17 ตุลาคม 2549 00:08 น.

::กลิ่นหอมอ่อนกับวันเวลาเก่า::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


1.  หลังเลิกเรียนราวสี่โมงเกือบห้าโมงเย็น
     ผมเดินทางกลับบ้านอย่างช้า ๆ
     ถนนระหว่างจังหวัด  ตัดผ่านทุ่งนาสีเขียวอ่อน
     มองเห็นภูเขาสีฟ้าแกมเขียวอยู่ทางขวาตั้งแต่ออกนอกเมือง
     จนเกือบถึงบ้าน

      ก่อนนี้ผมคิดถึงแต่เรื่องอื่น
      หัวใจไม่ได้สัมผัสความง่ายงามของทิวทัศน์ข้างทางนี้เลย

      วันนี้เป็นเพราะอะไรเล่า
      ผมจึงเห็นทั้งความสวยงามด้วยตา
      กับทั้งรับสัมผัสกลิ่นหอมของนา  ข้าว และต้นไม้ข้างทาง
   
       กลิ่นนั้นหอมอ่อน  ชื่นเย็นหัวใจ
       ทำให้รำลึกถึงวัยเยาว์ ที่ความทุกข์ทางใจไม่ได้มากมายเช่นทุกวันนี้

       หรือว่าบางทียิ่งคนเราโตขึ้น
       ก็ยิ่งตกแต่งหน้าตาของตัวเองให้เป็นไปต่าง ๆ
       แล้วก็รักษาหน้าตานั้น ๆ เอาไว้ด้วยความเหน็ดเหนื่อยแกมเหน็ดหน่าย


        รึว่า  แท้จริงแล้วการยอมปล่อยหน้าให้อยู่ในสภาพที่แท้จริงของมัน
        ก็คือเข้าถึงสัจจะ  อันทำให้หัวใจแสนอิสระอย่างหนึ่ง


        ไม่รู้ล่ะ


        วันนี้ผมคิด พูด  และทำโดยไม่สนใจหน้าของตัวเองเลย
        มันโล่งหัวใจชะมัด


         นี่มั้งที่ทำให้หัวใจของผมกลับมารับสัมผัสทางตาและนาสิก
         ได้อย่างเป็นสุขอีกครั้ง


        
2.      ฯ

				
15 ตุลาคม 2549 07:02 น.

::ขอท่านถึงธรรม::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


1.   ยามยินเธอกล่าวแจ้ง..............ธรรมฉาย
      เอมอิ่มใจบวาย...................เพื่อนข้า
      บานเบิกแบบคืนหงาย.....จันทร์แจ่ม ใจแล
      ปานอย่างบุญแบ่ง-อ้า....อิ่มด้วยใจเสมือน

2.   แชเชือนเป็นอย่างโน้น..........มาเสมอ
      เหตุแต่เวรอันเธอ...............ห่อนรู้
      ทางธรรมอาจนานเจอ.......เวียนแต่  ขุกนอ
      รอจ่อมลงขุกคู้...........ว่ายเวิ้งเวรสะหวอย

3.   ยินพลอยพาเพื่อนพริ้ม..........เพลินแสน
      เถิดเพื่อนจงลุแดน............ตื่นแจ้ง
      เราคงเหวี่ยงวงแขน........วนบ่วง บาปฮา
      หากส่วนบุญบ่แกล้ง...แม่นพ้นนรกขุม

ฯ
      
      				
13 ตุลาคม 2549 15:53 น.

::แรกหนาว::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


1.  ลมเย็นในค่ำนี้.........................เรียมหนาว
     กายอุ่นเคยโอบคราว..............ก่อนนั้น
     ไกลเรียมอย่างแพรวดาว....อันห่าง  ตานอ
     ฝนผ่านปานฉากขั้น......ห่อนเอื้อแนวหวัง

2.  ชิงชังฤาจึ่งเร้น....................ลาหนี
     ใจห่วงแลไมตรี................แห่งข้อย
     บคลายกับบมี.................วันผ่อน  ลงเฮย
     ฤาติเรียมต่ำต้อย.........อย่างเสี้ยวธุลีเขลา

3.  ฤาเราบแม่นเชื้อ....................ชุมสาย
     แถนแต่งให้ฝันวาย............หวั่นกลุ้ม
     กอดเกยแต่ปางงาย..........พอค่ำ   ลาฤา
     หรือบาปจองจ่องอุ้ม........เพื่อร้างลาไถล

4.  ฝนไกลกาลแต่นี้.....................เย็นแหยง
     หมอกหม่นเยียบเหน็บแรง...รุ่งโน้น
     หนาวฝนซึ่งฝังแฝง..........ทรวงหนึ่ง  อยู่ฮา
     คงห่อนปีนป่ายโพ้น.....ร่วงช้ำคะมำหงาย

5.  ฝนหายหมอกเรี่ยล้อม................นาหนาว
     หวังรุ่งอรุณคราว.................ป่วยไข้
     จำเรียมเอ่ยอวลดาว........วานกล่อม  ทรวงแฮ
     ดาวบ่กล่อม-เรียมไห้....ขื่นขึ้งทรวงขม 

ฯ
    
          
     
       				
9 สิงหาคม 2549 02:07 น.

::คำลูก::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



                       (::คำแรก::)

                       
1.  เอมเอยอวลอิ่มซึ้ง..........ทรวงขวัญ  
     ไออุ่นอ้อมกอดอัน..........โอบเอื้อ
     เต็มตาตื่นรับวัน............เต็มอิ่ม  แม่เอย
     อ้อมอกอุ่นอะเคื้อ............แม่โน้มนำถนอม

2.  แม่ยอมแม้เหงื่อย้อย......ยางไหล
     เพียงแต่ยอดดวงใจ.......อย่าเศร้า
     สายตัวแม่ขาดไป...........แม่บ่   ขามนา
     ยั้งอยู่ยามทุกข์เร้า..........เหนื่อยท้นฤาถอย

3.  กลอยใจใครห่วงแม้น.....แม่หนอ
     คำเอ่ยเอยเออออ............บ่ใบ้
     แม่ยินแม่สุขพอ..............ยืนหยัด   อยู่เฮย
     คำหนึ่งหวังวาดไว้...........แม่นี้เนาฝัน

4.  ตะวันจันทร์แต่งฟ้า..........ต่อฝน
     คำ แม่ เหมือนมีมนต์.......แม่นแล้
     ลูกเอยแม่อดทน..............เติมแต่ง  ฝันนอ
     ฟังเอ่ย "รักแม่แท้"..........อิ่มซึ้งเทียมสรวง



---------------------------------------

หลายวันมานี้ผมเปิดเพลงเกี่ยวกับแม่และความรักของแม่
เพื่อฟังมาในรถกับลูก  

บทเพลงเกี่ยวกับแม่มีหลายเพลง ทั้งเพลงเก่า
และเพลงร่วมสมัย   

เพลงเหล่านั้นทำให้ผมนึกย้อนกลับไปในห้วงวัยเด็ก

วัยนั้นของผม  มีภาพของแม่
แจ่มและชัดอยู่ในมโนสำนึกไม่ลบ  ไม่เลือน

...

แม่ ต่อสู้ ดิ้นรน ไม่ปริปากบ่นตัดพ้อความเหนื่อยยาก

แม้อยู่ท่ามกลางวิกฤติกล้า  แม่ก็โอบอุ้มและปกป้องลูกให้พ้นภัยไม่หวาดหวั่น

วิถีและชีวิตของแม่เป็นเบ้าหลอมสร้างหัวใจดวงแกร่ง  
ที่ซื่อสัตย์และรับผิดชอบอย่างเข้มข้น


หัวใจของผมรักแม่
หัวใจของผมเคารพแม่

ยิ่ง



ผมสังเกตลูก


เขาฟังเพลงที่ผมเปิด อย่างใส่ใจและจดจ่อ
เมื่อถึงบ้าน  เขาตรงไปไหว้แม่

บอกว่า

แม่ครับ ผมรักแม่มากครับ

แม่ของเขายิ้ม
แล้วโอบกอด
ความสุขของความรัก
เอมและอวลมายังหัวใจของผมด้วย




วันแม่ที่จะถึงนี้
ผมจะพาหลาน ๆ ไปกราบแม่


ผมคงได้เห็นเหมือนเช่นเคยว่า
แม่มีความสุขเมื่อได้กอดหลาน ๆ 



ผมรักแม่ครับ




				
22 กรกฎาคม 2549 02:11 น.

::ข้าวบนยอดตึก::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


1.  แลเรียงเห็นร่วงแล้ว......รวมหลาย
     นานั่นนอนานาย............หน่วยข้าว
     เหลียวเห็นห่อนใจหาย..ทรวงหาก วายฮา
     อา ! - หวั่น วิเวกน้าว......หน่วงให้หทัยหิว

2.  หวิวหวิวคราวหวั่นคร้าม...อันเข็ญ
     ใครก่อกับใครเห็น...........อย่างบ้าง
     โขลงขุนกล่าวความเหม็น..หมายขู่  ไทแล
     แปลดั่งถาบกระด้าง...........แก่ผู้ทรงสวรรค์

3.  อันหยันยินยิ่งย้ำ........ครวญขยอง
     ใครนิ่งใครสนอง........เถื่อนนั้น
     หลงหัวหยิ่งจองหอง....หมายข่ม  ไทฤา
     อือ ! บาปเปรยกระชั้น.......บ่ช้าโลหิตฉาน

4.  คำหวานใครหว่านซ้อน.....แซงขม
     กวนขุ่นโดยค่าวขม...........หมื่นข้อ
     แหนงเหลือหน่ายขนม......อันอย่าง  เหยื่อเฮย
     เอย ! บ่าววงไคลฉ้อ..กระด่างด้านกระดานหนา

5.  มุสาโดยบ่สิ้น.....................เวิงสู
     ยินอย่างฟืนแยงหู.............ห่อนเหี้ยน
     ขุนขุนดั่งแมวหมู..............เอาเข่น ใครนอ
     ออ ! แต่งเป็นขวากเสี้ยน..ทิ่มเนื้อทวยฉมัง

6.  ฯ
     				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์