24 พฤศจิกายน 2547 23:34 น.

... I started a Joke ... (The Bee Gees )...

อัลมิตรา



..๏ ฉันขอเริ่มต้นเรื่อง...........ความขำ-  ขันนา
บังเกิดจากสัจธรรม...............โลกนี้
ยังครวญคร่ำเครงครำ*..........บ่สร่าง
แต่มิอาจบ่งชี้........................เหตุนั้นเป็นไฉน ฯ

..๏ ความขำขันเนื่องด้วย.......ฉันเอง
โอ ! จิตเริ่มวังเวง.................ร่ำไห้   
สรรพสิ่งที่ข่มเหง...................อุบัติจาก-  โลกนา
ฉันอาจสรวลเสได้.................ตราบแจ้งความจริง ฯ

..๏ ว่าเรื่องตลกเหล่านั้น.........ทั้งมวล
ล้วนเปรียบดังโซ่ตรวน...........รัดล้อม
อันเรื่องโศลกสำรวล*................สรรพสิ่ง
สิงสู่อยู่พรั่งพร้อม....................บีบคั้นตัวตน ฯ

..๏ ฉันแหงนมองฟากฟ้า........สรวงสวรรค์
มือยกบังตาครัน....................จึ่งขยี้ 
แล้วลุกจากเตียงพลัน..............ทำกิจ-  วัตรแฮ
รับเรื่องกังวลที่*......................ท่วมท้นบนหัว ฯ

..๏ สาเหตุเกิดจากถ้อย-..........พาที
ตราบเมื่อสิ้นชีวี.....................จบสิ้น
มูลเหตุปัจจัยมี......................จากโลก-  ธาตุแฮ
จึงพ่ายแพ้แดดิ้น....................ปิดกั้นปัญญา ฯ

..๏ มีชีวิตอยู่ยั้ง.....................เพียงใด
หากเพ่งสิ่งเป็นไป..................เหล่านั้น 
ว่าเรื่องขบขันไฉน..................สถิตที่-  ฉันนา
ยังมุ่งมาดคาดคั้น..................จิตให้เรรวน ฯ

(  สร้อย )
..๏ ฉันแหงนมองฟากฟ้า........สรวงสวรรค์
มือยกบังตาครัน....................จึ่งขยี้ 
แล้วลุกจากเตียงพลัน..............ทำกิจ-  วัตรแฮ
พบเรื่องกังวลที่*.....................ท่วมท้นบนหัว ฯ

..๏ สาเหตุเกิดจากถ้อย-..........พาที
ตราบเมื่อสิ้นชีวี.....................จบสิ้น
มูลเหตุปัจจัยมี......................จากโลก-  ธาตุแฮ
จึงพ่ายแพ้แดดิ้น....................ปิดกั้นปัญญา ฯ

..๏ มีชีวิตอยู่ยั้ง.....................เพียงใด
หากเพ่งสิ่งเป็นไป..................เหล่านั้น 
ว่าเรื่องขบขันไฉน..................สถิตที่-  เรานา
ยังมุ่งมาดคาดคั้น..................จิตให้เรรวน ฯ

..๏ โอหนอมวลเรื่องแม้น........ขำขัน
หากแต่มีโศกศัลย์..................พรั่งพร้อม
สรรพสิ่งปิดบังฉัน..................ปานหลอก-  หลอนเฮย
ความตลกวกแวดล้อม.............รุกล้ำหยามใจ ฯ

..๏ ภายนอกยังหยอกเย้า........สราญรมย์
หากแอบแฝงทุกข์ระทม..........ท่วมท้น
หน้าชื่นอกขื่นขม...................แสดงบท-  บาทแฮ
หมายยกจิตหลุดพ้น-..............ยากแท้เกินประสงค์ ๚ะ๛				
20 พฤศจิกายน 2547 22:39 น.

...Always somewhere ... ( Scorpions )

อัลมิตรา



..๏ ขับรถออกติดตามยามหนึ่งทุ่ม	
ด้วยร้อนรุ่มอาลัยใจสับสน
มองจุดหมายปลายทางช่างมืดมน	
ดังอับจนปัญญาตามหาเธอ

ทุกสิ่งสรรพ์พลันสลายคล้ายว่างเปล่า	
ได้แต่เฝ้าคะนึงหาทุกคราเสมอ
แว่วเสียงใจเพรียกพร่ำร่ำละเมอ	
กลับพบเจอความกังวลสับสนใจ

สิ้นโอกาสคลาดกันแสนหวั่นแท้
หวังเพียงแค่พบกันพลันชิดใกล้
วันนี้คงปล่อยวางอย่างอาลัย	
แม้นทรวงในห่วงหาเฝ้าอาวรณ์

ครั้นเวลาห้าทุ่มทุกข์รุมเร้า	                
ยังโศกเศร้าคำนึงถึงดวงสมร
ครั้นตีสามต้องกลับไปหลับนอน	
จำต้องย้อนหันหลังอีกครั้งครา 

ยังเรียกสายปลายทางอย่างมุ่งหวัง	
แม้ทุกครั้งไม่เป็นเช่นปรารถนา
หวังเพียงแค่โทรศัพท์ตอบกลับมา	
ช้ำอุราเหตุไฉนไร้สัญญาณ

อยากงอนง้อขอวอนงามงอนเจ้า	
อย่ามัวเฝ้าถือโทษโปรดสงสาร
โปรดกลับมาเคียงกันดั่งวันวาน	
เพื่อร่วมสานถักสร้อยร้อยรักเรา 

มีชีวิตจิตใจโดยไร้รัก	                
จึงตระหนักนิยามแห่งความเศร้า
ปราศจากเธอผู้เป็นเช่นดังเงา	
เกินบรรเทาไฟทุกข์ลุกท่วมตัว

ต้องโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาเศร้าใจแท้	
ดุจใบไม้อ่อนแก่แลหลุดขั้ว
แล้วล่องลอยเคว้งคว้างอย่างหวาดกลัว	
ทั้งพันพัวด้วยระทมขมขื่นครัน 

เป็นความรักประจักษ์จิตคิดห่วงหา-	
อาทรมารัดรึงซึ่งใจฉัน ?
แม้ใคร่เผยความจริงสิ่งสำคัญ	
เกินจำนรรจ์บอกไปให้รู้ความ

ว่าตัวฉันหวั่นไหวเช่นไรบ้าง	
ความอ้างว้างท่วมท้นจนเกรงขาม
ยามนี้ยังเผชิญทุกข์ที่ลุกลาม	
เกินหักห้ามสิเนหาเพราะอาลัย 

	( สร้อย )

เยือนแว่นแคว้นแดนดินทุกถิ่นฐาน	
ดั่งดวงมานของฉันเฝ้าฝันใฝ่
เสียงคร่ำครวญคำนึงถึงทรามวัย 	
เพียงหวังให้เธอนั้นพลันกลับมา

เปิดหัวใจให้ฉันนั้นมอบรัก	
ได้สานถักไมตรีสิเนหา
ด้วยยังเปี่ยมความหวังอีกครั้งครา   
ยังปรารถนาโอบเอื้อด้วยเยื่อใย  

เยือนแว่นแคว้นแดนดินทุกถิ่นฐาน	
ดั่งดวงมานของฉันเฝ้าฝันใฝ่
เสียงคร่ำครวญคำนึงถึงทรามวัย 	
เพียงหวังให้เธอนั้นพลันกลับมา

เปิดหัวใจให้ฉันนั้นมอบรัก	
ได้สานถักไมตรีสิเนหา
ด้วยยังเปี่ยมความหวังอีกครั้งครา   
ยังปรารถนาโอบเอื้อด้วยเยื่อใย  

เพียงชั่วคราวราวกับอาภัพนัก	
ได้ประจักษ์ความจริงอันยิ่งใหญ่
ว่าความรักหลุดลอยคล้อยจากไกล	
เกินฝันใฝ่ไขว่คว้ามาครอบครอง

ฤๅวันชื่นคืนสุขทุกสิ่งสรรพ	
นั้นล่วงลับร้างไกลไปทั้งผอง
แล้วคืนสู่สามัญตามครรลอง	
จำใจต้องยอมรับกับเหตุการณ์ 

แต่บ้านเมืองทั้งมวลล้วนปรากฏ-	
ความรันทดปวดร้าวราวหักหาญ
รู้ซึ้งว่าสิ้นหวังนั่งทรมาน	
เพียงพบพานอีกครั้งยังจนใจ 

	 ( สร้อย )

เยือนแว่นแคว้นแดนดินทุกถิ่นฐาน	
ดั่งดวงมานของฉันเฝ้าฝันใฝ่
เสียงคร่ำครวญคำนึงถึงทรามวัย 	
เพียงหวังให้เธอนั้นพลันกลับมา

เปิดหัวใจให้ฉันนั้นมอบรัก	
ได้สานถักไมตรีสิเนหา
ด้วยยังเปี่ยมความหวังอีกครั้งครา   
ยังปรารถนาโอบเอื้อด้วยเยื่อใย  

เยือนแว่นแคว้นแดนดินทุกถิ่นฐาน	
ดั่งดวงมานของฉันเฝ้าฝันใฝ่
เสียงคร่ำครวญคำนึงถึงทรามวัย 	
เพียงหวังให้เธอนั้นพลันกลับมา

เปิดหัวใจให้ฉันนั้นมอบรัก	
ได้สานถักไมตรีสิเนหา
ด้วยยังเปี่ยมความหวังอีกครั้งครา   
ยังปรารถนาโอบเอื้อด้วยเยื่อใย  ๚ะ๛
				
17 พฤศจิกายน 2547 11:39 น.

๏ อาลัยแม่

อัลมิตรา



๏ คืนสถานสถิตเบื้อง.............บนสวรรค์ 
เสวยสุขตราบนิรันดร์.............นิราศร้อน 
ลืมเสียงร่ำโศกศัลย์.................ทรวงเสียด 
สรวงสนั่นสรวลสะท้อน..........ทั่วห้องเวหา ฯ 
 
๏ กราบลาร้าวอกโอ้................อาลัย 
มฤตพรากพาแม่ไกล..............ก่อนแล้ว 
อ้อมแขนอุ่นเคล้าไอ...............เคยโอบ 
คราวขาดความหนาวแผ้ว........ผ่านสะท้านมานสะเทือน ฯ 
 
๏ ดังเหมือนไทรใหญ่ล้ม........ราบภินท์ 
ร้อนขาดร่มถวิล.....................ว่างว้าง 
เสียงคำซึ่งเคยยิน...................ขานหยุด 
ยามสุดคำเคว้งคว้าง................ขาดแล้วร่มไทร ฯ 
 
๏ เหลือไว้เพียงภาพเค้า...........ความจำ 
คุณแม่เคยกระทำ...................กระทั่งพร้อม 
เพียรสอนสั่งลูกสำ-.................เร็จ สิ่ง  ประสงค์ เนอ 
ประสานสิบนิ้วยอน้อม...........มนัสค้อมผคมสนอง ฯ 
 
๏ ไปครองทิพย์ถิ่นบ้าน..........บนสวรรค์ 
เสวยสุขตราบนิรันดร์..............นิราศพ้น 
ผองภัยทุกข์ไหนอัน................อาจเบียด- 
เบียนเบี่ยงเหลือเพียงล้น..........สฤษฏ์ล้ำสราญผล ๚ะ 
 
๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๗ 
 
ผศ.นพ.ธีรวรรธน์  ขันทอง


ขอร่วมไว้อาลัยและแสดงความเสียใจกับการจากไปนี้ด้วยค่ะ

อัลมิตรา				
16 พฤศจิกายน 2547 15:47 น.

..๏ นาฏกรรมอำลา

อัลมิตรา


..๏ หากรักเก่าดีกว่ารักครานี้
ฉัน..ผู้ที่ต่ำต้อยด้อยคุณค่า
คงมิอาจเทียบรักเก่าเธอเล่ามา
รู้ดีว่าห่างไกลในตัวตน
 
เพราะเป็นคนที่สองสำรองฝัน
สายสัมพันธ์จึงเหมือนลางเลือนผล
รักแรกนั้นคงงดงามยามย้อนยล
ฉันฤๅทนแทนใครในก่อนกาล

แสนน้อยใจยิ่งนักรักเจ้าเอ๋ย
ด้วยไม่เคยรู้ก่อนเรื่องย้อนขาน
รักที่เธอซาบซึ้งซึ่งตำนาน
จนเขียนกานท์ฉันสะอื้นสุดฝืนใจ

กำไลหินสีแดงเคยแฝงรัก
ตะขอเงินสลักตรึงพึงสวมใส่
แม้รักร่วมประคองสองหทัย
จงรักษ์ไว้แนบแน่น ณ แก่นทรวง

มาบัดนี้กำไลในลิ้นชัก
ปลดสลักตะขอไว้ไม่แหนหวง
สิ่งที่เคยล้ำค่ากว่าทั้งปวง
หากเธอทวง..ฉันพร้อมยอมอำลา ๚ะ๛



				
12 พฤศจิกายน 2547 13:33 น.

..๏ ยังจำไว้

อัลมิตรา


..๏ ยังจำไว้... 

..๏ คำนึงอดีตนั้น................เคยเคียง   คู่เฮย 
อิงแอบแนบใจเรียง...............ร่วมเหย้า
ตราตรึงซึ่งสำเนียง................คำพร่ำ- เพรียกนา 
ยังปรากฏดังเฝ้า-..................อยู่ใกล้ใจเสมอ ฯ 

..๏ ทุกข์ใดเคยมากล้วน.........อันตรธาน 
แจ้งประจักษ์ดวงมาลย์...........มั่นแท้ 
เธอ-ฉันผ่านฤดูกาล...............เลยล่วง 
เคียงคู่มั่งคงแล้......................บ่สิ้นสิเนหา ฯ 

..๏ เก็บฝันวันเก่าเกื้อ-...........กูลใจ 
วิตกกลัวคนไกล...................หน่ายร้าง 
จึงเพรียกพร่ำร่ำไป...............หวาดหวั่น 
เกรงรักจักคลาดคว้าง.............ห่างผู้เคยเคียง ฯ 

..๏ อดีตกาลผันผ่านพ้น.........กาลสมัย 
เธอด่วนลาจากไกล...............รักเรื้อ 
รำพันคร่ำครวญไป.................สุดสลด 
เจ็บแปลบดั่งทุกข์เยื้อ..............บ่ร้างห่างหาย ฯ 

..๏ เสียงเพลงยังตอกย้ำ..........ตามเตือน-  จิตเอย 
ในส่วนลึกบ่เลือน.................ดั่งแกล้ง 
คำเธอกล่าวดังเสมือน.............แหนงหน่าย 
เคยรักกลับเสแสร้ง.................เล่นลิ้นปานลวง ฯ 

..๏ หลอกคนเคยร่วมร้อย-.......ใจเคียง 
เคยห่วงใยใช่เพียง.................ชั่วครั้ง 
ฤๅความรักเอนเอียง.................เป็นอื่น 
ฉันแค่เพียงพลาดพลั้ง.............กลับซ้ำตามหลอน ฯ 

..๏ ความหลังปรากฏให้.........คะนึงหา 
เป็นภาพเก่าตรึงตรา..............อยู่ยั้ง 
วันคืนเปลี่ยนแปลงพา-..........จิตหม่น -  หมองเฮย 
ฤๅอดีตยังเหนี่ยวรั้ง................เพื่อให้ทุกข์ระทม ฯ 

..๏ แอบไปมีผู้อยู่.................ครองใจ 
ลืมรักเก่าทันใด..................ง่ายแท้ 
ทุกคืนค่ำร่ำไร.....................บ่สร่าง-  โศกเฮย 
มองภาพความพ่ายแพ้...........กี่ครั้งยังหมอง ฯ 

.....( สร้อย )..... 

..๏ จดจำความโศกเศร้า...........สุมทรวง 
คงแต่ความหลอกลวง...............จากเจ้า 
ดวงจิตแอบคิดหวง..................เธออยู่ 
ยังเจ็บจำความเศร้า.................ตราบสิ้นลมปราน  ๚ะ๛

( ยังจำไว้ใจฉันยังเจ็บ..เหลือเกิน )  				
Calendar
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอัลมิตรา
Lovings  อัลมิตรา เลิฟ 0 คน
มาอีกรอบนะ พยายามจะเขียนกลอนที่นี่ แต่ยังใช้ไม่เป็น เห็นกลอนขุดบ่อล่อปลาแล้วคิดถึงอิม คิดถึงเรื่องเก่า ๆ จะสิบปีแล้วสินะที่เริ่มเขียนกลอนได้ เหมือนกลอนที่เคยอ่านหรือเขียนขึ้นใหม่นะ
คิดถึงจังอิม สบายดีหรือเปล่า