29 มิถุนายน 2547 23:01 น.

น้อยใจรัก

สาวบ้านนา


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4888

ในกระท่อมใบไม้ร่ายมนต์ฝัน
น้ำผึ้งจันทร์หยาดสายพรายหอมห่ม
ความรักบ้าน ซ่านพรู พราวพร่างพรม
สะเทือนถมสู่ร่างช่างหวานล้ำ..

ทิ้งตัวนอนผลอยไปในชุดเก่า
ซุกใจเหงาตะวันรอนอ้อนฟ้าฉ่ำ
ฟ้าสีโศกโลกสีไพลใจระกำ
ระรินร่ำเสียงนกไพรไกลไกลมา..

ช้อนนัยน์ตาดูรังต่อคลอกิ่งแก้ว
ยินแว่วแว่วใบไม้ร่วงคอยห่วงหา
กระซิบพร่ำอย่าร่ำไห้สายลมอ่อนจะกลับมา
ไม่นานช้าได้กอดร่างห่างวกวน..

กลางกระท่อมสนธยาราตรีนี้
ตะเกียงหรี่วูบวับกับลมฝน
อวลกลิ่นแก้วช่อนมแมวหอมพร่างพรม
ราวปาริชาติบนแดนสรวงร่วงพรูสู่แดนดิน..

ดวงดอกฟ้าอยากประดับใจใครควรค่า
ฝากชีวางามชีวีกว่าจะสิ้น
อยากเคียงข้างเคลียเคล้าเจ้าดอกดิน
เฝ้าถวิลสิ้นโลกหล้ารอท่าเธอ...

สร้างกุศลผลพิสุทธิ์ดุจธารใส
ล่องแพใจสู่ธารสวรรค์ใช่ฝันเก้อ
หวังชาติหน้าถ้ามีโชคใช่เพียงเพ้อ
เคียงคู่เธอ*เทวดาเดินดิน*ตราบสิ้นใจ!

.....................


สาวนา...จุดตะเกียงแสงนวลพร่างเรืองรองรำไรๆ
มุ้งเก่าคร่ำตลบชาย กระเพื่อมไหวไปตามแรงลมพัดวู่วู่อยู่ภายนอก

ความรู้สึกรักกระท่อมไพรแล่นพรูสั่นสะเทือนทั่วเรือนร่างร้าว
สร้างพลังหวานเศร้าในหัวใจให้เอิบงาม

ผลอยหลับไป..ด้วยความไม่สบายไข้รุมนิดนิด
ในดวงจิตหวานล้ำสงบสุข กับงามเงียบยามตะวันโพล้เพล้
กับใจดวงดายเดียวเหว่ว้า..มายาวนานนัก

รอบข้างอ้างว้างหมองหม่นเทาทึมด้วยหมอกฝน
บทเพลงแห่งสายฝนพรมพรำ
ร่ำรินรวงร่วงหล่นดวงดอกกระจาย..ชายคาจาก
ราวหยาดน้ำตานางฟ้าพราก โศกสะเทือนแทน

เห็นเพียงคอกวัวรำไรใต้กอไผ่ไหวพลิ้ว
กองฟางงามกระจ่างสว่างในใจ
ในกมลลึกลึก
และ
รู้สึกราวได้ยินเสียงลมพัดตึงคลึงยอดตองเคล้ายอดตาล
นวลใบไม้ในร่องสวนร่ายมนต์กระซิบระรินร่ำ
พร่ำปลอบประโลมให้หลับฝันดี

ให้สายฝนดั่งดนตรีธรรมชาติ
พลีฝันหวังวาดว่าสักวันหนึ่งไม่นาน
สายลมงามบางเบาจะพัดหวนคืนกลับนา
ลบเหว่ว้าเติมรัก..แท้แน่นอนนานเนา
สู่ทุ่งทองปองใจเป็นเงาขวัญมหัศจรรย์รัก..

ราวรอแสงสวรรค์ธารสวรรค์มาทายทัก
รอคำมั่นสัญญารักสัญญาใจ
และ
มาตรแม้นบางที
ชีวีใช่ดอกไม้สยายกลีบรอละอองหยาดน้ำค้างพร่างริน
ที่ยังพร่างถวิลกลับมาในยามดึก..
เหมือนต้นไม้ในไพรลึกรอฤดูฝนวนกลับมาใหม่
หากทว่าชีวาสาวนาสาวไพร
ราวรอรอไปไร้ฤดูใด..
มีเพียงฤดีใจดายเดียว..ลำพัง

*******************



http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4888
น้อยใจรัก   
ผ่องศรี วรนุช : : Key F  
สี่ในสี่ ห้องหัวใจ
ฉันให้คุณหมด
หมด ไม่มีเหลืออยู่
คุณ ไม่รักแล้วไม่เอ็นดู
พอหัวใจคุณเปิดประตู
ไม่มีฉันอยู่ ในนั้นเลย
เก็บความหม่น ทนระทม
ทุกข์จมความโศก
โลก สร้างมาเหลือเอ่ย
ฉัน ทุ่มใจเพราะยังไม่เคย
รักเขาเต็มใจหมดเลย
พิโธ่เอ๋ยนี่โดนหนามยอก
หัวใจของคุณ
คงแบ่งปันสักพันสักหมื่น
แต่ใจฉันนั้นมันขมขื่น
เพราะคุณยื่นความช้ำความชอก
ไม่รักฉันอยู่ตั้งนานแล้วไยไม่บอก
ฉันรักคุณแล้วพูดไม่ออก
ให้คุณบอกไม่รักสักคำ
หนึ่งในสี่ ใจของคุณ
ว้าวุ่นไปได้
ใช่ ก็ใครเขาทำ
เคย ห้ามใจโถมันไม่จำ
แม้เขาจะพร่าจะยำ
เจ็บปวดช้ำก็ยังยิ้มรื่น
หัวใจของคุณ
คงแบ่งปันสักพันสักหมื่น
แต่ใจฉันนั้นมันขมขื่น
เพราะคุณยื่นความช้ำความชอก
ไม่รักฉันอยู่ตั้งนานแล้วไยไม่บอก
ฉันรักคุณแล้วพูดไม่ออก
ให้คุณบอกไม่รักสักคำ
หนึ่งในสี่ ใจของคุณ
ว้าวุ่นไปได้
ใช่ ก็ใครเขาทำ
เคย ห้ามใจโถมันไม่จำ
แม้เขาจะพร่าจะยำ
เจ็บปวดช้ำก็ยังยิ้มรื่น...

 



				
13 มิถุนายน 2547 00:18 น.

ท่ามกลางแสงตะเกียงอันริบหรี่!!

สาวบ้านนา


ฝนพรำพรม..เปาะแปะๆ
รอบข้างมืดมาก
มองเห็นเพียงคอกวัวใต้กอไผ่รำไรๆสลัว
เลือนลางในท่ามกลางความมืด

ต้นมะขามหลังบ้านเป็นเงาตะคุ่ม
แผ่คลุมเชยชายคากระท่อม
หอมหอม
ดวงดอกพุดและดอกการะเวกลอยมา


สาวนาจุดตะเกียงลาน..ให้แสงอ่อนหวานอบอุ่น
วางเคียงหัวนอน
ในความมืด..
สาวนา
ค่อยๆล้มตัวลงนอน
รับความเงียบงาม
แห่งเสียงดนตรีสายฝน


สาวนารักทุกสรรพเสียงแห่งธรรมชาติไพร
ที่แสนไพเราะกว่าเสียงใดในหล้าโลกนี้
ที่แสนสุขใจยามได้เงี่ยหูฟัง
เสียงน้ำค้างระรินหลั่งรดรวงเรียว
เสียงเรียวดอกไม้อ้อนสายลม

เสียงผสานผสมนกไพรและเรไรจิ้งหรีดร่ำร้อง
เสียงของสายฝน เสียงลมพายุ
เสียงใบไม้ไหว
เสียงสายน้ำไหลระริน
เสียงทุกเสียงที่สาวนาใช้ใจภายในสัมผัสได้
ด้วยใจดวงดายเดียวกับทุกเงียบงาม



สาวนามีความสุขอย่างลึกซึ้ง
และแม้จะคิดถึงอ้ายสักปานใด
สาวนาก็รู้รำงับใจและ
และคิดว่า..หัวใจสาวนาที่เหว่ว้าลำพัง
ก็ให้ความสุขแบบนิ่งงันงดงาม
จนยากจะหานิยามใดมาอธิบาย


สาวนา..รู้ว่าเพราะชีวีเกิดมากับดิน
กับความร้างไร้
ที่สอนให้สาวนาชอบชีวิตเรียบง่ายเปล่าดาย
มีแค่วัวควาย
มีทุ่งนามีผักปลามีแม่พ่อก็พอใจก็แล้ว



ชีวิตสาวนาชินกับความไม่มี
และรู้สึกดีกับความยากไร้
สาวนา
คล้ายได้ธรรมะจากธรรมชาติสอนสั่ง
ให้หันหลังหนีจากโลกวายวุ่น

มีดวงใจที่รับหอมกรุ่น
จากหอมดินเคล้ากลิ่นไอฝน
และกับกมลที่ชอบความสงบงาม
ร้างไร้ แสงสี ห่างไกลผู้คนมากมีมากมาย
ที่พากันว่ายวนหลงในโลกวัตถุนี้ที่
คิดให้ดีดีก็เท่านั้นก็เท่านี้
หาใช่สุขที่ถาวรจีรังไม่




สาวนา..จึงพอใจที่จะอยู่กับโลกไพร
โลกท้องทุ่ง
กับเรียวรุ้งคุ้งโค้งบนฟากฟ้า..
ที่งามเจิดจ้าสวยสดใสกระจ่างใจจรัสตา
ในทุกคราที่หาดูได้ง่ายแสนง่าย
ราวเวทีฝันสวรรค์หล้า
ที่ฟ้าเบื้องบนเมตตาประทานพร
ให้สุขทุกดวงตาดวงใจชาวดิน


สาวนา..
กราบขอพรพระและพร่ำสวดมนต์ภาวนา
ขอชีวิตสาวนาพบงามง่ายงามเงียบอย่างนี้
ตลอดไปไม่เคยหวังสิ่งใด
ด้านวัตถุเพิ่งรกรุงรัง

ขอแค่ได้ฝังร่างใจ
มีเสื่อผืนหมอนใบ
มีชีวิตไพรและ
มีข้าวเต็มนาปลาเต็มหนองก็พอใจแล้ว


แม้ห้องหับก็แค่ฝาไม้ไผ่
หากหัวใจก็รู้สึกงามว่าง
อย่างได้สัมผัสซึ้งถึงบึ้งธรรมชาติ

สาวนาไม่มีทีวีดู มีแค่วิทยุยี่ห้อธาณินท์เก่าๆ
ก็มิเหงาใจ ได้ฟัง
บทเพลงลุกทุ่งไทยสะท้อนใจสะเทือนทุ่ง
รับอุษาสางก็งามใจบรรเจิดพอแล้ว

สาวนาจะเด็ดผักมาจากริมบึง
และหุงข้าวหอม
รอใส่บาตรหลวงตา
และ

รอเวลาฟ้าไม่ทันสว่าง
น้ำค้างยังหยดเยียบเย็น
เดินไปคันนา..รอเวลาหว่านไถ



และนี้คือวิถีชีวีไพรของสาวนา
ที่พอใจและคงมั่นมีผันแปรไปตามกระแสโลก
กระแสเมือง..
ให้เปล่าเปลืองเสียเวลาไล่ล่าหาเงินงาม
และตามมาด้วยความเครียดจากโรคร้ายทางใจ
ในความมิเคยรู้จักอิ่มจักพอ..
ล้อไปตามคลื่นความต้องการ



ที่จิตวิญญาณและร่างมิเคยได้ผ่อนพัก
หนักแสนหนักกับแอกใจบนบ่ากับการแสวงหาเพียงสุขภายนอก
มิลอกเปลือกพบแก่นกระพี้
ที่ทุกชีวิต่างก็ดิ้นรนมิพ้นแรงกรรม
ที่กระหน่ำวัตถุมาป้อนเปรอปรนจนลืม
และรู้จักความสมถะพอดีและพอเพียง
และนี้คือหัวใจดวงดินดวงเดิมของสาวนา
ที่ยอมรับเหว่ว้าด้วยความดายเดียวลำพัง
ได้อย่างงามงดและแสนสุขใจเสียไม่มี



				
10 มิถุนายน 2547 23:19 น.

จำปีลืมต้น

สาวบ้านนา


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=3102
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4721
(ข้าวคอยเคียว)
****************

จำปีลืมต้นลาหล่นฝนเดือนห้า
ช่อมะม่วงลาตามลมลวงรวงรอฝน
อ้ายไปบางกอกหลอกสาวนาเฝ้าสู้ทน
ฟ้าฉ่ำฝนหวังหว่านกล้ารอท่ารอ...

ฝนเดือนหกตกผืนนากล้าชุ่มฉ่ำ
นาเคยทำดำไถใจเริ่มท้อ
อ้ายหลงแอร์ลืมข้าวกล้าสาวนารอ
ขลุ่ยครวญพ้อทุยครวญครางร้างรารวง...

ใต้ตาลเดี่ยวสาวนาเหลียวไม่เห็นอ้าย
ฝากหวานไว้ใต้ตาลหวานหอมห่วง
กระซิบหลอกบอกสาวนาหอมกว่ารวง
แล้วลาล่วงลาลับกับลมแล้ง..

ตะแบกร่วงม่วงโศกโลกแสนเศร้า
อ้ายเคยเฝ้าเคียงสาวนาทุกหนแห่ง
ลืมกำกล้าลืมนาน้อยลืมฟักแฟง
ลืมยอดแตงตำลึงบึงบุ้งนา...

ลืมสาวนาเสื้อสีไพลใส่วันพระ
ลืมสัจจะมิพรากไกลใจห่วงหา
หน้าพระพุทธในโบสถ์คร่ำย้ำสัญญา
เฮ็ดไร่นาพากันฝันสวรรค์ไพร..

ฟังเสียงแคนเจื้อยแจ้วแว่วแว่วหวาน
ฝากฟ้าผ่านถึงใจอ้ายอยู่หนไหน
คืนกลับนาอย่าให้คอยหลงน้อยใจ
ทิวไผ่ไหวไกวกอพ้อริมน้ำ..

หรือพบหญิงแก้มนวลมิหวนบ้าน
หรือหลงหวานหลงลิ้นที่รินร่ำ
หรือหลงขาวสาวหมวยเริงระบำ
ทิ้งระกำช้ำระทมตรมหัวใจ..

ฟังเอเอ็มเพลงเศร้าส่งข่าวอ้าย
เดือนร้องไห้ดาวกระพริบริบหรี่ไหว
ดาวประจำเมืองเคยเรืองรุ่งอ้ายฝากใจ
มองทีไรใจสาวนาเหว่ว้านัก...

ฟ้าใกล้สางดุเหว่าแว่วหอมแก้วพร่าง
ทิวไม้ครางรออ้ายพ้อขอซบตัก
นวลเนื้อสาวหนาวนานเก็บหวานรัก
พลีใจภักดิ์ร่างสาวหอมยอมหนุ่มเดียว..

เรียวรวงข้าวไหวระริกรับน้ำค้าง
เหมือนใจร่างสาวนารอขอรักเกี่ยว
ทั้งนาข้าวนาน้อยคอยดายเดียว
หวังคมเคียวมิบาดใจไกลแรมลา...
*****************




สาวนาได้ยินเสียงเพลงขลุ่ย..*มนต์รักลูกทุ่ง*
หวานแว่วแผ่วมาจากสองฟากฝั่งลำประโดง
ผ่านโค้งคุ้งท่าน้ำ....
ผ่านฟ้าหวานพราว...ราวเรียวรุ้ง...ยามสนธยาย่ำ

ฟ้าคืนเพ็ญ สวยเย็นงามแจ่ม
ดาวเอ๋ยดาวน้อยจรัสแสง ลอยเด่น
แข่งเดือนพราวดาวแวววาวระยับ...จับฟากฟ้ากว้าง

กระท่อมกลางไพร เงียบงาม
ในยามเข้าไต้เข้าไฟ
ด้วยแสงตะเกียงรำไรๆวูบไหววับแวม


สาวนายืนฝันฝันรับลม เหว่ว้า...ริมนาใต้ต้นตาล
ผ้าถุงผืนเก่าคร่ำสะบัดไหวพลิ้วไปตามแรงลม
แนบไปกับร่างร้าว

ในเงาดาวงามเคล้าเรียวหน้าละออแดด
นวลเนื้อเนียนยังงามแน่น
โผล่หวานผ่านเสื้อแพรสีไพลแขนกระบอก..

สาวนาเก็บผักบุ้ง จอก แหน ไปแนมน้ำพริก
มือสาวนาสั่นระริกเมื่อรำลึกนึกถึงอ้าย
ผู้ชอบกินผักบุ้งผัดรสมือสาวนา

อ้ายคนดี
จดหมายไม่มีสักตัว
สาวนากลัวนักหนา
กลัวว่าเนื้อในจดหมายจะบอกใบ้บอกข่าวร้าย

ให้สาวนา
ลืมอ้ายคนดี..ที่จะไม่หวนคืนนา
ใครใครเขาบอก
ที่โค้งคุ้งฝั่งขะโน้น
ใครใครก็มีโทรศัพท์มือถือ
อ้ายคนดีมีมือถือหรือมือเปล่าเล่า
จึงปล่อยให้สาวนาเหงาใจ
แม้จะโชว์เบอร์ไม่โชว์ใจ

แต่สาวนาก็คงอิ่มอุ่นใจ
หากได้ยินเสียงใสซื่อ
ช่างออดอ้อนวอนรักจากใจจากน้ำคำอ้าย
ว่ายังคงแน่นหนักมั่นคงซื่อตรงในรักแท้

มิแพ้ใจมิแพ้ระยะทาง
มิแพ้สาวหมวยสวยอวบขาวราวปุยนุ่น



อ้ายเอ๋ย...
เคยให้สาวนาหนุนแขนต่างหมอน...ริมกองฟาง
เคยออดอ้อนรำพันฝันฝากรักจนอุษาฟ้าสาง
ต่างครวญครางแข่งเสียงดุเหว่าแว่ว..แผ่วหวานพอกัน

อ้ายเอ๋ย..แล้วไยเล่า
ให้สาวนารอพ้อจนผ้าถุงเก่าขาด
รอแล้วก็รอเล่า
ให้อ้ายซื้อผ้าใหม่มาฝากดั่งคำสัญญา

นี่ก็เดือนหกแล้ว
ฝนตก..และแสนหนาว..
สาวนาได้แต่นอนกอดหมอนแทนท่อนแขนอ้าย
เมื่อไหร่จะได้พบพานหวานรักด้วยกันเล่า..
เจ้าแก้วจอมใจ..ของสาวนา..				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสาวบ้านนา
Lovings  สาวบ้านนา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสาวบ้านนา
Lovings  สาวบ้านนา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสาวบ้านนา
Lovings  สาวบ้านนา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสาวบ้านนา