วินาศ(โลกของเรากำลังจะ............)

[ไร้ตัวตน]

วินาศ
	แสงอาทิตย์สาดส่องมาตั้งแต่เวลาตีสาม ค่ำลงเมื่อตอนสองทุ่ม เวลาของฤดูแล้งช่างยาวนานและอาจะนานถึงขั้นอาจจะมีแค่ฤดูร้อนเพียงอย่างเดียว ทั่วทั้งโลกขาดน้ำจืดมาอุปโภคและบริโภค น้ำแข็งจากภูเขาหิมาลัย น้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ละลายเนื่องจากสภาวะโลกร้อน น้ำจืดไหลลงมาประจบกับน้ำทะเลทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และสูงขึ้นเรื่อยๆ ประเทศศรีลังกา และเหล่าประเทศหมู่เกาะทั้งหลายกลายเป็นแค่อดีต เพราะทั้งประเทศจมอยู่ใต้มหาสมุทร บันดาเหล่านกน้อยนกใหญ่บินอพยพหนีความร้อนเข้าหาแหล่งน้ำ กลิ่นไอของความวินาศของโลกเริ่มบังเกิดก่อตัวขึ้น พื้นที่ราบสูงแห้งแล้งกลายเป็นทะเลทราย โรคระบาดใหม่ๆหลายโลกได้ถูกสร้างขึ้นโดยตัวของมันเอง ไม่มีการรักษาหรือยาตัวไหนรักษาได้ เฉดเช่นนิ้วมือของพระเจ้าที่บดขยี้เหล่าลูกๆของท่าน ความเจ็บปวด ความทุกข์ทรมาน ความหิวและการแกร่งแย่งมีให้เห็นไปทั่ว   เด็กน้อยไม่มีเสื้อผ้า ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลนอนอยู่ริมถนน ร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด ชายแก่ร่างกายผอมซีดนั่งเหม่อลอยจ้องมองแมลงวันโดยปราศจากความสนใจ แมลงวันเหลือบไรต่างรุมกัดกินซากคนและสัตว์ที่นอนล้มตายเกลื่อนถนน และศพลอยตามแม่น้ำอย่างเอร็ดอร่อย สัตว์ทุกตัวไม่เว้นแม้กระทั่งหนูตัวสกปรกและคางคกถูกนำมาเป็นอาหารของเหล่าพวกมนุษย์อย่างหิวโหย ผู้คนทุกคนต่างร่างหายผอมซีดเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก บ้างเดินไปเดินมาตามท้องถนน บ้างวิ่งไปมาอย่างไร้จุดหมายเพราะสติ บ้างนั่งเหม่อลอยขาดสติคุยกับตัวเองมีให้เห็น บ้านเมืองเต็มไปด้วยโจรผู้ร้ายที่ออกปล้นอาหารและน้ำดื่ม เสียงร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดหึ่งลอยมาตามสายลมร้อน ไม่มีร้านตัดผม ไม่มีร้านขายกาแฟ ไม่มีร้านขายอาหาร ร้านค้าทุกร้านปิดกิจการ เงินไม่สามารถชื้อทุกสิ่ง หมู่บ้านบางหมู่บ้านแทบไม่มีคนอาศัยอยู่เลย เพราะต่างหนีอพยพหาน้ำและอาหาร หรืออาจจะโดนโรคระบาดร้ายแรงฆ่าชีวิตทุกชีวิต อากาศร้อนแพร่ไปตามลม   ต้นไม้ใบหญ้าแห้งกรอบ   เกิดไฟป่าลุกลามไปทั่ว เกิดพายุหมุนน้อยใหญ่ ปลิวพลาสติก ฝุ่นผง ใบไม้ และไอร้อนแต่ละพื้นที่ ยุคของมนุษย์ที่เรียกตัวเองว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่ฉลาดที่สุด บัดนี้พวกเราได้เห็นความโง่ของตัวเองแล้ว ความฉลาดทางด้านเทคโนโลยีกลับกลายมาเป็นความโง่ที่บั่นทอนโลกให้วินาศ ทุกอย่างกำลังจะจบลง ตาแก่คนหนึ่งมองดูรูปที่ปลิวลอยมาตามลม ตกบนใบหน้าของแก มันเป็นรูปวาดของดอกไม้สัตว์ป่าและทุ่งหญ้าที่เขียวขจี  แกได้แต่มองดูพวกมันและฉงนคิดว่าสิ่งเหล่านี้มันคืออะไร แล้วซักพักแกก็ทิ้งรูปวาดนั้นลง ให้มันลอยปลิวไปตามลมและถุงพลาสติก ไม่นานเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ก็หายไปจากโลกใบนี้ เหลือเพียงวัตถุและความวินาศที่พวกเขาสร้างขึ้น โลกกลับมาหลับใหลอีกครั้ง เฉดเช่นยุคไดโนเสาร์ที่เป็นเพียงอดีตและฟอสซิสเหลือไว้ให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ขุดโชว์ตามพิพิธภัณฑ์ แต่บัดนี้ก็จะเป็นฟอสซิสสัตว์มนุษย์ผู้เยี่ยมยอดและชาญฉลาดเหลือไว้ให้เผ่าพันธุ์สัตว์ยุคอื่นๆไว้โชว์ตามพิพิธภัณฑ์เท่านั้นแล...				
comments powered by Disqus
  • ฉางน้อย

    30 สิงหาคม 2548 02:21 น. - comment id 86375

    .......อ่านแล้วน่ากลัวอ่ะค่ะ  23.gif23.gif
  • ไร้ตัวตน

    30 สิงหาคม 2548 22:40 น. - comment id 86396

    น่าน้อยใจจริงๆนะเขียนไปแล้วไม่มีคนอ่า สงสัยเรามันคงแย่ๆๆ แย่มากๆๆๆ10.gif10.gif10.gif10.gif10.gif10.gif
  • dark side of mind

    31 สิงหาคม 2548 22:25 น. - comment id 86412

    ก็เล่นเขียนไม่มีย่อหน้าเลย ..อ่านยากมากๆๆ
    
    ตาลายเลย..อิอิ   65.gif
  • ธรรมาภิวัฏ

    2 กันยายน 2548 01:54 น. - comment id 86415

    ตาลายยยยยยยยยยยย73.gif
  • คนหวังดี

    8 ธันวาคม 2550 12:09 น. - comment id 98548

    อยากให้คนไทยรูปจักใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้ค่มค่า    4.gif38.gif49.gif58.gif66.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน