21 เมษายน 2547 19:11 น.

ลูก

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

หลับเถิดลูกยาในราตรี
เจ้าเหนื่อยล้ากับหน้าที่ดูทุกข์เศร้า
พ่อเห็นลูกเหนื่อยท้อบ่บรรเทา
ได้แต่เอาใจช่วยด้วยหัวใจ
พ่อเรียนต่ำทำนาประสายาก
แม้ลำบากบ่บ่นพ่อทนได้
อยากให้ลูกเล่าเรียนแล้วเป็นไท
เติบโตมีชีวิตใหม่ไม่โง่งัว
แสวงหาภูมิปัญญาบรรดามี
ก่อกรรมดีบ่ตกต่ำลงทำชั่ว
ครองชีวิตชาญฉลาดบ่ขลาดกลัว
มีความคิดเป็นของตัวบ่มัวตรม
ลูกอดทนบากบั่นในวันนี้
ย่อมจะมีวันหัวเราะอย่างเหมาะสม
มิใช่หนอนอย่าหลงว่ายฟายอาจม
เป็นมนุษย์ควรชื่นชมคุณความดี
หลับเสียเถิดลูกแก้วแล้วค่อยลุก
เอาบทเรียนชีวิตปลุกตนทุกที่
รู้จักโลกแจ่มกระจ่างสร้างชีวี
พ่อต่ำต้อยคนนี้เป็นแรงใจ .
-------------------------------------------------
ผมโพสต์ ลูกยาไว้แล้ว
แต่ยกมาอีกรอบหนึ่ง  ข้างต้น
คุณข้ามไปเลยก็ได้
แล้วมาเริ่มตรงนี้



คุณเชื่อไหมครับ 
ผมมีความรู้สึกว่าตนเองมีลูกตั้งแต่ยังเรียนหนังสือไม่จบ
และยังหาแม่ของลูกไม่ได้

ผมวาดภาพความเป็นพ่อของตัวเองเอาไว้ง่ายๆ
ว่า
ผมต้องเป็นพ่อที่รักลูก
แคร์ความคิด ความรู้สึกของเขา
ลูกคือเพื่อน
พ่อต้องเป็นเพื่อนของลูก
ที่เขาพึ่งได้
ที่เขาบอกความคิดของเขาได้
ที่เขาเปิดเผยมุมที่เขาไม่กล้าพูดกับคนอื่นได้
ฯลฯ

ผมใช้เวลาหลายปี
หาแม่ของลูก

ผู้หญิงแต่ละคนที่รู้จักผม
และแอบคาดหวัง
เป็นคนดีมาก
ดีจนผมรู้สึกต่ำต้อย


มันต่ำต้อยเสียจนผมคิดว่า
ถ้าแต่งงานกัน
ผมคงกลายเป็นเพียงอ้ายหมาตัวหนึ่ง

ถึงวันนี้    ผมมานั่งคิด
ก็เห็นว่า
ดีแล้วที่รักแต่ละครั้ง
มันจบไปก่อนที่จะกลายเป็นการครองคู่

ผมกลับไปหาเพื่อน
บอกหัวใจตรงไปตรงมา

เราตัดสินใจกันไม่นานนัก
เพราะรู้จักกันมานานมาก

และคงไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก
ไม่ต้องสร้างภาพโกหกกันด้วย


เมื่อแต่งงาน
ผ่านวันขม
มาถึงวันสมสุข

ผมมีลูกชายถึง 2 คน

ผมรักเขา
รักของเราทุ่มไปที่ลูก

ในชีวิต
ผมขาดอย่างอื่นมาตลอดเส้นทางลมหายใจ
แต่วันนี้ผมไม่ขาดสิ่งใดแล้ว

เพราะความรัก
ความรักที่ผมมีต่อภรรยา
ความรักที่ภรรยาของผมมีต่อลูก
ความรักเรามีต่อลูก
มันได้ทำให้ความขาด  ความขัดสน
ค่อยๆ  บางเบาลง
จนทำให้เราไม่ทุกข์ท้อในความความแร้นแค้นจนเกินไป


ความรัก
เป็นยาที่ดีเหลือเกิน

ยาใจ
คงพูดเช่นนั้นได้มั้งครับ

เมื่อเรามอบให้แก่คนอื่น
โดยเฉพาะลูก
และผู้เกิดตามหลังเราในสังคม				
21 เมษายน 2547 05:37 น.

หมาน้อย เด็กชาย และหญิงวัยกลางคน

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์




เธอโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่นะ
ขณะที่คนบ้านนั้นถีบเธอออกมา
เขาก็เข้าไปโอบอุ้มเธอมาโอบกอด
เขารักเธอ และดูแลเธอเป็นอย่างดี

แล้ววันต่อมา เขาออกไปข้างนอกกับพี่สาว
แม่ของเขาเตะเธอกระเด็น
เพราะเธอลักกินเศษเนื้อในครัว
ที่หล่อนเตรียมทำกับข้าวสำหรับลูกชาย

เธอ เป็นเพียงลูกหมา
ส่วนลูกชาย หล่อนปรารถนาให้เขาเติบโตเข้มแข็ง
เธอร้องเสียงหลงอยู่นาน
ก่อนหลบไปครางอิ๋งอิ๋ง ในมุมหม่นหม่น

เขากลับมา ถามหาหมาตัวน้อยน้อย
แม่ของเขาบอกว่า มันหลบไปนอน
ให้ลูกล้างมือมากินข้าว
เขาไปล้างมือและมานั่งลงข้าง ๆ สำรับข้าว หมาน้อยได้กลิ่นอาหารและได้ยินเสียงของเขา
วิ่งมาไม่ทันได้ดูหน้าหลัง
หล่อนถีบเข้าที่ซี่โครงขวา เต็มเท้า
หมาน้อยกลิ้งไปตามแรงถีบ
ร้องเสียงหลง

เมื่อลุกขึ้นได้ก็หลบไปหมอบอยู่ห่าง ๆ

หงอย เชื่อง เซื่องซึม

มองแบบหวาด ๆ มาทางเด็กน้อย

เด็กชาย ขวัญใจของแม่ตาแดง
เริ่มจะร้องไห้

แม่รู้ แม่เห็น แม่ปลอบ
โถ ลูกชายของแม่ ต้องเข้มแข็งซิลูก

แม่ลูบหัวลูกชายอย่างอ่อนโยนและใยดี

หมาน้อยแนบคางลงกับพื้นมองนางและเขา

พอหมาน้อยเริ่มขยุกขยิกกัดเกาเห็บเหา

นางก็เอาไม้กวาดมาฟาดตี
 .				
20 เมษายน 2547 21:27 น.

Born to be ?

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


บอร์นทูบี
โดย ก่อพงษ์  พงษพรชาญวิชช์

-------------------------------

พ่อว่า
ชีวิตคนทั้งหลายคล้ายลูกโป่ง
มีเค้าโครงออกแบบไว้ให้ขยาย
แม้มาจากโรงงานใดก็ไม่วาย
แตกต่างภายในชั้นผิวอันบาง

อาจเล่นรูปทรงสวยงามด้วยสี
อาจดูดีแล้วตีค่ามาต่างต่าง
แม้เป่าโป่งก็คงใหญ่ในต่างทาง
รวมทั้งแตกได้กลางความวางใจ

บางลูกโป่งเป่าใหญ่ได้งามนัก
ทั้งน่ารักน่าชมสมสมัย
บางลูกโป่งก็ซึมรั่วอยู่ทั่วไป
เป่าก็ไป่เป็นรูปร่างอย่างอยากเป็น

บางลูกโป่งเป่าหน่อยก็พลอยแตก
บางลูกโป่งพองแต่แรกให้เรียมเห็น
อยากให้โตตึงเหมือนกับเดือนเพ็ญ
กลับล้อเล่นแบนแฟบลงแบบเบา

แต่ไม่มีลูกโป่งใดพองได้เอง
อยากให้เป่งพองใหญ่ตั้งใจเป่า
เป็นลูกโป่งแบบไหนหนอใจเรา
พองแล้วเฉาเป่าแล้วฉายหรือดายแด




----------------------------

เขียนในนาม ก.พ.
ในเว็บฯหญิงไทย
ขอบคุณครับผม				
20 เมษายน 2547 14:55 น.

ขอเวลาให้ตัวเองบ้าง

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


ขอเวลาให้ตนเองบ้าง
หนทางที่ผ่านไปให้แต่เขา
จริงอยู่บางเทื่อก็เพื่อเรา
แต่ครั้นนานเข้า-เราคือใคร

หันหน้าหาวัดซักวัน
หรืออาจนานกว่านั้นก็ได้
ฟังธรรมสงบรำงับจับใจ
ปฏิบัติธรรมทำให้ใจดี

ที่วัดมีลานปูฟาง
ร่มไม้ก็ใหญ่กว้างเต็มที่
ปักกลดกลางป่าช้า-อาเข้าที
สหธรรมิกก็มีพอประมาณ

ขบฉันวันละมือคือวัตร
อยู่สงัดเพื่อกระทำกัมมัฏฐาน
นั่งยืนเดินนอนตามกาล
มีสติเชี่ยวชาญได้การเชียว

สัมผัสรสธรรมฉ่ำใจ
สมาธิ-เชื่อไหมเพิ่มแรงเรี่ยว
ให้ลุยงานสานชีวีดีทีเดียว
บ่ถดถอยบนทางเปลี่ยวเดียวดาย

สิ่งเหล่านี้สัมผัสรู้เฉพาะตน
บางคนสงบเย็นง้ายง่าย
ได้เห็นแล้วก็ชื่นชมเพื่อนหญิงชาย
เข้าวัดแล้วสบาย
อยากให้ลอง . 



----------------------------------------------------
บทนี้  ผมเขียนไว้ในนามบรรลุพร นามโนรินทร์ครับ				
20 เมษายน 2547 06:43 น.

เป็นระบบ

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



โยนเข้าไป  สุมลงไป  ซ้อนทับใหม่
กองกันไว้   ค้นทุกที  มีแต่ขน
ค้นไม่เห็น ขนออกหา   สาละวน
โออับจน ทนปล่อยไป  ไม่เปลี่ยนแปลง

ก็สะสม แบบสะสุม คลุมเคลือด้วย
ใครอยากช่วยก็ต้องผละขยะแขยง
คุณเล่นปล่อยตามถนัดไม่จัดแจง
จึงเปลืองแรงร้าวล้าน้ำตาคลอ

ก็สะสมความสับสนจนซ้อนสุม
แก่ต่อหนุ่ม กุมขมับสับสนต่อ
ไม่เคยเตรียมหาวิธีที่ดีพอ
จะดีดถ่อไปถามทางได้อย่างไร

เมื่อไม่ฝึกทักษะถูกวิธี
ความชำนาญที่มีจะดีไหม
กับปัญหาที่คอยขวางยามย่างไป
ที่ชนตูมไม่ตั้งใจก็ไม่น้อย

จัดระบบความคิดปิดทางเขลา
ความโง่เง่าที่เหลือเฟือเหลือน้อยหน่อย
เคยปล่อยปละละเลยเคยสำออย
ถึงคราวสอยเขลาทิ้งทำจริงจัง

โยนออกไปขว้างออกไปขนออกไป
พวกหยากไย่อันย่ำแย่แต่หนหลัง
จัดหมวดหมู่ให้ดูดีมีกำลัง
จัดระบบคิดเสียมั่งร้อยชั่งเอย

--------------------------------------------




ผมเก็บมาจากคำของคุณเวทย์ครับผม				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์