23 พฤษภาคม 2552 16:43 น.
				
												
				
								อัลมิตรา
		
					
				
          ๏ ถึงยามใดได้ฝ่าพายุหนัก     
          จงตั้งหลักมุ่งไปดั่งใฝ่ฝัน
          ว่าเธอพร้อมเผชิญหน้าทุกข์สารพัน    
          อย่างมุ่งมั่นแกร่งกล้าน่าภูมิใจ
          อย่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงซึ่งสิ่งหลอน    
          อันบั่นทอนความหวังครั้งคราไหน
          ครั้นพายุรุนแรงแปลงเปลี่ยนไป    
          ฟ้าอำไพอัศจรรย์พลันทดแทน 
          จักปรากฏบทเพลงบรรเลงกล่อม    
          อันพรั่งพร้อมศัพท์เสนาะไพเราะแสน
          จากเวหนบนนภาฟ้าเมืองแมน     
          จงหนักแน่นเผชิญหน้าเดินฝ่าพลัน
          ก้าวต่อไปให้ถึงซึ่งสิ่งหวัง    
          ด้วยผองพลังแห่งใจคว้าไขว่ฝัน
          แม้สายลมโหมกระหน่ำฝนซ้ำอัน-    
          รุนแรงนั้นอย่าด่วนรวนเรเลย
          แม้ความฝันอันใดที่ใจหวัง    
          หรือกำลังอ่อนล้าอย่านิ่งเฉย
          ความท้อแท้แพ้พ่ายร้ายแรงเคย-  
          พบพานเอยจงเผชิญเดินต่อไป 
          ก้าวเดินพลันมั่นคงดำรงอยู่   
          เพื่อรับรู้ความหวังทั้งยิ่งใหญ่
          เปี่ยมความฝันบรรเจิดเลิศอำไพ   
          เธอจักไม่โดดเดี่ยวเปลี่ยวอุรา
          ก้าวเดินพลันมั่งคงดำรงอยู่ 
          เพื่อรับรู้ความหวังยังล้ำค่า
          ด้วยหัวใจเปี่ยมพลังทุกครั้งครา    
          รู้เพียงว่า " ไม่เผชิญเดินเดียวดาย " ๚ะ๛ 
   รู้เถิดว่า " ไม่ก้าวย่างอย่างเดียวดาย " 
				
			 
			
				18 พฤษภาคม 2552 16:12 น.
				
												
				
								อัลมิตรา
		
					
				
          ๏ หนูหงอยเหงาเศร้าใจพ่อไม่รัก
          เพราะไม่เคยรู้จักพ่อสักหน
          พ่อนั้นเหมือนห่างไกลไร้ตัวตน
          หนูรอจนจิตท้อ.. พ่อไม่มา
          หนูโดดเดี่ยวเดียวดายแม่ตายแล้ว
          ปราศวี่แววญาติใดใคร่คบหา
          คำของแม่ก่อนตายยังตรึงตรา
          ต้องตามหาให้ได้จำให้ดี  
          ภาพผู้ชายในมือ..เขาคือพ่อ
          ลูกจงรอตามนัดหน้าวัดนี่
          นับตั้งแต่แม่ตายก็หลายปี
          เปรียบความฝันริบหรี่ไม่มีทาง
 
          เห็นพ่อหนูบ้างไหม ?  ถามไปทั่ว
          คราวรถทัวร์จอดสนิทรีบชิดข้าง
          รู้จักพ่อหนูไหม ?  ร้องไห้พลาง
          หลายคนต่างตอบหนู..ไม่รู้เลย
          หัวใจช้ำกำพร้าอุตส่าห์คอย
          ถึงเลื่อนลอยแต่ยังตั้งใจเผย
          หนูเปล่าหวังสมบัติชี้ชัดเปรย
          จนอย่างเคยอยู่ได้ไม่ร้อนรน
          หนูแค่อยากเจอพ่อแล้วขอกอด
          เพียงพร่ำพลอดหนุนตักพ่อสักหน
          คล้ายยากเข็ญเส้นทางช่างอับจน
          ถ้าหากพ่อไม่สนหนูจนใจ ๚ะ๛ 
 
				
			 
			
				14 พฤษภาคม 2552 22:38 น.
				
												
				
								อัลมิตรา
		
					
				
๏ "..เพราะต่างอ้างความคิดสิทธิ์จำเพาะ
ความพอเหมาะจึงสูญเสื่อมสลาย
คราวเพียรค้นคำตอบคนรอบกาย
เหมือนเปล่าดายเพราะจิตคิดต่างกัน.."
บรรยากาศอึมครึมครึ้มเมฆฝน
พลอยทำให้บางคนอับจนฝัน
จินตนาการมืดตื๋อตีบตื้อตัน
เฉกเรานั้น.."นักกลอนผู้อ่อนใจ"
ณ สถานการณ์พาลท้อกันทั้งเมือง
เศรษฐกิจฝืดเคืองปมเขื่องใหญ่
คนบ้านกลอนก็แปลกแตกแยกไป
ทั้งเก่าใหม่แบ่งฟากเขียนถากกัน
ที่ที่ซึ่งควรสบายกลับกลายเครียด
ต่างฝ่ายเฉียดขึ้งขรมเกินข่มกลั้น
เราประจักษ์อักษรร่อนโจษจัน
บ่งบอกนั่นเขตสนามสงครามกลอน
มาตรแม้นเราเข้าห้ามก่อนลามทั่ว
เขาอาจมั่วยกอ้างว่ากร่างสอน
มาตรแม้นเราสงบท่าอนาทร
เขาอาจย้อนนินทาตามอารมณ์
ด้วยหน้าที่ภาระที่กระทำ
จึงเก็บงำกล้ำกลืนความขื่นขม
ต้องเสแสร้งแสดงตลกคราอกตรม
จำใจข่มเขียนกลอนเพื่อผ่อนคลาย
"..เพราะต่างอ้างความคิดสิทธิ์จำเพาะ
ความพอเหมาะจึงสูญเสื่อมสลาย
คราวเพียรค้นคำตอบคนรอบกาย
เหมือนเปล่าดายเพราะจิตคิดต่างกัน.."  ๚ะ๛ 
				
			 
			
				9 พฤษภาคม 2552 13:57 น.
				
												
				
								อัลมิตรา
		
					
				
๏ เรียน..เพื่อนพ้องน้องพี่ที่เคารพ
หนึ่งปีครบโครงการฯงานอาสา
ตามประวัติจัดการเนิ่นนานมา
ฉันพบว่า.."ศรัทธาดียังมีจริง"
เป็น"ผู้ให้"ใจสุขถ้วนทุกคน
เป็น"ผู้รับ"บางหนทุรนยิ่ง
เป็น"ผู้มอบ"มาตรจิตไม่คิดติง
ย่อมเพริศพริ้งคุณค่า .."ศรัทธาชน"
เชิญร่วมแรงร่วมพลังอีกครั้งครา
เชิญอาสาพร้อมพรักอีกสักหน
เชิญช่วยเหลือโรงเรียน/นักเรียนจน
ช่วยให้พ้นวิกฤตสภาพที่ทราบดี
โรงเรียน ต.ช.ด. บ้านถ้ำหิน
หลักแหล่งถิ่นชายขอบเขตวิถี
แลกว้างขวางทางสถานอาคารมี
ผิวเผินเหมือนสุขีมากมีตังค์
อาคารมากใหม่เก่าล้วนเขาให้
สร้างแล้วทิ้งร้างไว้ไม่เหลียวหลัง
งานผักชีโรยหน้าหรูหราจัง
เห็นหลายครั้งทั่วไปในสังคม
คำของครู "โครงการอาหารเด็ก"
ข้าวจานเล็กกับน้อยพลอยขื่นขม
อิ่ม/อดบ้างผ่ายผอมจำตรอมตรม
หิวก็อมอากาศวาดเสบียง
เด็กต้องช่วยปลูกพืชผักสวนครัว
เพื่อช่วยถัวคราวซื้อในมื้อเที่ยง
ต้องเดินตามรอยพ่อฯ อย่างพอเพียง
อีกทั้งเลี้ยงแม่ไก่เก็บไข่กิน
ร้อยห้าสิบท้องหิวนับนิ้วได้
ข้าวสารต้องแค่ไหนปลูกในถิ่น ?
ต้องบำรุงปุ๋ยไหมในผืนดิน ?
ไก่ต้องกินอะไรจึงไข่มา ?
เบื้องหน้าเห็นอาคารสำราญแท้
เบื้องหลังแย่สารพันมากปัญหา
ฟังครูเล่าสุดประหลาดขาดประปา
ต้องพึ่งฝนจากฟ้าหลั่งมารอง
เรียน..เพื่อนพ้องน้องพี่ที่เคารพ
อีกคำรบ..อีกครั้ง..เถิดทั้งผอง
ให้ปรากฏนิยามตามครรลอง
ชนแซ่ซ้อง.."ศรัทธาดียังมีจริง" ๚ะ๛