1 สิงหาคม 2551 23:35 น.

จะย่ำเดินจนกว่าไฟฝันจะลุกโชน

กฤตศิลป์ ชินบุตร

ทางเดินหลายแพร่งก้าว.......................ปลายฝัน
จารผจงชีวัน........................................ไขว่คว้า
ความถูกผิดขีดกั้น...............................หาไม่ ต้านนา
หากมั่นจะป่ายฟ้า................................ย่อมได้เป็นจริง


สรรพสิ่งเลิศล้ำ..................................พิภพ
กว้างดุจมหรรณพ.............................โอบล้อม
กันดารดั่งทรายกลบ.........................ร้องผ่าว
เพียงจิตองอาจก้าว............................แทบท้าวดาวเดือน


ขวากหนามรกชัฏต้อง.......................ฟันฝ่า
ทางเลือดอหังการ์............................รวดร้าว
ดอกไม้จักเยียวยา..........................มุ่งมั่น เถิดหนา
จะย่ำเดินเพื่อก้าว..........................หลีกเร้นอบาย


ไฟฝันวายุร้าย..............................หยัดยืน
ธรณีสะอื้น...................................ร่ำไห้
มวลมนุษย์ลืมตื่น........................กิเลศ ครอบฤา
จะกวาดขวากหนามไว้.................เพื่อก้าวมวลชน


ลุกโชนจรัสแพร้ว........................ไฟฝัน
อุทิศชั่วชีวัน................................กู่ร้อง
เพรียกความทัดเทียมกัน...............เป็นหนึ่ง
หมายซึ่งมวลมิตรพร้อง..................ฝ่าข้ามตามมา				
30 กรกฎาคม 2551 10:37 น.

ฝุ่นฟางกลางนา

กฤตศิลป์ ชินบุตร

ตอซังกรอบหักแห้ง..............สีทอง
ม่านธุลีละออง.......................จากฟ้า
อ้อมแขนแห่งเขาคล้อง.........ใยรัก มั่นฤา
กระท่อมน้อยเหมือนล้า.........มุ่งหน้าจากจร


วัวควายเล็มหญ้ากรอบ.........จืดฟาง
ตาดุจความเปล่าวาง.............สุดสิ้น
มุ่งความขจีช่าง.....................ไร้ค่า ปวงนา
แห้งญ่าฤาดับดิ้น..................มั่นนั้นความหวัง
		

สุริยันป่ายฟ้า........................บนหัว
ซึมเหงื่อลามทั่วตัว................ดั่งแสร้ง
ลมหัวกุดขุ่นมัว....................ฟางว่อน
นัยน์ขุ่นสัญญาณแล้ง............อีกแล้วทุกข์ทน


เงียบกริบกระท่อมน้อย........หวีดหวิว
ลมพัดเศษฟางปลิว..............ว่อนฟ้า
ธุลีฝุ่นโอบริ้ว.........................ม่านปก
พัดกลบกลางแดดกล้า..........สุดสิ้นเคลื่อนไหว


วัวควายสงบนิ่งให้................สลด ยิ่งนา
ฟ้าประทานเป็นกฎ..............กว่ากั้น
หมดแล้วทรหด.....................ชนบท
แล้วจึ่งมาด้นดั้น...................สู่ฟ้ามหานคร				
28 กรกฎาคม 2551 20:31 น.

แสงทองปลายอุโมงค์

กฤตศิลป์ ชินบุตร

มืดมิดสนิทแท้......................................งมทาง
ปารถนาแสงพร่าง.................................ส่องหล้า
ไหวไหวภาพมายา.................................หลอนหลอก
หวิวหวีดวายุกล้า...................................เร่งเร้าหวาดกลัว



ทางเดินชันแคบเข้า...............................อันตราย
เท้าเปล่าเพียรย่างกราย.........................โหดร้าย
หินคมอาบเรือนกาย...............................เจ็บลึก
มืดมิดทางละม้าย.....................................ลึกใต้นรกานต์



ทางสายเลือดอุ่นเท้า.............................ทนฝืน
ไม่อาจยั้งทั้งยืน.....................................จึ่งล้ม
ความง่วงครอบวันคืน............................จวนหลับ
ตาปิดค้อมหัวก้ม....................................มอดม้วยทมิฬ



ลำแสงของรุ่งเช้า...................................ปรากฏ 
เผยเปลือกตาบังบด...............................อีกครั้ง
ม่านดำรั่วจ่อจด.....................................น้อยนิด
ชีวิตฝืนใจรั้ง.........................................อยู่ยั้งอีกคราว



แม้นมิอาจกู่ร้อง........................................ช่วยเหลือ
แสงพร่างหมายใจเอื้อ...............................ปากถ้ำ
ความหวังต่อเติมเชื้อ.................................โชติช่วง
แม้นร่างกว่าชอกช้ำ..................................ไขว่คว้าปลายทาง				
27 กรกฎาคม 2551 18:21 น.

ทะมึนเมฆ

กฤตศิลป์ ชินบุตร

ปุยเมฆขาวเคลื่อนคล้อย.......................เวียนวน
เป็นเมฆกลุ่มดั้นด้น.............................จากฟ้า	
อบอ้าวรอเม็ดฝน..................................โปรยหล่น
ชุ่มเหงื่อเพลียกายล้า............................เถิดฟ้าโปรยฝน



อึมครึมทึมดับฟ้า..................................หม่นมัว
หมองขุ่นแห่งทิศทั่ว..............................เกิดได้
เหมือนอาเพศหวาดกลัว......................ปกแผ่
แสงสุรีย์สิ้นไร้.....................................เถิดฟ้าโปรยฝน



ลมโหมโถมผ่านแล้ว.............................หวีดหวิว
ปลิดหล่นใบไม้ปลิว..............................ว่อนฟ้า
ไหวไหวนกกาลิ่ว.................................ลูกห่วง
รถวิ่งเร็วกลับช้า..................................เถิดฟ้าโปรยฝน



อัสนีฝ่าเปรี้ยง	.....................................ระบำ
โสตจับสดับคำ	......................................ต่อสู้
กัมปนาทก้องสำ-.................................แดงเดช
ช้างประสานงาคู้..................................เถิดฟ้าโปรยฝน



กระหน่ำฝนเถิดฟ้า...............................รอรี
จงอย่าลูกคน-ผี.....................................โหดร้าย
สาปส่งฝุ่นธุลี.........................................เลือนลบ
ฝนตกฟ้าสางได้....................................เถิดฟ้าโปรยฝนฯ

					
กฤตศิลป์ ชินบุตร
					
27 กรกฎาคม 2551				
27 กรกฎาคม 2551 08:43 น.

นาฏกรรมชีวิต บทที่3 ฉากที่1

กฤตศิลป์ ชินบุตร

บทที่ 3 

ฉากที่ 1 	เมืองที่ได้ชื่อว่าสวรรค์บนโลกมนุษย์ นามกรุงเทพมหานคร		


อีกฟากฝั่งสังคมเป็นเมืองใหญ่		
เสียงร่ำลือขจรไกลทั่วทิศา
คือเมืองหลวงของเหล่ามวลประชา		
ที่ไหลบ่าเพื่อหาชีวิตงาม


บางคนทอดทิ้งแม่เพียงลำพัง		
ด้วยวาดหวังสูงใหญ่จะใฝ่ข้าม
บ้างลูกน้อยงอแงระงมตาม			
ประกายตาวาบหวามสะท้านทรวง


หากไม่จากตรากตรำทำนาไร่		
รังเปลวไฟไหม้ตัวให้ลับล่วง
ใช่ชีวิตอ่อนแองานทั้งปวง			
แต่เพื่อดวงหัวใจจึงจากจร


ทั้งไม่รู้อยู่ไปก็ไร้ค่า			
สู้จากนาเพียงเสื่อและใบหนอน
เผชิญโชคชะตามหานคร				
ดีกว่านอนรอวันมรณา


พระอินทร์จำแลง


เมืองกรุงคงรุ่งเรืองเมืองสวรรค์		
พลิกชีวันผู้คนเยี่ยงเมืองฟ้า
ด้วยไอทิพย์น้ำใจในธรา				
ผองชาวนาย่อมลืมตาประกายวาว


แม้นไม่อาจอยู่สุขในนาไร่		
เพราะผองภัยมากมีในรอยเท้า
ช่างเจ็บปวดความจริงในเรื่องราว			
ช่างอาดูรแท้ชาวนาไทย


หวังว่าชีวิตเจ้าคงพูนสุข			
ขจัดทุกข์เร้ารุมเส้นทางใหม่
ถึงยามท้อเรามีไม่เป็นไร				
เถิดแรงใจอีกดวงจะนำทาง


ชานเมืองใหญ่ปรากฏชายผิวคล้ำ		
เสื้อเก่าดำขาดวิ่นยามฟ้าสาง
ย่านการค้ามากมายคนเลือนร่าง			
ที่ละร่างที่ละร่างค่อยลับตา


อินทร์จำแลงทรงนั่งเพื่อพักผ่อน		
สุริยันร้อนตอนเช้าไคลอาบหน้า
ลมคาวคลุ้งจากคลองโชยกลิ่นมา			
ล้ากายาเอนกายไม่รู้ตัว


		
ยิ่งฟ้าเปิดอาทิตย์ยิ่งแผดกล้า		
เสียงอึงอลวาจาฝันสลัว
คือฝันร้ายบาดลึกอันหน้ากลัว			
จึงรู้ตัวรู้ตนบนความจริง


เมืองสวรรค์เทียบเท่าเมืองนรก		
สกปรกรกตาทุกสรรพสิ่ง
เมืองสวรรค์วาดฝันช่างแอบอิง			
พินิจยิ่งโสมมในไกวัล				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกฤตศิลป์ ชินบุตร
Lovings  กฤตศิลป์ ชินบุตร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกฤตศิลป์ ชินบุตร
Lovings  กฤตศิลป์ ชินบุตร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกฤตศิลป์ ชินบุตร
Lovings  กฤตศิลป์ ชินบุตร เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกฤตศิลป์ ชินบุตร