19 มีนาคม 2551 00:42 น.

เงียบ

กวีปกรณ์

มาเถิด...แล้วจงเงียบ...
เงี่ยหูฟังนกไร้ระเบียบบรรเลงฝัน
ตะวันเพิ่งตื่น อย่าหาวหาแต่จันทร์
ท่ามกลางเสียงนกนั้นฉันเงียบ

รถตะเบ็งกราดกล่อมท้องถนน
มากผู้คนวุ่นวายไร้ระเบียบ
ฉันมองนกมองคนลองเทียบ
หากเร่งรีบกลายเร่งเรียบคงเรียบร้อย

เปล่าปลีกกายหมายรบเร้นสังคมรุ่ย
แล้วหายใจเข้าออกถุยทิ้งอย่างหิ่งห้อย
เดี๋ยวสว่างเดี๋ยวดับดึกล่องลอย
แต่หัวใจสงบค่อยทะยอยทะยาน

ฉันก้าวแต่ละก้าวอย่างสงบ
ไร้กฏเกฎฑ์ระบบเร้ารบร่าน
ก้าวด้วยเห็นสมเหมาะจำเพาะกาล
แล้วจึงจารจนสำเร็จเสร็จอุดมฯ

มาเถิด...แล้วจงเงียบ...
กลีบบัวบานบางเฉียบเชิญกลิ่นฉม
อ่อนน้อยน้อยเอนบ้างตามทางลม
คลื่นกระเพื่อมเพียงพรมพลอยสดชื่น				
17 มีนาคม 2551 02:52 น.

หลักกิโลฯ

กวีปกรณ์


กี่หมื่นพันทางไกลก็ไม่รู้
ลองก้าวดูกลับใกล้ชวนใจหาย
แม้หม่นหมองยามมองเหลียวรอบกาย
แต่จุดหมายไม่หมองลองเผชิญ

ใครว่าฝันฝากไว้ในผืนฝ้า
จนหลายคนไขว่คว้าเกินกว่าเหิน
ทั้งที่แท้เพียงเท้าลองก้าวเดิน
กลับช่างใกล้เหลือเกินใจเดินทาง

จริงอยู่มากอุปสรรคปักขวางไว้
เป็นของเราหรือไรทิ้งให้ห่าง
บ้างอาจเก็บสอนใจไปพลางพลาง
ฝันของใครทิ้งขว้างอย่าหมางไป

เราสวนทางหว่างคน-ทนเบียดแน่น
กลับร้างไร้อ้อมแขน,คนเคียงไหล่
เถิดอย่าท้อ อย่าถอย  ทนน้อยใจ
ยิ้มเถิดยิ้มพิมพ์ไว้สร้างไมตรี

รอยเหงื่อชุ่มเหนื่อยเพียงประเดี๋ยวชื่น
ยังแสงจันทร์ส่องคืนทุกผืนที่
โลกกว้างใหญ่หัวใจกว้างกว่านี้
หลักกิโลบ่งชี้เพียงประสบการณ์				
9 มีนาคม 2551 01:54 น.

หมดแรงแล้วกวี

กวีปกรณ์

หมดแรงแล้วกวี !!!
งานอิสระเสรีอย่างนั้นหรือ
ปณิธานเหลวไหลในกำมือ
กระดาษขาวที่ถือไร้ถ้อยคำ

เราจะสร้างสังคมดี !!!
ด้วยน้ำหมึกพิมพ์สีวจีพร่ำ
กระดาษถนอมสายตาเอามาทำ
ร้านหนังสือชั้นนำ ไร้บทกวี

สิ้นสถานที่หายใจ !!!
วรรณศิลป์วรรคไว้ไร้พื้นที่
งานคือเงินเงินคือสุขทุกนาที
เอาเวลาไหนมีประดอยคำ

หมดแรงแล้วกวี !!!
เทอดศักดิ์ศรีสวมหัวให้ตัวช้ำ
สิ้นแล้วงานสิ้นแล้วเงินเผชิญกรรม
พื้นที่งานงามล้ำคือโลกเสรี

เหลือเพียงโลกไซเบอร์ !!!
ไวรัสร้าย-เออเร่อ-ลอกก๊อบปี้
อุตส่าห์ประณีตคิดเขียนอย่างดี
หมดสิ้นแรงแล้วกวียุคเอชทีเอ็มแอล				
8 มีนาคม 2551 04:31 น.

นาฬิกา (Clock)

กวีปกรณ์

ลืมตาตื่น-กริ่งลั่นสนั่นก้อง
นาฬิกาปลุกร้องราวไก่ขัน
เริ่มตีกรอบชีวิตทุกวี่วัน
ตามตารางชีวิตฉันชีวิตเธอ

เส้นทางเดินย่ำเหยียบอย่างเบียดแน่น
ใช่สัมผัสแน่นแฟ้นอยู่เสมอ
เดินสวนกันทุกทีที่พบเจอ
กลับมองเหม่อไม่สน-ด้วยกลใด

คล้ายคล้ายยืนอยู่กันคนละโลก
ภาวนาเพียงโชคเชื่อมโยงให้
ทั้งจริงแท้-ทุกวารมองผ่านไป
มิสนใครให้เสียเบี้ยเวลา

เช้า กลางวัน ต้องกินอย่างเร่งรีบ
จังหวะชีพเต้นตุบห้ามบุบค่า
ทั้งที่ใจอยากพักเพียงสักครา
นาฬิกากับจำกัดทุกนาที

คิดแต่งานหาแต่เงินเพลินแต่คิด
คล้ายอากาศแห่งชีวิตต้องเสพถี่
การงานกลับแบ่งแผนกแยกนั้นนี้
คำติดปากเกิดมี "ไม่มีเวลา"

ทั้งที่เราเคยทำ-ช่างลำบาก
กลายเรื่องยากหลีกเร้นเป็นปัญหา
สามัคคีเพียงคำ "กริยา"
บรรจุในพจนานุกรมคำ

นาฬิกา นาฬิกา นาฬิกา
ชีวิตคนแข่งเวลาช่างน่าขำ
ทั้งกลไกกระดิกได้ด้วยตนทำ
เข็มกลับนำทางคนสร้างผลงาน

นาฬิกา เหง่งหง่าง บ้างกริ๊งกริ้งงงง.....
นี่คือข้อเท็จจริงทุกสิ่งสานส์
อุตสาหกรรมกำหนดเกณฑ์กฏกาล
สร้างสินค้ามหาศาลผลาญแรงใคร				
5 มีนาคม 2551 02:22 น.

นวนิยาย (unputdownable)

กวีปกรณ์

คลี่กระดาษคลายลงความสงสัย
ชีวิตคนชีวิตใครค่อยเปิดเผย
ออกมาโลดแล่นฝันปันสุขเชย
สนิทสนมคุ้นเคยเฉลยปม

ชื่อเรื่องหลาน่าสนฉงนฉงาย
มีเจ้าหญิงเจ้าชายหมายอุ้มสม
ใครคนหนึ่งคอยเล่าเขาน่าชม
สรรคารมคมคายพรายมนตรา

วางไม่ลงแล้วเล่าเจ้าหนังสือ
การหยิบถือกางอ่านกลายงานข้า
ฟังสำเนียงเสียงเล่าเย้าจินตนา
ภาพภาษาสร้างเสร็จก่อนเจ็ดวัน

ประสบการณ์แสนเศร้าเร้าร้องไห้
เหตุการณ์ร้ายใดใดให้หวาดหวั่น
พอรู้เหตุห้ามใจไหวตัวทัน
มิกระทำกรรมนั้นจะตามตัว

ช่างชื่นชมคนเขียนคอยเพียรคิด
เสกอักษรให้ชีวิตสถิตทั่ว
ม้าหนังสือเล่มหนาจะพาทัวร์
แค่เปิดอ่านสนุกชั่วเพียงพริบตา

อย่าลังเลอยู่นานเสียกาลเปล่า
มีเรื่องเล่าหลากนิยายหลายภาษา
มาผ่อนคลายเสริมความรู้คู่ปัญญา
เพียงครุ่นคิดตีค่าถ้อยงามงำ
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 1 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกวีปกรณ์