19 เมษายน 2549 23:15 น.

::เราต่างจรสู่ปลายทางว่างเปล่า::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



     โลกของฉันนั้นเหว่ว้า
     มาจากบ้านไร้หลังคาหลังใหญ่

     ทรัพย์สินสมบัติคือขลาดเขลา
     สวรรค์ประทานเหงาและอ่อนไหว

     ก้าวย่างห่างอกแม่
     จวบวันนี้ก็มีแต่จะต้องไป

     ไปสู่อะไรสักอย่าง
     ที่ซึ่งปลายทางอยู่แสนไกล

     ไม่ผิดหากเรียกว่าเร่ร่อน
     เพราะเรือนชานบ้านนอนหามีไม่

     หลบหลับกับสุมทุม
     ยุงหยอกยุงรุมไม่เท่าไร

     คนหยอกกลับขยาด
     เล่ห์หลอกแหมบาดเจียนหมดใฝ่

     เส้นทางเราทับกัน
     เธอคงไม่เหยียดฉันหรอกใช่ไหม

     แม้นหยันฉันคงเฉา
     มิรู้จะเร้นเงา ณ ที่ไหน
     
     แม้นเอื้อพอหายเหงา
     จะตอบแทนเธอเท่าความเบาใจ

     พรุ่งนี้ก็จะลา
     ทนหน่อยหากเบื่อหน้า..อย่ารีบไล่

     ที่สุด  แม้นใยดี
     เราต่างรู้ว่ามี..     อันต้องไป
     
     
      				
17 เมษายน 2549 16:14 น.

::เพื่อน- แพล่องอูน::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์




1.  ลำอูน  เอื่อยไหล  ไม่ขาดสาย
     เหลียวเห็น  ลับหาย  ไปหลากหน
     แมกไม้   เนินฝั่ง    บังสายชล
     เหมือนคน  ชอบ-ชัง   บังสายตา

2.  อูนเย็น  อยู่อย่าง   น้ำค้างเย็น
     ท่ามร้อน  ลำเค็ญ  ของสุ่มหล้า
     เยือนย่อม ยินดี       และปรีดา
     สมทรวง   ห่วงหา   แห่งข้านัก

3.  เถิดเพื่อน   ล่องแพ   ให้เพลินเพลิน
     เหน็ดเหนื่อย  เหลือเกินใ นงานหนัก
     สังคม   ไร้ทาง   ให้ร่างพัก
     โลกไร้  ที่รัก  ที่พักใจ

4.  ยินนก  นี่นั่น  นองคุ้งน้ำ
     เพลงนก   เนื่องฉ่ำ  หทัยไหว
     นอกร้อน  ใช่เล่น  หากเย็นใน
     น้ำไหล  เนื่องริน  หอมกลิ่นน้ำ

5.  เติมฝัน  เติมไฟ    ด้วยไมตรี
     จารบท-  กวี   ที่หวานล้ำ
     ไกลกัน   วันใหม่  มีหมายจำ
     ร้อยคำ   เลอค่า   ต่างหน้าเรา

6.  ลำอูน  เอื่อยไหล  ไม่ขาดสาย
     น้ำมิตร  บ่หาย   ในโลกเขลา
     เยื่อใย  บางอย่าง  อาจจางเบา
     ใยโยง   รักเรา  บ่โรยเลือน

   
       
     				
16 เมษายน 2549 00:48 น.

::เห - งา::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


1.   ไกลแล้ว  แป้วใจ  เพื่อนไกลแล้ว
      เหลือแวว  หวั่นไหว กับใจหวัง
      หวาดหวั่น เหว่ว้า  ละล้าละลัง
      กลัวเพื่อน  หน่ายชัง     จนแชเชือน

2.   หนึ่งน้อย   น้ำใจ   และไมตรี
      คือยิ้ม   ยินดี  ไร้ที่เหมือน
      วันหวาน  อันมี   ณ ปีเดือน
      กลัวเลือน  ลับลา   คราจากจร

3.   เมื่อไร   เพื่อนข้า   คืนมาเนา
      ใจเรา   ย่อมเอื้อ เหมือนเมื่อก่อน
      ฝากฝัน  วันวาน  ด้วยกานท์กลอน
      บอกว่า   อาทร  เพื่อนข้าแท้

4.   ขอเก็บ   รอยยิ้ม   ไว้พิมพ์ใจ
      ยามใด  ทุกข์ช้ำ  จนย่ำแย่
      ขอยิ้ม   เย็นตา   มาดูแล
      ดวงแด   จะดี  ได้บัดดล

5.   ไกลแล้ว ทำใจ  เพื่อนไกลแล้ว
      วี่แวว  เรี่ยหาย  ปลายถนน
      โอ้หนอ   อยากรัก  ใครสักคน
      เห็นเหงา  เกลื่อนกล่น  อยู่นี่แล้ว

      
        
        				
15 เมษายน 2549 07:59 น.

::เขย่าแคน หยอก::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



๑. แล่นแตร  แหมเป่าเราเองเพลิน
   ลายแคน  ม่วนเกินห้ามใจไหว
   ออกทาง  ย่างขยับด้วยจับใจ
   ลีลา  ลอกไหนล่ะหนอนั่น

๒.อ๋อทาง  แขกระบำกะลำซิ่ง
    อย่างลิง  เล่นน้ำขำปนขัน
    เป่าแคน   แล่นตรอยร้อยสัมพันธ์
    เธอรำ   โค้งฉันหน่อยเพื่อนเพลง

๓.สงกรานต์   บ้านนาพาเพลินใจ
    บ่มี   ผู้ใดมาข่มเหง
    ทุกคน   ล้วนสมัครใจนักเลง
    เอื้อเฟื้อ  บ่เบ่งอวดกบาล

๔.เล่นน้ำ   เหนื่อยแล้วมาร้องรับ
    พิณแคน   ขยับเป็นลายหวาน
    สาโท  แจกจ่ายเป็นได้การ
    อยากให้  เพลินนานก่อนคืนกรุง

๕.กลับแล้ว  บ้านเราคงเศร้าหงอย
    ใครหนอ  รอคอยอยู่ขอบทุ่ง
    รอรัก   มานำมาบำรุง
   ล้อรุ้ง   วงงามตามม่านฟ้า

๖.แล่นตรอย  ถอยแคนแตรแล่นแตร
   พิณแหย่  เพลงหยอยหน่อยเถิดหนา
   บอกเพื่อน   ว่าเรายังเนานา
   สงกรานต์   ปีหน้าคืนมาเพลิน..



   
   				
14 เมษายน 2549 10:26 น.

::ชื่น เย็น ชโย::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



1.  วารี บ รุ่มร้อน...........คราวสรง
     ธารชื่นชวนหมู่ลง.....เล่นน้ำ
     ไมตรีย่อมยังคง.......โดยจิต เนื่องแล
     เย็นอย่างน้ำมิตรค้ำ...กอบเกื้อหทัยสมาน

2.  สราญโดยร่วมลิ้ม.......รสขม
     ทิพย์แห่งเมรัยนิยม.....ยิ่งแล้ว
     ไมตรีบ่พาตรม...........มาแต่ ใดนา
      ชื่นอยู่ชนบ่แคล้ว.....ร่วมซร้องชโยขยาย

     
     
     				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์