19 กันยายน 2547 08:37 น.

. . ผั ด ฉ่ า . . ตอนที่ [ 4 ] ค่ำแล้ว..ค่ำลง

เสือยิ้มมุมปาก

มื้อค่ำผ่านไปเงียบๆ แตกต่างจากความโกลาหลในครัวตอนบ่าย ลมจากสายน้ำบาดเย็นส่งท้ายปี พระจันทร์ดวงโตเปล่งรัศมีอวดความงามอยู่บนฟากฟ้า แลเห็นกระต่ายในดวงจันทร์ชัดถนัดตา สามชีวิตบนระเบียงชมจันทร์ราวถูกสะกด ตาพูดลอยๆว่า 
	อยู่ที่ไหน ก็ดูพระจันทร์ดวงเดียวกัน
ผัดฉ่ารู้ได้เองว่า ตาหมายถึงใครคนหนึ่งที่กำลังมองดูจันทร์ดวงนี้เหมือนกัน...ใครคนที่หัวใจผัดฉ่าพร่ำเพรียกหา
	เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นถี่..ยายรีบเดินไปรับสาย..
	- - - - - -	- - - - - -
- - - - - -- - - - - - ฮ่า..โหล บ้านธาราลัย ยายกมลาพูดค่า..
	เสียงปลายทาง..
 แหม!คุณแม่ สวัสดีค่ะ...พูดเป็นเดลิเวอรี่เลยนะคะ :-) .
	- - - - - - - - - - - - เวลาล่วงเลยไปนานแล้ว..ทั้งสองยังคงสนทนากันอยู่..
	แล้วแม่จะบอกผัดฉ่า คิดว่าแกคงไม่ขัดข้องอยู่แล้วล่ะ อืมนะ ปิดเทอมครั้งนี้ ฉันคงจะได้เห็นหลานๆที่พัทยา ดีเหมือนกัน..ผัดฉ่ามันได้มีเพื่อน
 - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - แล้วก็เข้านอน
      ..ทิ้งไว้เพียงความฉงน..ให้ผัดฉ่าครุ่นคิดว่า..จะไปขัด..ข้องอะไร ขัดยังไง ..ข้องดักปลาน่ะเหรอ..แล้วเธอก็ผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อนในช่วงวันที่ผ่านมา				
19 กันยายน 2547 08:34 น.

. . ผั ด ฉ่ า . . ตอนที่ [ 3 ] ละคร..โรงเล็ก

เสือยิ้มมุมปาก

ผัดฉ่าตื่นรับอากาศแจ่มใสยามเช้าวันอาทิตย์ด้วยอาการกระปรี้กระเปร่า .. เตรียมออกไปวิ่งออกกำลังกายกับตาตามแนวทุ่ง..ภาพของใบข้าวเขียวอ่อนลู่ลม เสียดสีกันดังแสกๆ ประสานด้วยแว่วลำนำเสียงนกนานาชนิดพากันร้องเซ็งแซ่ ขับกล่อมคนทั้งสองให้เคลิบเคลิ้ม .. อีกทั้งแดดอ่อนๆแสนสุภาพไม่เกรี้ยวเหมือนดั่งเพลาอื่น ทำให้ทั้งสองมีเรี่ยวแรงจะวิ่งต่อไปข้างหน้า..วิ่งบ้างเดินบ้าง .. เสียงพูดคุยหัวเราะ..ดังแว่วกังวานตลอดเส้นทาง
	
                          หอบกันทั้งตาทั้งหลาน..เหงื่อโชกเหม็นหึ่งเลย สกปรกจริงๆ ไปอาบน้ำล้างตัวแล้วเดี๋ยวมากินข้าวกัน..อ้อ!!ช่วยยายตากผ้าด้วยล่ะผัดฉ่า
 เร็วๆนะ
	           จ้า...ยาย
- - - - - - - -- - - - -- - - - - - - -  - - - - -- - - - - - - - - - - -- - - - - - - - เวลาล่วงเลยไปหลายนาที -- - - - - -- - - - - - - - - - - - - -- - - - - - - - - - - 
	ผัดฉ่าบอกตาให้ขึ้นไปตั้งสำรับก่อน ส่วนเธอจะตากผ้า..

             ...ใครจะรู้ว่า...ในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า ละครโรงเล็กกำลังจะเปิดแสดง ตัวละครหลากสีสันหอมรัญจวนใจ เตรียมพร้อมในตะกร้าหวายใบเขื่อง..ผู้กำกับตัวน้อยก็พร้อมแล้วเช่นกัน ... 

	เสื้อผ้าบางตัวได้โลดเล่นบนราวผ้าเช่นดังนักแสดงผาดโผน แฝงด้วยความพลิ้วอ่อนตามสายลม ผัดฉ่าถอยห่างจากราวผ้าสักสองสามเก้า ขึ้นไปยืนบนเก้าอี้อย่างเคย พร้อมวาดมือขึ้นๆลงๆ เลียนแบบรายการดนตรีโอเปร่าในโทรทัศน์...นานทีเดียว..

	สำหรับเด็กเจ็ดขวบอย่างผัดฉ่า การได้เล่นได้แสดงออกตามจินตนาที่เธอเป็นผู้คิดและฝัน โดยไม่มีใครมากำหนด ก็นับว่าเป็นความสุขในโลกของเธออย่างบรรเจิดใจ...เธอคงเคลิ้มกับความงามบนราวผ้า จนกระทั่งเผลอฮัมเพลงออกมา..ระดับเสียงก็ค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆ..เรื่อยๆ

	..กลัวเมียไหม? ใครไม่กลัว ถ้าไม่กลัวตะโกนดังๆ ว่าผมไม่กลัวเมีย เมียก็แค่เท้าหลัง ระแวดระวังข้างหลังเป็นใคร..
	กระทบโสตประสาทของตา...เอากับเขาสิ..
	ไม่กลัว...ตาไม่กลัวเมีย
                                    ....เฮ้ย!!  
ยายหันขวับ..ตาร้องเสียงหลง
- - - - - - - - - - -- - -  - - 
แต่เสียงผัดฉ่ายังคงดังเช่นเดิม

         ...ดูท่าแล้ว..ละครโรงเล็ก..คงจะไม่เล็กแล้วสิ..				
19 กันยายน 2547 08:24 น.

. . ผั ด ฉ่ า . . ตอนที่ [ 2 ] ปิ่น..เอ๋ย..ปิ่นโต

เสือยิ้มมุมปาก

เวลาอาหารเที่ยงของเด็กๆที่โรงเรียนดอนดำเนินวิทยา เป็นเหมือนเวทีประกวดนางงาม..หรือที่ผัดฉ่าชอบเรียกว่า นางงามปิ่นโต ..  โดยปิ่นโตแต่ละนาง จะอวดโฉมเรียงรายหน้ากระดาน ราวจะเขม่นความสวยใส่กัน ผู้ชมอย่างผัดฉ่าและเพื่อนคนอื่นๆที่ไม่ใช่เจ้าของนางงาม ก็จะทายกันเป็นที่สนุกว่า ข้างในปิ่นโตโถสวยนั้นจะมีกับข้าวหรูแค่ไหน แต่ผัดฉ่าก็คิด..เข้าใจและมั่นใจเสมอว่า เมนูสารพัดไข่ของเธอย่อมอร่อยกว่าอย่างแน่นอน

	ดูสิดู!! ขนาดปิ่นโตแท้ๆยังแข่งกันเลย...เสียงยายปรารถขึ้นหลังจากผัดฉ่าเล่าเรื่องเมื่อมื้อเที่ยงให้ฟัง

	เหลียวตาไปมอง..ปิ่นโตของเธอก็ยังคว่ำอยู่..กะทบกับแสงจันทร์ที่สาดส่องลอดมาทางหน้าต่าง..แวววาวระยับ..เป็นล้นพ้น

	แสงจันทร์..ทำให้ผัดฉ่า..คิดถึงผู้หญิงคนหนึ่ง..และน้ำตาของเธอก็ค่อยๆรินหลั่งออกมา..ไม่รู้ว่านานแค่ไหน..กระทั่งมีมืออุ่นๆมาสัมผัสใบหน้าของเธอด้วยความอ่อนโยน ยายนั่นเอง..ยายกอดผัดฉ่าไว้แน่น..รับรู้ได้ถึงความรักที่ยายมีต่อผัดฉ่า .. ยายไม่เล่านิทานปลอบขวัญหรือร้องเพลงกล่อม แต่ลูบหลังผัดฉ่าเบาๆสม่ำเสมอ ชวนเคลิ้มหลับ ครั้งหนึ่งผัดฉ่าปรือตาขึ้นเห็นลูกตาวาวๆของยาย รับรู้ได้ว่า ยายกำลังร้องไห้อยู่ในความมืด				
19 กันยายน 2547 08:10 น.

. . ผั ด ฉ่ า . . ตอนที่ [ 1 ] หลวงพ่อ..นะ..หลวงพ่อ

เสือยิ้มมุมปาก

ณ บ้านสวนริมคลอง
.......................................................................................................................
	เสียงกระทะกระทบตะหลิวปลุกผัดฉ่าหรือเด็กหญิงลีลาวดีให้ตื่นขึ้นอย่างเคย อันที่จริงกลิ่นหอมกรุ่นของข้าวสุกก็มีส่วน .. ลอยปะทะปลายจมูกของเธออย่างยั่วยวน.. ดึงผัดฉ่า ขึ้นจากภวังค์ความฝันยามนิทรา..พบกับความฝันในโลกของความเป็นจริง..ไม่อยากตื่น..ก็ต้องตื่น ..

	ผัดฉ่าเดินหอบผ้าหอบผ่อน ไปอาบน้ำที่โอ่งหลังบ้านด้วยอาการงัวเงีย เสียงตาถามขึ้นว่า 
	ไง? ผัดฉ่า จะไปวิ่งเหรอ
ผัดฉ่า..เพิ่งจะตื่น..งง..และงัวเงียเสียงที่ออกมาจึงเหมือนกับคนยานคางพูด
	วิ่งอารายเหรอตา?
ตาก็ทันควัน
	ก็วิ่งผ่านน้ำไง ฮ่าๆๆ เอิ๊กๆๆ
..ตาชอบล้อผัดฉ่าเช่นนี้เสมอ..ก็เธออาบน้ำเร็วมาก .. มากจนบางครั้ง ผิวกายของเธอยังไม่สัมผัสละอองน้ำเลยแม้แต่น้อย 

	..ผัดฉ่าแต่งตัวเสร็จ เดินยิ้มหน้าสลอนมาหายายที่ครัว ไม่จำเป็นต้องปริปากเลยแม้แต่คำเดียว ยายก็จัดเสบียงใส่ปิ่นโตให้ผัดฉ่าเหมือนเคยทุกวัน..แล้วจะยากอะไร ในเมื่อเธอก็พกเสบียงแบบเดียวกันทุกวัน..ทุกวัน จนตาชวนผัดฉ่าไปแข่งขัน แชมป์กินไข่ ด้วยอารมณ์ขันของตา ทำให้ผัดฉ่าสงสัยว่า ตาอยู่กับยายได้อย่างไรเป็นสิบๆปี ในเมื่อ ยิ้ม ของยาย มีน้อยมาก..ถึงมากที่สุด ผัดฉ่าคิดว่า ยายคงเตรียมอัดยิ้มใส่กระป๋อง..เพื่อส่งขายต่างประเทศกระมัง

	ได้ยินเสียงพี่โย่งเรียกดังลั่นหน้าบ้าน..ผัดฉ่ากุลีกุจอวิ่งลงจากบ้าน..
	โครม..ตึง~อูย

              ..ใช่แล้วล่ะ..ผัดฉ่าวิ่งพลาดเผลอเหยียบชายกระโปรง กลิ้งตกบันได..นอนแอ้งแม้ง..อย่างน่าเอ็นดู ทุกๆคนวิ่งลงมาดู ส่วนพี่โย่งต้นเสียงก็ขึ้นจากเรือมาดูด้วยอาการหน้าตาตื่นไม่แพ้กัน .. คงมีแต่หลวงพ่อเท่านั้น ที่ค่อยๆเดินมาดูอาการ    ผัดฉ่ารุ่นเก๋า   อย่างช้าๆเนิบๆ ด้วยอาการสงบ
                            เป็นอย่างไรบ้างล่ะ โยม
 ผัดฉ่ากระอึกกระอับตอบ..
	ไม่เป็นไรค่ะ..หายแล้ว..ไม่เห็นเจ็บเลย ตกบันไดนิดเดียว..เด็กๆมาก อิอิ
	ไม่เป็นไรก็ดีแล้วนะผัดฉ่า ยายว่าไปเถอะ ไปโรงเรียนได้แล้ว เดี๋ยวจะระฆังเสียก่อน
	ทั้งสามเดินกันมาที่ท่าน้ำเพื่อจะลงเรือไปโรงเรียนกัน...สายตาทั้งสามคู่มองกันเลิ่กลั่ก คงมีแต่หลวงพ่อเท่านั้นที่เหมือนจะทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ก็พูดขึ้นมา..เบามาก..เหมือนไม่อยากให้ใครได้ยิน
	อาตมาลืม..ผูกหัวเรือกับเสา
แม้จะเบาแค่ไหน..พี่โย่งก็ยังได้ยิน หันขวับไปทางหลวงพ่อ ร้องเสียงหลง เพราะรู้อยู่เต็มอกแล้วว่า ตนนั่นแหละต้องเป็นคนว่ายน้ำลงไปคัดท้ายเรือกลับมา..
	และผัดฉ่าก็ไปถึงโรงเรียนโดยสวัสดิภาพ..และทันระฆังพอดิบพอดี..ในใจภาวนาว่าเย็นนี้อย่ามีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นอีกเลย..
เพี้ยง
เสียงภาวนาของเธอดังไปหน่อย..เพื่อนจึงหันมาดูและอมยิ้มๆตามๆกัน .. ผัดฉ่าก็ยิ้มเหมือนกัน แต่..ในใจก็บ่นไปว่า ..
	หนอยแน่!! ยิ้มเย้ยผัดฉ่าซ่าส์แอนด์เก๋าเหรอ คอยดู				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเสือยิ้มมุมปาก
Lovings  เสือยิ้มมุมปาก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเสือยิ้มมุมปาก
Lovings  เสือยิ้มมุมปาก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเสือยิ้มมุมปาก
Lovings  เสือยิ้มมุมปาก เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเสือยิ้มมุมปาก