☻☻ทรีสเมนท์หนังเรื่องยำใหญ่ผีไทย☻☻

[ไร้ตัวตน]

Treatment
ยำใหญ่ผีไทยฮาสยองโลก
เริ่มเรื่อง
(หนังตอนละ25นาทีทั้งหมด90นาที)
เขียนโดยแร็ค อีเมลย์rack_ann@hotmail.com
ย้อนยุคร.5-กระท่อมริมน้ำ-นางนาค
ข้างนอก-ลำคลอง-กลางวัน
เรือแคนนูนแล่นออกมาจากลำคลอง มีทิดมากเป็นคนแจวมา มีศพหมาตายลอยขึ้นอืดอยู่บริเวณแถวนั้น ทิดมากไว้ผมทรงแมนจูไว้หนวดเครารกรุงรังร่างกายซูบผอมไม่สวมเสื้อใส่โจงกระเบนหลวมตูด(เด็กแนว) หน้าตายิ้มแย้มเมื่อเห็นนางนาคที่กำลังยืนอุ้มไอ้แดงอยู่บริเวณระเบียงริมน้ำ นางนาคไว้ผมม้านุ่งโจงกระเบนใส่ผ้าสไบส่วนไอ้แดงไม่ใส่อะไรเลย ทิดมากจอดเรือแล้วลุกเดินตรงไปหานางนาคด้วยสีหน้าเศร้าหมอง แล้วถามนางนาคว่า ทำไมนมใหญ่ขึ้นกว่าแต่ก่อน แล้วทิดมากก็เอาเข็มไปจิ้มที่นมของนางนาคระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว จนทำให้ไอ้แดงร้องงอแง ทิดมากลำคาญเสียงร้องของไอ้แดงจับไอ้แดงโยนลงแม่น้ำโดยไม่สนใจใยดี จนไอ้แดงเด็กวัยแปดขวบไหว้น้ำกลับมายังระเบียงเอง ทิดมากและนางนาคเดินจูงมือกันขึ้นไปยังกระท่อม โดยมีไอ้แดงเด็กน้อยเดินตามหลังไป
ข้างนอก-ลำคลอง-กลางวัน
 ต่อมามีชายติดอ่างและตาบอดขี่ขอนไม้ซุงล่องมาตามแม่น้ำ ทิดมากและนางนาคมองดูเขาทั้งสองอย่างแปลกใจ มีตะเข้ตัวหนึ่งลอยตรงเข้ามายังขอนไม้ซุง ชายติดอย่างเห็นเช่นนั้นเลยรีบบอกให้ชายตาบอดรีบพายขอนหนีให้เร็วที่สุดด้วยสีหน้าตื่นกลัว แต่เนื่องด้วยที่ความติดอ่าง ทำให้ชายตาบอดฟังไม่รู้เรื่อง ชายติดอ่างพยายามอย่างสุดชีวิตทีจะพูดคำว่าตะเข้ออกมาให้ได้ แต่ก็พูดได้แต่คำว่าตะ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนทำให้สื่อสารกับชายตาบอดไม่รู้เรื่อง จนทำให้ชายติดอ่างตัดสินใจโดดลงแม่น้ำ ทิ้งชายตาบอดนั่งอยู่บนขอนไม้อย่างงงงัน ตะเข้ลอยตามชายติดอ่างอย่างกระชั้นชิด แล้วงาบเขาตายไปในที่สุด ชายตาบอดได้แต่พูดว่าเฮ้ยอ่างมึงไปไหนแล้ววะ เอ่อแล้วกูจะไปทางไหนต่อดีเนี๊ย แล้วชายตาบอดก็ล่องลอยไปตามแม่น้ำเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย
ข้างใน-กระท่อม-กลางวัน
ทิดมากเล่าว่าสงครามมันจบแล้ว ทิดมากขยับเข้ามากอดนางนาคและไอ้แดงเอาไว้ มีเสียงตดดังขึ้นมา ทั้งสามคนมองหน้ากันแล้ว ถามพร้อมกันว่าใครเป็นคนตด ต่างฝ่ายต่างถอยห่างออกจากกัน แล้วพูดขึ้นพร้อมกันว่า ไม่ได้ตดนะ ทิดมากมองไปที่หน้านางนาค นางนาคมองหน้าไปที่ไอ้แดง ไอ้แดงมองหน้าไปที่ทิดมาก ทิดมากตบหน้านางนาคแล้วพูดว่า หัดเป็นคนโกหกผมตั้งแต่เมื่อไร แล้วเวลาที่ผมไม่อยู่คุณก็มีชู้ใช่ไหม ทั้งสองเกิดมีปากเสียงกันอย่ารุนแรง ทิดมากเดินเข้าไปในบ้านไปเอาทวนที่มีง่ามเป็นรูปพระจันทรครึ่งเสี้ยวมา นางนาคเดินเข้าไปในครัวหยิบเอาปืนคอร์ต่อต้านรถถังมา ทั้งสองจองหน้ากันอย่าขึงขังพร้อมที่จะตะบันหน้ากัน ทันใดนั้นก็มีเสียงตดระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวมาจากไอ้แดง แล้วไอ้แดงก็พูดว่าเถียงกันพอหรือยัง
ข้างใน-กระท่อม กลางคืน
ไอ้แดงนอนลืมตาค้างอยู่ในเปลโดยที่มีทิดมากเอาตีนถีบไกวเปลแทนการใช้มือ แล้วนางนาคก็ฮำเพลงกล่อมเด็กเป็นเพลงธรรมณีกรรแสงพร้อมกับเย็บผ้าไปด้วย พอไอ้แดงนอนหลับนางนาคก็มองด้วยสายตายั่วยวนไปยังทิดมาก ทิดมากคลานแบบทหารเข้ามาหานางนาค ทั้งสองกำลังจะจูบกัน ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงตดของไอ้แดงดังขึ้นมาอีกครั้ง 
ข้างใน-กระท่อม-กลางคืน
ทุกคนนอนหลับหมดแล้ว วันนั้นเป็นวันที่ยุงชุมมาก นางนาคจึงตื่นขึ้นมาเอาลิ้นยาวๆจับยุงกิน ไม่นานทิดมากได้ตื่นขึ้นมามองเห็นนางนาคกินอยู่อยู่เลยถามว่าทำไรอยู่ นางนาคตอบว่า อ๋อออกกำลังกายลิ้นหนะพี่ ทิดมากยิ้มแล้วลุกเดินไปบนระเบียงแล้วยืนฉี่จากระเบียง ฉี่ออกมาเป็นสายน้ำไหลธรรมดา ทันใดนั้นเองไอ้แดงเดินมาข้างๆทิดมากแล้วยืนฉี่แข่งกับทิดมาก ไอ้แดงฉี่ออกเป็นสายเหมือนท่อน้ำปะปาแตกแรงกว่าทิดมากเป็นสิบๆเท่า
ข้างนอก-ระเบียงริมแม่น้ำ เช้า
ทิดมากออกมานั่งเอาเท้าแช่น้ำในลำคลอง มีชายวัยกลางคนซึ้งเคยรู้จักกับทิดมากมาก่อนพายกะทะใบใหญ่ผ่านมา เมื่อเขาเจอกับทิดมากเลยทักทิดมาก ถามว่ากลับมาจากไปรบแล้วเหรอ ทิดมากพยักหน้าแล้วยิ้ม ชายคนนั้นหันไปมองกระท่อมด้วยสายตาแปลกๆ
 ข้างนอก-ลำคลอง-กลางวัน
ทิดมากกับนางนาคภายเรืออกไปทอดแหกันในลำคลอง ทิดมากทอดแหลงครั้งแรกได้ปลากระป๋อง ทอดลงไปครั้งที่สองได้หัวกระโหลดคน ทิดมากรู้สึกตกใจเลยเผลอตกลงจากเรือจมลงไปในแม่น้ำ ทิดมากลืมตาในน้ำเห็นศพคนตายเกลื่อนเต็มไปหมด และไอ้แดงลูกชายกำลังจับขาดึงไม่ให้ขึ้นจากน้ำ นางนาคเห็นเช่นนั้นเลยรีบยื่นแขนยาวๆจับทิดมากขึ้นมาจากน้ำ หลังจากที่ทิดมากขึ้นมาอยู่บนเรือ ทิดมากก็มองนางนาคด้วยสายตาหวาดกลัว แล้วพูดว่า พี่เห็นศพและไอ้แดงมันอยู่ในน้ำ  นางนาคนิ่งงัน ชั่วครู่ก็ตอบว่า ไม่มีอะไรหรอกพี่ พี่แค่หูฝาดตาหนวกไปก็เท่านั้นเอง แล้วทั้งสองพายเรือเข้าฝั่ง
ข้างใน-กระท่อม-กลางคืน
นางนาคทิดมากและไอ้แดงนั่งลอมวงกันกินข้าว ในจานมีขนมปัง พิซซ่า แมคโดนัล พร้อมกับถ้วยน้ำพริก ทิดมากเอามือฉีกหนมปังจิ้มลงไปยังถ้วยน้ำพริกแล้วพูดว่า นาคทำอาหารอะไรจังเลยนะตั้งแต่พี่ไม่อยู่เนี๊ย ในขณะที่ทิดมากกำลังชมนางนาค ทันใดนั้นไอ้แดงก็ฉี่ออกมาราดใส่อาหารทุกอย่าง ทิดมากฉุนเลยลุกข้นเตะเข้าไปที่ไอแดงกระเดนออกจากวงกับข้าว แล้วทิดมากก็นั่งลงกินต่อ นางนาคพูดว่า ทำไมพี่โหดจัง พี่รู้สึกว่าไอ้แดงมันกวนประสาทพี่มากนะ
ข้างใน-กระท่อม-กลางคืน
แสงไฟของตะเกียงดับลงอย่างช้าๆ นางนาคนอนเอาขาพาดไปที่คอของทิดมาก ทิดมากนอนโกรนเป็นเสียงหมาหอน และไอ้แดงนอนอยู่บนเปล ต่อมามีเสียงคนวิ่งไปมาอยู่บนระเบียง ทำให้ทิดมากตื่นขึ้นมา ทิดมากออกเดินมาดูตรงระเบียงบ้านท่ามกลางความมืด สายตากวาดหาต้นเสียงไปรอบๆบริเวณ จากนั้นทิดมากก็เห็นแสงตะเกียงที่ชาวบ้านประมาณสิบห้าคน โดยมีพระอาจารย์เสริมท่าทางเก่งกล้าในวิชาอาคมเดินนำหน้าแหวกดงหญ้าคาตรงมายังบ้านของทิดมาก
ข้างนอก-กระท่อม-กลางคืน
ทิดมากเดินลงมาหาชาวบ้านกลุ่มนั้น แล้วชาวบ้านก็ได้เล่าเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับนางนาคให้ทิดมากฟัง แต่ทิดมากไม่เชื่อเลยร้องตะโกนให้นางนาคลงมาใต้ถุน มีชาวบ้านบางคนในกลุ่มนั้นทำหน้าตาหวาดกลัว มีลมพัดมาพร้อมกับเศ็ษใบไม้แห้งปลิวมายังบริเวณนั้น จากนั้นมีชายคนหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นมาหาชาวบ้านแล้วพูดว่า ขอถามทีครับส้วมไปทางไหนครับ ทุกคนมองหน้าชายคนนั้นอย่างมึนงงแล้วชี้นิ้วบอกทางไปคนละทิศทาง ชายคนนั้นเกาหัวแล้ววิ่งเข้าป่าไป ต่อมามีหญิงแก่คนหนึ่งในกลุ่มของชาวบ้านโดนนางนาคใส่มนต์ หญิงคนนั้นเธอเต้นท่ายั่วยวนแล้วทำท่าเหมือนเต้นรูดเสา แล้วชายวัยกลางคนอีกคนหนึ่งก็โดนนางนาคใส่มนต์ให้เขาเต้นเหมือนไมค์เคิลเจ็คสันรูดเป้า จากนั้นทุกคนก็เต้นเหมือนกัน เหลือเพียงทิดมากกับพระอาจารย์เสริมที่ยืนมอง พระอาจารย์เสริมนั่งลงหลับตาแล้วร่ายมนต์ ปรากฏว่าร่ายมนต์นานจนพระอาจารย์หลับไปเอง ทิดมากเดินมาตบหัวของพระอาจารย์เลยตื่นขึ้นมาพร้อมกับเช็ดน้ำลายที่ยืดออกมาจากปาก พระอาจารย์ลุกขึ้นแล้วตะโกนว่า นางนาคหยุดเดี๋ยวนี้ จากนั้นพระอาจารย์ก็ท่องคาถาเป็นเพลงแรพชื่อเพลง โทรมาทำไมครับ ชักพักแล้วทุกคนก็หยุดเต้น จากนั้นนางนาคก็ปรากฏตัวอยู่บนหลังคากระท่อมพร้อมกับอุ้มไอ้แดงเอาไว้ในมือ พระอาจารย์สั่งให้ชาวบ้านคนหนึ่งที่ถือกระติดน้ำมันไว้ไปราดที่กระท่อมแล้วบอกให้จุดไฟเผาซะ ชายคนนั้นสาดนำมันไปยังกระท่อมแล้วพยายามจุดไฟให้ติดแต่จุดยังไงก็ไม่ติด พระอาจารย์เริ่มฉุนแล้วถามชาวบ้านคนนั้นว่าทำไมมันยังไม่ติดวะ ชายคนนั้นเอามืดเตะที่น้ำมันแล้วดมดู แล้วตอบว่า คือ...พระอาจารย์ครับนี่มันน้ำไม่ใช่น้ำมันครับ ต่อมานางนาคก็พูดว่าพวกเอ็งเล่นกันพอแล้วใช่ไหม ไอ้มากมึงขึ้นมาบนบ้านเดี๋ยวนี้กูจะนับหนึ่งถึงสาม แล้วนาคก็เริ่มนับหนึ่ง...พอนับถือสอง ก็มีชายอีกคนวิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากในป่ามาหาชาวบ้านแล้วพูดว่า ช่วยด้วย...ช่วยผมทีเถอะ ห้องน้ำไปทางไหนครับขี้จะแตกแล้ว นางนาคเห็นเลยยื่นแขนบีบขอของชายคนนั้นตาย แล้วยืนไปบีบคอของพระอาจารย์ตาย ทิดมากมองไปยังนางนาคแล้วพูดว่า นาคเรามันอยู่กันคนละภพแล้ว ชาติหน้าเราค่อยมาเป็นคู่รักกันใหม่นะไปผุดไปเกิดเถอะ แล้วนางนาคก็ตอบว่า ไม่ ทิดมากหันหน้าไปมองบริเวณที่ชาวบ้านกลุ่มนันยืนอยู่ปรากฏว่าทุกคนวิ่งหางจุดตูดไปหมดแล้ว ทิดมากบ่นพึมพำว่า พวกห่าทิ้งกูหมดแล้ว ทิดมากเลยวิ่งหนีด้วยความกลัวอย่างสุดชีวิต ทั้งวิ่งทั้งตดไปตามทาง แต่นางนาคหายตัวมาปรากฏอยู่ตรงหน้า ทิดมากเลยหยุดและนั่งลงอย่างหมดสภาพ
ข้างใน-ในผับ-กลางคืน
นางนาคแต่งตัวสายเดี่ยวกางเกงยีนรัดรูปนั่งขาไขว่ห้างหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาแล้วพูดว่าเป็นไงเรื่องราวของฉั้นสนุกไหม ท่ามกลางเพื่อนเธอที่ชื่อบุปผาและอีกคนที่ชื่อสาวนั่งฟังอย่างตั้งใจ มีทิดมากแต่งตัวเป็นเด็กเสริฟในร้านเดินตรงมาเทไวน์ลงแก้วแล้ว นางนาคก็ยิ้มให้ บุปผากับสาวสบตามองอย่างโดนใจ จากนั้นเด็กเสริฟทิดมากก็เดินไปที่โต๊ะอื่น มาชายวัยกลางคนชื่อสุคีบนั่งเมาเหล้าหันมามองสาวทั้งสามแล้วยิ้ม ต่อมาบุปผาก็พูดว่าเอางี้พวกเธอมาฟังเรื่องเล่าของฉั้นดีกว่าไหม นางนาคและสาวดื่มไวน์แล้วพยักหน้า
ข้างใน-ห้อง69-กลางวัน
มีเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างทรมานดังก้องทั่วบริเวณห้อง หลอดไฟทั้งสะแตนที่แขวนอยู่บนเพดาน และของทุกอย่างในห้องสั่นไหวเป็นจังหวะอย่างรุนแรง สิ่งของเหล่านั้นเกิดจากเอกและบุปผากำลังอึบกันอยู่บนเตียง ทั้งสองเริ่มอึบกันแรงขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับเตียงสั้นไหวแรงขึ้นเรื่อยๆ ทันใดนั้นเองเตียงที่ทั้งสองใช้อึบกันก็หักลงมาทำให้ทั้งสองเสร็จภารกิจ ทั้งสองลุกนั่งแล้วบุปผาก็เอื้อมมือกอดเอกเอาไว้ เอกจับมือบุปผาออกแล้วบอกว่า อีกสามวันผมจะไปเรียนต่อที่ประเทศลาว แล้วเอกก็เดินออกไปจากห้องปิดประตูเสียงดัง จากนั้นบุปผาติดต่อกับเอกไม่ได้อีกเลย โทรศัพท์ไปหาก็ไม่ติด 
ข้างใน-ห้อง69-กลางคืน (3เดือนต่อมา)
บุปผาไปหาหมอตรวจร่างกายปรากฏว่าท้อง เธอจึงกลับมายังห้องแล้วพยายามฆ่าตัวตาย วิธีแรกบุปผานั่งลงบนเตียงแล้วเอามือปิดจะหมูกตัวเองเอาไว้ หวังที่จะกลั้นหายใจตาย ไม่นานใบหน้าของเธอเริ่มแดงก่ำ แล้วเธอก็เอามือออกสูดหายใจหอบแฮ๊กๆ เธอเลยเปลี่ยนวิธีใหม่ วิธีต่อมาเธอเอาผ้าเชดตัวผูดคอตัวเองไว้กับราวตากผ้าริมระเบียงขึ้นไปบนเก้าอี้ ร่างของเธอดิ้นทุรนทุรายใบหน้าของเธอแดงก่ำจนขาดหายใจ เชือกหลุดลงมาจากราว ร่างของเธอนอนกองลงกับพื้น ทุกอย่างเงียบสงัดไปชั่วครู่ อีกไม่กี่นาทีต่อมาหนังตาของเธอก็ค่อยๆขยับ ลืมตาขึ้นมา เธอรุกขึ้น เดินออกมาด้านหลังห้องอพาทเมนท์ชั้นสาม เธอกระโดดลง แต่ไม่ตาย จากนั้นเธอเดินขึ้นมายังหองอีกครั้ง เดินไปหยิบเอายานอนหลับบนหัวเตียงเทลงมายังกำมือแล้วกรอกลงปาก ปรากฏว่ายาติดคอ เธอรีบวิ่งหาน้ำมาดื่มแล้วก็กลืนยาลงไปจนหมด ต่อมาเธอรู้สึกปวดฟันเอามือกุมไว้ที่คาง เพราะยาไปอุดตรงฟันผุของเธออยู่ เธอเลยเอาไม้จิ้มฟันที่อยู่บนโต๊ะเดินเข้าไปในห้องน้ำส่องกระจกแล้วเอาไม้จิ้มฟันแคะเศษยาที่ติด ทันใดนั้นเองมีเสียงตุ๊กแกดังขึ้นทำให้เธอสดุ้ง ไม้จิ้มฟันเลยแทงเหงือกจนตาย
ข้างนอก-ห้อง69-กลางวัน
ถึงสิ้นเดือนยายเขียวมาเก็บค่าเช่า ยายเขียวเป็นหญิงวัยกลางคนที่เรียกเธอยายก็เพราะเธอได้ผัวแก่ชื่อตาน้อยผมหงอกผอมโซกินแต่เหล้า ยายเขียวเธอเป็นเจ้าของอพาทเมนท์ชอบสีเขียวใส่ของทุกอย่างเป็นสีเขียวและเป็นคนขี้เหนียวที่สุดในอพาทเมนท์ เมื่อยายเขียวเดินมาที่หน้าหองประตู69 เธอได้เอ่ยพูดด้วยวาจาสุภาพว่า บุปผาเอ้ยป้ามาเก็บค่าเช่าแล้วจ้า ไม่มีเสียงตอบรับจากข้างในห้องของบุปผา แล้วคุณนายก็เคาะประตู พูดประโยคเดิม เธอพูดซ้ำแล้วหลายรอบพร้อมกับเคาะประตู แต่ทุกอย่างในห้องยังเงียบเหมือนเดิม ด้วยความโกรธอันร้อนรุ่ม เธอร้องย๊ากแล้วพูดว่ากูหมดความอดทนแล้วนะโว้ย กระโดดหมุนตัวเอาตีนควงสหว่านที่ประตูอย่างแรงจนทำให้ประตูเปิดออกมา เธอเดินท่าทางขึงขังตรงเข้าไปในห้องสายตากวาดไปรอบๆบริเวณห้อง แล้วเรียกหาบุปผา ในหองนั้นมีแต่ใยแมงมุมและรกรุงรังเต็มไปหมด กลิ่นเหม็นของศพลอยอบอวนไปทั่วห้อง ด้วยบรรยากาศน่าสยองทำให้เธอเปลี่ยนจากอารมณ์โกรธเป็นอารมณ์เสียวช่าน สีหน้าของเธอเปลี่ยนไป ด้วยความกลัวเธอจึงเดินออกไปจากห้องแล้วปิดประตูไว้เหมือนเดิม
ข้างใน-ร้านทำผมอพาทเมนท์เดียวกัน-กลางคืน
กระเทยอ้วนชื่อสมพงษ์แต่งตัวนุ่งน้อยห่มน้อยด้วยสีชมพูกำลังไดร์ผมให้ลูกค้าคนหนึ่ง เจ๊สมศรีเจ้าของร้านนั่งดูหนังผีอยู่ข้างๆ ทั้งสามคุยกันตามประสาคนว่างพร้อมกับดูหนังไปด้วย ชั่วครู่มีชายวัยรุ่นหัวล้านไม่เต็มบาทชื่อต้อมแต่งตัวเด็กแนวสวมเสื้อสีขาวขาดยุ่ยกางเกงยีนสั้นโชวตูดเดินเข้ามาในร้าน แล้วพูดว่า เจ๊สมศรีครับ ช่วยทำผมทรงนี้ได้ปะ ต้อมยื่นกระดาษที่มีรูปหน้าของเสกโลโซให้ดู แล้วเจ๊สมศรีก็พูดว่า มึงมานี่ เจ๊สมศรีชี้ไปที่กระจก ต้อมเดินมาหา เจ๊สมศรีเลยตบหัวล้านของต้อมให้มองดูหน้าตัวเองในกระจก แล้วพูดว่า มึงมีผมกี่เส้นวะ จะดัดทรงโลโซโธ่ไอ้บ้า ทันใดนั้นเองหลอดไฟในห้องทุกหลอดได้กระพริบ แสงไฟขาดๆหายๆ สมพงษ์พูดขึ้นว่า นี่เจ๊จ่ายค่าไฟยังยะ ทันใดนั้นเองผีบุปผาร่างกายโชคไปด้วยเลือดสวมชุดนอนสีขาวคลานออกมาจากห้องน้ำท่าทางแปลกๆเหมือนผีจูออนตรงเข้ามาหาสมพงษ์ กระเทยสมพงษ์ตกใจกลัวอย่างแรงร้องจ๊ากแล้วเตะเสยไปที่ก้านคอของผีบุปผากระเด็นไปชนกับฝาผนัง แล้วทุกคนก็วิ่งหนีร้องจ๊ากหน้าตาตื่นออกไปจากห้อง
ข้างนอก-ร้านกาแฟหน้าอพาทเมนท์ เช้า
ชาวอพาทเมนท์มาเกาะกลุ่มกันคุยเรื่องผีเมื่อคืนประมาณสิบคน โดยมีกระเทยสมพงษ์เจ๊สมศรีและต้อมเป็นคนผลัดกันเล่า ยายเขียวเดินผ่านมาได้ยินพอดีเลยพูดว่า ในอพาทเมนท์ของฉั้นไม่มีผีมีเผอหรอกถ้ามีมาเตะปากฉันได้เลย ต้อมเดินตรงเข้าหายายเขียวแล้วเตะปากไปหนึ่งทีจนสลบ แล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไปทิศทางใครทางมัน ทิ้งยายเขียวสลบนอนหลับอยู่ทางเข้าอพาทเมนท์โดยไม่มีใครสนใจ จนกระทั่งฟื้นขึ้นมาเอง และบ่นพึมพำว่า กูไม่น่ารับคนบ้ามาอยู่อพาทเมนท์กูเลยไห้ตายสิ 
  ข้างใน-อพาทเมนท์ห้อง111-กลางคืน
ห้องนี้เป็นห้องของยายเขียวกับตาน้อย ไฟในหองถูกปิด ทั้งคู่นอนหลับอยู่บนเตียงโดยเขาทั้งคู่หันหน้าไปคนละทิศ ผีบุปผาค่อยๆคลานเข้ามาทางใต้ผ้าหุ่มของยายเขียวจนร่างของบุปผานอนค่อมไปที่ร่างของยายเขียว ยายเขียวเธอนึกว่าตาน้อยที่เป็นสามีอยากมีเซ็ก เธอพูดว่า แหมมอยากมีเซ็กก็ไม่บอกนะตาแก่ เธอก็เลยกอดบุปผาเอาไว้แน่นแล้วจูบปากของบุปผา บุปผาเจอเช่นนั้นเธอทำหน้าตาขยะแขยงแล้วดิ้นหนี้ให้หลุด แล้วยายเขียวก็พูดว่า แล้วจะดิ้นทำไมมาทำใหเสร็จเถอะเร็ว ตาน้อยตื่นขึ้นมองมายังยายเขียวเห็นภาพของบุปผาลางๆเลยพูดว่าใครกันนะ แล้วเดินไปเปิดไฟ ทั้งสองตายายเห็นร่างของผีบุปผาเลยร้องจ๊ากขึ้นมาทั่วอพาทเมนท์แล้ววิ่งหนีออกมา 
ข้างนอก-อพาทเมนท์-กลางคืน
เสียงของยายเขียวและตาน้อยดังสนั่นหวั่นไหวทำให้ไฟแต่ละห้องในอพามเมนท์เปิดขึ้นทีละดวงทีละดวงจนหมด เหลือเพียงห้อง69ของบุปผาที่ยังปิดไฟมืดสนิท
ข้างใน-อพาทเมนท์-คืนต่อมา
หลังจากนั้นผีบุปผาตามหลอกคนไปทั่วห้องในอพาทเมนท์ด้วยวิธีแปลกๆพิศดาน บางคนโดนหลอกด้วยการถูกทิ้มตูดเวลาเข้าหองน้ำ บางคนโดนหลอกด้วยการเอาไฟฉายส่งหน้า ต่างๆนาๆ
ข้างนอก-อพาทเมนท์-กลางวัน
ทุกคนลงขันจ้างหมอผีฝรั่งชื่อก๊อตมาปราบผีร้ายบุปผา หมอผีฝรั่งเดินนำหน้าชาวอพามเมนท์ที่มี ยายเขียว ตาน้อย สมพงษ์ ต้อม และเจ๊สมศรี เดินตามมาข้างหลัง หมอผีกอ๊ตพูดไทยไม่ค่อยชัดเดินมาถึงที่ห้องบุปผาก็ร่ายเวทมนต์คาถาด้วยคำพูดที่ว่า สา..วาด..ดีค่ะคุณพ่อ สวัสดีค่ะคูแม่จากนั้นก็ทำท่าทางแปลงร่างเหมือนอุนตร้าแมน แล้วเอามือปิดไปที่ลูกบิดประตูของบุปผา ทันใดนั้นได้เกิดไฟฟ้าดูดร่างของหมอผีก๊อตทุกคนเห็นเลยรีบจับหมอผีก๊อตออก แต่กลับโดนไฟดูดกันทุกคนเหลือแต่เพียง ต้อมที่ยืนดู ตอมพูดว่า ทำไมตัวสั้นหนาวกันเหรอ สมพงษ์พูดแบบสั่นๆว่า กูโดนไฟดูด ต้อมพูดว่า อ๋อช่วยได้ ต้อมกระโดดถีบเตะทุกคนเหมือนองค์บาก ให้หลุดจากลูกบิตประตูที่บุปผาต่อไว้เข้ากับสายไฟ แล้วต้อมก็พูดว่าอยากเข้าไปข้างในเหรอ ทุกคนพยักหน้า แล้วต้อมก็เดินไปยืนอยู่ตรงหน้าประตูแล้วหยิบมีดออกมาจากกางเกงจี้ไปที่คอตัวเองแล้ว ต้อมก็บ่นพึมพำกับประตูทุกคนเงี่ยหูฟังแต่ไม่รู้เรื่อง อยู่ดีๆประตูก็เปิดออกมา ทุกคนมองด้วยความสงสัยและมึนงง 
ข้างใน-ห้อง69-กลางวัน
ทุกคนเข้าไปข้างในห้องที่เต็มไปด้วยใยแมงมุมและของทีมีแต่ฝุ่นเกาะเต็มไปหมด กลิ่นเหม็นของศพลอยมา ทุกคนปิดจมูกแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆบริเวณห้องเพื่อหาศพของบุปผา หลวงพ่อก๊อตบอกให้ทุกคนแยกย้ายหาศพ เจ๊สมศรีเดินไปเปิดตู้เย็น สมพงษ์เดินไปเปิดตู้เสือ้ผ้า ยายเขียวเดินไปเปิดดูในถังขยะ ตาน้อยยืนมองไปรอบๆ ชั่วครู่หลวงพ่อก๊อตพูดว่า พอแล้วเดี๋ยวหลวงพ่อหาเอง แล้วหลวงพ่อก็ทำท่าแปลงร่างเหมือนอุนตร้าแมนหลับตาตัวสั่นเหมือนผีเข้า แล้วหลวงพ่อก็ชีนิ้วไปที่ผ้าห่มที่คลุมอยู่บนเตียง สมพงษ์เดินไปเปิดผ้าห่มออก สายตาของทุกคู่ต่างเฝ้ามองที่ผ้าห่มผืนนั้น มีศพของตุ๊กแกเน่าตายอยู่ในนั้น ทุกคนส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ ต้อมพูดว่า ผมทนไม่ไหวแล้ว สมพงษ์พูดว่า เอ็งเป็นไรวะ ต้อมตอบว่า ผมปวดขี้อย่างแรงอั้นไม่ไหวแล้ว เดินเข้าไปในห้องน้ำของบุปผา ทันใดนั้นเองได้มีเสียงร้องจ๊ากดังขึ้นมาจากห้องน้ำ ทุกคนวิ่งไปดูในห้องน้ำเห็นศพของบุปผานั่งขาไขว่ห้างมือข้างหนึ่งจับไม้จิ้มฟันที่เสียบเหงือกอยู่ตาเหลือกเลือดไหลอาบเต็มตัว จากนั้นต้อมก็พูดว่า ช่วยเอามันออกไปทีผมจะขี้มันจะราดแล้ว แล้วสมพงษ์ก็จับขาของบุปผาลากออกมาจากห้องส้วม ต้อมปิดห้องน้ำแล้วนั่งลงบนชักโคกมือทั้งสองข้างชูขึ้นเหมือนทำท่าพลังคลื่นเต่าสีหน้าเขียวตัวสั่นแล้วร้องออกมาว่า อ่า...โอ้วสวรรค์
ข้างใน-ห้อง69-กลางวัน 
ตำรวจสองนายมาที่เกิดเหตุ มาถึงก็เอาผ้าขาวมัดตัวของบุปผาเอาไว้แล้วผูกติดไว้กับไม้ไผ่ยกตัวบุปผาขึ้น แล้วเดินออกไปจากห้อง เอาศพขึ้นรถสามล้อจากไป
ข้างใน-ห้อง69-กลางวัน
 วิญญานของบุปผายังวนเรียนอยู่ในห้องนั้น โดยเธอยังนอนรอเอกอยู่บนเตียง
ข้างนอก-ห้อง69-กลางวัน
เอกกลับมายังอพามเมนท์อีกครั้ง เขาเดินผ่านร้านร้านเสริมสวยแล้วหันไปมองสมพงษ์แล้วยิ้มนิดๆ สมพงษ์ยิ้มตอบ จากนั้นเอกก็เดินไปเคาะที่ประตูห้อง69แล้วร้องเรียกบุปผา บุปผาได้ยินเสียงของเองเลยเดินมาเปิดประตู แล้วก็ดีใจกระโดดกอดเอกเอาไว้แน่นตัวลอย สภาพห้องตอนนั้นสะอาด บุปผาผลักเอกนอนลงบนเตียงแล้วทั้งสองก็อึบกัน ทั่วทั้งอพาทเมนท์สั้นเหมือนแผ่นดินไหวอีกครั้ง
ข้างใน-โรงหนัง-กลางคืน
เอกนั่งรอใครชักคนในโรงหนังเก่า สมพงษ์เดินผ่านม่านประตูโรงหนังเข้ามา เขานุ่งใส่กางเกงขาสั้นรัดรูบและเสื้อสายเดี่ยว เอกหันไปมองแล้วส่งจูบให้ สมพงษ์ทำท่าเต้นยั่วยวนและค่อยๆถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้นๆแล้วเดินตรงเข้าหาเอก
ข้างใน-ห้อง69-กลางคืน
เอกเปิดประตูเข้ามาในห้องของบุปผา บุปผานั่งอยู่บนเตียงหันไปมองหน้าเอก เธอลุกขึ้นแล้วพลักเอกนอนลงบนเตียง จากนั้นก็จับเอกมัดด้วยเชือกขึงพืดทิ้งเอกเอาไว้บนเตียงแล้วเดินจากไป เอกถามว่า ทำไมเหรอบุปผา
ข้างใน-ร้านเสริมสวย-กลางคืน
สมพงษ์นั่งขี้อยู่ในสว้มด้วยท่าทางปวดแสบปวดร้อน จู่ๆบุปผาโผล่มาตรงหน้า สมพงษ์ตกใจแล้วร้องกรี๊ด เสียงตดของสมพงษ์ดังขึ้น บุปผาพูดว่าไอ้สมพงษ์มึงรู้ไหมนี่ถุงอะไร บุปผาโชวถุงตดถุงใหญ่ สมพงษ์พูดด้วยน้ำเสียงสั่นรัวว่าบุปผาเอาถุงตดมาทำไมเหรอ ทันใดนั้นบุปผาก็ตบถุงตดแล้วตบๆๆๆให้มันพองแล้วแตกล๊อกประตูห้องน้ำแล้วหายตัวไป สมพงษ์รีบเชดตูดร้องให้คนมาช่วย ชักพักเขาก็ตายเพราะกลิ่นเหม็นของถุงตด
ข้างใน-ห้อง69-กลางคืน
บุปผากลับมาที่ห้องโดยมืออีกข้างถอสากอันใหญ่แล้วมองไปที่เอก เอกหันหน้ามาสายตามองไปที่สากแล้วพูดว่า อย่าบอกนะว่า... บุปผาพูดว่าถูกต้องนะคราบ แล้วทิ้มสากไปที่ตูดของเอก มีเสียงร้องจ๊ากดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว
ข้างใน- ผับ-กลางคืน
บุปผาหัวเราะเบาๆ เป็นไงบ้างละน่าสงสารเอกที่ตายอย่างอนาถ นางนาคกับสาวหัวเราะ บุปผาหันไปมองทิดมากแล้วเรียกเข้ามาหา เธอกระซิบกับทิดมากว่า คืนนี้เลิกงานว่างไหม ทิดมากยิ้ม นางนาคและสาวเมินหนาหนี หลังจากทีทิดมากเดินไปเสริฟทีโต๊ะอื่น นางนาคและสาวก็หันมาหน้าพูดกับบุปผาพร้อมกันว่า คนนี้ฉั้นจองแล้วยะ ทั้งสามทำท่าเหมือนจะทะเลาะกัน จู่ๆมีชายวัยกลางคนท่าทางเป็นเสี่ยรวยตังค์เดินตรงมาหาทีโต๊ะแล้วนั่งลงพูดว่า เดี๋ยวก่อนสาวๆ ขอนั่งด้วยคนได้ไหม ทั้งสามคนพยักหน้าแต่ไม่สนใจเสี่ยคนนั้น ชายเมาเหล้าสุคีบหันมาที่สาวๆแล้วยกแก้วนมดื่มด้วยท่าทางเมายิ้มให้ ต่อมาสาวพูดว่า ช่างมันเถอะแค่ผู้ชายคนเดียวมาฟังเรื่องของฉันกันดีกว่า
ข้างใน-บ้าน(สิด)-กลางคืน
โต๊ะวงกลมถูกล้อมรอบไปด้วยเก้าอี้สี่ที่ มีสนกับสาวที่เป็นแฟนกัน สิดดอมที่เป็นเพื่อนของสนนั่งอยู่ด้วย บนโต๊ะถูกวางไว้ด้วยแก้วนมทีผสมกัญชา ใบลาลอยอยู่ในแก้วนม ทุกคนตายสายตาหวานเยื้อมมึนเมากับนมทีผสมกัญชา วันนี้เป็นวันฉลองวันรับปริญญาของสาว สนเป็นตากล้องภาพนูด เขาสวมเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีน สาวเป็นนักศึกษาเอกนิเทศจบใหม่หน้าตาสวยรูปร่างเพียวบางสวมเสื้อยืนกางเกงขาสั้น สนยกแล้วนมขึ้นแล้วพูดว่า เอ้าดื่มแด่น้องใหม่สาวผู้รับปริญญา
เวลาผ่านไปไม่นานทุกคนต่างมึนเมาต่างมีอารมณ์ขันเสียงหัวเราะดังไปทั่วห้อง สิดเกิดภาพหลอนมองเห็นดอมเป็นตัวปีศาจตัวสีแดงมีเขี้ยวยาวยื่นออกมาจากปาก สิดหยิบขวดนมฟาดไปที่หัวของดอมจนแตกเลือดอาบ ดอมมองสิดเป็นหญิงสาวสวยงามรูปร่างอรชอนกระโดดเข้าไปกอดจูบ สาวกับสนมองเห็นทั้งคู่ตีกันและจูบกัน ทั้งสองเลยต่างหัวเราะน้ำลายสาดกระเชนอย่างเมามัน
ข้างใน-รถ-กลางคืน
สาวกับสนขับรถกลับ โดนมีสาวเป็นคนขับระหว่างทางมีแต่เสียงหัวเราะดังออกมาจากรถ ทันใดนั้นเองมีหญิงสาวชื่อนิดที่เป็นผีวิ่งตัดหน้ารถ รถชนเข้าอย่างจังเสียงดังตุ๊บ แต่มีเสียงแทรกเป็นเสียงเหมือนหมาถูกรถชนร้องแอ๊กๆ
ข้างใน-อพาทเมนท์(สน)-กลางวัน
เสียงหนังโป้ดังฮำฮัมมาจากโทรทัศของสนกับสาวที่นั่งดูอย่างสนใจ ทั้งสองนั่งหน้าตาตื่นติดหน้าจอ สาวพูดว่า พี่คะเมื่อคืนรถเราชนหมาหรือว่าคนค่ะ สนตอบว่า สงสัยเป็นหมาเพราะได้ยินเป็นเสียงหมา สาวพูดต่อว่า แต่สาวเห็นเป็นคนนะค่ะเป็นผู้หญิงด้วย สนตอบช่างมันเถอะหน่ากำลังดูหนังอยู่อย่ากวนได้ไหม เดี๋ยวมันดูไม่รู้เรื่อง สาวลุกขึ้นจากหน้าจอเดินเข้าไปยังห้องน้ำเพื่ออุจระ พอเสร็จเธอหันมามองช่องใส่ทิชชู่ปรากฏว่าทิชชู่หมด เธอเลยร้องบอกให้สนช่วยหยิบกระดาษทิชชู่ให้หน่อย แต่สนยังนั่งดูหนังโป้ติดจออย่างตั้งใจ ทันใดนั้นเองผีนิดได้โยนกระดาษทรายให้มาจากเพดาน สาวเห็นเลยหยิบมาแล้วพูดว่า ทิดชู่หมดเหรอพี่ งั้นกระดาษทรายก็ได้วะ
ข้างนอก-สวนสาธารณะ-กลางวัน
สนกำลังถ่ายรูปนางแบบนูดที่อ้วนถ้วนใส่เสื้อสายเดี่ยวทำหน้าตายั่วยวน นางแบบคนนั้นน่าเหมือนหมูตอนแถมขี้เหล่อีกต่างหาก
ข้างนอก-อพาทเมนท์-กลางวัน
สาวนั่งดื่มนมดูโทรทัศน์ในห้องคนเดียว ทันใดนั้นมีเสียงหมากัดกันในห้องล้างรูปสาวเลยลุกขึ้นเดินตรงไปยังห้องล้างรูป เอื้อมมือเปิดประตูออกแล้วเดินเข้าไปข้างใน ข้างในเต็มไปด้วยรูปนูดของนางแบบอ้วนหน้าตาขี้เหล่แขวนอยู่บนเชือกเป็นสิบๆรูป และอ่างล้างรูปติดอยู่กับผนังห้อง ทันใดนั้นนิดโผล่ขึ้นมาจากอ่างล้างภาพทำหน้าตาคิขุชูนิ้วสองนิ้วยิ้มให้สาว สาวตกใจเอานิ้วทิ่มอุดรูจมูกของนิด จากนั้นนิดก็หายตัวไป 
ข้างใน-อพาทเมนท์-กลางคืน
สาวนอนอยู่บนเตียงกับสน สาวพูดว่า เมื่อกลางวันสาวเจอผี สงสัยจะเป็นผีที่รถเราชนแน่เลยพี่สน สนตอบว่า อย่าคิดมากเลยสาว รถเราชนวันนั้นเป็นหมาต่างหากไม่ใช่คน ทันใดนั้นนิดปรากฏตัวขึ้นบนหัวเตียงแล้วเอามะเงกโขกไปที่หัวของสนแล้วพูดว่า หมาบ้านพ่อมึงเหรอที่มึงชนหนะกูเอง สาวและสนตกใจกระโดนลงจากเตียง สนทำท่าจะต่อสู้แบบหนังจีนนกกระเรียนเหินหาว และสาวทำท่าเหมือนองค์บากคชสารถวายแหวน นิดยืนขึ้นจากเตียงแล้วพูดว่า อยากดวลกะกูเหรอไอ้สน นิดทำท่าเหมือนคางคกเหินหาว(ในหนังเรื่องคนเล็กหมัดเทวดา) แล้วทั้งสามได้ต่อสู้กัน สนและสาวแพ้นอนสลบไป
ข้างใน-รถ-กลางวัน
สนขับรถเกงโตโยตาเข็มไมค์ชี้ไปที่100กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีสาวนั่งอยู่ข้างๆ สาวถามสนว่า ทำไมผีมันรู้ชื่อพี่ละ สนเงียบไม่ตอบ มีชายแก่ผอมๆคนหนึ่งวิ่งแซงรถไป
ข้างใน-อพาทเมนท์-กลางคืน
สนนอนหลับอยู่บนเตียงกับสาว ไม่นานสาวลุกขึ้นจากเตียงเดินตรงไปยังตู้เย็นเปิดเอานำดื่มเทลงแก้ว แต่เธอทำน้ำหกลงพื้นเปียกเลยนั่งลงเอากระดาษทิชชู่ที่วางไว้บนตู้เย็นเช็ด พอเธอนั่งลงเช็ดก็ได้พบกับรูปภาพใบหนึ่งอยู่ใต้ตู้เย็น เธอหยิบขึ้นมาดูปรากฏว่าเป็นภาพของสนและนิดถ่ายรูปคู่กัน ทันใดนั้นนิดได้โผล่มาจากด้านหลังของสาวแล้วเอานิ้วทิ่มไปที่ตูดของสาว สาวสดุ้งตกใจหัวไปชนกับตู้เย็นอย่าแรงแล้วก็สลบไป
ข้างใน-อพาทเมนท์-กลางวัน
นิดนอนอยู่ข้างๆกับสน สนตื่นขึ้นนึกว่าสาวนอนอยู่ข้างๆเลยหันไปจูบ นิดยกตีนขึ้นให้กับสนจูบ สนได้กลิ่นเหม็นลืมตาขึ้นมาเห็นนิด จากนั้นนิดก็ได้หายตัวไป สนกวาดสายตามองหาสาวรอบๆบริเวณห้องเห็นสาวนอนสลบอยู่ใกล้กับตู้เย็นเลยเดินเข้าไปปลุก ปลุกทีไรสาวก็ไม่ยอมตื่น สนเลยรูดซิบฉี่ราดหน้าสาว จนสาวตื่นขึ้นมาแล้วยื่นรูปให้กับสนดูแล้วพูดว่า นี่มันรูปผีกับสนหนิ สนรู้จักผีคนนั้นใช่ไหมตอบมานะ สนเลยนั่งลงก้มหน้าแล้วพูดว่า กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วผมเคยมีแฟนหญิงคนหนึ่งชื่อนิดเธอเป็นคนติงต๊องที่รักผมมาก
(ภาพ)ข้างนอก-สวนสาธรณะ-กลางวัน
สนนั่งอยู่บนเสื่อใต้ร่มไม้ โดยมีนิดนั่งจูบตีนของสนอยู่ด้วยความสดชื่น
ข้างใน-อพาทเมนท์-กลางวัน
สนเล่าต่อว่า จนมีวันหนึ่ง สิด ดอม ผมและนิดเมากัญชาพวกเราพากันเข้าไปในลิฟ สิดกับดอมข่มขืนนิดโดนมีผมเป็นคนกดลิฟขึ้นๆลงๆรอให้เพื่อนผมทำเสร็จ
(ภาพ)ข้างใน-ลิฟ-กลางวัน
นิดกำลังนั่งค่อมสิดโดยมีดอมกำลังถอดเสื้อนิด นิดร้องให้สนช่วยแต่สนได้แต่กดลิฟขึ้นๆลงๆโดยไม่สนใจนิด
ข้างใน-ห้อง-กลางวัน
นิดถามสนว่าแล้วเธอเป็นผีได้ยังไง สนตอบว่าผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมนิดเป็นผี นิดถามต่อว่าสนรู้จักบ้านของนิดไหม สนตอบ เดี๋ยวผมพาไป
ข้างนอก-บ้านนิด-กลางวัน
สนกับสาวขับรถมายังหมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่ง รถมาจอดที่หน้ากระท่อมบ้านของนิด แม่ของนิดชื่อป้าปองกำลังตัดหญ้าด้วยเครื่องตัดหญ้าอยู่หน้าบ้าน ทั้งสองก้าวเท้าออกมาจากรถ สาวเอ่ยถามป้าปองว่า ป้าค่ะนี่ใช่บ้านนิดป่าวค่ะ ป้าตอบว่า ใช่จ๊ะ สนถามต่ออีก แล้วป้ารู้ไหมครับว่านิดเขาอยู่ไหนตอนนี้ ป้าปองตอบด้วยสีหน้าซื่อๆว่า อ๋อนิดป้าต้มแบ่งเพื่อนบ้านกินกันหมดแล้วจ๊ะ ป้าปองชี้ไปยังเพื่อนบ้านที่เดินผ่านมา เพื่อนบ้านคนนั้นหันหน้ามามองแล้วแยกเคี้ยว สาวและสนกลัวโดนกินอีกคนเลยรีบวิ่งขึ้นรถ ขับรถหนีไป
ข้างใน-รถ-กลางวัน
ขณะนั่งรถกลับมีเสียงริงโทนโทรศัพท์ของสนเป็นเสียงเพลงธรรณีกรรแสง แล้วสนก็รีบโทรศัพท์ มีคนโทรมาว่าสิดกับดอมตายแล้ว สีหน้าของสนซีดไป
ข้างใน-อพาทเมนท์-กลางคืน
สนกับสาวนอนอยู่บนเตียงโดยมีสายสินล้อมรอบเอาไว้และมีป้ายเขียนติดว่า ห้ามผีเข้ามายังบริเวณสายสินฝ่าฝืนปรับ1พันบาท ทันใดนั้นนิดโผล่ตัวขึ้นมาในห้องแล้วเดินไปเปิดวิทยุที่โต๊ะเครื่องเขียนติดกับห้องนอน นิดเปิดเพลง บอกว่าอย่าขอหมอลำ เสียงเพลงดังขึ้นทำให้สาวกับสนตื่นขึ้นมา เมื่อทั้งสองตื่นขึ้นมาเจอนิดก็ตกใจ สนพูดว่า เห็นไหมป้ายอย่าเข้ามานะ นิดไม่สนใจเดินตรงเข้าไปหาแล้วควักตังค์ออกมาจากกระเป๋า1พันบาทยื่นให้สน จากนั้นนิดก็ดึงสายสินออก นิดสะกดจิตสนไม่ให้ขยับ แล้วพลักสาวนอนลงบนเตียงแล้วจักกระจี้จนสาวหัวเราะท้องแข็งตายคาที่ นิดสกดจิตให้สนขยับได้ แล้วสนก็รีบวิ่งหนี นิดกระโดนขึ้นขี่คอของสนทันที สนวิ่งออกไปทางประตูทำให้นิดกระแทกกับประตูตกลงมาแล้วหายตัวไป สนเห็นนิดหายตัวไปเลยเดินกลับมาหวังจะช่วยสาว ทันใดนั้นกล้องโพราลอยที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องเขียนได้มีไฟแฟลตสว่างขึ้นแผบๆ แล้วมีภาพของนิดที่ทำหน้าตาคิขุชูนิ้วสองนิ้วยืนอยู่ข้างๆสนภายในห้องนั้น สนเดินไปหยิบรูปมาดูแล้วตกใจ สนวิ่งหนีออกทางประตูอีกครั้ง ทันใดนั้นประตูได้ปิด สนชนกับประตูตายคาที่
ข้างใน-ผับ-กลางคืน
สามสาวหัวเราะพร้อมกันกะเสี่ยที่นั่งฟังด้วย ทิดมากเดินมายังที่โต๊ะแล้วพูดว่า คืนนี้ใครจะไปกับผม สามสาวตอบพร้อมกันว่า ฉั้นเอง จู่ๆพวกเธอก็ตบกันแย่งทิดมาก เสี่ยคนนั้นเอ่ยปากขึ้นว่า หยุดพอได้แล้ว ทั้งสามคนต้องไปกับผมในคืนนี้ สาวพูดว่าแกไม่ไม่ไดหล่ออย่ายุ่งไอ้แก่ เสี่ยตอบว่าไปได้แล้ว ผมคือยมทูตมารับวิญญาณพวกเอง ยมทูตหันไปมองทิดมากและชายเมาเหล้าสุคีบแล้วพูดว่า สุวรรณ(ทิดมากคือสุวรรณ)สุคีบจับตัวไปทั้งสามคนไปซะ
จบ				
comments powered by Disqus
  • Completely

    26 ตุลาคม 2549 08:52 น. - comment id 93158

    เป็นทรีตเมนต์ที่เขียนขึ้นมาเพื่อที่จะเอาไปทำเป็นหนังจริงๆรึเปล่าคะ?
    
    ขออนุญาตวิจารณ์นะคะ คิดว่า มุกยังแป้ก+เสื่อมอยู่ (แต่ก็ต้องทำใจว่าเป็นมุกที่ใช้กันประจำในหนังผีไทย แต่ก็เห็นได้ชัดว่าในนี้มีมุกที่คุณคิดเองเยอะมาก) คุณเขียนทรีตเมนต์ได้เห็นภาพ แต่ยังไม่ให้บรรยากาศ ว่าจะขำดี หรือจะแฝงความน่ากลัวไว้ดี ยำหนังผีหลายๆเรื่องเป็นไอเดียที่ให้ความรู้สึกเหมือนดู scary movie แต่คิดว่าคงไม่ค่อยเหมาะกับมุกแบบนี้นะคะ
    
    แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่เห็นการนำทรีตเมนต์มาเผยแพร่ให้อ่านกัน น่าสนใจค่ะ ขอบคุณนะคะ 
    
    สนใจแลกเปลี่ยนความคิดเรื่องหนังและละครก็แอดมาได้ค่ะ candyole@hotmail.com 6.gif
  • ไร้ตัวตน

    26 ตุลาคม 2549 11:34 น. - comment id 93159

    ขอบคุณที่ชี้แนะจ้า ผมเขียนเพื่อไปให้เพื่อนผมต่อยอดอีกที แต่เรื่องนี้ไม่ได้สร้าง เพราะมันมีหลายสาเหตุ ผมก็เลยเอามาแบ่งกันอ่านเล่นๆ ไม่อยากทิ้งเสียดายนิดๆ7.gif7.gif7.gif
  • ยายแม่มด

    26 ตุลาคม 2549 15:18 น. - comment id 93162

    โถ...อุตส่าห์มาแบ่งให่อ่าน  ยังเสียดาย
    
    อีกครบรสเชียวนะหวานๆ
    
    มันๆ  เค็มๆ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน