทร์จรัส ชัดกระจ่าง              
นวลสว่าง ยลภาพ มิปรารถนา
ต้องอ้างว้าง นั่งเหงา เศร้าวิญญา
เพราะรักมา หมดชื่น คืนวันเพ็ญ         

อิจฉาคู่ คลอเคล้า พะเน้าพะนอ
รันทดท้อ ในลำดับ ภาพที่เห็น
อิจฉาเขา หอมแก้ม แม่เนื้อเย็น
น้ำตาเร้น เอ่อรอบ ริมขอบตา

ปล่อยกระทง ลอยลิ่ว บนผิวน้ำ
ด้วยใจช้ำ กับเล่ห์ สิเน่หา
สาปรักลวง ลอยลง ในคงคา
ขอให้พา รักสลาย หายพะวง

แต่จะตัด ดวงจิต พิศวาส
ตัดไม่ขาด อนาถจิต พิศวง
ลืมลำบาก รักเคยปลื้ม ลืมไม่ลง
ได้แต่ปลง สุดโศก โชคชะตา

แต่จะขอ อธิษฐาน บนบานไว้
เกิดชาติใด สมมาด ปรารถนา
ขอทุกชาติ เกิดเห็น เป็นเมฆา
บังจันทรา คุมเข้ม อย่าเต็มดวง

เป็นเพราะจันทร์ สุกสกาว ทำร้าวจิต
ดั่งลิขิต กลับกลาย สลายสรวง
ชาติหน้าเกิด ขอได้ ให้พุ่มพวง
จงเป็นดวง จันทรา ที่ข้าชัง@

เขียนเมื่อวันที่ 5 ม.ค 2526.. เก็บเอามาตบแต่ง. แต่คงต้นฉบับ ส่วนมากไว้..

ทุกครั้งเมื่อถึงเทศกาลลอยกระทง  แม้บางช่วงจะมิได้เขียนกลอน..
แต่จะนึกถึงลอยกระทง  ปีนั้นเสมอ..สำหรับปีนี้..มีโอกาสกลับมาเขียน..
จึงปัดฝุ่นอารมณ์..เพื่อรำลึกถึงอีกครั้ง

แม้เนิ่นนาน ผ่านวิถี ช่วงชีวิต
ยังหวนคิด ถึงพธู อยู่เสมอ
หนึ่งในร้อย รักแล้วจบ ที่พบเจอ
ยังมีเธอ  คอยเย้ายอก ตรงซอกใจ

ศศิเพ็ญ เช่นเก่า และเงารัก
มิพบพักตร์ ร้างฝัน ยังหวั่นไหว
ลอยกระทง หวนมา เวลาใด
ดั่งหทัย หวนหา เวลาเดิม@				
21 พฤศจิกายน 2547 17:57 น.

กาฝาก

ผู้เฒ่า

สุดถนน คนส่งฝัน ทางตันเห็น
มิอาจเร้น เล็ดรอด ถึงยอดฝัน
เหน็ดเหนื่อยนัก ปัญหา สารพัน
ฝืนทุกวัน อ่อนแรง แสดงไป

ถึงจุดจบ พบเห็น ความเป็นมนุษย์
มิสิ้นสุด โลภหลง อสงไขย
อัตตามี ตีแผ่ เอาแต่ใจ
เผยเอาไว้ รอยยิ้ม หลังทิ่มแทง

ในโลกกว้าง ความดี ยังมีหรือ
ต่างคนถือ อวดทำ กล้ากำแหง
คลุมเปลือกสวย นวดนาด วาดแสดง
แต่ในแล้ง ขุ่นคล้ำ ซึ่งน้ำใจ

อันยุบหนอ พองหนอ ต้องต่อสู้
ค่อยค่อยดู กายา เพียงอาศัย
ถึงเวลา ต่างคน ต้องเคลื่อนไป
เอาอะไร ไปบ้าง หรือต่าง.มา

ตักน้ำรด พื้นทราย สลายสิ้น
เหนื่อยจะดิ้น เติมฝัน คิดสรรหา
หรือความฝัน ต้องรด หยดน้ำตา
จึงมีค่า พอให้คิด สักนิดคน

เพราะเลือนศีล ปัญญา สมาธิ
ขาดวิธี  กำกับ  ความสับสน
อันความคิด ดี-ชั่ว ทุกตัวตน
นั้นมีผล หนทาง ชีวิตเอย@


วันนี้จัดแผ่น ซี.ดี. ใส่ซอง..ระลึกถึงอีกหลายท่าน ที่ยังมิได้ส่งที่อยู่มา..
อาทิ..คุณรัถยา..คุณกัลลดา..คุณแทนไทฯ..คุณภูตะวัน..ฯ
และสำหรับท่านใด ที่ต้องการไว้ฟังเพื่อศึกษา ในยามว่าง มิได้เข้าเนต.
ถ้าไม่สะดวกแจ้งหน้าเรื่อง..กรุณา เมล์ที่อยู่มาที่  iq_man@maildozy.com
ยังทำได้อีกหลายแผ่นครับ..และสามารถส่งให้ทุกท่านได้ ด้วยความเต็มใจ..
จะจัดส่งประมาณปลายเดือนครับ..

สำหรับท่านที่ผมแนะนำการเขียนกลอนอยู่..อยากให้นำไปศึกษาดูทุกท่านครับ..
เจ้าตัวซน..ส่งที่อยู่มา และสอบถามเพื่อนๆดู  ใครอยากได้ไปศึกษาบ้าง..
สำหรับตัวซน ซองใหญ่จะได้จัดส่งที่เดียว

อนึ่งระยะนี้..ได้รับการบอกเล่า ถึงการไม่กล้าจะเขียนกลอนลง เนื่องจาก..
กังวลจะถูกวิจารณ์จากท่านที่ไม่ประสงค์ออกนาม..ขอเรียนว่า..
เขียนไปเถอะ..ถ้าเขาวิจารณ์ไม่ดี เราไม่พอใจ..ก็บอกเขาไป..
ในบ้านกลอนนี้ อยู่กันแบบญาติพี่น้อง..ไม่มีใครทอดทิ้งกันแน่..				
18 พฤศจิกายน 2547 21:26 น.

ง้อ

ผู้เฒ่า

อย่าบึ้งตึง หน้างอ..พอเถิดเจ้า
อันตัวเรา ยอมแพ้..มาแต่ไหน
จะดึงหู ทุบตี..ยังดีใจ
เงียบเงียบไป ใจสั่น..หวั่นอุรา

สำนึกผิด ยินยอม..เจ้าจอมเอ๋ย
จะมิเอ่ย สิ่งใด..ขัดใจหนา
แม้ชี้นก ย้อนยอก..เจ้าบอกปลา
จ๊ะมัจฉา ตามเจ้า..อย่างเข้าใจ

ดูซินั่น สี่ขา..หมาแท้แท้
เจ้าบอกแน่ นั่นกระจง..มิสงสัย
โถเจ้าว่า.จะเห็นต่าง..กันอย่างไร
โอษฐภัย กลัวแล้ว..นะแก้วตา

ขนดอกไม้ ใส่คัน..รถสิบล้อ
หมายจะต่อ สายใย..เสน่หา
แม้นสงสาร ขานขอ..ต่อสัญญา
รถบุปผา  คงไม่เน่า นะเจ้าจอม

แม้นยังบึ้ง ขึงขัง..ดั่งข่มเหง
เรานักเลง ยอมนิด..คิดถนอม
ก็รักดอก บอกสิ้น..ว่ายินยอม
อยากจะซ้อม นวลอนงค์..เชิญลงมือ

ขอเพียงแต่ แย้มยิ้ม..ให้อิ่มจิต
ต่อชีวิต สัญญา..ไม่กล้าหือ
ใช้ซักผ้า มิเคยนึก..จะฝึกปรือ
หรือให้ถือ ผ้าถูบ้าน..ล้างจานเอา

โถแม่คุณ ยอมทุกอย่าง..มิห่างหาย
หัวใจวาย ตายรับ..ความอับเฉา
ถ้าโลกนี้ ห่างเช่น..มิเห็นเงา
อันตัวเรา จะอยู่ไป..ทำไมกัน

หยิบยาพิษ หมายปอง..ตรึกตรองซ้ำ
เห็นดำดำ ไม่น่าดี..กลัวสีสรร
หันคว้าเชือก ผูกยาก..ลำบากพลัน
กลัวมิทัน ใจวาย..จะคลายเกลียว

เอ๊ะลองมีด สักที..จะดีไหม
โอ๊ยไม่ไหว เลือดหยาด..คงหวาดเสียว
จะโดดน้ำ สำลัก..กลัวนักเชียว
อยู่เปล่าเปลี่ยว อยากตาย..มิง่ายเลย

โปรดสงสาร วานแจ้ง..แถลงไข
ผิดอะไร ยังคอย..ถ้อยเฉลย
แม้นสิ้นใย ลืมเลือน..มิเหมือนเคย
ปืนนั้นเอย ยิงเปรี้ยง..อย่าเลี้ยงกัน@				
16 พฤศจิกายน 2547 21:43 น.

ห้องใจ

ผู้เฒ่า

ทางชีวิต คิดฝัน..ต่างกันนัก
หนทางรัก ยากบรรจบ..ประสบผล
เพราะคุณค่า ความต่าง..ระหว่างคน
นั้นฉ้อฉล รักกลาย..มลายลา

ห้วงหทัย แบ่งปัน..เป็นชั้นช่อง
กั้นห้วงห้อง สองคู่..สี่คูหา
เธอเคยอยู่ เคียงกอด..ตลอดมา
เดี๋ยวนี้หา เงาหาย..ทำร้ายกัน

เป็นแค่คน ธรรมดา..ราคาถูก
ยากจะผูก รักได้..ดั่งใจฝัน
ยากจะเอ่ย หวนหา..สุดจาบัลย์
แม้โศกศัลย์ เงียบสงบ..คอยหลบเธอ

เพียงแต่ขอ สิทธิ์ช้ำ..อยากร่ำไห้
น้ำตาไหล ทุกที..ยามที่เผลอ
ท่วมสี่ห้อง มองเงา..เขามิเจอ
ทิ้งฉันเก้อ ติดบ่วง..ห้วงน้ำตา

กำไลหิน สีแดง..แฝงความรัก
นั้นแน่นหนัก ไร้เล่ห์..เสน่หา
ตะขอเงิน เกี่ยวพัน..คำสัญญา
ตราบสิ้นฟ้า ดินสลาย..ยังหมายปอง

เงาสายสร้อย กำไล..ฝังในจิต
ล้วนลิขิต ตัวเรา..ให้เศร้าหมอง 
แต่ละรัก เจ็บช้ำ..น้ำตานอง
หรือจะต้อง สิ้นลม..จึงสมใจ

จะขอปิด คูหา..ชะตารัก
คิดหยุดพัก ความระทม..สุดข่มไหว
สี่ห้วงห้อง ร้าวลึก..ผนึกใน
ปล่อยต่อไป..ตายแน่.. แก้ไม่ทัน@				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟผู้เฒ่า
Lovings  ผู้เฒ่า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟผู้เฒ่า
Lovings  ผู้เฒ่า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟผู้เฒ่า
Lovings  ผู้เฒ่า เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงผู้เฒ่า