5 กันยายน 2546 21:21 น.

ตะวันจร

พี่ดอกแก้ว

ตะวันจรก่อนจากกันในวันนี้ 
ดวงฤดีมิเลือนแสงแห่งความหวัง 
พักสักนิดให้เต็มเปี่ยมพร้อมพลัง 
ราตรียังแสงดาวให้วาวงาม 

แม้นเพียงนิดเพียงน้อยถ้อยคิดถึง 
ยังตราตรึงติดใจให้วาบหวาม 
ใต้แสงดาวไม่เหงาใจได้ชื่นความ 
น้ำใจงามจากผองเพื่อนไม่เคลื่อนคลาย 
				
5 กันยายน 2546 21:12 น.

งามใจ

พี่ดอกแก้ว

บุปผาชาติที่งามเลิศดูเพริศแพร้ว 
สวยสะอาดดุจดั่งแก้วที่แววใส 
ส่งกลิ่นหอมให้เนิ่นนานสักปานใด 
มิอาจเทียบกับจิตใจผู้เชยชม 

 ธรรมชาติสวยงามได้เพราะใจงาม 
แม้นรูปทรามก็พิศได้ไม่ขื่นขม 
มองด้วยใจได้คุณค่าไม่หมองตรม 
ความระทมสิ้นสลายเพราะใจดี 

 ดุจรอยทรายมิเหลือลายแห่งรอยช้ำ 
คลื่นซัดซ่านทุกเช้าค่ำไม่หมองศรี 
ทรายยังคงปรับพื้นทรายใต้นที 
โอบอุ้มน้ำให้โลกนี้ได้ฉ่ำเย็น 
				
5 กันยายน 2546 21:02 น.

ถามรัก- ตอบรัก

พี่ดอกแก้ว

รักนั้นหรือคืออะไรสงสัยนัก 

เขาบอกรักนั้นหรือคือการให้ 

รักนั้นหรือคือการให้อภัย 

เขาบอกรักนั้นคือใจที่ผูกพัน 

ปรารถนาแห่งหัวใจในห้วงรัก 

หมายสมัครมอบฤดีที่สดใส 

ให้แก่กันโดยไม่หวั่นหวาดสิ่งใด 

มิได้เกรงกลัวภัยเมื่อไร้รัก 

มีเพียงความมุ่งหมายให้รับสุข 

แบ่งสลายคลายทุกข์ที่หน่วงหนัก 

ปันกระแสห่วงใยด้วยใจภักดิ์ 

สละสิ้นยศศักดิ์ในตัวตน 

คือความเอื้ออาทรที่อ่อนหวาน 

สมัครสมานแม้ห่างไกลในแห่งหน 

หมดซึ่งข้อกินแหนงแคลงระคน 

ไร้ความร้อนไฟรนแผดเผาใจ 

ดุจธาราซึมซาบอาบดินแล้ง 

ดุจดังแสงจันทราคราฟ้าใส 

ดุจแสงดาวพราวห้วงนภาลัย 

เพียงเพื่อให้และให้.ไม่ทวงคืน 

แม้นผ่านห้วงเวลามาแสนกัปป์ 

รักมิเคยเลยลับนับเป็นอื่น 

รักยังความหวานทุกวันคืน 

รสแห่งรักยังชื่นเช่นนี้มา 

ความแปรเปลี่ยนเพี้ยน.ไปมิใช่รัก 

เป็นความจริงที่ประจักษ์แก่โลกหล้า 

ทุกทุกสิ่งนั้นมีอนัตตา 

มิอาจเอื้อมบัญชาให้ยืนนาน 

แม้นกี่แสนกัปกัลป์อันไกลโพ้น 

ผู้รักมั่นไม่เอนโอนและห้าวหาญ 

ก็ยังสิ้นสายใยไปชั่วกาล 

อมตนฤพานมาพรากไป				
5 กันยายน 2546 08:00 น.

ไม่ขอยอมแพ้

พี่ดอกแก้ว

ละลิ่วร่างกลางลมที่โหมพัด 
จึงเซซัดซวนไปไม่รู้ทิศ 
ไร้จุดหมายปลายทางระหว่างจิต 
จะครวญคิดใคร่ทวนหวนที่มา 

ลมกระพือฮือใจให้ไหวหวาด 
อเนจอนาถชีพตนจนอ่อนล้า 
ล้มแล้วลุก ลุกแล้วล้ม จมน้ำตา 
ไม่รู้จักกี่คราในเส้นทาง 

ทุกย่างก้าวร้าวรวดเจ็บปวดนัก 
จะหาหลักใดพิงให้อิงร่าง 
ใคร่จะถึงจุดหมาย ณ ปลายทาง 
แต่แลห่างออกไปไร้ร่องรอย 

อยากจะหยุดพักลงที่ตรงนี้ 
แม้ไม่มีความสำเร็จสักนิดน้อย 
สิ้นความหวังไร้กำลังจะรอคอย 
ใจเลื่อนลอยเคว้งคว้างห่างเส้นชัย 

แต่สะดุดหยุดลงตรงเบื้องหน้า 
เต็มสายตาเห็นทางอย่างชิดใกล้ 
ยังราบเรียบทอดยาวให้ก้าวไป 
หาเป็นพงรกไร้ผู้เคยเดิน 

คนที่ก้าวล่วงหน้ามาทางนี้ 
คงจักมีพลังใจไม่ขัดเขิน 
และอาจพบเหนื่อยยากหลากเผชิญ 
แต่ยังเดินก้าวไปไม่รีรอ 

ทางจึงยังเป็นทางที่กว้างนัก 
ไร้เพิงพักของคนที่ย่อท้อ 
จึงยืนหยัดอีกครั้งพลังก่อ 
และเดินต่อตามผู้ไม่รู้แพ้
				
4 กันยายน 2546 06:59 น.

ธารสวาท

พี่ดอกแก้ว

......ธารสวาทสาดคลื่นอยู่ครืนโครม 
เรือลำน้อยล่องรี่โถมถลาใส่ 
โต้กระแสชลธีที่เกรี้ยวใจ 
มิเกรงกลัวสิ่งใดในสายธาร 

......ม่านโลกีย์บังใจให้บ้าคลั่ง 
ล่องเรืออออกจากฝั่งอย่างกล้าหาญ 
มีรอยยิ้มอิ่มเอมใจชมสายธาร 
คลื่นมายาซัดซ่านสู่อารมณ์ 

......ล่องลอยไปธาราใสกลับเปลี่ยนแปร 
เรือรักแพ้พ่ายคลื่นจนขื่นขม 
เรือกระดาษไม่อาจทานกระแสลม 
คลื่นรักลวงทำเรือจมกระแสธาร 				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพี่ดอกแก้ว