“เราจะพบเจอกัน. . .ในวันดอกไม้บาน”

แม่มดน้อยค่ะ

"เ ร า จ ะ พ บ เ จ อ กั น .   .   . ใ น วั น ด อ ก ไ ม้ บ า น"
   เธอร้องไห้ทำไม 
น้ำอุ่นหยุดเสียงสะอื้นพลางยกมือขึ้นปาดหยดน้ำตาที่กำลังไหล เมื่อได้ยินเสียงของใครคนหนึ่ง เธอเหลียวมองรอบตัว แต่ก็ไม่เจอใคร  จึงคิดไปว่าเธอคงจะหูฝาดไปเท่านั้น
   อย่าร้องไห้ไปเลยนะ
เสียงนั้นยังเป็นเสียงเดิมที่เธอได้ยินครั้งแรก เธอจึงรู้ว่าไม่ใช่แค่หูฝาดไปแน่ๆ แต่มีคนพูดกับเธอจริงๆ
   ใครหน่ะ ออกมานะ
น้ำอุ่นเป็นฝ่ายพูดบ้าง เธอหันไปมองรอบๆ ตัวของเธออย่างระแวง แต่ก็ไม่พบใครเลย เพราะที่นี่เป็นทุ่งหญ้ากว้าง มีแค่ต้นไม้ใบหญ้าและนกตัวเล็กๆ เท่านั้น
   ถ้าไม่ออกมาจะร้องไห้จริงๆนะ. . .
เธอไม่ได้แค่ขู่แต่ส่งเสียงร้องลั่นออกมาจริงๆ ด้วย
   พอแล้วๆ. . .ฉันอยู่นี่ มองขึ้นมาบนต้นไม้ซิ
        น้ำอุ่นทำตามคำสั่งของเสียงนั้น และเธอก็มองเห็นที่มาของเสียงจริงๆ เป็นเด็กผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอ ในชุดสีขาวสะอาดตา ดวงตากลมโตสีครามคล้ายท้องฟ้า ปากเล็กแดงคล้ายเด็กผู้หญิงค่อยๆ เผยเป็นรอยยิ้มให้กับเธอ 
   วันนี้มีเรื่องอะไรไม่สบายใจเหรอ
เขาถามเมื่อกระโดดลงจากต้นไม้และมายืนอยู่ตรงหน้าเธอ
   เธอรู้ได้ไง ว่าฉันไม่สบายใจ
น้ำอุ่นถามอย่างแปลกใจ
   เพราะเธอจะมาที่นี่ทุกครั้งที่เธอรู้สึกไม่สบายใจ มาร้องไห้อยู่ใต้ต้นไม้ต้นนี้ และเหม่อมองก้อนเมฆที่นี่เป็นประจำ
   เธอรู้ได้ยังไง
น้ำอุ่นยังไม่ลดความสงสัย
   เพราะฉันจะมาอยู่ที่นี่ทุกครั้งในเวลาที่ฉันมีความสุข
น้ำอุ่นก้มหน้า น้ำตาซึมอยู่ตรงขอบตาของเธอ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
   แต่ฉันไม่เคยมีความสุขเลย
   ทำไมเธอจะไม่มีล่ะ เธอไม่เคยมองสิ่งที่อยู่รอบตัวของเธอด้วยรอยยิ้มต่างหาก
น้ำอุ่นจ้องหน้าเขา ไม่เข้าใจในคำพูดเท่าไร
   ไปกับฉันซิ ฉันจะทำให้เธอเห็นว่าโลกใบนี้มีแต่รอยยิ้ม เธอจะได้หยุดร้องไห้เสียที
        เขาไม่ได้รอฟังคำตอบจากเธอ กลับคว้าข้อมือเล็กๆ วิ่งไปตามทุ่งหญ้า ดอกไม้หลากสีต่างพากันเบ่งบานส่งกลิ่นหอมไปทั่วพื้นที่โล่งกว้างสีเขียว เขาเก็บดอกไม้ดอกเล็กๆ ยื่นให้เธอ ก่อนจะพูดกับเธอว่า
   เวลาที่เธอยิ้ม ใบหน้าของเธอจะสดใสและสวยงามเหมือนดอกไม้ดอกนี้
        เธอยิ้มให้กับคำพูดของเขา และเขาเองก็ยิ้มให้กับเธอเช่นกัน มิตรภาพจากคนแปลกหน้าได้เริ่มต้นขึ้น ทั้งสองคนเดินเล่นกันในทุ่งหญ้าที่คล้ายกับดินแดนของความฝัน สายลมที่พัดผ่านหน้าเธอทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังบินอยู่เหนือก้อนเมฆที่เธอชอบมองดูอยู่บ่อยๆ เธอมาที่นี่หลายครั้งและดูเหมือนจะเป็นบ้านอีกหลังของเธอ แต่เธอไม่เคยเห็นความสวยงามของที่นี่เลย จนวันนี้เธอรู้สึกหลงรักที่นี่ น้ำตาที่เปื้อนแก้มเหือดแห้งไปจนมองไม่เห็นแม้แต่คราบน้ำตา ใบหน้าแดงระเรื่อเพราะแสงแดดทำให้เธอดูน่ารักมากขึ้นในสายตาของเขา   ทั้งสองคนเดินจูงมือพูดคุยกันจนตะวันลาลับขอบฟ้า. . .และการจากลาของเขาสองคนก็กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาด้วยเช่นกัน
   เธอควรจะกลับบ้านได้แล้วนะ
เขาเอ่ยขึ้นเมื่อพาเธอมายืนอยู่ใต้ต้นไม้ต้นเดิม และเห็นว่าเวลาล่วงเลยมามากแล้ว
   แล้วเมื่อไหร่เราจะได้เจอกันอีก
เธอรู้สึกไม่อยากจากเขาไปวันนี้เลย มันเหมือนเวลาของความสุขได้จากเธอไปด้วย
   ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันคงไม่ได้มาที่นี่อีกนาน
เขาตอบเธอด้วยน้ำเสียงเเผ่วเบา
   นานแค่ไหน. . .
เธอถามเขา
   นานแสนนาน. . .
        น้ำตาของเธอไหลออกมาอีกครั้ง เมื่อได้ฟังคำตอบของเขา เธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องเสียใจขนาดนี้ ความผูกพันที่เกิดขึ้นเพียงแค่ ไม่กี่ชั่วโมง มันทำให้เธอเป็นอาลัยอาวรเขาได้มากขนาดนี้เลยเหรอ แต่สำหรับเขาแล้วเขารู้ดีว่านี่ไม่ใช่ความผูกพันที่เพิ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา แต่ความผูกพันระหว่างเขาและเธอเกิดขึ้นนานกว่านี้
   เธอร้องไห้ทำไมน้ำอุ่น
เขาพูดก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้เธอ อย่างอ่อนโยน
   สัญญากับฉันได้มั้ย. . .ถ้าเธอกลับมาที่นี่. . .เธอจะไม่ร้องไห้อีก
เขาพูดพร้อมกับยื่นแขนมาจับไหล่ของเธอไว้ทั้งสองข้าง
   ได้. . .ฉันสัญญา. . .
คำพูดที่ใช้เวลาชั่งใจไม่นานนักถูกพูดออกมาอย่างหนักแน่น พร้อมด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ
   และเธอต้องให้สัญญากับฉันด้วยว่าเราจะกลับมาพบกันอีก
เธอพูดและยื่นนิ้วก้อยเรียวเล็กขึ้นมาเขาจึงยื่นนิ้วก้อยมาเกี่ยวไว้ ก่อนจะล้วงมือไปในกระเป๋าหยิบอะไรขึ้นมาอย่างหนึ่ง
   เราจะมาเจอกันที่นี่อีกครั้ง ในวันดอกไม้บาน
เขาพูดพร้อมกับยื่นเมล็ดดอกไม้ในมือให้เธอ มันมีขนาดเล็กไม่ต่างจากเมล็ดถั่ว และเขาก็เก็บอีกเมล็ดหนึ่งไว้กับตัวของเขา
   ดอกไม้ทั้งสองดอกจะบานพร้อมกัน
เขาบอกเธอ
   ฉันจะทำให้ดอกไม้ บานเร็วๆ แล้วเรากลับมาเจอกันตรงนี้นะ
เธอพูดก่อนจะวิ่งออกไปจากทุ่งหญ้ากว้าง ด้วยรอยยิ้มที่เปื้อนบนใบหน้าเนียนใส แต่ไม่ทันไรเธอต้องหยุดเท้าเหมือนลืมอะไรไปอย่างหนึ่ง
   เธอชื่ออะไรนะ
เธอตะโกนถามชื่อเขา
   เมฆ เรียกฉันว่า เมฆ
เธอยิ้มให้เขาอีกครั้งและวิ่งออกไปโดยไม่ได้หันหลังกลับมามองเขาอีก. . .				
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *        
        น้ำอุ่นตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ มองไปบนโต๊ะเล็กๆ ที่เธอวางเมล็ดดอกไม้ เอาไว้ มันไม่ใช่ความฝัน แต่มันเป็นความจริง เธอยังจำใบหน้าของเขาได้ชัดเจน เธอไม่รอช้ารีบนำเมล็ดดอกไม้ไปปลูกไว้ในกระถางเล็กๆ เธออยากให้มันโตเร็วๆ เพื่อในวันที่ดอกไม้บาน เธอจะได้เจอกับเขาอีกครั้ง. . .
        เวลาผ่านไป จากวันกลายเป็นเดือนจากเดือนเปลี่ยนเป็นปี ต้นไม้ในกระถางยังคงเป็นแค่เมล็ดดอกไม้เล็กๆอยู่เหมือนเดิม แต่เธอก็ไม่เคยรู้สึกท้อที่จะคอย ยังคงรดน้ำให้กับต้นไม้ในกระถางทั้งที่มันมีเพียงแค่ดินสีดำเท่านั้น
        เธอกลับไปที่ทุ่งหญ้ากว้างที่นั่นทุกวัน แต่ทุกครั้งก็ไม่เคยเจอเขา เธอมองก้อนเมฆสีขาวที่ขยับตัวไปตามแรงลม และภาวนาให้เขากลับมาเจอกับเธออีกครั้ง
        สายลมจ๋า. . .ช่วยพัดพาเขามาหาฉันด้วย    เธอพูดประโยคนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนตอนนี้เธอไม่ใช่เด็กน้อยขี้แยอีกต่อไปแล้ว เธอโตเป็นเด็กสาวที่น่ารักน่าเอ็นดูทีเดียว แต่ทว่าต้นไม้กลับไม่เติบโตตามเธอ ยังคงมีเพียงดินว่างเปล่าในกระถาง แม้ว่าเวลาจะผ่านมานานแล้วก็ตาม เธอยังรอคอยให้ดอกไม้บานอย่างไม่รู้สึกท้อแท้และหมดหวังเลย
        วันนี้ก็เหมือนกับทุกๆเช้า ทุกครั้งที่เธอลืมตาตื่น เธอจะเหลียวไปมองดอกไม้ในกระถางเสมอ
   เมฆ !!!
        เธออุทานชื่อเขาด้วยความดีใจ เมื่อมองเห็นดอกไม้ในกระถาง ดอกไม้ดอกเล็กสีขาวคล้ายก้อนเมฆ ที่เธอชอบมองบ่อยๆ กลีบบางเบาของมันคล้ายก้อนเมฆที่กำลังขยับตัวไปตามแรงลม และนั่นก็ทำให้เธออดที่จะคิดถึงเขา เด็กผู้ชายในชุดสีขาวที่เจอกันในครั้งนั้นไม่ได้ สีขาวแทนตัวของเขา ดอกไม้ดอกนี้คือตัวของเขา. . .เธอน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว และนี่เป็นครั้งแรกที่น้ำตาของเธอไหลออกมาพร้อมกับความสุข เธอรีบไปที่ทุ่งหญ้า โดยไม่ลืมที่จะถือกระถางดอกไม้ไปด้วย เธอรู้ว่าเขาจะต้องมารอเธออยู่ที่นั่น เธอเชื่อมั่นว่าดอกไม้ที่อยู่กับเขาก็กำลังเบ่งบานเช่นกัน ดอกไม้ทั้งสองดอกจะบานพร้อมกัน  เธอยังจำคำพูดของเขาได้ดี. . .
   เมฆ. . .เธออยู่ไหน 
        น้ำอุ่นเรียกชื่อเขา เมื่อหยุดยืนอยู่ใต้ต้นไม้ แต่เธอไม่ได้ยินเสียงของเขาตอบกลับมา เธอเรียกชื่อเขาหลายครั้ง มองหาทั่วทั้งทุ่งหญ้ากว้าง แต่กลับไม่เจอเขาเลย เวลาล่วงเลยไป ตะวันอ่อนแสงลง ความมืดมิดเริ่มคืบคลานเข้ามา  มีแค่แสงจันทร์เสี้ยวเท่านั้นที่อยู่เป็นเพื่อนเธอ เธอนั่งรอเขาด้วยความหวัง แต่เมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วไม่เห็นก้อนเมฆเหมือนทุกครั้ง ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังอยู่คนเดียวบนโลกใบนี้ น้ำตาค่อยๆ ไหลออกมาขับไล่ความเหน็บหนาวและเดียวดาย. . .
   สัญญากับฉันแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าเธอจะไม่ร้องให้อีก
น้ำอุ่นแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เธอรีบหันไปมองหาที่มาของเสียง
   เมฆ!
เธออุทานชื่อเขาเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นและวิ่งไปหาเขา
   ฉันคิดว่าเธอจะไม่มาที่นี่อีกแล้ว
   ฉันสัญญากับเธอไว้แล้วว่าจะมา ฉันก็ต้องมา
เขาพูดพลางเหลือบไปมองดอกไม้สีขาวในกระถางใบเล็กของเธอ
   ฉันดีใจที่เธอดูแลดอกไม้ดอกนี้อย่างดี
   เธอรู้ได้ยังไง ว่าฉันเฝ้าดูแลดอกไม้ดอกนี้
เธอถามเขาอย่างแปลกใจ
   เมล็ดดอกไม้ที่ฉันให้เธอไป จะไม่เติบโตและผลิดอก ถ้าคนปลูกไม่ได้ดูแลมันด้วยหัวใจ
เธอยังไม่เข้าใจกับคำพูดของเขาอยู่ดี เขาจึงอธิบายต่อ
   ต้นไม้ที่ใช้เวลานานในการเติบโต จะมีใครสักกี่คนที่รอคอยวันดอกไม้บานได้โดยไม่รู้สึกท้อ ต้นไม้ต้นนี้จะเหี่ยวเฉา ถ้าได้รับความท้อแท้จากคนปลูก เพราะมันเป็นต้นไม้จากสวรรค์ จึงแตกต่างจากต้นไม้ทั่วไป น้อยคนนักที่จะได้เห็นวันที่ดอกไม้บาน
เธอไม่เข้าใจกับสิ่งที่เขาพูด นี่คือนิทานหรอกเด็กหรือเป็นแค่เรื่องเล่าในตำนานของเขากันแน่ ต้นไม้จากสวรรค์มีที่ไหนกัน. . .
   เธอคงไม่เชื่อที่ฉันพูด และถ้าฉันบอกอะไรเธอมากกว่านั้นเธอก็คงจะไม่เชื่อฉันอยู่ดี
น้ำอุ่นนิ่งเงียบไม่พูดอะไรออกไป แต่แววตาของเธอทำให้เขารู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
   ฉันไม่ได้เป็นมนุษย์เหมือนกับเธอหรอกนะน้ำอุ่น
เขาตัดสินใจบอกกับเธอ และดูเหมือนเธอจะไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูดจริงๆ
   เธอกำลังพูดเล่นกับฉันใช่มั้ยเมฆ
   ป่าว ฉันไม่เคยพูดเล่น ฉันไม่ใช่มนุษย์
เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น และแววตาที่จริงจัง ทำให้น้ำอุ่นเริ่มสับสนกับความคิดของตัวเอง
   ถ้าเธอไม่ใช่มนุษย์แล้วเธอเป็นอะไร
เธอยังคงถามต่อ
   ทุกครั้งที่เธอมองฟ้า เธอจะแหงนมองก้อนเมฆสีขาวเสมอใช่รึป่าว และถ้าวันใดเธอมองไปไม่เห็นเมฆก้อนนั้นเธอจะเหงาใช่มั้ย. . .
น้ำอุ่นเพียงแค่พยักหน้าให้เขาแทนคำตอบ เขาจึงพูดต่อ
   ก้อนเมฆก้อนนั้นก็คือฉัน
คำพูดของเขาทำให้เธอ งง ไปหมด เธอไม่เข้าใจว่าเขากำลังเล่นอะไรกับเธอ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรจากเขา นอกจากนิ่งฟังเขาพูดต่อไป
   ฉันต้องจากเธอไปเพราะสายลมพัดพาฉันออกไปไกลแสนไกล และวันนี้ฉันก็ได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง เมื่อสายลมพาฉันกลับมา
   เธอคือก้อนเมฆก้อนนั้นจริงๆ เหรอ
เธอตัดสินใจถามเขาด้วยความลังเล
   ใช่ ฉันคือก้อนเมฆ
เขาตอบเธอด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
แต่คำตอบของเขาทำให้น้ำตาของเธอไหลออกมาอีกครั้งหนึ่ง
   ถ้าสายลมพัดมา เธอคงต้องจากฉันไปอีกครั้งใช่มั้ย
   สายลมจะพัดพาก้อนเมฆที่บางเบาอย่างฉันลอยออกไปไกลแสนไกล
เขาตอบ
   แล้วเธอจะอยู่กับฉันได้นานแค่ไหน
   นานเท่านาน
เธอจ้องหน้าเขา อย่างแปลกใจในคำตอบ
   นานเท่านาน
เธอย้ำคำพูดของเขาอีกครั้ง
   ใช่. . .เพราะเธอทำให้ดอกไม้บานในใจฉัน ถึงแม้ฉันจะต้องห่างเธอในทุกครั้งที่สายลมพัดพาฉันไป แต่เธอจะอยู่กับฉันตลอดไปนานเท่านาน
        น้ำอุ่นผวาเข้ากอดเมฆ แม้เธอจะยังไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดนัก แต่เธอก็ไม่อยากให้เขาจากเธอไปไหน เธออยากให้ลมสงบ ไม่อยากให้พัดพาเขาไปจากเธอ แต่เมฆก็ยังคงเป็นเมฆ เธอจะไม่เสียใจเลยหากวันหนึ่งเขาต้องลอยไปไกลตามสายลม เพราะตอนนี้ดอกไม้ดอกนั้นบานอยู่ตลอดเวลาในใจของเขาและเธอ. . . เขาและเธอจึงพบเจอกันตลอดเวลาในหัวใจนานเท่านาน. . . . 				
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *				
comments powered by Disqus
  • ทะเลรัก

    8 พฤษภาคม 2546 07:24 น. - comment id 68656

    แง แง เก็บไม่ได้ เขาให้แต่ add favourite
    
    ก็ยังดี
    
    ชอบเรื่องสั้นนี้มากที่สุดเลยอ่ะ เท่าที่พี่นกแต่งมา
    
    ทำไมน้า ทำไมเนอะ
    
    ^___^
  • แมวน้อย

    8 พฤษภาคม 2546 11:21 น. - comment id 68658

    ความหมายดีมากๆเลยค่ะ
    ซึ้งด้วย
  • ปลายอ้อ

    8 พฤษภาคม 2546 21:05 น. - comment id 68659

    ชอบมากเลยค่ะ ซึ้งจัง เปนความรักที่บริสุทธิ์จิงๆ
  • แม่มดน้อยค่ะ

    8 พฤษภาคม 2546 23:22 น. - comment id 68660

    น้องเก่ง. . .อิอิ เก็บไว้ในใจซิจ๊ะ หุหุ
    แมวน้อย. . .ขอบคุณค่ะ
    ปลายอ้อ. . .ดีใจค่ะที่ชอบ
    
               =^______________^=
    
    
  • ..สีน้ำฟ้า..

    9 พฤษภาคม 2546 22:48 น. - comment id 68665

    สดใสเชียว... อิจฉาคนมีความรักจังงงง...
  • รายทาง

    11 พฤษภาคม 2546 11:38 น. - comment id 68667

    อ่านแล้วยิ้มดีจังเลยครับ 
    ...  :) 
    เรื่องน่ารักดีจัง
  • yuki

    17 พฤษภาคม 2546 19:34 น. - comment id 68756

    อ่านไปแอบยิ้มไป  จนใครๆหว่าบ้าแล้วอ่ะ
    
  • ส้มจิ้ด

    24 พฤษภาคม 2546 14:58 น. - comment id 68827

    สุดยอดเลยค่ะ
  • กระปุกแป้ง

    30 พฤษภาคม 2546 13:25 น. - comment id 68860

    ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ นกจ้าแต่งได้น่ารักดี แต่ฝีมือวาดรุปนี้คงต้องปรับปรุงนะจ๊ะ  ยังงัยเวลาปลูกกระบองเพชรก็อย่าลืมปลูกและดูแลมันด้วยหัวใจนะจ๊ะ มันจะได้ไม่ตายอีก อิอิอิ
    ^_______________*

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน