8 เมษายน 2547 05:27 น.

เรน มัท ต่อ ก้อง พิมพ์ อ้อ วัฒน์ Ora คนร่วมฝันกำลังออนไลน์

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์




เรน : สวัสดีสหาย ในไลน์ฝัน
มัท :  สวัสดีเหมือนกันคนฝันใฝ่
ต่อ : ยังมายิ้มแม้ว่ายิ้มไม่พิมพ์ใจ
ก้อง : ผมมาใหม่มาแจมยิ้มมาอิ่มทรวง
พิมพ์ : ใช่      เว็บนี้มีครบความอบอุ่น
อ้อ :  เหมือนคนคุ้น นับร้อยคอยห่วงหวง
วัฒน์ : เตือนด้วยรัก ทักด้วยใจไม่หลอกลวง
Orawana :  เราทั้งปวง   มีจิตใจ อิ่มไม่ตรี
เรน :  เช้าวันก่อน  เช้าเมื่อวาน หวานหรือขม
มัท:  ตามอารมณ์ด้วยครรลองของน้องพี่
ต่อ : เห็นภาพสวย      ก็ว่าสวยเห็นด้วยดี
ก้อง : เห็นเรื่องที่  ปวดร้าวอาจร้าวรอน
พิมพ์ :  เก็บเรื่องราว  ที่เราเห็นเขียนเป็นโคลง
อ้อ : ฉันท์  กาพย์    โตง-โตย   ผญา ว่าบ่ผ่อน
วัฒน์ : ร่าย  ตรง  ย้ำ   คำ  ความตามบทกลอน
Orawana : ร้อยแก้วเรียง     ก็แน่นอน ตรงคมความ
เรน : ที่เขียนอยู่ เพราะมีฝันของวันพรุ่ง
มัท : วาดเรียวรุ้ง แจ่มแท้ ใช่แค่พล่าม 
ต่อ :  ใช่แค่เพ้อในคืนวัน  อันเขลาทราม
ก้อง : ใช่แค่ถาม แล้วผ่านเลย แบบเฉยชิน
พิมพ์ : ถามหัวใจ    ตัวเอง ตอบตัวเอง
อ้อ : ก็ไม่เกรง ที่หัวใจใดจะหมิ่น
วัฒน์ : แปลกอันใดในเมื่อคนเกิดบนดิน
Orawana : ล้วนแต่กิน-ถ่ายไม่เห็น    เป็นทองคำ
เรน : เขียนเถิด  .   
มัท:  เขียนหัวใจของคุณเถิด
ต่อ : เว็บนี้เปิด  . 
ก้อง : น่านิยม  ทั้งขม-ขำ
พิมพ์ :  ตามแต่ใจ..  ไร้กงกรอบมาครอบงำ
อ้อ , วัฒน์ , Orawana  :   เมื่อหัวใจ   ไม่ใฝ่ต่ำ   เชิญฉ่ำ   จาร .				
7 เมษายน 2547 19:12 น.

ชวนหนีร้อน ไปนอนน้ำ

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


อากาศร้อนนะ
มามะจะพาไปว่ายน้ำ
ที่บ้านพี่มีสระว่ายประจำ
อยากผุดดำทำได้สบายดี

โน่นสระน้ำกว้างใหญ่เกือบไร่กว่า
ลึกถึงตาตื้นมีบ้างเป็นบางที่
น้ำเย้นเย็นเห็นยังรื่นชื่นชีวี
ปลาก็มีดูผุดว่ายสบายใจ

ไม่ต้องหรอกไม่ต้องนุ่งทูพี้ชหรอก
พี่เขินออกนั่งหรือเดินพี่เขินใหญ่
กระโจมอกด้วยผ้าถุงนุ่งว่ายไป
พอเพลินใจลืมร้อน ขวัญอ่อนเอย

ในช่วงเย็นพี่ชอบเล่นน้ำกับลูก
เอาแกลลอนมาผูก-เรียกลูกเอ๋ย-
มาเล่นน้ำหัดว่ายน้ำซิทรามเชย
จะได้เคยคุ้นน้ำไม่คร้ามกลัว

ผูกแกลลอนสองใบให้ชูชีพ
ร้อยยางลีบอย่างเข้มงวดตรวจดูทั่ว
ว่าปิดฝาแกลลอนได้ไม่หลวมชัวร์
ถึงไม่กลัวก็ควรรอบคอบสิเนาะ

พอได้แกลลอนคู่ไว้ชูชีพ
หนูก็รีบว่ายไปดูคล้ายเหาะ
ลูกก็ยิ้มพ่อก็แย้มแกมหัวเราะ
เราบ่มเพาะอารมณ์ขันแบ่งปันเกลอ

ว่ายเป็นไหม น้องว่ายน้ำเป็นไหม
ถ้ายังไม่ฯ ก็ลองที่พี่เสนอ
แกลลอนคู่ดูใช้ได้ไหมเล่าเออ
ผูกกับเอวว่ายไปเทอะบ่มีจม

พี่ว่ายฯเป็นอย่างบังเอิญไม่เขินกล่าว
ตอนเป็นเด็กตัวเล็กราวชั้นประถม
ไปวางเบ็ดที่ห้วยใหญ่ไถลโครม
ตกน้ำจมดิ่งบึ้งลึกรู้สึกคว้าง

โชคยังดีคว้าไขว่ได้เส้นหญ้า
พยุงตัวขึ้นมาง่ายขึ้นบ้าง
สองมือโบกเท้าขยับสลับทาง
น้ำชูร่างให้ปริ่มน้ำจำไม่ลืม

แต่กว่าจะผุดว่ายแบบไม่เหนื่อย
ต้องว่ายเรื่อยบอกตรงตรงพี่หลงดื่ม-
น้ำหลายอึกนึกแล้วขำแกล้งงำงึม
กว่าจะซึมซาบทางว่ายอย่างเป็น

น้องเคยยินใช่ไหม วลีว่า
ตกน้ำท่า ไม่จมตายเป็นได้เห็น
ว่าน้ำนั้นมีคุณค่ากว่าโคลนเลน
เพราะล้างเหม็นล้างหมองผุดผ่องนัก

อาบน้ำนั้นเย็นซ่าน้องว่าไหม
น้ำไม่ใสเท่าที่ควรอย่าด่วนผลัก-
ไสจนห่างอย่างใจที่ไร้รัก
ถึงขุ่นนักมีน้ำฝนล้างโคลนตม

น้องเหนื่อยไหมว่ายน้ำตามที่แนะ
คงเหนื่อยแหละและแกลลอนก็เทียวล่ม
หยุดถ้าเหนื่อยพักถ้าหน่ายคลายอารมณ์
อย่าจริงจังถึงจ่อมจมจมแจทุกข์

พี่มาใช้ชีวิตคิดแบบเด็ก
เพราะว่าลูกตัวเล็กทำให้ฉุก-
คิดว่าคนใยจึงเขลาให้ร้าวรุก-
รับแต่มันบ่เคยสุขจริงเสียที

ขึ้นจากน้ำเชิญขวัญใจไปอาบน้ำ
พี่จะทำอาหารทุ่งปรุงเต็มที่
งานกับแกล้มฝีมือพ่อก็พอมี
รสจะดีด้อยอย่างไรเอาใจพา

ปลาก็ได้จากข่ายที่สระยาว
ปลาสีขาวน้ำขุ่นคลั่กงามนักหนา
อาบน้ำนมก็เหมือนในโฆษณา
อย่าเพิ่งฮาที่หน้าพี่สีคล้ำนวล

อยากลิ้มลาบหรือทอดแบบสุกเกรียม
ยำมะม่วงพี่ก็เตรียมให้ราดด่วน
แฟนพี่ชาญอาหารนานะลำดวน
ทั้งหมดชวนด้วยไมตรีไม่มีกล

ในกรงกรุงยุ่งร้อนซ้อนกลเมือง
ประชาไทยซีดเหลืองทุกแห่งหน
แอกอาทรยังซ้อนทบทับไหล่คน
พี่ผู้จนขอหลบร้อน นอนน้ำเย็น				
7 เมษายน 2547 05:39 น.

คลิก.............เชื่อมใจ -จดหมายถึงเพื่อน

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



ถ้าเพื่อนเหงาในเช้าไม่ได้ทำงาน
คลิกมานี่มีเรื่องบ้านอ่านแก้เหงา
ฤดูนี้อาจแล้งไปทำใจเอา
แต่บ่เศร้าดอกนายสบายใจ

------------------

ปีนี้เราได้ข้าวมากเอาการ
และที่บ้านนายใช่ย่อยเป็นร้อยไร่
ข้าวเต็มยุ้ง หุงหรือจี่ข้ามปีไป
ก็ยังเหลือเชื่อไหมไม่เดือดร้อน

พ่อของนายขายปลาได้ห้าหมื่น
นายอย่าทำตาตื่นขอบอกก่อน
ปลามันชุกดุกกับหมอพอสะออน
แต่ไม่น่าออนซอนเท่าช่อนชุก

ขายหนึ่งบ่อเก็บไว้กินอีกหนึ่งบ่อ
รับรองพอเหลืออีกซีมีความสุข
สวนหมากไม้หมากทันก็ทันยุค
คนที่บุกเบิกหรือก็คือนาย

วัวของนายถึงรอบขายคงได้โข
ตัวโต๊โตชาโลเล่ย์เมื่อเทขาย
เกือบห้าหมื่นต่อตัวชัวร์แน่นาย
กลุ่มโคขุนขุนโคขายเป็นนายเงิน


เพื่อนของนายหลายคนบ่นคิดถึง
จำได้ไหมใครคนหนึ่งซึ่งเป๋อเปิ่น
เดี๋ยวนี้มีสี่พระหน่อเรียกพ่อเพลิน
น่าอิจฉามันเหลือเกินคนมีเมีย

เขาปลูกผักหมากไม้อยู่ใกล้เขา
บัดนี้เปิ่นของเราเขาเป็นเสี่ย
มีโรงงานผลไม้ดองนามซองเทีย
มักชวนเราถองเบียร์เป็นประจำ

ถามถึงนายว่ายาหยีมีกี่คน
เราก็ด้นเดาดะกะอย่างต่ำ
ว่าหนึ่งนั้นแน่แท้แกแฮนซัม
เป็นไงคำเราถูกใกล้ไหมเล่าเกลอ

ส่วนสมศรีคนที่ใจมีให้นาย
ตั้งมากมายนายเคยปลื้มลืมแล้วเหรอ
เพิ่งแต่งงานกลัวจะแก่แต่ใจเธอ
ก็ยังคงอยากพบเจอเพื่อปลอบใจ

นายอยู่เมืองบางกอกก็ออกดี
กันดูข่าวทางทีวีตอนปีใหม่
เศรษฐกิจขาขึ้นรื่นฤทัย
ซื้อแล้วขายหุ้นทำกำไรงาม

เมืองโสภาอ่าโอ่ใหญ่โตขึ้น
แต่กันมึนตรงถนนรถล้นหลาม
ยิ่งฟังข่าวอุบัติเหตุทั่วเขตคาม
ยิ่งกลัวยามอยากเดินทางตอนกลางคืน


กันเคยขี่รถที่ บ.ข.ส.
ฟังคนขับคุยแล้วก็ตกใจตื่น
คนเดียวขับจากเมื่อวานยันมะรืน
เขาแข็งขืนตาขยับปนหลับใน

มิน่าเล่าเมืองเราจึงมีเลข
เป็นหลักร้อยในแบบเบรกหาอยู่ไม่
รณรงค์ตรงจุดหรือตรงใจ
จะพูดไปก็เข้ากรอบอีหรอบเดียว

คือคนเรามักได้มักง่ายด้วย
คนอื่นซ-ย คนอื่นเสียเฮียไม่เกี่ยว
มันประกอบเข้าด้วยกันพันเป็นเกลียว
ปีนี้กันไม่กล้าเที่ยวที่ไหนเลย

ก็ไปทุ่งไปนาไปป่าเขา
ดูเรือกสวนนาเราแหละเกลอเอ๋ย
ดีใจตรงคงไมตรีดีเหมือนเคย
เออขอเปรยไว้เล่นเล่นเป็นแนวทาง

ปีหน้าจะหยุดเหงาอย่างเขาเพื่อน
อยากมีเหย้ามีเรือนเหมือนพวกบ้าง
แล้วจะส่งการ์ดมากับเวปกลาง
พร้อมแนบไฟล์ใบหน้านางเมื่อวางใจ

เอาล่ะนะวันนี้มีแต่ฝอย
วันพรุ่งนี้จึงค่อยพบกันใหม่
แต่อย่าคาดหวังเพิ่นจนเกินไป
มีหัวใจคิดถึงเพี่ยน จึงเขียนมา



จ.ม. ฉบับที่ 2

ไก่แจ้โก่งคออีเอ้กเอ้ก
ไก่โต้งแซงพระเอกหน่อยเถิดน่า
ส่วนไก่ชนคนให้เดินไปมา
เสาร์อาทิตย์คงจะพาเข้าสังเวียน

ทุกวันนี้คนรายรอบต่างชอบไก่
แต่หาใช่เพียงไก่ย่างอย่างยายเหมียน
มันกินดีตรงยี่ห้อใช่ล้อเลียน
อยากอาเจียนตรงที่มันหยันไก่ดอย

ดูเจ้าสัวตัวเขายังเข้าป่า
ไปเสาะหาไก่เชื่องไม่เซื่องหงอย
เพื่อเอาก่อต่อกันเป็นพันธุ์พลอย
แล้วรวยเละอีกล้านร้อยคอยดูเอา

ไก่ชนไก่ชนชนไก่
กีฬาไทยไทยท้องถิ่นบ้านเรา
สนุกจังเชียร์ดังไม่เบา
สนุกจังเชียร์ดังไม่เบา
ล้อมวงกันเข้ามาเชียร์ไก่ชน..

ไก่ต่อสู้คนต่อสู้เพื่ออยู่รอด
ใครก็บอกมาตลอดตั้งแต่ต้น
เลี้ยงไก่ตีมีไก่กินอย่าหมิ่นคน
รวยหรือจนก็ต่อใจหมายต่อธาร

ธารธรรมนำไปไกลความทุกข์
คนล้วนหวังความสุขมหาศาล
มิได้หวังให้ทุกข์ปนจนรำคาญ
กระแสนี้มีมานานคอยคาลใจ

แต่คงด้วยบุญทำหรือกรรมแต่ง
คนจึงแข่งวาสนาได้หาไม่
แต่เอาเถอะเพียงมีกินเลี้ยงกันไป
ก็ชื่นใจพอประมาณพอบรรเทา

ไก่ของนายยายขายไปหลายหน
เชื่อไหมว่าผู้คนอยากซื้อเหมา
แต่ยายบอกแบ่งกันกินอย่าโลภเมา
อยากได้ไก่อุ้มไก่เอามาแลกกัน

ข้าวนาปรังนาปีที่เหลือยุ้ง
เหลือจากกินลงพุงก็เอาผัน
มาเลี้ยงไก่ขายไก่ได้หลายพัน
เออแบบนี้สิมันค่อยดูดี

ราคาตกใยยังดันทุรังต่อ
แห่ไปขายได้ไม่พอแถมต่อหนี้
ตัดวงจรอุบาทว์ให้ได้ซักที
หน่อยเพื่อนผองน้องพี่หนีความจน

จนจนจนจนจนจนจนเจ็บ
เจ็บเจ็บเจ็บเจ็บจัดเพราะขัดสน
เขลาเขลาเขลาเขลาดังเป็นวังวน
โง่เจ็บจนจนเจ็บโง่ โอปวดใจ

จดหมายกันมันคงมาแบบน่าเบื่อ
เหม็นกลิ่นไพร่ได้กลิ่นเหงื่อเมื่ออยู่ใกล้
งั้นนายต้องมองกลางกลางถึงห่างไกล
แต่ว่าขอเขียนต่อไปได้ไหมนาย

จ.ม. ฉบับ ท้ายสุด

จบ จ.ม. ฉ.บ. นั้นกันโชคดี
ติดรถพี่ขึ้นบนเขาเหมาของขาย
พี่แกเป็นคนชอบค้ามาเยี่ยมยาย
ก่อนจะกลับคืนหนองคายคงหลายวัน

ชวนไปดูบนภูหลายหมู่บ้าน
ปิ๊งเลยเพื่อนเหมือนวิมานหรือกว่านั่น
นายเชื่อไหมใครเคยเห็นเป็นเหมือนกัน
คือรู้สึกเหมือนความฝันมันเป็นจริง

บนภูเขาเขาปลูกผลไม้ขาย
น้ำจากสายข้อต่อลดหยดติ๋งติ๋ง
น้ำจากท่อต่อจากเขาเขาพึ่งพิง
ธรรมชาติช่างเอื้อยิ่งยิ่งเอื้อเฟื้อ

ก็เคยไปบ้างหรอกภูดูดงดอย
ถามหาลานสาวคอยทางดอยเหนือ
ก็เคยเยือนก็เคยอยู่ที่ภูเรือ
ภูกระดึงเคยถึงเมื่อนานมาแล้ว

ทว่าภูหมู่นั้นมันก็ต่าง
จากภูเขาที่เราอ้างกับเพื่อนแก้ว
คนไปเยือนเหมือนแปลกหน้ามาแปลกแนว
พบกันแล้วแล้วกันไปไม่อาวรณ์



หรือว่าเราฟูมฟายมากมายไป
ยึดมั่นในตัวตนจนยากถอน
โหยหาแต่ใยเยื่อเอื้ออาทร
คิดแล้วถอนใจขำ นบคำพระ

ยังจำได้เมื่อปีกลายนายกลับบ้าน
ซื้อไวน์แดงออกรสหวานปานสละ
มาฝากกันกันติดรสไม่ลดละ
ยกไตรรัตน์ไว้ก่อนนะจะจิบนิด

ชาวบ้านโนนหัวช้างที่กลางภู
เปิดขวดหรูเหมือนไวน์ดังฝรั่งผลิต
รินให้จิบหยิบขวดไวน์ให้พินิจ
รสนั้นมิตรคุ้นสนิทเพราะติดชิน

รินลงแก้วแล้วก้มลงดมแก้ว
ยกขึ้นแล้วรินกลั้วชั่วแมวดิ้น
ให้รสไวน์ได้ชำแรกลงแทรกลิ้น
อย่าด่วนกินดื่มเกลี้ยงเพียงอยากเมา

เห็นไวน์ใสเห็นวัยสวยร่ำรวยภูมิ
เห็นช่วงตูมถึงช่วงบานผ่านช่วงเขลา
จิบเพื่อแจ้งแจ้งใจจิบเลือกหยิบเอา
จะเมาเหล้าหรือเมาใจเอาให้พอ

สิบหมื่น สิบหมื่น สิบหมื่น
ถึงยิ้มระรื่นต้องกลืนลงคอ
คุณพ่อครับผมแย่
คุณแม่ครับผมจน
สิบหมื่นผมเหลือทน
ไม่ขอดิ้นรนจนต้องขายลูกกิน
กราบลาแล้วขอแจวลาจร
ไม่ขออ้อนวอนง้องอนทั้งสิ้น
หากเป็นเขยคงขายผมกิน
ต้องดับแดดิ้นเพราะถูกกินถึงตาย
หากจะขายแม่ยายยังอยู่
จะให้น่าดูต้องมีแถมพ่อตา .. ( จำได้กระท่อนกระแท่น ชอบมากสมัยยังดูหนังมิตร ชัยบัญชา )

สิบหมื่นสิบหมื่นสิบหมื่น
ไวน์ของใครให้เอาคืนไปดีกว่า
หากจิบแล้ววุ่นหัวใจไม่รู้ลา
เชิญคุณมาจิบไวน์ใสจากไพรพง

เก็บผลไม้เอามาล้างอย่างสะอาด
ปั่นแล้วกรองเอารสชาติอันสูงส่ง
หมักกับยิสต์ผลิตLกฮลง
เก็บไว้ตรงที่นิ่งเย็นเป็นปีปี

คุณค่ามาแต่กาลเวลาด้วย
ถังไม้กล่อมเกลาช่วยทุกวันวี่
รสคงปร่าถ้าด่วนได้ไม่พอดี
จิบไวน์เย็นเห็นโลกนี้เป็นอย่างไร

ที่เอ่ยมาอย่าน้อยใจไปนะเพื่อน
ไวน์สีแดงรสชาติเหมือนสละใหม่
แม้นจะหนีบมาฝากบ้างจากทางไกล
ทางนี้ใจเต็มต่อการรอคอย

เพียงแค่อยากให้นายนั้นหายเหงา
กันจึงเอาเรื่องหมู่บ้านนั้นมาฝอย
มีอีกมากหากอยากฟังตั้งตาคอย
เบื่อบอกหน่อยกันจะจรไปนอนเปล

แขวนเปลนอนให้สบายใต้ต้นนุ่น
หลีกโลกวุ่นหินเหี้ยมด้วยเหลี่ยมเล่ห์
จิบเมรัยพอให้เพลินเดินไม่เซ
อ่านนิยายสบายเด สบายดี


คำ ใต้ต้นนุ่น หยิบมาจาก เปลยวนใต้ต้นนุ่น 
ของคุณชาติ กอบจิตติ- ขอบคุณครับ				
6 เมษายน 2547 22:12 น.

มาจากดาวดวงอื่น

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



ปล่อยแรงต้านแรงโน้มถ่วงเพื่อจอดยาน
ลง ณ ย่านหลังแปภูเขาใหญ่
ละติจูดในเขต ประเทศธัย
จังหวัดอันห่างไกล ภูพานวง

เดินทางลัดมาทางประตูมิติ
ตัวยานสั่นแทบแตกปริเป็นผุยผง
ลูกเมียยังหวาดหวั่นงันงง
เมททีออร์พุ่งตรงเกือบเฉี่ยวชน

บนเขาป่าไม้สูงชะลูด
แต่กิ่งก้านหงิกกูดจากลมฝน
มีลานหินเพิงผางามน่ายล
แต่น่ากลัวก็ระคนไม่แพ้กัน

ต้นไม้หลากสายสปีชีส์
สัตว์ป่าก็มากมีดูโน่นนั่น
เด็กชายจอยท์ตั้งชื่อให้พวกมัน
เป็นชื่อเมืองที่เรานั้นได้จากมา

คนรักแรมทางมาเหนื่อยอ่อน
แต่ก็เหนื่อยใจก่อนนั้นนักหนา
ด้วยลูกรักที่รักดังแก้วตา
มาปลิดชีพของตนลาจากเธอไป

เพียงเพราะความครุ่นคิดอันอ่อนเขลา
เพียงเพราะเราไม่เอาเงินซื้อให้
เพียงเพราะเปรียบเทียบตนกับคนไกล
เพียงเพราะความอยากได้จนเกินตัว

ดีเอ็นเอที่ลูกนั้นต้องการ
คือหล่อเลิศฉลาดชาญอย่างเขาทั่ว
จะปลูกถ่ายต้องใช้เงินของครอบครัว
ที่สะสมจนหมดตัวแล้วจนใจ

เมื่อข้องขัดก็ขัดใจเจ้าวัยอ่อน
เจ้ารีบด่วนจากจรแม่ร่ำไห้
พ่อไม่อยากให้ลูกพรากจากพ่อไป
อย่างไม่เหลือเยื่อใยตัดไมตรี

แม่ยังช้ำน้ำตานองหน้าไหล
เพราะเหตุนี้เราจึงได้มาที่นี่
ด้วยความรักเปี่ยมท้นพันทวี
เราจึงหนีดาวสีฟ้ามาด้วยกัน

อาหารหลอดเตรียมมาไม่มากนัก
ยานจะหนักเกินกำลังนิวเคลียร์นั่น
แม้พ่อเป็นนักบินคนสำคัญ
แต่เงินทองของพ่อมันก็น้อยนิด

จากวันนี้ไปวันหน้าลูกยาเอ๋ย
หลายสิ่งคงไม่คุ้นเคยถึงสนิท
พวกของกินหากขมลิ้นราวมีพิษ
ยอดไม้อ่อนต่อชีวิตนะแก้วตา

ลูกจะลงจากหลังแปบอกแม่ก่อน
พบเพื่อนใหม่อย่าใจร้อนตอนเข้าหา
ให้กลับที่พักของเราก่อนดาวมา
มืดค่ำนักทั้งภูผาดูน่ากลัว

พ่อจะสร้างบ้านใหม่ให้เจ้าอยู่
ก่อนยานเล็กของปู่จะแตกรั่ว
โปรแกรมยานทำลายตนนั้นแน่ชัวร์
สสารทั้งยานทั่วจะแปลงมวล

กลายเป็นดินหินทรายคล้ายหินเขา
แม้สิ่งของของเราก็เปลี่ยนถ้วน
ไปเถิดโน่นเพื่อนคับป่ามาเชิญชวน
ท่องให้เพลินเหมือนเดินสวนของดาวเรา

ลูกไปแล้วคู่รักก็คุยกัน
เธอว่าเธอไหวหวั่นระคนเศร้า
มันจุกเสียดถึงขั้วใจไม่บรรเทา
ตั้งแต่คราวออกเดินทางไม่จางเลย

เขาว่าขอให้ทำใจให้สบาย
ปล่อยวางสิ่งทั้งหลายเถิดเธอเอ๋ย
เธอว่าเธอเจ็บปวดแล้วเกินเอ่ย
และร่างกายก็ไม่เคยทุกข์เท่านี้

เขายื่นเครื่องช่วยหายใจให้คนรัก
เธอก็ผลักออกไกลไปจากที่
เธอบอกเธอคงต้องลาน้ำตาปรี่
แม้หัวใจอยากมีลมหายใจ

ลูกชายไปนานไม่ทันมา
เห็นใจแม่โอ้แก้วตาเจ้ารู้ไหม
ว่าแม่รักลูกยากว่าสิ่งใด
แม่จำจากเจ้าไปด้วยถึงกาล

เธอผ่อนลมหายใจไปเงียบเงียบ
แล้วความเย็นยะเยียบก็แผ่ซ่าน
อ้อมกอดของความรักยังนิ่งนาน
ทั้งภูเขาเงียบปานกับไร้ลม

แล้วลูกคนเล็กก็กลับมา
พอรู้ว่าแม่จากไปใจขื่นขม
กอดแม่แลพ่อก็ยิ่งตรม
แผ่วเสียงลมลอดผาอาลัย

พ่อฝังร่างขอแม่ที่ใกล้ผา
จำหลักหินว่าแอนนา ดีเอสไลท์
จากดาวดีทีเอสเอ็กซ์ไกล
สิ้นใจ 20 /10/3000

พ่อวางดอกไม้เหนือหลุม
นั่งเหม่อเหมือนกลุ้มกลืนกลั้น
เด็กน้อยเหม่อมองพ้องกัน
ม่านหมอกก็คลุมพลันทั่วภู
.

o o o

เช้ามืดยานเริ่มทำลายตน
ทั้งสองคนยังหลับสนิทอยู่
ลมเย็นเยียบแผ่วเริ่มพร่างพรู
ปลุกพ่อลูกให้รู้ความเปลี่ยนแปลง
กองดินหินทรายที่พูนกอง
แม้นไม่ตั้งใจมองเป็นแห่งแห่ง
ย่อมไม่รู้ว่าสิ่งนี้ที่รุ้งแวง
ของภูผาเป็นธาตุแปลงจากดาวใด
แสงของเช้าวันใหม่สาดไออุ่น
กลิ่นไม้ป่าหอมกรุ่นชวนอ่อนไหว
นกผละรังเรียงบินเป็นแนวไป
กระรอกไต่กระแตต่างมีทางตัว
ผึ้งเล้าโลมดอกไม้ได้รสหวาน
มดแมลงทำงานกันถ้วนทั่ว
ป่าทั้งป่าในเช้าใหม่ไม่มืดมัว
ยินเสียงนกหนูรัวร้องเรียกกัน
ว่าที่โน่นที่นี่มีของกิน
เจ้าตัวเล็กหัดบินอย่าหุนหัน
ค่อยค่อยจิกค่อยค่อยตอดอย่าดึงดัน
ของกินมีจงแบ่งกันและกันไป
พ่อของจอยท์ลุกมาเตรียมอาหาร
เป็นยอดไม้เต็มจานกับซุปไก่
ที่เหลืออยู่ครึ่งทิวบ์ของล็อตไฟว์
กินแล้วลูกจะท่องไพรไหมวันนี้
เด็กชายจอยท์จะลงเขาเข้าหมู่บ้าน
เพื่อนใหม่ชื่อคำหมานบ้านคำผี
จะมารับไปเลี้ยงวัวตัวอ้วนพี
แล้วแบ่งข้าวโพดสาลีเป็นค่าแรง
เมื่อลูกไปหนุ่มใหญ่ก็นิ่งเงียบ
หลุมตรงหน้าเย็นเยียบและต้องแสง
แดดยามเช้าลอดช่องผามาทแยง
เช้าวันนี้เป็นวันแกร่งเหมือนทุกวัน
ลงมือจำหลักผาภาษาชิปท์
บอกเรื่องราวละเอียดยิบของดาวนั่น
ชื่อ : ดี ที เอสเอ็กซ์ เนบิวลาร์ * 1
บอกเดินทางมากันวิธีใด
บอกถึงเทคโนโลยีของที่โน่น
ไบโอคอมพิวติ้ง - โคลน อะไรก็ได้
ยีโนมิกส์ - ดีเอ็นเอ โมดิฟายด์
ทุกสิ่งดูง่ายดายเพียงใช้เงิน
ความมั่งคั่งเปี่ยมสุขกระจุกตัว
ถึงทำชั่วโฉดชัดไม่ขัดเขิน
เพราะหน้าตาเปลี่ยนได้ไม่ยากเกิน
เพียงเปลี่ยนถ่ายยีนก็เดินยืดดังเดิม
ความก้าวหน้าอวกาศเหนือพิกัด
ช่องทางลัดค้นพบใหม่พบได้เพิ่ม
แต่ผูกขาดไว้เพื่อทางบางสเปิร์ม
คนยากจนจนเหมือนเดิมในดินแดน
สงครามยังคุกคามความสันติ
รอเวลาแตกปริเป็นแสนแสน
ควากซ์บอมบ์ซ่อนฟ้าวิมานแมน
นี่คงจวนจะเป็นแดนบรรลัยกัลป์
.

o o o

ก่อนค่ำจอยท์กลับขึ้นหลังภู
เล่าเรื่องราวพ่อฟังดูก็ยิ้มขัน
ลูกเป็นสุขพ่อชื่นใจในถ้อยนั้น
มันซื่อตรงราวกับกลั่นจากใจเกลอ
ลูกว่าขอลงไปหลายหลายวัน
ส่วนความรักต่อพ่อนั้นมั่นเสมอ
พ่อไม่ขัดครั้นเมื่อพ่อก็ออเออ
รุ่งเช้าจอยท์จะไปเจอเพื่อนหลายคน
จอยท์จะเอาข้าวเหนียวมาฝากพ่อ
ปลาร้าหมกใบตองก็น่าฉงน
กินแล้วติดใจกันทั้งตำบล
เพื่อนของจอยท์ทุกคนเป็นคนดี
เช้าวันใหม่ลูกชายไปแต่เช้า
หายไปนานหลายวันเข้าไร้แวววี่
จอยท์อยู่ไหนเรียกทางใดก็ไม่มี
คืนนี้หนาวพ่อดูมีไข้ร้อนตัว
หายใจหวิดหวิดจะติดขัด
กาลเวลามาเร่งรัดในหูหัว
คงไม่พ้นคืนค่ำอันดำมัว
แต่นั่นก็ไม่น่ากลัวสักเท่าใด
กลัวแต่เจ้าชายน้อยจะเหว่ว้า
ความฉลาดของแก้วตาคงช่วยได้
พ่อขอลาก่อนแล้วหนอลูกชาย
พ่อรักเจ้าบ่เสื่อมคลายขอให้รู้
เขาขยับเข้าไปใกล้เงื้อมผา
ที่พิงกันตรงหน้าแลเห็นอยู่
กะเทาะหินหน่อยเดียวก็ร่วงพรู
แผ่นหินทับร่างลู่ลงราบราน


OOO

เพื่อนฝูงเรียกชื่อจอยท์เป็นบักจ่อย
เขาอมยิ้มเล็กน้อยแล้วค่อยขาน
ชื่อจะเท่ห์เก๋ไก๋ฟังได้การ
หรือซื่อแสนแดนดงดานนั้นตั้งเอา
พอให้รู้ใครเป็นใครใช่ใครอื่น
เพราะคนมีเป็นโกฏิหมื่นจะรวบเหมา
เรียกชื่อ คน คน คน ก็ดูเบา
ต่อนี้ไปใครเรียกเขาเอาชื่อนั้น
พันธุกรรมต่างพันธุ์มาพันเกลียว
สายใยรักแน่นเหนียวและแม่นมั่น
จ่อยกับเพื่อนยิ่งนานไปใจผูกพัน
โตขึ้นมาเป็นคู่ขวัญในบ้านไพร
บ้านคำผีมีผู้ใหญ่ชื่อนายสอน
ลูกคนเดียวนามกรว่าคำใส
คนนี้แหละเป็นเพื่อนจ่อยอย่างจริงใจ
พ่อคำสอนสอนคำใสให้ค้ำจุน
กูลเกื้อเอื้ออารีผู้ที่จน
ไม่เหยียดคนแม้ดำเหลืองให้เคืองขุ่น
เกิดมาได้แม้ยากเข็ญก็เป็นบุญ
ด้วยอาจก่อต่อทุนทวีไกล
คนจนคนรวยล้วนป่วยเจ็บ
ล้วนรู้จักหนาวเหน็บรู้อ่อนไหว
แต่ด้วยงานการสร้างต่างกันไป
บางทีก็ต่อกันได้ไม่ติดดี
คำใสเรียนหนังสือเป็นมือหนึ่ง
คำเขาใสน่าทึ่ง รู้ทุกที่
ว่าสมองเด็กบ้านดงนั้นคงมี
ไอคิวเกินคนคำผีทุกทุกคน
เด็กชายจ่อยนั่งคู่อยู่ข้างข้าง
คนนี้เรียนพอกลางกลางช่างฉงน
ชอบซักถามความรู้ใหม่ที่ใกล้ตน
บางทีครูก็อับจนคำแจกแจง
แต่ทั้งห้องไม่มีใครใจก้าวร้าว
แม้อ่อนน้อมก็พร้อมคราวให้เข้มแข็ง
รับผิดชอบตั้งแต่น้อยคอยช่วยแรง
ของคุณครูดูบ่แล้งน้ำใจเลย
บ้านคำผีมีกองทุนการศึกษา
เพื่อต่อยอดภูมิปัญญาน่าอ้างเอ่ย
เป็นตัวอย่างของแดนด้าวแดนใดเอย
ที่ผู้คนโดนเพิกเฉยให้ดักดาน
คำใสได้ทุนคู่คุณจ่อย
กับเพื่อนเพื่อนเรือนร้อยรอบหมู่บ้าน
ไปต่างแคว้นแดนไกลไปในการ
เรียนให้เชี่ยวรู้ให้ชาญเพื่อบ้านเมือง
คตินิยมอุดมคติมิคับแคบ
เพียงเพื่อพ้นการกินแกลบแล้วสิ้นเรื่อง
แต่มั่นคงตรงโค้งรุ้งอันรุ่งเรือง
สร้างประเทศให้ประเทืองและเป็นธรรม
คำใสไปทางด้านยีโนมิกส์
เพื่อนคำใสก็ไปอีกตั้งหลากส่ำ
จ่อยไปด้านนาโนวิศวกรรม
มหาวิทยาลัยธรรมบูดะเล

OOOO

ตัดฉากกลับคืนไปในหมู่บ้าน
หนุ่มคำหมานตั้งตัวดีมิหักเห
เลี้ยงชีพชอบกอปรกับใจไม่เกเร
เหมือนโมเม - ไม่กี่ค่ำก็ร่ำรวย
เขากับพ่อต่อท่อน้ำมาตามเขา
ผันน้ำใสไหลเข้าโรงกระสวย
เพื่อผลิตเมรัยส่งอย่างงงวย
แบรนด์เนมเด่นเห็นชื่อด้วยไวน์วงษ์ภูTM
ผลิตออกตลาดไกลขายต่างแดน
ออร์เดอร์ดื่นหมื่นแสน แม้นนับอยู่
คงเห็นเลขไหลเร็วจี๋เท่าที่ดู
เครือข่ายโยงกันอู้ฮู้บ่รู้วาย
กว่าจะเป็นมามาโอไวน์เนอรี่TM
ของเวิ้งภูบ้านคำผีที่ไหนง่าย
ผลไม้ป่าคราก่อนนี้มีมากมาย
ก็เปล่าดายไร้คุณค่าอยู่ป่าดง
เมื่อคำหมาน ชาญเชาว์ เอามาแปร
หลากรูปแบบแยบคายแท้แค่ขายส่ง
กลับเด่นดังกันทั้งธัยใครก็งง
คนทั้งวงเวิ้งบ้านมีงานทำ
ปลูกไม้ ดูแลไม้ เก็บขายผล
แตกผลิตภัณฑ์กันหลากจนบางคนขำ
มันเป็นไปได้อย่างไรอ้ายทิดคำ
จากดงกว้างด่างดำเป็นแดนทอง
ชื่อเสียงขจรขจายไปไกลลิบ
ไม่เชื่อหยิบเอาไวน์ซ่ามาสิบกล่อง
เอาต่างมุมต่างบาร์โค้ดมาทดลอง
เปิดออกดูแล้วจะร้องว่า โอ้ เย

ประเทศธัยในกาลนั้นเร่งสรรค์สร้าง
ประเทศอย่างขนานใหญ่ไม่ไฉเฉ
การศึกษาเป็นแกนกลางไม่พังเพ
คนฉลาดรู้ทันเล่ห์ทันเหลี่ยมกัน
และต่างก็รักษากฎกติกา
เอาซองขาวลอดโต๊ะมานั้นอย่าฝัน
แบบญาติเยอะฝากอะไรได้ตะบัน
ไม่มีดอกในแดนนั้นเว้นฝันเอา
ระบบใหญ่ช่วยให้คนช่วยตนเอง
ใครคิดเก่งรัฐจ้างด้วยให้ช่วยเขา
งานในถิ่นมีมากมายดีไม่เบา
ในกระเป๋าเงินตุงจึงพุงโต
บ้านคำผีมีรูปแบบแบบต่างต่าง
แต่ทุกอย่างยึดด้วยหลักอยู่อักโข
เป็นหุ้นส่วนมีส่วนได้ในโอ่งโอ
แม้ส่วนเสียถึงใหญ่โตก็เกลี่ยกรอง
จังหวัดภูพานวงอยู่ตรงกลาง
ค่อยเจริญขึ้นทุกทางเป็นที่สอง
นครภู ยังยิ่งใหญ่ไม่เป็นรอง
สองจังหวัดเป็นพี่น้องในถิ่นธัย

OOO

แล้วเหตุการณ์อันประหลาดเกินคาดคิด
ท่อน้ำบิดแตกป่นจนหลามไหล
นองทั่วทุ่งถิ่นนาเจิ่งมาไกล
คำหมานไปตามดูจึงรู้ความ
บนยอดภูเห็นหมู่หินผาบิ่นแตก
เกิดรอยแยกขยายใหญ่ไปอีกสาม
บนหลังแปแลไปเหมือนไฟลาม
พยับแดดนั่นเองวามอยู่ตามทาง
สำนักข่าวไอเอ็นเอ็นแพร่ข่าวออก
สเปซเน็ตก็ยิ่งตอกอีกผ่างผ่าง
คำใสเมล์ถึงพวกหมู่อยู่ต่างบาง
ถามข่าวร้ายใครรู้บ้างทางถิ่นเรา
คนคำผีที่ไปอยู่บูดะเล
ต่างสนเท่ห์จึงล็อคอินเว็ปถิ่นเขา
รู้ว่าผาแตกพังนั่งซึมเซา
สอบก็เหงาเรียนก็ห่วงยังหน่วงใจ
หน่วยธรณีวิทยาว่าดินแยก
เพราะว่าเกิดรอยแตกขึ้นมาใหม่
ตรงผาขาดมีธาตุแผกแตกต่างไป
จะเคยพบก็หาไม่ในดาวน้ำเงิน

OOOO

ที่สุดจ่อยและคำใสก็กลับบ้าน
กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ - คำขานเพิ่น
หลายคนเรียกดอกเตอร์ด็อกแบบหยอกเอิน
ไม่มีใครโกรธหรือเขิน เพิ่นยิ้มเย็น
โรงปศุสัตว์ โรงงาน หยุดเดินเครื่อง
จนกว่าจะหมดเรื่องอันทุกข์เข็ญ
แหล่งน้ำใหม่ต้องหาป้อนก่อนลำเค็ญ
สำรวจภูดูแล้วเห็นเป็นช่องทาง
ต้องกั้นเขื่อนตัวใหม่ไกลตัวเก่า
แบ่งเป็นบล็อคออกให้เท่ากันทุกอย่าง
ทีมงานหมู่บูดะเลเทใจสร้าง
เร่งมือไวรวมใจวางในทางเดียว
แก้วิกฤติปิดเข็ญเป็นโอกาส
มีหัวใจให้ชาติโดยเด็ดเดี่ยว
เมื่อกายใจคนผสมอย่างกลมเกลียว
มหึมาหรือนิดเดียว - เป็นเสร็จลง
ไม่นานนักบ้านคำผีกลับดีคืน
คนยิ้มรื่นคนชื่นชมสมประสงค์
เหมือนคนเพียรเฆี่ยนความคร้านจนมันปลง
เหมือนนักบวชได้อยู่คงนิโรธธรรม
บรรดาคนรอบรู้จากบูดะเล
ร่วมกันเทฐานไว้มิใช่ต่ำ
มาตรฐานชีวิตใครใช่ใครทำ
แต่เกื้อกูลหนุนนำทำด้วยกัน

OOO

อีกฟากขอบของดาวเคราะห์สีน้ำเงิน
นั้นไปไกลเหลือเกินเกินคาดฝัน
คนหยิบมือถือครองของอนันต์
คนนอกนั้นถือครองความหมองมัว
รายได้ประชาชาติเหมือนวาดเอา
เพราะตัวเลขแสนล้านเท่าเหนือเขาทั่ว
แต่ขอโทษคนมากมายเหมือนควายงัว
มีค่าตัวเพียงแลกกินพอกันตาย
ด้วยอยู่ยุคความรู้คืออำนาจ
ใครเข้าถึงจึงผูกขาดเอาง่ายง่าย
ความเมตตาคือดอกตูมความฟูมฟาย
ความอารีจึงแตกพ่ายดอกเบี้ยบาน
เมื่อดินน้ำล้มฟ้ามันอาเพศ
มีแต่เหตุเภทภัยไปรอบด้าน
ปัจจัยยังชีวิตติดดีมานด์
ไม่อาจเอาแจกทาน หรือขายเท
ครั้นดินฟ้าอากาศปกติ
ก็อย่าริคิดฝันว่าทันเล่ห์
ดันดีมานด์ยกข้าวนมถมทะเล
ทุกขเวทนาตายแม้นใครจน
หมาจนตรอก จึงผุดออกทุกซอกตึก
คุณธรรมความสำนึกตกถนน
ปาณาติบาตฆาตกรรมเลือดฉ่ำบน
อารยธรรมที่สูงจนไม่เชื่อตา
เชื้อปะทุกับเชื้อไฟใกล้น้ำมัน
ชนวนเพลิงเชิงชั้นฉกาจกว่า
ความข่มใจขาดสะบั้น เป็นอันลา
วันสุดท้ายจะต้องมาถึงไม่นาน

---------------------



OOO
จอยท์ ดีที เอสเอ็กซ์
ปลีกวิเวกออกไปไกลหมู่บ้าน
กับนาโนคอมพิวเตอร์ของอาจารย์
ที่ยืมมาเพื่อทำงานวิจัยภู
ที่ปรึกษาธีซีสของชายหนุ่ม
เห็นหนาบางลึกลุ่มเฝ้าดูอยู่
ก็ไม่ว่าอะไร ใจเป็นครู
แม้จะรู้ก็เฉยไว้ให้ศิษย์ทำ
เขาค้นหาอีลีเมนต์อันเป็นเหตุ
ให้ผาแตกออกเป็นเศษร่วงลงต่ำ
ธาตุนี้ต้องกับทฤษฎีมีหลุมดำ
กับการเดินทางนำกาลเวลา
เขาเข้าไปใกล้ผาค้นหาเห็น
ภาษาชิพท์ยังโดดเด่นกับแผ่นผา
เพียงแต่ทับลงกับหินผินลงมา
ต้องเงยหน้าขึ้นสแกนนอนแผ่นดิน
เห็นถ้อยคำของพ่อก็เจ็บอึ้ง
รักลูกนั้นที่หนึ่งนี้ไม่มีสิ้น
บัดนี้กลับไร้ตัวตนให้ยลยิน
น้ำตารินเราทิ้งใครไม่ใยดี
เอาแต่เพลิดเตลิดเพลินเดินไปเรื่อย
พ่อคงรอจนเมื่อยอยู่ที่นี่
รักใครหนอทนรอได้แม้หลายปี
แต่ใครหนาไม่พาทีมีแต่ไป
นาโนคอมพิวเตอร์ส่งเสียงเตือน
คลื่นความสั่นสะเทือนจะเกิดใหม่
ในมิลลิวินานีนี้ต่อไป
เพียงกลั้นใจผาก็พังทับทั้งเป็น .

to be continue End				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์