ผิดไหม

กวีบ้านไร่

ท่ามกลางสายลมที่ผิดแผ่วอยู่ข้างกายเลัดลอดผ่านมายังบ้านพักแพทย์ที่อยู่ไกลในชนบท ดูบรรยากาศวังเวงเงียบเหงาเพราะเงาไม้ที่ปกคลุมไปทั่ว แต่ยังมีเสียงเซ็งแซ่ ของเสียงผู้คนที่มาใช้บริการของโรงพยาบาลแห่งเดียวในเขตระแวกนั้น ยังคงชุลมุนอยู่ไม่ขาดหาย ส่วนสายฝนยังคงเรียงร้อยเป็นสายน้ำที่หยาดจากฟ้าอย่างช้าๆ เปรียบประดุจดังเป็นละอองน้ำที่พ่นไปทั่วแห่งนั้น ทำให้ผมอดใจไม่ได้ที่จะหยิบอ่านถ้อยคำในจดหมายเก่าๆ ที่ผมเก็บไว้ข้างกายเพื่อเตือนใจผมตลอดมา ภาพของผู้หญิงคนนั้นยังคงลอยวนเวียนอยู่ในใจของผมตลอดมา  แม้จะนานกี่ปีก็ตาม ผมจะไม่มีวันลืมอดีตที่ปวดร้าวสำหรับผม 
         เธอเป็นผู้หญิงร่างเล็ก ผิวสีไข่ นัยน์ตาที่น้ำตาล ไว้ผมยาวประบ่า มีลักยิ้มสองข้าง เราเป็นนิสิตแพทย์ด้วยกัน ผมรู้จักเธอตั้งแต่สมัยเรียนปีหนึ่ง
         สวัสดีครับ  งานที่อาจารย์สั่งไว้เมื่อวานเสร็จหรือยังครับ  ผมเข้ามาทักเธอ และไม่รู้จะคิดหาคำพูดอะไรมาพูดคุยกับเธอ เพราะผมค่อนข้างเป็นเด็กเรียนคนหนึ่ง ไอ้เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ไม่ค่อยถนัดสักเท่าไร แต่ก็อดไม่ได้ที่เห็นเธอนั่งคนเดียวภายใต้ห้องสโลปที่กว้างใหญ่  อยู่คนเดียว แต่ความรู้สึกของผมตอนนั้นมันไม่รู้เป็นอะไร รู้สึกสั่นไปทั่วร่างกาย แต่ผมก็พยายามข่มใจไว้  สักพักหนึ่ง เธอก็ค่อยๆ เงยหน้าหันมาทางผม แล้ว เบิกหน้าตาที่วิตกกังวนสักเรื่อง มาส่งยิ้มให้ผม
         ค่ะ เสร็จแล้วคะ แล้วคุณหล่ะค่ะ เป็นประโยคทองสำหรับผมทีเดียว หลังจากนั้นผมกับเธอก็พูดคุยกันอยู่นาน และเริ่มพูดจา พูดคุยกันมากขึ้น 
**********************************
         จนเวลาล่วงเลยไป นานถึง 2 ปี ความสัมพันธ์ที่สนิทสนม  และราวกั้นใจของผมก็เริ่มเปิดรับเธอด้วยความเข้าใจและอยากเป็นหุ้นส่วนของหัวใจเธอสักครึ่งก็ยังดี แต่ท่าทีที่เราสนิทสนมกันนี้ เป็นที่อิจฉาของเพื่อนๆ ในก๊วนของผมเลยทีเดียว และพวกเขาชอบแซวผมว่า เธอเป็นเงาผม มีเธอที่ไหนต้องมีผมที่นั้น 
         การคบกันในปีที่สองนี้เริ่มที่จะเปิดเผยมากขึ้น จากคำว่าเพื่อนก็พัฒนามาเป็นคนรู้ใจ ยังคงไร้อุปสรรคใดๆที่จะมากั้นขวางทางใจเราได้ หน่อยยังคงทำหน้าที่ของคำว่า แฟน ที่ดีของผมตลอดมา อย่างไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง เราคบกันด้วยความเข้าใจกัน และพูดคุยกันด้วยเหตุผล 
         ปีนี้เป็นปีที่สี่ ที่ผมกับเธอคบกันมา ผมกลับพบกับความลำบากใจอีกครั้งหนึ่งเมื่อผมตัดสินใจที่จะเลิกกับหน่อย วันนั้นผมนั่งเขียนจดหมายบอกเลิกหน่อย หลายฉบับบางฉบับเพียงแค่จดปากกาลงในกระดาษก็เขียนไม่ได้แล้ว และล้วผมก็ได้ฉบับที่ดีที่สุดส่งไปให้เธอ ถ้อยคำที่ผมจารึกลงไปในกระดาษบางๆ เพียงแค่ไม่กี่ประโยค แต่มันก็มากพอที่จะเป็นเชือกหรือมีดอันแหลมคมมารัดใจผมและเชือดเฉือนใจผมออกไปทีละนิดทีละนิด น้ำตาของผมก็รินไหลราวกับว่าน้ำเกลือที่หยดลงจากสาย แต่ผมก็ไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีสำหรับผมตอนนี้ ผมหลบหน้าหน่อยไปหลายวัน และสังเกตเห็นท่าทีของหน่อยเริ่มที่จะวิตกกังวล นัยน์ตาเธอเศร้าผิดปกติที่ผมเคยเห็นมา ผมเดาได้เลยว่าเธอคงจะทุกข์ใจไม่น้อยกว่าผมแน่นอน แต่ภาพที่ผมเห็นนั้นมันไม่ทำให้ผมสะใจแต่อย่างไร แต่กลับทำให้ผมทรมานใจมากยิ่งขึ้น ห่วงเธอมากผมยอมรับกับใจผมในตอนนั้น
****************************
         หลังเลิกเรียนวันหนึ่ง ผมก็เร่งรีบที่จะเดินออกจากห้องเรียนอย่างรวดเร็ว เหมือนกับที่ผมทำอยู่ทุกวันตั้งแต่ที่ผมส่งจดหมายให้เธอ เพื่อที่จะหนีจากเธอให้เร็วที่สุด 
         เอ เอ หยุดก่อนเอ  มาคุยกันให้รู้เรื่อง      นี่นาย! หยุดก่อนได้ไหม!!!!!!!!!!!!!  เสียงนี้ก่อนนี่เห็นเย็นหวาน กลับเหมือนน้ำร้อนที่กำลังเดือดพุดๆ มารดลงแผลที่กำลังไหม้พุพอง หรือเหมือนโดนมีดที่ค่อยๆ จี้ใจผมทีละนิด และมันทรงซึ่งพลังอำนาจมากพอที่จะทำให้ผมหยุดอยู่กับที่ และค่อยๆหันไปมองต้นเสียงที่กำลังเรียกมา อ๋อ หน่อยนั้นเอง ผมคิดในใจ 
         เอ เอ เป็นอะไรไป เอทำอย่างนี้ทำไม เอบอกหน่อยได้ไหม หน่อยผิดอะไร เอจึงทำเย็นชากับหน่อยเช่นนี้ ถ้าหน่อยผิดหน่อยก็จะได้ขอโทษเอ เอรู้ไหมการที่เราไม่รู้ว่าเราทำผิดอะไรนี่มันทรมานมากแค่ไหน เอเคยคิดไหม เราไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร จู่ๆ เอก็ออกมาห่างเราไปเฉยๆ อย่างนี้ แถมยังมีจดหมายบ้าๆ นี่ส่งมาให้เราด้วย ขอร้องล่ะเอ พูดอะไรหน่อยได้ไหม บอกให้หน่อยรู้ได้ไหม  หน่อยพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอ น้ำใสๆมันก็ไหลออกจากตาหน่อย ใบหน้าที่เคยสดใสของเธอกลับเป็นความทุกข์ที่แสดงให้เห็นอย่างเด่นชัด ผมจำได้ดีและไม่มีวันลืมไปจากใจผมเลย ผมค่อยๆ เงยหน้าขึ้นสบตาเธอที่น้ำกำลังล้นออกจากตาเธอ อยู่นาน ผมเลยหลบสายตาเธอและก้าวออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
         เอ สนุกมากไหม ที่เอทำอย่างนี้ ที่เอทำให้คนคนหนึ่งที่ไม่รู้ว่าตัวเองผิดอะไรรู้สึกสับสนและพยายามทบทวนหาเหตุผลต่างๆ นานามาอธิบาย ก็ได้เราต่างคนต่างอยู่ ความสัมพันธ์ระหว่างเรามันจบแค่นี้ ตามความต้องการของเอ หน่อยจะไป!!!!!!!!!!!!!!!!  ประโยคนี้มันก้องในหูผมและซ้ำอย่างนี้สักร้อยครั้ง เหมือนกับมีค้อนปอนด์หรือก้อนหิน หรือมีคนผลักผมตกจากที่สูงลงมากระแทกกับพื้นที่แน่นหนา ผมเริ่มสั่นไปทั่วร่างกาย ระบบเลือดไหลไม่รู้ทิศทาง ทำให้ผมยอมเปิดปากที่จะเอ๋ยตอบโต้กลับไป
         หน่อยไม่ผิด ผมผิดเอง เราต่างคนต่างอยู่ดีกว่านะครับ อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกันเหมือนก่อนเลยขอให้เราเป็นแค่เพื่อนกันนะครับ 
         หน่อยดีใจค่ะที่ เอไม่ได้เป็นบ้าใบ้ ที่เอพูดได้ ไม่ต้องบอกหรอกค่ะเรื่องนั้น เราต่างคนต่างอยู่ ทุกอย่างมันจบตั้งแต่วันนี้ นี่กระดาษเน่าๆ ของนาย ฉันจะถือว่าเราเป็นเพื่อนร่วมโลกกันค่ะ โชคดี!!!!!
********************!!!!!!!!!!!!!!! โปรดติดตามตอนต่อไป!!!!!!!!!!!!!*********************				
comments powered by Disqus
  • กวีบ้านไร่

    27 พฤษภาคม 2547 10:57 น. - comment id 74400

    เป็นงานเขียนชิ้นแรกของผม อาจจะยังไม่ได้พอ อย่างไรก็ช่วยติชมด้วยน่ะครับ
  • เมกกะ

    27 พฤษภาคม 2547 11:04 น. - comment id 74401

    เด๋วมาเม้นท์ให้นะครับ  ไปธุระข้างนอกก่อน
  • tiki

    27 พฤษภาคม 2547 11:10 น. - comment id 74402

    อ่านแป๊บค่ะ หมอเอ คะ 
    เดี่ยวขอลงกลอนแม่ก่อนนะคะ
    ขอบคุณที่ส่งมาให้อ่านค่ะ คนดี
    
    
    ทิกิ_tiki
  • พุด

    27 พฤษภาคม 2547 12:01 น. - comment id 74403

    ประทับใจมากค่ะ
    งานงดงามไม่มีที่ติเลย
    จะติดตามตอนต่อได้วยใจจดจ่อค่ะ
    และ
    พุด..ไม่เคยทราบเลยนะ
    ว่ากวีบ้านไร่คือคุณหมอค่ะ..
  • พุด

    27 พฤษภาคม 2547 12:36 น. - comment id 74404

    พุดกลับไปอ่าน
    *ยากที่จะเป็นกวีอาชีพ*ของกวีบ้านไร่มา
    และระยะนี้
    ทีคนกล่าวถึงกวีๆๆๆกันเสียมากมาย
    เลยฝากงานจารใจแจงแถลงรักของพุด
    ที่แค่พอจะเป็นได้
    คือ*กระวีกระวาดและนักอยากจะเขียนนักฝันค้าง*ค่ะ..ลองอ่านดูนะคะคนดี
    กวีบ้านไร่..ที่พุดชอบคำว่าบ้านไร่มาก
    ค่ะ..
    ด้วยรักนะคะ
    
    http://thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_42985.php
    http://thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_42984.php
  • กวีบ้านไร่

    27 พฤษภาคม 2547 12:52 น. - comment id 74405

    ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านน่ะครับ
  • ธารเธียรเพียรtong

    27 พฤษภาคม 2547 22:27 น. - comment id 74420

    แวะมาทักทาย+เป็นกำลังใจ
  • กวีบ้านไร่

    28 พฤษภาคม 2547 16:56 น. - comment id 74427

    ขอบคุณ ทุกท่านที่มาให้กำลังใจน่ะครับ
  • oil

    14 กันยายน 2554 23:57 น. - comment id 126425

    กะอีกคนหนึ่งรัก
    เธอไม่เคยเห็นค่า
    .......................
  • นรา

    15 กันยายน 2554 13:55 น. - comment id 126435

    สวัสดีค่ะ คุณ ต้อม(กวีบ้านไร่)
    กะอีกคนหนึ่งรัก
    เธอไม่เคยเห็นค่า
    กะอีกคนห่วงหา
    เธอรู้ค่าบ้างใหม....
  • oil

    15 กันยายน 2554 13:55 น. - comment id 126436

    สวัสดีค่ะ คุณ ต้อม(กวีบ้านไร่)
    กะอีกคนหนึ่งรัก
    เธอไม่เคยเห็นค่า
    กะอีกคนห่วงหา
    เธอรู้ค่าบ้างใหม....

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน