23 ตุลาคม 2548 16:56 น.

เรื่องยาวขนาดสั้น :: ไดอารี่ของชีวิตหมายเลข 2

เสือยิ้มมุมปาก

แกว่ามั้ย ว่าคนเรามันชอบยึดติด 
ทั้งสิ่งที่เป็นของเราและไม่ใช่ของเรา 
เหมือนกับที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า
ของที่เรายึดมั่นถือมี สักวันก็ต้องคืนเค้าไป 
ให้เราคิดซะว่า ทุกสิ่งทุกอย่างรวมทั้งร่างกายของเรานั้น 
เป็นสิ่งซึ่งเรายืมของคนอื่นมา สักวันเจ้าของมาเอาคืน.. 
สำหรับบางคนเจ้าของอาจจะมาทวงคืนเร็ว
สำหรับบางคนอาจจะช้า
ซึ่งก็เป็นสิ่งไม่แน่นอนอีกเช่นกัน - -

แกคงสงสัยว่าเค้าพูดอะไร .. 
เค้าก็สงสัยเหมือนกัน

แกเครียด เค้ารู้ เพราะเค้าก็ไม่สบายใจ .. 
ไม่ต่างจากแกสักเท่าไหร่เลย
แกอาจจะบอกว่า เค้าคงไม่รู้หรอก
เพราะมันไม่ใช่เค้า ..
แต่เค้าคิดว่าเค้าเข้าใจนะ --

ไม่แปลกเลยที่เราจะปล่อยวางบางอวัยวะไปบ้าง..
คงจะสมดุลกันพอดีกับการที่แกมีไส้ติ่ง
มันเป็นส่วนเกินใช่มั้ย??
คล้ายๆว่า มันผิดที่ ผิดทาง เท่านี้เอง - -

เค้าว่าแกควรจะตระหนักตรงที่ว่า 
เราเป็นอะไรและควรจะเป็นอย่างไร ?? 
มากกว่าการที่จะมัวมาคิดว่า เรามีหรือไม่มีอะไร

เพราะเรื่อง เป็น เราสร้างได้และทำให้มันมั่นคงได้
แต่เรื่อง มี มันไม่ใช่สิ่งแน่นอน 
และก็ไม่สามารถจับยึดมันได้

ไปนอนแล้วนะ .. ฝันดีเพราะมีแกในฝัน --				
23 ตุลาคม 2548 16:53 น.

หัวใจยังรู้จักคำว่ารัก

เสือยิ้มมุมปาก

เมื่อคืน..
ฉันอีกแล้วล่ะที่ทำให้หล่อนต้องเจ็บปวด
ทั้งร่างกายและจิตใจ หรือ มากกว่านั้น..
มิอาจรู้ได้

เป็นเพียงความเลินเล่อของฉันแท้ๆ
หล่อนเจ็บกาย..แต่น้ำจากเบ้าตาฉันซึมปริ่ม
ฉันร้องไห้ - -
แม้ฉันมิได้กระทบกระเทือนสักกระผีก
แต่ใจฉันนี่สิ..
มันอาจจะกลับกลายเป็นก้อนเนื้อดิ้นได้ ที่เป็นริ้วๆ
เหมือนตับเป็ดในหม้อต้ม .. ก็เป็นได้
มันเจ็บร้าวหลายเท่ากว่ากันนัก

จากบทกวี "ชีวิตกูที่มิใช่ของกู"
แสดงออกถึงความอหังการแห่งชีวิต
ยิ่งใหญ่บนความย่อยยับ - -

เมื่อคืน..
ฉันเห็นความทรมานของหล่อนคนหนึ่ง
ซึ่งเกิดจากฉัน..

ฉันร้องไห้ .. ฉันเสียใจ .. ฉันโกรธตัวเอง
และเกลียดตัวเองยิ่งนัก

ดวงตาส่องประกาย ภายใต้โคมแสงจันทร์ที่เยื้องหน้าระเบียง
ฉันพยายามอย่างยิ่งที่จะเก็บความอ่อนแอไว้
ซ่อนไว้ภายใต้หัวใจหม่น

... ฉันรู้แล้วว่า ...
หัวใจฉันยังคงมีความรู้สึก
รู้สึกต่อคนที่ควรค่าแก่การู้สึก

.. ฉันยังเฝ้ามองปลายมือที่ช้ำเลือดของหล่อน
ด้วยใจที่ห่วงหา พะว้าพะวงยิ่งนัก
อย่าว่าแต่นอนเลย
แม้แต่จะกระพริบตา ยังไม่กล้า
ฉันลูบแขนอันไร้แรงของหล่อนแล้ว
น้ำตาก็เอ่อท้นรอบดวงตา
ผันหน้าหนี..
ทั้งที่ใจยังกอดรักแขนและใจของหล่อนไว้ด้วยรัก

... ....
...............

ฉันรักหล่อนคนนี้เกินกว่าจะบอกให้ใครรู้ได้
แม้แต่ตัวฉันยังไม่เคยรู้เลยว่า - - รัก

ตอนนี้ ..
เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืนแล้ว
รู้สึกเลยว่า ไม่มีมือของใครจะอบอุ่นและน่าสัมผัส
เทียบเท่ามือของหล่อนได้อีกแล้ว
หาใช่มือที่เนียนนุ่ม 
แต่กลับเป็นริ้วรอยแห่งกาลเวลา
เติบโตเป็นความหยาบกร้าน

อยากกระซิบเบาๆด้วยหัวใจที่ลิงโลด..
ัรักนะ - - รักด้วยหัวใจที่บอกได้เลยว่า
รักแม่ 'เกินกว่าคำว่ารัก . . .				
20 ตุลาคม 2548 11:11 น.

เรื่องยาวขนาดสั้น :: ไดอารี่หมายเลข 1

เสือยิ้มมุมปาก

สิ้นสุดวันวานด้วยไข่ปิ้ง - - หาบเร่
เปล่าเลย ฉันไม่ได้หิวหรืออยากกิน
แต่อย่างใด ..

ฉันวิ่งตามหลังพ่อค้าขายไข่ปิ้ง
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม - -
ทั้งๆที่ฉันก็กินข้าวเย็นแล้ว .. อิ่มแล้ว
แต่ฉันไม่รู้ว่าพ่อค้าขายไข่ปิ้ง 
มีของกินเต็มหาบ
จะได้กินมันไปบ้างแล้วหรือยัง

วิ่ง .. วิ่ง .. วิ่ง
" ขายยังไงอ่ะคะ "
" 2 ลูก 10 บาท "
" ค่ะ งั้นเอา 2 ลูก"
" เอ้อ..เอาไข่นกกระทาด้วย "

ใบหน้าพ่อค้าไข่ปิ้งดูเหมือนจะเศร้าหมองนะ
แต่นัยน์ตาของเค้ามันดูมีความสุขยังไงก็ไม่รู้

ได้ของ ฉันก็กล่าวคำขอบคุณให้พ่อค้า
แล้ววิ่งตื๋อหายไปในความมืดยามค่ำคืน

ถามตัวเองอีกครั้งเถอะ ??
กะอีแค่ไข่ปิ้ง มันจะอร่อยอะไรหนักหนา
ฉันกินไปยิ้มไป .. มีความสุขเหลือเกิน

ทำไมล่ะ ??
ก็ซื้อเพราะความสงสารนะ 

20 บาทของไข่ปิ้ง
กับ 200 ตอนกินซิสเลอร์ที่ลีฯ

ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม 20 บาท
มันมีคุณค่ามากกว่ามูลค่า 200 เสียอีก

เช่นเดียวกันกับวันนั้น บนสะพานลอยหน้าโรงเรียน
มีผู้หญิงคนหนึ่ง ตอนแรกฉันก็รู้เพียงว่า 
หล่อนเป็นขอทาน
น้อยครั้งมากที่ฉันจะให้เงินหล่อน
แต่วันนั้น ฉันมีเงินเพียง 20 บาท หรืออาจไม่ถึงด้วยซ้ำ
ฉันให้หล่อนไป 5 บาท
ฉันรู้สึกและเข้าใจถึงสภาวะจิตใจของคนที่ไม่มีกิน

รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูกที่ได้แบ่งปัน
มันดีเสียกว่าทำบุญที่วัดอีกนะ
ทำบุญกับพระ ที่หมกเม็ด
รีเทิร์นสังฆทาน บอกหวยชาวบ้าน - -

............................................
.................................

ในวันที่ฉันมีเงินมากมาย 'เป๋าตุง ว่างั้นเหอะ
ไม่เคยเลยที่จะหยิบเงินในกระเป๋าให้ขอทานคนนั้น
อาจเป็นเพราะ - -
ฉันไม่สามารถรับรู้ได้ถึงความรู้สึกหิวโหย
ฉันอิ่มเสมอ ..
ใช่ ฉันคิดและเชื่อมั่นว่าฉันโชคดีกว่าใครหลายคน
ที่อิ่มทุกมื้อ .. เสมอ

แต่วันที่มีเงินน้อย ฉันก็ให้ขอทานไป .. 
ฉันรู้ว่าหิวเป็นยังไง - - -

และเช้าวันนี้ ..
ฉันเริ่มต้นด้วย ข้าวแกงร้านซอมซ่อแห่งหนึ่งแถวจุติฯ
มันไม่เชิงร้านหรอก แต่มันเป็นช่องว่างระหว่างบ้าน 2 หลัง
แล้วไอ้ตรงกลางน่ะแหละ ตั้งโต๊ะ ..

ไม่สำคัญเลยว่า เราจะกินอะไร - -
มันสำคัญตรงที่ว่า กินแล้วได้อะไร .. ??				
7 ตุลาคม 2548 22:38 น.

อาเน๊าะ เดาะตอเยาะ

เสือยิ้มมุมปาก

ตุลาคม 2516

เสียงสะอึกสะอื้นสะท้อนขึ้นท่ามกลางครวามมืดดำที่รายรอบ
ได้ยินไหมนั่น?
เด็กน้อยผู้ไม่เดียงสา..ผิดหรือ?
จึงต้องทนเฝ้ามองการเดินทางของกาลสมัย
ภายใต้ห้วงหาวแห่งความเจ็บร้าวที่มืดมิด
.
.
เจ้านกพิราบเอย - -
ข้ารอคอยการกลับมาของเจ้า
แต่..
โอ้อนิจจา เจ้าคงกลับมาช้ำเกินไป
ไอ้ขบถยุคสมัย
มันเชือดเฉือนก้อนเนื้อแห่งจิตใจไปเสียสิ้น
.
.
ศักดิ์ศรีและความทรนงกลับทะลักล้น
ไหลรวมอยู่ตรงหน้า
และเหมือนไม่ใช่สิ่งที่มีและเป็นไป
แต่ก็..
ทะลักปะทะร่องแผล
แผลบนต้นยาง
ต้นยาง..
เลี้ยงชีวิตมีแผล
ทะลักล้น
หยุดแค่นั้น
- - -
- - - -
ย้อนรอยทางเบื้องหน้า..
เสียงสะท้อนจากวิญญาณดิบเถื่อน
รุนแรง แต่..
อีกด้านหนึ่งก็แฝงไว้ด้วย
แววตาอ่อนโยน
.
.
แววตาอ่อนโยน
ที่คนบางคน -- ไม่มี
คนบางคนที่ไม่เคยรู้รสของการสูญเสีย
เพียงมื้อค่ำบางมื้อ..
เทียบเท่าได้กับครั้งหนึ่งของการจากไป
อาจโดยจริงแท้หรือไม่นั้น?
มิอาจรู้ได้ - -
.
.
กันยายน 2548

พิราบเถื่อนโฉบผ่านหลังคามุงจาก -- ฟากเก่าผุกร่อน
ตีเดาะ อาเดาะ ตีเดาะ 
หลับเสียเถิด..ปล่อยความหลับใหล
หลับแล้ว หลับใหล - -
โนยโนย เจ๊าะ เจ๊าะ มากันบาดี
อาเน๊าะ เดาะตอเยาะ เมาะเนาะ กะตามปาดี
...
....
เสียงแว่วกังวาน..
มันเหมือนกับ - กับการรอคอย
......
ภาพการณ์ที่เห็นตรงหน้า
ก้องกระทบโสตประสาท - - เชือดเส้นแว้งแห่งนัยน์ตา
แหวกก้อนเนื้อหว่างอกระริกรั่น -- ริกริก
ผุดพรายขึ้นด้วยหลากถ้อยปุจฉา
- อาจไร้ซึ่งวิสัชนา - 
เด็กน้อย..จะคิดเหมือนฉันไหม?
ถ้าเจ้าหนูคิด..จะคิดถึงใคร
จะเหมือนฉันไหม ?
ใช่!
ฉันคิดถึง .. คนที่ควรค่าแก่การรอคอย

.........
เจ้านกพิราบเถื่อนวิ่งผ่านธาตุอากาศเหนือป่ายาง - -
น้ำตายางรินไหล -- น้ำตาใจทะลักล้น
แว่วเสียงโหยไห้จากเด็กน้อย..
พ่อจ๋า - กลับบ้านเถอะ
ตอนนี้โรงเรียนใกล้จะเปิดแล้ว
รองเท้าคู่เดิม..ยังพอใส่ได้
แต่ภายใต้มือว่างเปล่าของหนูล่ะ ..
จำเป็นอย่างยิ่ง 
สำหรับมือหยาบกร้านของพ่อ
มือที่เคยสัมผัสเพียงดอกไม้ที่ปลายปืน

และ..
ใบยางสุดท้ายร่วงหล่น
เช่นกันกับพ่อที่ลื่นไถลไปพร้อมกับคมมีด

เหวยเหวย..เออละเว้ยเฮ้ย!!
จิตวิญญาณแห่งยุคสมัย
มันตะเกียกตะกายออกมาแล้ว
จิตวิญญาณกู..มันเกิดขึ้นพร้อมกับความสูญเสีย
และ .. 
น้ำตาของเด็กน้อย .. เด็กน้อย --
กูสวมมงกุฎอุดมการณ์ มองผ่านกรอบแว่นอุดมคติ
ภายใต้แววตาของบุปผาชน

....

ตามรอยทางบนถนนแปลกแยกสายอุดมการณ์
เด็กน้องร้องไห้ท่ามกลางความมืดมืด
รอยแผลทะลักล้นบนต้นยาง
พิราบเถื่อนโฉบเงาเบื้องล่าง
...
เดินย้อนกลับตามเส้นทางเดิม
ตีเดาะ อาเดาะ ตีเดาะ
ตึเดาะ อาเดาะ ตีเดาะ
อาเต๊าะ เดาะ ตอเยาะ
ยังคงแว่วกังวานท่ามกลางความมืดมิด
ในห้วงหาวแห่งความเจ็บร้าวและน้ำตา ..
- - -
- - - -
หรืออย่างไร ?				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเสือยิ้มมุมปาก
Lovings  เสือยิ้มมุมปาก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเสือยิ้มมุมปาก
Lovings  เสือยิ้มมุมปาก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเสือยิ้มมุมปาก
Lovings  เสือยิ้มมุมปาก เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเสือยิ้มมุมปาก