8 กันยายน 2546 19:47 น.

สิ้นแสงอัสดง

พี่ดอกแก้ว

อัสดงคงค่ำย่ำเย็นนี้ 
ม่านราตรีจะคลี่ครองปองท้องฟ้า 
แสงเดือนงามยามเพ็ญเด่นนภา 
จะโอบหมู่ดาราให้ร่าเริง 

ในโลกนี้มิมีจะสิ้นแสง 
แม้นล้าแรงอย่าล้าใจให้ทุกข์เหลิง 
แสงริบหรี่เพียงหนึ่งน้อยในกองเพลิง 
จะต่อเชิงความหวังให้ยั่งยืน
				
8 กันยายน 2546 16:19 น.

ดุจภูผา

พี่ดอกแก้ว

ในวันเก่าคราวนั้นฝันงดงาม 
สร้างนิยามถามตอบชอบความหมาย 
เก็บทิวทัศน์จัดความจำที่ประปราย 
เป็นภาพฉายสายสัมพันธ์อันดีงาม 

ผ่านเวลาฝ่าทางอย่างเหนื่อยยาก 
พบอารมณ์หลายหลากที่ไหลหลาม 
บททดสอบตอบคำเพื่อย้ำความ 
ให้ต้องตามความหวังที่ตั้งใจ 

คงเลือนลางจากใจใครไปแล้ว 
เหลือเพียงรอยเงาแผ่วสิ้นแววไหว 
แต่เจิดจ้าในอีกห้วงดวงใจ 
ทุกร่องรอยจารึกไว้ในทรงจำ 

อาจไม่หวานเหมือนใครในรสถ้อย 
ดูเหมือนน้อยใจหมางอย่างชอกช้ำ 
ดั่งสิ้นไร้ใยเยื่อไม่เหลือคำ 
หมดรักย้ำความฝันวันสัญญา 

ในใจนี้มีมากมายในสายรัก 
ยังแน่นหนักคงอยู่ดุจภูผา 
หากแต่เก็บงำไว้ไม่เผยมา 
เกรงใจว่าบังคับใครไม่ให้แปร 

จึงเก็บฝันวันเก่าเอาไว้สาน 
ตั้งใจจารหวังไว้ไม่ยอมแพ้ 
แม้ไม่เหลือผู้ใดมาดูแล 
ยังมีแต่ความรักภักดิ์นิรันดร์ 
				
7 กันยายน 2546 06:45 น.

ทับเทวา

พี่ดอกแก้ว

เขียวขจีที่เรียวข้าวราวพรมไหว 
ล้อลมไกวแกว่งอินทรีย์ที่ลานฝัน 
ธารน้ำใจไหลเอิบอาบทาบผืนพลัน 
เสนาะเสียงสรวลสันต์วันสุขใจ 

หมู่วิหคผกผินบินเรียงร่าง 
จากเวหาเวียนพร่างสู่แมกไม้ 
ส่งสำเนียงเสียงหวานประสานใจ 
ปลุกมวลผู้หลับไหลให้เบิกบาน 

มือจับมือ..สื่อสายใย..ไปทั่วถิ่น 
ร่วมแรงใจพลิกผืนดิน...เพื่อสืบสาน 
ตกแต่งเรือน.รอรับ.กลับเรือนชาน 
คืนสู่บ้าน..เรือนทอง.รักคล้องใจ 

กระแสสาย.ลายรัก....จะทักถาม 
ว่าเมื่อยาม..อยู่ห่าง.ร้างโรยไหม 
รู้หรือเปล่าคนอยู่เหย้านั้นเหงาใจ 
รอคนไกลคืนกลับทับเทวา 
				
7 กันยายน 2546 06:36 น.

ธรรมด๊า - ธรรมดา

พี่ดอกแก้ว

ความเป็นไปก็คล้ายกับทุกวัน 
ถึงมื้อพลันรับประทานอาหารได้ 
มีงานทำ...ทำงานไม่ร่ำไร 
เหนื่อยก็พัก...หนักก็ไม่ขืนข่มแรง 

เมื่อเสียงลอยตามลมทั้งชมว่า 
คำดุด่าก็ฟังไว้ไม่แสลง 
ถูกลงโทษโกรธบ้างอย่างคลางแคลง 
ก็รู้ความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม 

เมื่อเจ็บป่วยด้วยภัยและไข้ซ้ำ 
รู้จักนำยารักษามาร่วมเสริม 
ดูแลใจไม่ทุรนจนไข้เติม 
ทุรายเพิ่มทรมานจนซ่านกาย 

ยามตกอับก็ยอมรับว่าร่วงหล่น 
ด้วยเหตุผลจางกรรมดีที่ห่างหาย 
ไม่เดือดร้อนวอนขอต่อเจ้านาย 
สงบมองลวดลายของเพรงกรรม 

อยู่กับใจรู้จริงในสิ่งพบ 
จักสงบระงับได้ไร้ชอกช้ำ 
ทุกอย่างมีเหตุผลที่เที่ยงธรรม 
มิควรจำย้ำมั่นกับสิ่งใด 

ที่ทำให้ไร้สุขและทุกข์มาก 
ก็เริ่มจากตัณหาพาหวั่นไหว 
จนติดข้องของหวงสิ่งลวงใจ 
อุปาทานเพื่อนใหม่จึงมาแรง 

เพราะยึดติดจิตห่วงในปวงทรัพย์ 
ไม่ระงับดับเพลิงที่เริงแสง 
ใจจึงร้อนเร่าไปในเปลี่ยนแปลง 
หากรู้แจ้งจักสงบจบละคร 
				
7 กันยายน 2546 06:30 น.

สร้างฝัน

พี่ดอกแก้ว

มีร้อยฝันวันว่างสร้างเส้นสาย 
หวังพบสิ่งมากมายให้ไขว่คว้า 
ตั้งแต่เด็กเล็กเยาว์เขลามายา 
ฝันต่างต่างนานาเหมือนนิยาย 

ใคร่จะพบสิ่งดีที่แสนงาม 
เที่ยวไถ่ถามเรื่องราวสาวความหมาย 
หวังแตกหน่อก่อฝันอันเพริศพราย 
เป็นลวดลายชีวิตลิขิตทาง 

ผ่านทิวทัศน์ผลัดเวลามาหลายครั้ง 
มากความหวังก็ยิ่งมากความร้าง 
ฝันลมลมแล้งแล้งแกล้งอำพราง 
จึงล้มเหลวทุกอย่างที่หมายปอง 

จะลองดูกอบกู้ฝันขึ้นใหม่ 
กำหนดทิศทางไปให้หมดข้อง 
ค่อยค่อยก้าวเท้าไปตามครรลอง 
เพื่อจับจองฝันสวยด้วยหัวใจ 

อาจไม่เหมือนใครเขาที่เราคิด 
เพราะต่างจิตสิทธิ์มีที่ครวญไว้
ฝันของเราอาจฝันไม่เหมือนใคร 
เพราะไม่มีความยิ่งใหญ่มาเจือปน 

เพียงขอพบสบมิตรที่จิตงาม 
มีโอกาสทำตามงานกุศล 
ได้ช่วยเหลือเกื้อใจให้ปวงชน 
และหลุดพ้นวงวัฏฏ์ขจัดภัย 
				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพี่ดอกแก้ว