::ตอนจบ ของเรื่องสั้น เรื่องนั้น::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

ก่อพงษ์  พงษพรชาญวิชช์
	27  เมษายน  2550
ตอนสุดท้ายของเรื่องเขียนจบหรือยังคะ   เพื่อนสนิทของผมถาม    เมื่อเราได้พูดคุยกันกับพรรคพวกไปแล้วนานพอสมควร   ผมกับพรรคพวกได้กลับมาพบเพื่อนสนิทของตนเองที่จากกันไปนานร่วม 20 ปีในงานวันคืนสู่เหย้านักเรียนม.6 รุ่นแรกของโรงเรียนประจำอำเภอเมื่อปลายเดือนมีนาคมนี้เองครับ
ผมหัดเขียนเรื่องสั้นในปีที่ 1  ที่เรียนต่อระดับอุดมศึกษา  แต่ความพยายามก็ไม่เป็นผล   คือขึ้นต้นเรื่องได้แต่เขียนต่อไม่ได้   สมุดบันทึกจึงเต็มไปด้วยเรื่องสั้นที่มีแต่ตอนต้นและตอนกลาง    เพื่อนสนิทของผมอ่านเรื่องสั้นที่ผมเขียนไปหัวเราะไป    เธอว่า      นี่อาจเป็นเรื่องสั้นแนวใหม่ที่ไร้ตอนจบ   กับว่า  อย่าหยุดเขียนนะ เธอจะติดตามทุกเรื่อง
ตอนเรียนชั้นมัธยม  ผมกับเพื่อนชอบวิชาภาษาไทยกันพอสมควร   เท่า ๆ กับศิลปะ   ส่วนวิชาอื่น ๆ ชอบในระดับปานกลาง  ที่เป็นเช่นนั้น  เพราะได้ลุยกับงานวิชาภาษาไทยที่ครูมอบหมายให้ทำเข้มข้นตลอดปี   ครูให้ทำอะไรบ้าง..   เยอะครับ  
อันหนึ่งที่ผมกับพรรคพวกพากันสนุกมาก  ภาษาของเราคือ   มันส์   คือทำแผ่นข่าวรายสัปดาห์   กิจกรรมนี้ครูให้เรียนรู้การทำข่าวทำหนังสือพิมพ์   โดยให้อุปกรณ์พวกกระดาษปรู๊ฟแผ่นใหญ่ ๆ   สี  กาว  คัตเตอร์   ปากกา  ดินสอ  และหนังสือพิมพ์เก่า   ๆ  กับบอกแนวคิดกว้าง ๆ ว่าให้พวกเธอตั้งสำนักหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์  กำหนดออกหนังสือติดแปะไว้ที่บอร์ดประชาสัมพันธ์ของโรงเรียนใต้ร่มไม้ใหญ่หลังอาคาร  1 หน้าอาคาร  2  ทุกเช้าวันจันทร์   ใครจะเป็นบรรณาธิการ หรือจะสลับกันเป็นก็ตามแต่จะพูดคุยกัน   งานนี้มีคะแนนให้คนละ 10  คะแนน       
เพื่อนสนิทของผมได้รับหน้าที่ในกองจัดทำหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์คนละคอลัมน์ครับ   ได้แก่ข่าวพาดหัวและรายละเอียดข่าว      ซุบซิบ   บทความ  เรื่องสั้น   ร้อยกรอง   วิชาการทันสมัย  และธรรมะสำหรับคนวัยมันส์     ผมรับหน้าที่คนวางบล็อก คือเอาเรื่องของแต่ละคนมาจัดลงในแผ่นกระดาษปรูฟให้ลงตัวเป๊ะ   จัดหัวหนังสือพิมพ์ให้เหมือนเดิมทุกสัปดาห์  ทำตัวไม้พาดหัวข่าวให้พอดีกับช่อง   ทำหัวคอลัมน์ให้ดึงดูดและคงเอกลักษณ์  เขียนการ์ตูนขำขันแซวนักเรียน ภารโรง ครู และ ผอ.   ทั้งหมดนั้นมีหนังสือพิมพ์ของจริงเป็นแบบ   คือเลียนทั้งลักษณะอักษร ลักษณะการจัดวาง   เพียงแต่ปรับเอาจากหลาย ๆ ฉบับมาเป็นฉบับที่ทั้งเพื่อนนักเรียน รุ่นพี่  รุ่นน้อง ภารโรง ครู และ ผอ. ต้องมารออ่านและแอบอ่าน  ให้พวกเราคนทำได้แอบปลื้มกับผลงานนั้น
เมื่อทำงานร่วมกันผมจึงได้รู้ว่าเพื่อนแต่ละคนมีความสามารถแพรวพราว   ใช้ภาษาได้เก่งเกินตัว    คล่องตัวในการค้นคว้าและเขียน   มีเหลี่ยมในการทำข่าวและเรียบเรียงให้ต้องติดตาม    กล้าคิด  กล้าถาม กล้าเถียง   และกล้าที่จะยอมรับความจริง      
แผ่นข่าวรายสัปดาห์ของเราได้รับการกล่าวขวัญถึงไปทั่วโรงเรียน   คนอ่านบางคนทำหน้างง ๆ   บางคนยิ้มและหัวเราะ   บางคนส่ายหัว ส่ายหน้าก็เรียก   หลายคนเขม่น   เพราะชังลีลายียวนของบางคอลัมน์  บางท่านชม    บางท่านชัง   เพราะไปเปิดเผยบุคลิกที่ท่านอุตส่าห์อำพรางไว้นาน    เมื่อคำวิจารณ์ว่า พวกนี้หัวแข็ง  ดื้อ    และแก่คิด  และเขียนแรงเกินไป  หนาหูขึ้น  หนังสือพิมพ์แผ่นรายสัปดาห์ก็ต้องปิดตัวลง  ก่อนกำหนด  แต่ครูก็ให้คะแนนพวกเราเต็มสิบทุกคน 
จากการประเมินผลโดยทีมงานอีกทีมหนึ่ง  เราได้ทราบจากแบบสอบถามที่ทำขึ้นว่า   ผู้อ่านร้อยละ  63  ชอบการพาดหัวข่าว   ร้อยละ  54  ชอบคอลัมน์ซุบซิบ   ร้อยละ  42   ชอบคอลัมน์ร้อยกรองที่เปิดโอกาสให้ผู้อ่านส่งกลอนมาลงได้   ร้อยละ 31  ชอบการ์ตูน   ร้อยละ   29   ชอบคอลัมน์วิชาการทันสมัย   ร้อยละ  25   ชอบธรรมะสำหรับคนวัยมันส์   ร้อยละ   9   ชอบเรื่องสั้น   ร้อยละ  56  ชอบการจัดรูปแบบของแผ่นข่าว   คะแนนเฉลี่ยของความพึงพอใจอยู่ที่ประมาณ   6  ส่วน 10 
ผมจำภาพการทำงานและภาพแผ่นข่าวพวกนั้นได้ติดตา   ในงานชุมนุมศิษย์เก่าหนนั้นผมบอกกับเพื่อนสนิทว่า  ผมชอบงานของทุกคน   สนุกกับการจัดเรื่องลงหนังสือ   และภาพหนนั้นผลักดันให้ผมเก็บหอมรอมริบจากการทำงานที่กรุงเทพฯเอาเงินมาตั้งสำนักพิมพ์เล็ก ๆ  พิมพ์หนังสือขาย   พรรคพวกพากันตาโตตื่นเต้นและขอดูหนังสือที่ผมพิมพ์   ผมกลับมาหยิบเอาหนังสือในรถไปให้เพื่อนดู   เขาถามว่าทำไมไม่เห็นหนังสือพวกนี้ในแผง   และทำไมไม่ใช้ชื่อจริง    ผมตอบพวกเขาไปว่า  ผมเร่ขายตามโรงเรียนไม่ฝากสายส่ง  เพราะสายส่งคิดเปอร์เซ็นต์จากยอดขายแพงเกินไปกับไม่จัดหนังสือให้ดึงดูด บางทีก็เอาไปซุกไว้ในมุมที่คนไม่ค่อยหยิบอ่าน   ส่วนเรื่องชื่อจริง    ผมยังอ้ำอึ้งเฉไฉไม่ยอมตอบพรรคพวก  ก็ไม่มีอะไรปิดบัง  เพียงผมกลัวมัน ไม่เวิร์ค
ตอนสุดท้ายของเรื่องเขียนจบหรือยังคะ
เรื่องสั้นที่เพื่อนที่สนิทที่สุดของผมถามถึง  เป็นเรื่องสั้นที่เราทั้งคู่เป็นนางเอกและพระเอก    ผมไปเยี่ยมเธอที่บ้าน   ช่วยเธอกับน้องและพ่อแม่ปักดำนา   ได้ไปดูหนังในงานวัดที่ต้องเดินไต่คันนาชื้นข้ามทุ่งด้วยกัน   เห็นเดือนเพ็ญเหนือทุ่งข้าวกลมโตงามแจ่มใจในเวลาเดียวกัน       ผมเขียนเรื่องสั้นนั้นไม่จบ   ค้างเรื่องไว้เพียงครึ่ง  เพราะเป็นเรื่องของผมกับเธอ    ที่มีอยู่ครึ่งเดียว
ยี่สิบปีผ่านไป   ผมได้นึกถึงเรื่องสั้นเรื่องนั้นอีกครั้งเมื่อได้อยู่ต่อหน้านางเอกของตนเอง   มันช่างละม้ายหนังบางเรื่องที่เคยดูในวัยเยาว์    
บางทีการจากก็ให้ความรู้สึกที่ดีกว่าการครองคู่     เพราะความรู้สึกที่งดงามจะไม่มีความหม่นหมองจากความโกรธเกลียดอันเนื่องมาแต่ความคาดหวังที่อีกฝ่ายไม่สามารถเป็นไปดังคาดเข้ามาทำลายความงดงามในสิ่งที่เรียกว่า ความรัก
ผมบอกเธอไปว่า
ตอนจบผมให้นางเอกกับพระเอกกลับมาครองคู่กัน  ในวันที่แต่ละคนอายุเข้าปูน  70    
เราทั้งคู่ต่างหัวเราะ  พรรคพวกคนอื่น ๆ ยังสนุกอยู่กับเพลงแบบซิงก์อะลองมากกว่าการพูดคุย  
เฮ่ย  ..   สองคนนั่น หัวเราะอะไรกันน่ะ    มาร้องเพลงดีกว่า   อย่าบอกนะว่าจะกลับมารักกันอีก     เพื่อนที่สนิทที่สุดของผมอีกคนหนึ่งแซว  ว่าแล้วก็ยื่นไมโครโฟนมาให้เราทั้งคู่
ผมจะเขียนตอนจบของเรื่องสั้นเรื่องนั้น   แบบนั้น   ดีไหมครับ				
comments powered by Disqus
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    29 เมษายน 2550 09:20 น. - comment id 71752

    สวัสดีครับมิตรของผม
    
             ผมเข้าใจเจตนาของคุณฉางน้อยครับ
    จิตใจดีงามมาก  ผมนับถือ    หนังสือวางแผงแล้วค่อยว่ากันอีกทีนะครับ   ยังไงผมก็ต้องขอ
    ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับความเอื้อเฟื้อที่จะมีต่อไปนั้น
    
    
                เรื่องสั้นของผมเขียนจวนเสร็จแล้วครับ   นางเอกเจียวไข่  รสขมเด็ดมาก  แหละ-ฮา
    
               รอพบกับวงรุ้งเลือนไปแล้ว  นะครับ
  • ฉางน้อย

    27 เมษายน 2550 12:18 น. - comment id 95875

    สวัสดีค่ะ คุณก่อพงษ์
    
    ........ว้าๆๆ ตอนเริ่มแรก ยังไม่ได้อ่านเลย
    
    โห ...จะให้อ่านตอนจบซะแระ 
    
    คิก คิก ....เดี๋ยวขอไปอ่านตอนแรกก่อนน๊า
    
    ( ชอบอ่านแนวง่ายๆแบบนี้คะ น่ารักดี อิอิ )
    
    46.gif46.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    27 เมษายน 2550 14:54 น. - comment id 95878

    ตอนต้นเรื่องย่อๆได้ว่า
    
    ผมเขียนเรื่องสั้นที่เราทั้งคู่เป็นนางเอกและพระเอก    ผมไปเยี่ยมเธอที่บ้าน   ช่วยเธอกับน้องและพ่อแม่ปักดำนา   ได้ไปดูหนังในงานวัดที่ต้องเดินไต่คันนาชื้นข้ามทุ่งด้วยกัน   เห็นเดือนเพ็ญเหนือทุ่งข้าวกลมโตงามแจ่มใจในเวลาเดียวกัน       ผมเขียนเรื่องสั้นนั้นไม่จบ   ค้างเรื่องไว้เพียงครึ่ง  เพราะเป็นเรื่องของผมกับเธอ    ที่มีอยู่ครึ่งเดียว คือผมหยุดหัวใจของผม   ด้วยเหตุผลบางอย่างของผมเอง  แล้วเป็นฝ่ายเดินจากมาโดยไม่หันหลังกลับไปอีกเลย
    
    
    ครับ
    
    
    
    เวลาผ่านไปได้กลับมาเจอกันอีก
    
    ก็
    
    
    เกือบเหมือนนิยายมั้งครับ
    
    
    อืม..
    
    
    คุณฉางน้อยครับ
    มีประกาศประกวดเขียนกลอน กาพย์ โคลง
    
    ที่praphansarn.com
    
    เข้าไปดูนะครับ
    น่าสนใจมาก
  • ฉางน้อย

    27 เมษายน 2550 15:04 น. - comment id 95879

    ขอบคุณนะคะคุณก่อพงษ์ ที่บอกกล่าว ข่าวสาร อิอิ
    
    คงได้แค่เยี่ยมๆมองๆแหละคะ
    
    ช่วงนี้ คิดไรยังไม่ออกเลย เฮ้อออออ
    
    .......... แต่เรื่องสั้นของคุณก่อพงษ์ก็น่าสนใจคะ อ่านแล้วเห็นธรรมชาติ ท้องนา ท้องทุ่ง น่ารักมากๆ 
    
    เฮ้อออออออ อยากเป็นนางเอกซะแระซิเรา 
    
    55555546.gif46.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    27 เมษายน 2550 15:08 น. - comment id 95880

    บอกผมนิดนึง
    ถ้าคุณฉางน้อยเป็นนางเอกนี่ว่ายน้ำเป็นไหม
    กลัวไส้เดือนไหม
    กินลาบได้หรือเปล่า
    และอาบน้ำบ่อแล้วแพ้ไหม
    
    
    บางทีเรื่องสั้นเรื่องต่อไป ผมให้คุณฉางน้อยเป็นนางเอกได้
  • ฉางน้อย

    27 เมษายน 2550 15:26 น. - comment id 95881

    ..... คุณก่อพงษ์คะ
    
    55555555 ขำตัวเองคะ 
    
    ว่ายน้ำไม่เป็นคะ แค่ท่าลูกหมาตกน้ำเอง เก่งๆ ค่ะ  555
    
    อ่อ เรื่องลุยๆ ฉางน้อยชอบคะ 
    
    เคยจับปลาในบ่อสมัยอยู่บ้านนอก 
    
    ลุยโคลนกะเตี่ยสองคน ชอบมากๆ
    
    เป็นบ่อนากุ้งน่ะค่ะ แล้วมีปลานิล ปลาต่างๆมากมา 
    
    มีปูตัวเล็กๆ ด้วย เตี่ยวิดน้ำ  ฉางน้อยก็ไล่จับปลาสนุกมากๆค่ะ
    
    เกือบไปจับเอาปลาดุกคะ เตี่ยดึงไว้ทัน ไม่งั้นโดนเงี่ยงปลาดุกแทงแล้วเจ็บคะ 
    
    .....(  ฮี่โร่ประจำใจเลยน๊า เตี่ยน่ะ )
    
    ไส้เดือนเหรอคะ เป็นเพื่อนกันค่ะ 
    
    เตี่ยขุดมาจากใต้ดิน แล้วนำมาเกี่ยวกับเบ็ดเพื่อตกปลา
    
    ตอนแรกๆ บอกว่า เตี่ยอย่าทำเลย สงสารไส้เดือน 
    
    ตอนหลัง บอกว่า อ่ะๆ เตี่ยๆ หนูหาไส้เดือนมาให้เตี่ยแระ  5555
    
    พี่สาวเห็นฉางน้อยจับไส้เดือน ร้องกรี๊ดด เลย คะ 
    
     บอกว่า พอกันเลยพ่อลูกคู่นี้ ไปเลย ไม่ให้กินข้าวแล้ว
    
     555555 เราสองพ่อลูกต่างมองหน้าแล้วหัวเราะคิกๆ
    
    อาบน้ำบ่อได้คะ ถ้าไม่คันซะก่อน 5555
    
    กินลาบไม่เป็นแต่กินน้ำตกเป็น 
    
    ( ไม่ชอบกินทะเล ไม่ชอบกินห้วยหนองคลองบึงคะ กินแต่น้ำตก ฮี่ ฮี่ ) 46.gif46.gif46.gif46.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    27 เมษายน 2550 15:32 น. - comment id 95882

    ฮ่าๆ
    
    
    
    
    อืม...แหม...เก่งกว่าที่ผมคาดอีก
    เป็นตั้งหลายอย่าง
    
    
    
    ถามอีกซักข้อสองข้อเป็นข้อมูลเขียนเรื่องสั้น
    
    กับข้าวง่าย ๆ แต่อร่อย ที่ทำกินเองบ่อยๆ บอกซักเมนูครับ
    
    กับ
    
    เคยดูลำซิ่งไหม
  • ฉางน้อย

    27 เมษายน 2550 15:48 น. - comment id 95883

    6...... คุณพงษ์ คะ 
    
    เรื่องหมอลำซิ่ง ไม่ค่อยมีให้ดูบ่อยหรอกคะ 
    
    เพราะโดนตำรวจจับไปเกือบหมดแล้วค่ะ
    
    ข้อหา ลำซิ่งงงงงง มากไปหน่อย 55555
    
    ( หมอลำซิ่งไม่เคยดูค่ะ จริงๆ เคยดูในทีวีค่ะ ) 
    
    อยากดูพยาบาลลำมากกว่า อิอิ 
    
    ....... เรื่องกับข้าว กับน้ำเหรอคะ โห อย่าให้พูดค่ะ
    
    พูดแล้วจะหนาว
    
    5555555555
    
     เมนูประจำของ ฉางน้อย คือ ไข่เจียวหมายิ้มค่ะ จริงๆ
    
    ...ไข่เจียว หมายิ้ม มีที่มานะคะ เรื่องจริงๆเลยคะ 
    
    ...... ก็ ฉางน้อยไม่ชอบทำกับข้าวนี่
    
    ทำไรไม่เป็นสักอย่างเดียว 5555
    
    เมื่อก่อน พี่สาวกะพี่ชายให้ ฉางน้อยเจียวไข่ให้ คนอื่น เขาก็ทำหน้าที่อื่นไงคะ
    
     ....เจียวเสร็จปุ๊บ  ฮี่ ฮี่ เอามาวางบนโต๊ะปั๊บ 
    
     เจ้าตูบเริ่มกระดิกหางแระ รู้ๆๆ ว่าเดี๋ยวเขาต้องได้กินของฟรีแน่เลย
    
     55555555 เป็นจริงดังหวังคะ 
    
    พี่สาวมาเห็น ร้องว๊ายยย ตายแล้ว นี่เหรอ ไข่เจียวฝีมือน้องเรา 
    
    555555 ดำก็ดำ ขมด้วย 
    
    ยี้..แหวะ.. ไม่น่ากินเลยค่ะ 
    
    (แม้แต่ ฉางน้อยก็ไม่กล้ากินคะ  555 )
    
    พี่ๆเลยไปเจียวใหม่ ซะเลย
    
    ....นี่คือ ที่มา ของ เมนูไข่เจียวหมายิ้ม อิอิ
    
    บอกแล้ววว ถึงเชลล์ ไม่ชวน ก็ชวนชิม 
    
    555555555
    
    สรุป..วันนั้น เจ้าตูบนอกบ้านก็ยิ้มซะคะ 
    
    เขาคงยิ้มในใจ  ..ฮี่ ฮี่ ของฟรีอีกแระเรา
    
    5555555( แต่ไม่ทราบว่าเขาจะกล้ากินไหม เนอะ )
    
    46.gif46.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    27 เมษายน 2550 15:54 น. - comment id 95884

    ฮ่า ๆ 
    
    ผมขอยืมนะ
    ยืมคำตอบของคุณฉางน้อยไปประกอบพล็อตเรื่องสั้น
    
    
    เอาชื่อไว้ก่อนนะครับ
    
    
    
    วงรุ้งเลือนไปแล้ว
    
    
    
    
    แล้วจะโพสต์ให้อ่านนะครับ
    
    
    ผมต้องขอตัวออกจากเน็ต
    ลงน้ำก่อนนะครับ
    ปลาที่จับไว้งวดก่อนหมดแล้วต้องจับขึ้นมาใหม่
    
    ใช้ข่ายดักเอาครับคราวนี้
    
    
    เดี๋ยวผมทำมื้อเย็นเผื่อครับ
    
    ชื่อเมนู  ลาบปลาคั้นมะนาว
    
    สวัสดีครับ
  • ฉางน้อย

    27 เมษายน 2550 16:10 น. - comment id 95886

    ..... รออ่านนะคะ 
    
    อยากทราบความหมายของเรื่องด้วยคะ 
    
    .. เริ่มง่วงเหมือนกัน ไปนอนก่อง อิอิ ...
    
    00340_5.jpg
  • กวีปกรณ์

    28 เมษายน 2550 02:35 น. - comment id 95895

    ทั้งเรื่องสั้น และการสนทนาตอบโตระหว่างคุณก่อพงษ์กับคุณฉางน้อย ทำให้ผมอมยิ้มราวกับได้อ่านเรื่องสั้นสองเรื่องแบบรวดเดียวจบ
    
    ผมก็มีเรื่องสั้นคับ ผมเริ่มเขียนตั้งตอนนั้นที่เขียนวาดไว้บนอากาศทั้งกลางวันและกลางคืน บางส่วนก็ถูกลบเลือนไปเหมือนความทรงจำ กว่าจะปะติดปะต่อได้ ก็กลับได้เรื่องสั้นเรื่องใหม่มาแทน
    
    อ่านแล้วยิ้มเล็ก ๆ มุมปากคับ ไม่ใช่เจ้าเล่ห์นะคับ แต่คิดถึงความรักเมื่อครั้งมัธยมปลาย หากเขียนนิยายได้ก็อยากเขียนคับ
    
    ขอบคุณที่แบ่งปันนะคับ 
    
    ปล. ขอสอบถามเรื่อง กวีนิพนธ์ ได้จัดส่งไปที่ ม.เชียงใหม่แล้วใช่ไหมคับ ไว้เปิดเทอมผมจะไปสืบค้นมาอ่านคับ
    
    ขอบคุณที่ความรักมีในใจใครต่อใครหลายคน
  • ฉางน้อย

    28 เมษายน 2550 04:06 น. - comment id 95896

    10.....สวัสดีค่ะ คุณกวีปกรณ์ 
    
    ขอบคุณนะคะที่แวะแอบอ่าน อ่อ ไม่ได้แอบซิเนาะ 
    
    อ่านกันซึ่งๆหน้านี่แหละคะ  55555
    
    ..... เมื่อกี้ ฉางน้อยเพิ่งนำเรื่องสั้นมาลงคะ 
    
    พิมพ์เสร็จรอบแรก ใส่ภาพที่ฉางน้อยหามาเอง  
    
    โห แทบร้องไห้คะ ใส่ไปแล้วเขาบอกว่า ภาพไม่ได้ขนาดที่กำหนด ให้ไปแก้ไขใหม่ 
    
    ผลปลากด เอ๊ย ปรากฎว่า ข้อความเรื่องสั้นหายหด เอ๊ย หายหมดเลยค่ะ 
    
    อึ้ง เลย แงงงงงงง แทบร้องไห้
    
    มีลูกฮึดสู้ต่อคะ   เขาบอกว่า กว่าเราจะได้ดีมักจะมีมารผจญ(ภัย) เนอะ 55555
    
    ....สรุปว่า ฉางน้อย นั่งพิมพ์ใหม่หมดเลยคะ 
    
    ( หากท่านใดเจอกรณีแบบฉางน้อย มีวิธีแก้ไขบ้างไหมคะ 
    
    ขอความกรุณาช่วยเด็กตาแดงๆด้วยเถอะคะ ...ตาแดง เพราะง่วงจัด )
    
    555555555
    
        .....แต่จริงๆนะคะฉางน้อยเป็นคนที่บ้า แปลกไปอย่าง  
    
    หากว่า ตั้งใจจะทำอะไรแล้วต้องทำให้ได้
    
    ส่วนเรื่องสัมฤทธิ์ผลหรือไม่นั่น ค่อยว่าอีกที
    
    ก็ดีกว่าไม่ได้ลงมือเลย จริงไหมคะ ?
    
    ..... ขอบคุณ คุณกวีปกรณ์ที่แวะทักทายยามวิกาล 55555546.gif46.gif
  • รักครั้งสุดท้าย

    28 เมษายน 2550 04:23 น. - comment id 95899

    เป็นเรื่องที่ดี มากๆเลยคะแต่ไม่ได้อ่านตอนแรกๆเลยเพราะเพิ่งเข้ามาเป้นครั้งที่สามครั้งนี้คะ
  • esso

    28 เมษายน 2550 04:37 น. - comment id 95901

    คุณก่อพงษ์ อย่าไปเชื่อฉางน้อยครับ ว่ากินลาบ
    
    ไม่เป็น เขาชอบกินลาบเลือดต่างหาก...
    
    20.gif20.gif20.gif20.gif20.gif20.gif
  • ฉางน้อย

    28 เมษายน 2550 04:49 น. - comment id 95903

    12.....สวัสดีค่ะ คุณรักครั้งสุดท้าย
    
    มาทักทายแทนคุณก่อพงษ์ เจ้าของเรื่องสั้นนี้น่ะค่ะ 
    
    สงสัยป่านนี้นอนพุงปลิ้นไปแล้วมั้งคะ  
    
    55555 คุณพงษ์คะ  ล้อเล่นๆ อย่างอนๆค่ะ46.gif
  • ฉางน้อย

    28 เมษายน 2550 04:52 น. - comment id 95904

    13......พี่เอส  เดี๋ยวเหอะ แกล้งน้อง บาปนะคะ
    
    คนพูดโกหก กลายเป็นพิน๊อคคิโอด้วยนะเออ..
    
    เคยเห็นป่าว นี่ไง  จมูกย๊าว ยาวด้วย  63.gif63.gif63.gif
  • มีน[า]

    28 เมษายน 2550 12:23 น. - comment id 95908

    ปกติเวลาผมจะ Port เรื่องสั้น ผมจะพิมพ์เก็บเป็นไฟล์ไว้ก่อนนะครับ อาจจะเก็บลง Word หรือ Notepad แล้วแต่สะดวก แล้วค่อย Copy มาอีกต่อหนึ่งระครับ
  • ฉางน้อย

    28 เมษายน 2550 13:16 น. - comment id 95910

    16..... สวัสดีค่ะ คุณมีน(า)
    
         ขอบคุณที่ให้คำแนะนำที่ดีๆนะคะ
    
    ฉางน้อยฉลาดน้อยไปนิ๊ดดดดดด
    
     ฮื่อ..นิดเดียวจริงๆนะคะ
    
         ฉางน้อยลืมคิดถึงเรื่องแบบนั้นไปถนัดใจเลย 
    
            ได้คะ วันหน้าฉางน้อยจะลองทำตามที่คุณมีน(า)แนะนำนะคะ
    
           ขอบคุณๆๆค่ะ 
    
    ...... ขอบคุณที่แวะทักทายค่ะ
    
    ( เจ้าของกระทู้ คุณก่อพงษ์ ยังไม่ตื่นซะกะละมัง เอ๊ย   ซะกระมัง)
    
    ล้อเล่นๆค่ะ อิอิ 46.gif46.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    28 เมษายน 2550 16:12 น. - comment id 95926

    สวัสดีครับคุณฉางน้อย
    คุณ กวีปกรณ์ 
    คุณรักครั้งสุดท้าย
    คุณesso
    คุณมีน[า] 
    และมิตรนักอ่านท่านอื่นๆด้วยครับ
    
    
    เมื่อคืนผมเข้านอนแต่หัววันเพราะรุ่งขึ้นต้องขับรถทางไกล
    
    แฟนผมได้รับคำสั่งให้พาเด็ก ๆ ไปปฏิบัติธรรม  3 วัน   ผมต้องทำหน้าที่พลขับ ส่งและรับกลับครับ  เลยไม่ได้เข้ามาอ่านและเขียน
    
    นอนหลับสบายมากเลย
    ฝันว่าเดินทางไปเที่ยวภูเขา ระหว่างทางเห็นเหรียญดอลลาร์อเมริกันหล่นอยู๋ตามถนนหนทางแยะเลยครับ  ได้หยิบมาดูหลาย ๆ เหรียญครับ   ผมเล่าเรื่องฝันให้แฟนฟัง เธอว่า สงสัยคุณจะได้โกอินเตอร์  ผมหัวเราะ  ต่อคำทำนายของฟอร์จูนเทลเล่อร์ระหว่างอาหารมื้อเช้าครับ     
    
    
    ผมเพิ่งกลับมาจากสำนักปฏิบัติธรรมวังสวนกล้วย อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร ครับ   สถานที่ควรแก่การฝึกอบรมจิตอย่างยิ่ง   ผมโชคดีมากที่ได้ไปที่วัด ของพระอาจารย์หงษ์  อริยวังโส แห่งนั้น   อยู่หลังที่ว่าการอำเภอกุสุมาลย์ตรงไปทางใต้ประมาณ 3.5 กิโลเมตร    
    
    ขอร่วมอนุโมทนาในกุศลที่ผมได้พบเห็นเยาวชนฝึกจิตปฏิบัติธรรมครับ
    
    
    คุณฉางน้อยครับ
    
    ตัวละคร นางเอกชื่อ วงรุ้งครับ
    พระเอกชื่อ  สายฟ้าครับ
    อีกคนให้ชื่อธนา
    
    พล็อต ไม่บอก
    
    เดี๋ยวผมคงได้โพสต์วันสองวันนี้แหละครับ
    
    ขอบคุณคุณ esso และคุณมีน[า] ด้วยครับ
    ที่เข้ามาพูดคุยด้วย  ทำให้ได้รสของการพูดคุย
    สนุกไปอีกแบบ  เวลาผมโฑต์เรื่องสั้นก็ใช้แบบที่คุณมีน[า] ว่าเหมือนกันครับ  
    
    
    คุณกวีปกรณ์ครับ
     กล่อมขอบแคว้น  ผมส่งไปแล้วครับ
    ถึงห้องสมุด มช. 1 เล่ม
    และเรียนท่านอธิการ มช.อีก 1 เล่ม เพื่อมอบต่อและความอนุเคราะห์ท่านช่วยประชาสัมพันธ์การจัดจำหน่ายให้ด้วยครับผม
    
    ผมส่งไปมหาวิทยาลัยต่าง ๆ หลายแห่งครับ
    ทั้งรามคำแหง  จุฬาฯ ธรรมศาสตร์ มข.  มช.
    ม.อุบล , ม.ราชภัฏฯ , ม.สงขลานครินทร์ , ม.แม่โจ้ , ม.เกษตรศาสตร์ ,  ห้องสมุดสำนักพิมพ์มติชน ,  เนชั่น , สยามรัฐ  , ผู้จัดการ โรงเรียนต่าง ๆ  วัด ต่าง ๆ รวมทั้งคนที่เคารพบูชาอีกหลายท่าน   เพื่อขอบารมีท่านประชาสัมพันธ์ให้น่ะครับ   เผื่อว่าเมื่อผมพิมพ์รวมเรื่องสั้นจำหน่าย   ก็จะพอดีกับที่คนรู้จักชื่อ
    ก่อพงษ์  พงษพรชาญวิชช์เยอะแล้ว
    
    ผมเป็นวิญญาณเร่ร่อนในโลกวรรณกรรมนานแล้วอยากเกิดกับเขาบ้างน่ะครับ-ฮา
    
    
    
    คุณกวีปกรณ์ได้ยิ้ม  ผมก็ดีใจด้วยครับ
    มิตรภาพของคนที่ไม่จำเป็นต้องรู้จักหน้า
    หากรู้ใจ  เป็นสิ่งที่ทำให้โลกของเราไม่เหงา
    จนเกินไป
    
    
    เดี๋ยวผมเข้ามาคุยด้วยอีกนะครับ
    
    
    
    ดูเหมือนฟรีเน็ตจะหลุดไปแล้ว
  • ฉางน้อย

    28 เมษายน 2550 17:27 น. - comment id 95927

    18..... คุณก่อพงษ์คะ
    
    .. กล่อมขอบแคว้น ..รู้สึกน่าสนใจจังค่ะ
    
    วางแผงยังไง ที่ไหนบ้าง  ยังไงก็กรุณาบอกรายละเอียดด้วยนะคะ 
    
    (แต่แหม อยากได้ลายเซ็นหลิวเต๊อะหัว อ่อ ลายเซ็นคุณก่อพงษ์ด้วยซิคะ  555 )
    
    .....วงรุ้ง เป็นนางเอก เอ เป็นไงน๊า เดาไม่ออก 5555
    
        คุณลองอ่านเรื่องสั้น บทเพลงแห่งรัก แล้ววิจารณ์ให้หน่อยนะคะ 
    
    อยากรู้ว่าต้องแก้ไขอะไรอย่างไรตรงไหนบ้าง
    
    ....... ฉางน้อยบอกตรงๆ ฉางน้อยเขียนไปแบบไม่มีแนวเลยคะ 
    
    ไม่มีโครงสร้างโครงร่างเลย  ไม่ได้ยึดหลักเกณฑ์ของการเขียนเรื่องสั้นเลย
    
    ..... ฉางน้อยแค่ คิด อยากเขียนก็เขียน ลงมือเขียนตอนนั้นเลย
    
     ภาษาที่ใช้ก็ไม่ได้ผิดแผก ไม่สละสลวยเท่าที่ควร
    
    ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนะค่ะ
    
    ( ฉางน้อยเคยไปที่ศูนย์ปฎิบัติธรรมที่ จ.นครปฐมด้วยคะ 
    
    เป็นธรรมชาติมากๆ ทุกคนที่นั่น อาศัยอยู่กันเป็นครัวเรือนเลยค่ะ
    
    การแต่งกายของคนในชุมชนแห่งนั้นใช้เสื้อผ้าชุดสีน้ำเงินเหมือนกันหมดค่ะ 
    
    ปลูกผักแบบชาวบ้านๆ หากินกันเอง ที่เหลือก็ขายส่งตลาดแถบนั้นค่ะ 
    
    ขออภัย จำชื่อ ไม่ได้คะ ชื่ออะไรน๊า 
    
    สำนักธรรมอโศก หรือเปล่าน๊า จำไม่ได้คะ
    
    ถ้าจำชื่อได้จะกลับมาบอกอีกครั้งค่ะ )
    
    .....คุณก่อพงษ์ชอบพูดว่าตัวเองจังนะคะ กับคำว่า 
    
    เป็นวิญญาณเร่ร่อนในโลกวรรณกรรม
    
    ฉางน้อยไม่อยากคิดแบบนั้นค่ะ
    
    บอกแล้ว อย่าเอาตัวเราเองไปเปรียบกับคนอื่นซิคะ
    
         สักวันหนึ่งคุณคงได้โกอินเตอร์จริงๆคะ 
    
    เอาใจช่วยนะคะ
    
      และหวังว่าคงไม่ลืมเพื่อนคนนี้ที่อยู่ในโลกไซเบอร์แห่งนี้นะคะ
    
    คุณโกอินเตอร์ไปแล้ว  ฉางน้อยก็เร่ร่อนแทนคุณละมั้งคะ  5555555
    
    
    
    
    
    46.gif46.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    28 เมษายน 2550 21:01 น. - comment id 95938

    สวัสดีครับคุณฉางน้อย
    
    
    ผมเข้าไปอ่านและเขียนคอมเม้นต์ในกระทู้%%..บทเพลงแห่งรัก..%% แล้วนะครับ   คุณฉางน้อยมีอารมณ์ขันเยี่ยมยอด  เล่นคำ  เล่นกับคำได้ตลอดเวลา  ทำให้น่าติดตามว่าบรรทัดต่อ ๆ ไปจะเจอมุขอะไรอีกบ้าง  ก็เพลินดีครับ   ขณะอ่านมีความรูสึกเหมือนฟังเพื่อนคุย เหมือนผมฟังคุณฉางน้อยเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ ซึ่งก็เกี่ยวพันกันไประหว่างสภาพหรือบรรยากาศขณะนั้นกับเรื่องที่พูดถึง  เป็นลีลาเฉพาะตัวครับ  อย่าหยุดเขียนนะครับ  
    
    
    
    สถานที่ที่คุณฉางน้อยพูดถึงคือชุมชนปฐมอโศกหรือเปล่าครับ   ผมเคยสัมผัสชุมชนสันติอโศกนิดหน่อยตอนไปทำงานอยู่แถว อ.ไพศาลีนครสวรรค์ ตอนหลัง ๆ ก็ห่างเหินไป
    
    เรื่องวิญญาณเร่ร่อน อะไรนั่น
    ผมขอบคุณคุณฉางน้อยที่ติงนะครับ
    
    
    จะโกอินเตอร์หรือไม่โก
    ผมคิดว่าผมไม่ใช่คนลืมกำพืดหรือชาติกำเนิดของเจ้าของครับ  กับผมไม่มีวันที่จะลืมเพื่อน
    ผมไม่คิดจะลืมคุณฉางน้อย   มิตรที่มาพูดคุยด้วย ทำให้ผมมีความรู้สึกชื่นหัวใจ   มีชีวิตชีวา
    
    
    และหากผมยังเขียนหนังสือต่อไป
    หรือยังเข้ามาในไซเบอร์สเปซ
    ผมก็หวังว่าจะได้พูดคุยกับคุณฉางน้อย
    และมิตรคนอื่นๆของผมอีก
    
    ผมมีความสุขจังครับ
    
    มิตรของผมคงมีหัวใจที่ชื่นเย็นเช่นเดียวกับผม
    
    เราจึงพูดคุยกันได้เสมอ
    
    
    ผมขอออกจากเน็ตไปเขียนเรื่องสั้น
    
    วงรุ้งเลือนไปแล้วให้จบ
    
    
    อ้าวลืมใตอบคำถามเรื่อง 
    กล่อมขอบแคว้น  กวีนิพนธ์ที่ผมส่งประกวดซีไรต์ปี 2550
    
    ยังไม่วางขายนะครับ
    
    ยังมอบให้ห้องสมุดมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ยังไม่ครบ  โรงเรียนก็ยังอีกเยอะ
    
    คือต้องแนะนำตัวก่อนครับ
    
    ไม่งั้น  ขายก็ไม่มีใครซื้อ
    
    
    ก่อพงษ์  พงษพรชาญวิชช์ เป็นใครก็ไม่รู้  โนเนมสิ้นดี-ฮา
    
    
    เมื่อมอบให้ห้องสมุด แนะนำตัวซักช่วงหนึ่งผมคงฝากสายส่งขายครับ
    
    
    ถ้าคุณฉางน้อยอยากได้
    แจ้งที่อยู่ถึงผมซิครับ  ที่
    
    gorbhonggp@yahoo.com
    
    ผมจะส่งมาให้ เพื่อขอให้คุณฉางน้อยช่วยแนะนำต่อด้วย ประชาสัมพันธ์ต่อ ๆ ไปด้วย
    
    ผมขอบคุณล่วงหน้าไว้เลยนะครับ
  • ฉางน้อย

    28 เมษายน 2550 23:39 น. - comment id 95947

    20.....สวัสดีค่ะ คุณก่อพงษ์
    
        ฉางน้อยได้อ่านคอมเม้นท์ และ อ่านคำตอบของคุณในนี้แล้ว สบายใจค่ะ
    
    ขอบคุณที่พูดคุย ทักทาย รวมทั้งบอกกล่าว ความเป็นตัวเองของฉางน้อยให้ฟัง
    
         นี่แหละคะ ฉางน้อยถึงคิดว่าไงคะ
    
    คิดว่า ตัวเราเอง มองตัวเองไม่ออกหรอกค่ะ
    
    ตัวเราต้องมีกระจกส่องสะท้อนสื่อให้เห็นตัวเราเอง
    
          กระจกที่ว่าก็คือ เพื่อน คนรอบข้าง ที่เขาสามารถที่จะบอกเราได้ไงคะ
    
    กระจกที่สามารถบอกได้ว่า ตัวเราเป็นยังไง  นิสัย การเขียน ยังไง  หลายอย่างคะ
    
             ขอบคุณ คุณก่อพงษ์นะคะที่เป็นกระจกส่องสะท้อน ให้รู้ว่า ฉางน้อยนั้นเป็นเช่นไร 
    
        ฉางน้อยไม่อยากส่องกระจกมองตัวเองคะ 
    
    ส่องทีไร เห็นตัวเอง เป็นซินเดอเรล่าทุกที
    
    5555555555  
    
    เฮ้ออ..กลุ้มใจจังคะ อิอิ
    
    
    ..... บางเรื่อง บางอย่าง ฉางน้อยพยายามที่จะให้เศร้าๆๆๆ แต่พอทำจริงๆ กลับไม่ได้ดั่งใจค่ะ
    
           อ่านที่คุณก่อพงษ์เขียนแล้ว มีกำลังใจขึ้นเยอะค่ะ ขอบคุณๆๆนะคะ
    
           มีพี่คนหนึ่งเขาพูดเหมือนคนก่อพงษ์คะ ว่า......
    
        สไตล์การเขียนของฉางน้อย ง่ายๆ สบายๆ 
    
    อ่านแล้วยิ้มได้ บทสนทนาก็เหมือนใช้คำธรรมดาๆ
    
     สื่อออกมาแบบง่ายๆ ตรงๆ ไม่ต้องตัความหมายให้ยุ่งยาก
    
       พี่คนนั้นก็แนะนำว่า ให้เขียนต่อไป 
    
    แต่บางที ก็เหมือนคิดอะไรไม่ออกค่ะ
    
    ต้องเงียบจริงๆ ถึงจะคิดได้ เขียนได้
    
    .........อ่อ ใช่แล้วคะ ชุมชนปฐมอโศกนั่นเองที่
    
    ฉางน้อยไปแวะเวียนมา แถวนครปฐม 
    
    ฉางน้อยขี้ลืมคะ 5555 ยังไม่แก่สักหน่อย เนอะ อิอิ 
    
    ( เรื่องอะไรจะยอมรับว่า ตัวเอง แก่ เนอะ อิอิ )
    
    
    ........... ขอบคุณ คุณก่อพงษ์นะคะ ที่มีความตั้งใจจริง ที่จะส่งหนังสือ ให้ ฉางน้อย
    
    คุณก่อพงษ์คะ อย่าหาว่า ฉางน้อย หยิ่ง หรือ จองหองนะคะ
    
    ฉางน้อย ไม่อยากรบกวนคุณหรอกคะ 
    
    ( ทั้งๆที่ใจจริง อยากได้ 555555)
    
            ฉางน้อย รอคุณวางแผงก่อนดีกว่านะคะ   คงไม่ว่ากันนะคะ 
    
    จริงๆนะคะ ฉางน้อยเป็นคนที่เกรงใจคนมากๆ 
    
    ยิ่งของฟรี ยิ่งสงสารคนที่จะส่งมาให้เราคะ
    
    ทราบค่ะ ว่าคุณไม่คิดอะไร ต้องการให้ด้วยใจ
    
    แต่ ฉางน้อย คิดว่า โรงเรียนต่างๆยังต้องการอีกมากนะคะ
    
    คงมีอีกหลายที่ ที่เขามีความจำเป็นต้องใช้หนังสือที่คุณจะส่งให้
    
         อยากให้คุณก่อพงษ์ส่งให้ที่ต่างๆให้เสร็จเรียบร้อยก่อนนะคะ 
    
      ถ้าคุณทำแบบที่ ฉางน้อยพูด ฉางน้อยจะสบายใจไปด้วยค่ะ 
    
        ฉางน้อย คิดถึงใจเขา ใจเราคะ คนที่มีความจำเป็นกว่า ฉางน้อยมีอีกเยอะค่ะ 
    
    ....... คุณก่อพงษ์อย่าเข้าใจผิดนะคะ 
    
    รอให้คุณวางแผง แล้วจะขอลายเซ็น อิอิ 
    
    (  หวังว่า คุณก่อพงษ์คงเข้าใจเจตนาที่ฉางน้อยพูดนะคะ อย่าคิดเป็นอื่น )
    
    
            เตี่ยก็เคยพูดบ่อยคะเรื่อง 
    
    คุณค่าของความเป็นคนต้องไม่ลืมบรรพบุรุษ พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเรามา
    
     ต้องไม่หลงลืมตัว ไม่ลืมกำพืดตัวเอง
    
    อย่าลืมบุญคุณคน คนที่คอยให้ความช่วยเหลือเรามา 
    
    หากเราลืมสิ่งเหล่านี้แล้ว จะไม่มีโอกาสเจริญก้าวหน้าได้ 
    
    .......จะรออ่านคะ วงรุ้งเลือนไปแล้ว
    
     รอลุ้นๆๆๆ 5555 46.gif46.gif
  • ฉางน้อย

    29 เมษายน 2550 13:00 น. - comment id 95951

    22.....สวัสดีค่ะ คุณก่อพงษ์
    
       ดีใจ แล้วก็ขอบคุณมากๆที่เข้าใจฉางน้อย 
    
    แน่นอนคะ รอวันหนังสือวางแผงคะ จะไปอุดหนุนแน่นอนค่ะ 
    
    (หนังสือของแท้ของคุณกพ.ต้องมีโลโก ข้าวเหนียวมะม่วงติดบนปกคะ อิอิ (
    
    (ยกมาแซวเล่นๆค่ะ เห็นรู้สึกว่าชอบทานจัง ข้าวเหนียวมะม่วง 5555 )
    
    .......หิวข้าวแล้วคะ ออกไปเจียวไข่ 
    
    อ่อ ไม่ดีกว่า ออกไปกินข้าวที่ร้านดีกว่า ปลอดภัยกว่าเจียวเองเยอะ 
    
    555555 
    
        แล้วว่างๆแวะทักทายอีกคะ  46.gif46.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    29 เมษายน 2550 19:30 น. - comment id 95959

    สวัสดีครับ
    
    ผมใช้โลโก้ดอกราชพฤกษ์ไปแล้ว
    
    ถ้าไม่ใจร้อนไปหน่อยผมคงได้ใช้โลโก้ ข้าวเหนียวมะม่วง ที่คุณฉางน้อยแนะนำ
    
    ฮา
  • ฉางน้อย

    29 เมษายน 2550 20:14 น. - comment id 95967

    24.....สวัสดีค่ะ คุณก่องพงษ์ 
    
    ว้าๆๆ เสียดายจัง อดที่จะได้เห็นโลโกแปลกตาไปเลย อิอิ ข้าวเหนียวมะม่วง
    
    งั้น ไม่เป็นไรคะ โอกาสหน้ายังมี 
    
    รอเล่มต่อๆๆๆๆไปของคุณแล้วกันนะคะ
    
    .....ดอกราชพฤกษ์ เหรอคะ พอจะรู้จักคะ 
    
    แต่ไม่ค่อยชำนาญเรื่องดอกไม้ ต้นไม้สักเท่าไหร่นักคะ
    
    พี่ชายฉางน้อยซิคะ ชอบมากกับพวกกล้วยไม้ ดอกไม้ หามาปลูกประดับบ้านเยอะแยะไปหมด 
    
    พี่ชายฉางน้อยชอบดูต้นไม้ ดอกไม้
    
    น้องสาวก็บ้าดูมวย กะเตี่ย
    
    ยิ่งถ้าเป็นมวยชิงแชมป์โลกแล้วไม่มีพลาดคะ
    
    พี่สาวก็ระอา ส่ายหน้าบอกว่า บ้าพอกันทั้งพ่อลูก 5555555
    
    ฝนตกหนักมากคะวันนี้ อากาศดี เย็นสบาย น่านอนคะ
    
    ( เรื่องวงรุ้ง ฯ ไม่ต้องรีบนะคะ
    
     ไม่ได้มาทวง แค่ถามเฉยๆ  55555 )46.gif46.gif
  • ก.พ.

    29 เมษายน 2550 20:38 น. - comment id 95969

    เมื่อกี้ไฟดับนานเลยครับ
    ต้องจุดเทียน
    
    ก็ดีเหมือนกันที่ไฟดับพอดีได้เวลาขึ้นไปห้อพระนั่งสมาธิยาวเลย สวดมนต์แผ่เมตตาแล้วก็พอดีไฟมา
    
    
    อยู่บ้านคนเดียวครับตอนนี้
    อากาศเย็นลงบ้าง
    
    
    เรื่องวงรุ้งฯ
    รับทราบครับผม
  • ตุ๊กตาไล่ฝน

    29 เมษายน 2550 21:00 น. - comment id 95970

    จ๊ะเอ๋ สวัสดีค่ะคุณก่อพงษ์ คุณฉางน้อย
    
    ไม่ได้แอบนะคะ...กะเข้ามาอ่านเฉยๆ อิอิ
    
    เหมือนที่คุณๆ ข้างบนว่าไว้เลยค่ะ
    อ่านบทสนทนาของคุณสองคนแล้วรู้สึก
    เหมือนได้อ่านเรื่องสั้นย่อๆ และทำให้
    บัวอ่านไปได้อมยิ้มไปด้วยค่ะ ^_____^
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    29 เมษายน 2550 21:42 น. - comment id 95972

    ทักทายคุณตุ๊กตาไล่ฝนครับ
    
    ดีใจที่ได้พบกันในนี้อีกครับ
    
    ผมเข้าไปโพสต์เรื่องสั้นในpraphansarn.com
    หลายเรื่อง  ในนั้นมีเพื่อนนักอ่านนักเขียนที่จริงจังหลายคน ให้คำแนะนำกันด้วยไมตรีจิต
    ผมชื่นชมสปิริตนี้จริง ๆ ครับ  คุณตุ๊กตาไล่ฝนเคยแวะเข้าไปใช่ไหมครับ  praphansarn.com ก็มีคอลัมน์ มีบอร์ดน่าอ่านเยอะ   ได้ความรู้ด้านวรรณกรรม  บางทีก็มีนักเขียนมีชื่อเข้ามาพูดคุยด้วย   ก็ได้ความรู้สึกดีๆ ครับ  
    
    
    คุณฉางน้อยนี่คุยเก่งนะครับ
    เขียนเรื่องได้น่าอ่านด้วย
    
    ท่าทางจะมีอนาคตไกลทางด้านการเขียน
    
    คือผมสังเกตที่มุขนะ
    ถ้ามุขเยอะนี่ก็เขียนได้นานล่ะ
    
    
    คุณตุ๊กตาไล่ฝนสบายดีนะครับ
  • ฉางน้อย

    29 เมษายน 2550 23:10 น. - comment id 95974

    26..... อ๋อ ..ไฟดับ ด้วยเหรอคะที่บ้านคุณ
    
     เฮ้อออออออ......น่าจะไปดับแถว 3 จ.ภาคใต้นะคะ 
    บ้านเมืองจะได้สงบสักที 
    
    ( ขออาสาสมัครดับไฟใต้คะ อิอิ )46.gif46.gif
  • ฉางน้อย

    29 เมษายน 2550 23:14 น. - comment id 95975

    27.....สวัสดีค่ะ คุณตุ๊กตาไล่ฝน
    
    ฝนตกหนักมาๆเลยคะ น้ำท่วมซอยแล้วด้วย
    
    ขอแรงมาช่วยไล่ฝนหน่อยได้ไหมคะ อิอิ
    
    .......อ่านแล้วอย่าถือสาความบ้าๆบอๆของฉางน้อยเลยคะ
    
    ก็เรื่อยๆเปื่อยๆแบบนี้แหละ 
    
    ความบ้ายังมีอีกเยอะค่ะ 
    
    สร้างวีรกรรมไว้มาก 5555555
    
    อายจัง อิอิ 46.gif
  • ฉางน้อย

    29 เมษายน 2550 23:20 น. - comment id 95976

    28.....ขอบคุณ คุณก่องพงษ์ที่ให้กำลังใจกันอีกแล้ว
    
    เฮ้อออออ.....สำหรับฉางน้อย ไม่เคยใฝ่ฝันเลยคะ ว่าจะได้เขียนหนังสือ 
    
    หนทางยังริบหรี่ๆๆ อิอิ
    
    เหมือนแสงหิ่งห้อยมิกล้าไปเทียบแสงนิออนในเมืองหลวงได้หรอกคะ 
    
    555555( เกี่ยวกันไหมเนี่ย)
    
    ประพันธ์สาร ฉางน้อยก็เคยแว่บๆเข้าไปอ่านคะ
    
    แต่บอกตรงๆ เหมือนตัวเราเป็นหิ่งห้อยเลยนะคะ
    
    ไม่กล้าเทียบเปล่งแสงกับดวงจันทร์ค่ะ
    
    ..... ขอบคุณที่ชมว่า ฉางน้อยคุยเก่ง 
    
    เก่งแต่ปากหรอกคะ  5555
    
    จริงๆแล้วไม่ได้เรื่องอะไรสักอย่าง
    
    ( พี่ชายบอก)5555555
    
    ก็อย่างเวลาที่ ฉางน้อยคุยกับคุณกพ.หรือว่าคุยกะใครๆก็ตาม
    
    เหมือนฉางน้อยพูดมาก มีน้ำเยอะไงคะ อิอิ
    
    ......46.gif46.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    30 เมษายน 2550 00:06 น. - comment id 95977

    อืม..
    ไฟใต้นั่นนะ..
    
    
    
    ------------------------
    
    ผมเริ่มโพสต์วงรุ้งตอนแรกแล้วนะครับ
    
    จะลงเป็นตอน ๆ แบบนักเขียนใหญ่น่ะ
    
    คุณฉางน้อยวิจารณ์ให้ผมด้วยครับ
  • ฉางน้อย

    30 เมษายน 2550 00:21 น. - comment id 95979

    32.............รับทราบขอรับกระผม นักเขียนหญ่ายยยยยยยยย  ฮี่ ฮี่46.gif
    
    ... ขอออกตัวก่อนนะคะว่า เป็นนักอ่านที่ดีได้
    
    แต่วิจารณ์งานใครไม่เป็นคะ 
    
    เพราะไม่เคยมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องสั้นเลย
    
    รู้แต่ว่า  ชอบอ่าน  อยากเขียน ก็เขียน
    
    ไม่ได้คำนึงถึงโครงสร้างอะไรเลย
    
    เฮ้อออออ.แย่จังนะคะ
    
    ...ไปคุยที่ วงรุ้งฯนะคะ ที่นี่คงหายไปหน้าสองแล้วค่ะ46.gif46.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    30 เมษายน 2550 00:32 น. - comment id 95981

    ครับเดี๋ยวไปคุยต่อที่วงรุ้งฯ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน