10 เมษายน 2547 17:45 น.

นบพระ

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


บทกวีแนวทดลอง  จดหมายถึงตัวเอง #3
ชุด เกิดและตายในความจน

รำลึกข่าว   พระอาจารย์         ละขันธ์แล้ว
----------------------------------------------------------------

ทิวารวิโชติขับหนาว
ราตรีกลับตากดาวต่อฟ้า
ขึ้นแรมนะเด่นพราวสลับหลุบ
ทุกข์ดับบ่เกี่ยวฟ้าสุขถ้วนนิรันดร์สมัย
-----------------------------------------------------------------

	ฝึกใจไปถึงไหน   ทิด ก.พ.
กำหนดแบบยุบกับหนอหรือแบบไหน
เพ่งดวงแก้วได้เห็นแล้วหรืออย่างไร
ฤานิ่งไหวจับจังหวะขณะจร

	หรือติดตามลมเบาที่เข้าออก
หรือเพ่งในเพ่งนอกพินิจขอน
อันขังเมือกเสลดไขในนิวรณ์
หรือยืนเดินนั่งนอนเพียรรู้ตาม

	รึห่างวัดแล้วก็ตัดใจมิลง
เวียนว่ายโลภโกรธหลงบ่หวาดขาม
เคล้าบ่ละคละอยู่นั่นโลกีย์กาม
ลืมนึกแสงวาววามพระนิพพาน

	ฟังเถิดสาธุชนเกิดบนโลก
ใครไม่โศกตรมที่ไม่มีบ้าน
ใครไม่ทุกข์จริงหนอแม้ขอทาน
ใครไม่รานร้าวแย่ตามแฟชัน

	นุ่มห่มผ้าย้อมฝาดเพียงสามผืน
หลับแล้วตื่นฝึกตนพ้นสวรรค์
พ้นจากพรหมยมหล้าอาทิตย์จันทร์
เข้าผู้นั้นเกิด-ตายในสัจธรรม

	คนเคารพนบอยู่มิรู้หน่าย
แม้คนผู้เวียนว่ายในวงต่ำ
ยังเด็กดอกบัวหงอขอตัดกรรม
ทั้งที่ทำทางส่งลงอบาย
	

	ยังปฏิบัติธรรมไหม ก.พ.
หรือจมบ่ออบายภูมิ-อวดภูมิหลาย
หรือหลงศักดิ์รักหน้าลืมว่า   ตาย
ก็อยู่ตรงหน้านายไปหน่อยเดียว !!!				
10 เมษายน 2547 10:04 น.

ฝ่าฝน

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



วันที่เหงาเศร้า ร้าวราน

อยากได้ยินคำอ่อนหวานจากเธอ

แต่ห่างไกลกันเหลือ รู้ไหมใจฉันเพ้อ

ฉันคิดถึงเธอ

ฉันรักเธอเหลือเกิน

เดินทางอย่างเหงาเศร้า ร้าวรอน

อยากให้มีคนอาทรและเข้าใจ

แต่ยามนี้เราห่างกันไกล

ฉันเหมือนไม่มีใครเลย

อ้างว้างสุดอ้างว้าง

เส้นทางนี้เหงาเหลือเอ่ย

ฉันคิดถึงเธอจังเลย

ฉันรักเธอเหลือเกิน

อยากเดินตากฝน

ให้เปียกปอนจนชุ่มไป

เปียกโชกให้สะใจในความเหงาร้าวรอน

คาดหวังลม ๆ แล้ง ๆ

ให้รักกลับมาเหมือนก่อน

แต่สิ่งที่แน่นอน

คือนับวันห่างไกล .				
9 เมษายน 2547 18:40 น.

สมฉีกับสมปี

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


บทกวีแนวทดลอง

เขียนจดหมายถึงตัวเอง # 2
ชุด เกิดและตายในความจน


:รำลึกถึง สมฉี-สมปี ผู้รับใช้ชาติและมหาชน


ทรามเชยมีนามว่า สมฉี
น้องสาวชื่อสมปี เถื่องจ้อย ( ชื่อสกุล)
สองสมดับชีวี ฟังขื่น หัวอก
เธอตกนรกร้อย- โรคร้าย รุมขยำ

----------------------------------------------
             
             ก.พ.จำได้ไหม
ใครคนซื่อชื่อสมฉี
อีกคนคือสมปี
คนข้างเรือนเหมือนเพื่อนขวัญ

             เคยให้มะขามอ่อน
ได้ลูกหม่อนแบ่งกินกัน
เป็นเพื่อนเรียนร่วมชั้น
ก่อนจากกันออกไปไกล

            สมฉีมีโอกาส
รับใช้ชาติในกรงใหญ่
สมปีค่อยตามไป
คอยรับใช้มหาชน

              ทั้งสองต้องภาระ
คล้ายกับจะบ่หมองบ่น
แลกเบี้ยด้วยเนื้อตน
ดูเป็นคนบ่แยแส

             ต่อโลกที่โฉดฉล
และต่อคนที่รังแก
เมื่อเซียวคนเหลียวแค่
ซากชีวันอันขลาดเขลา

               ใครเคยข่มสมฉี
ใครเคยขี่อย่าหลงเงา
โรคเอดส์จะรวบเหมา
เอาไปฆ่าอย่าขวัญหาย

             กับสมปีบ่ต่าง
คนทั่วบางที่เป็นชาย
ล้วนแต่จะแพ้พ่าย
เพราะยางอายมันดับสูญ

             ใช่แต่ในเมืองดอก
ที่กามงอกอย่างพอกพูน
บางนอกเหลืองดอกคูน
ก็ก่นพรหมจรรย์ขาย

           ใครรวยกำเงินซื้อ
ที่แย่งยื้อก็มากมาย
HIVใครหน่าย
เห็นซื้อขายกันออกตรึม				
9 เมษายน 2547 06:26 น.

รักษ์ศิลป์ นิโรธศิลปิน

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


ความเรียงแนวทดลอง :
เขาเกิดและตายในความจน
เขียนจดหมายถึงตัวเอง#1
เริ่ม 9 เมษายน 2547
----------------------------------------------------------------------------------

รำลึกคุณรักษ์ศิลป์   นิโรธศิลปิน


---------------------------------------------------------------------------------------------


                 ยังจำเขาได้ไหม นายก.พ.
เจ้าของภาพที่นาย ต่อ เขาแสนเจ็ด
นายได้ภาพเขาได้ธรรมงามกว่าเพชร
เงินทุกเม็ดจากรายได้ถวายวัด

                  นำเงินทองที่ได้ถวายพระ
ผู้เพียรละด้วยวิถีปฏิบัติ
หวังหลุดพ้นจากเวิ้งวังสังสารวัฏ
อบรมจัดขัดเกลาเยาวชน

                    อ่านข้อเขียนของเขาเราเจ็บอึ้ง
มนุษย์หนึ่งพิการกายใจบ่หม่น
มนุษย์อื่นรวยล้นฟ้าเหนือกว่าคน
ใจอับจนคิดช่วยใครหาไม่มี

                    ฉ้อกับฉลใช้กลโกงทั้งตรงอ้อม
ประชาชนตรมตรอมทุกถิ่นที่
กรรมอยู่ไหนใยตามมาช้าสิ้นดี
โกงกลับมียศหรูคนบูชา

                     ใช้เล่ห์กุมอำนาจอวดบาตรใหญ่
ใช้เงินซื้อหัวใจมาเข่นฆ่า
กดขี่คนเยี่ยงทาสเย้ยอาชญา
คนต่ำต้อยคอยหลบตาและหลบตีน

                      แสร้งทำเป็นเห็นค่าอันประณีต
ของงานศิลป์โดยอัดฉีดประมูลสิ้น
แท้ก็อวดศักดาเย้ยฟ้าดิน
ไม่ได้ชิน-ชอบ-ชม-นิยมงาน

                        ดับลงแล้วลมหายใจหนึ่งดับแล้ว
พิการกายใจเกินแก้วประกายฉาน
วันที่ดับไร้ชั่วใดให้ประจาน
ต่างจากพาลในคราบหรูตุ๋นหมู่คน

                         ตายในโลงทองคำก็ต่ำช้า
คนจะขุดขึ้นมาแช่งชักป่น
รวยแต่เลวหรือมีค่าดีกว่าจน
สาธุชนตรองตามใจไปเถิดเอย.				
8 เมษายน 2547 21:07 น.

ปลัก ??

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


        เสมอไปไหมจมปลักต้องดักดาน
คลิกมาอ่านอย่าเพิ่งเคืองในเรื่องปลัก
ถ้อยที่เรียงแม้ไม่สวยแต่ด้วยรัก
หมายฟูมฟักดวงฤทัยให้หายเชย
-------------------------------------------------

..เราได้ส่วนแบ่งดินแมวดิ้นตาย
ปลูกกะหล่ำมะเขือขายเจ้านายเอ๋ย
จากยากจนขี้คอกก็งอกเงย
มีที่ดินปลูกเตยและปลูกแตง

         ขายแตงขายเตยเหมือนเคยทำ
จนเป็นล่ำเป็นสันกรรมมันแต่ง
กรรมคือกำทำด้วยใจไม่คลางแคลง
เอาเรี่ยวแรงผันเป็นเงินเจริญตา

       เก็บจากสิบเป็นร้อยคอยรวมเข้า
ก็ซื้อดินได้อีกเท่าทางหมาบ้า
คราวโดนไล่จากหัวไร่ถึงปลายนา
กรรมมันมาถี่เสียจังเกินตั้งตัว

       ที่ดินใหม่ยังเอียงกระเท่เร่
จ้างรถไถมาถมเทให้ราบทั่ว
ฝันถึงคลื่นใบข้าวคราวลมรัว
ยิ่งตื่นตัวตื่นใจหมายทำนา

        เร่งเวลานาทีให้มีฝน
จะตั้งต้นในวันดีวันมีค่า
จะปลูกข้าวงามระยับกับเลี้ยงปลา
อยากจะเป็นชาวนามาสุดใจ

        น้ำจากฟ้าหลั่งมาในหน้าฝน
หัวใจคนต่ำต้อยต้องคอยไหว
ไม่คอยฝนคนอย่างข้อยจะคอยใคร
มีฝนหลั่งดังเทพไท้ท่านให้พร

         กอบเอาข้าวจากยุ้งใส่ถุงย่าม 
ลูกค่อยตามพ่อไปพ่อไปก่อน
หว่านเมล็ดข้าวแลเห็นเป็นตอนตอน
เรามีข้าวกินแน่นอนขวัญอ่อนเอย

           โน่นมาแล้วลูกแก้วและเมียขวัญ
มาช่วยกันหว่านข้าวเถิดเจ้าเอ๋ย
นาของเราข้าวของเราอย่าเขลาเลย
เราไม่เคยมีนาก็มามี

           อดข้าวใช่ไหมเจ้าจึงร้าวล้า
อดปลาใช่ไหมเจ้าผอมราวผี
อดอะไรอย่าให้อดไมตรี
อิ่มอ้วนพีเพราะมีใจรู้ให้ปัน

           ไม่เป็นไรถ้าหว่านข้าวไม่เข้าทาง
ยังเก้งก้างทีท่าดูน่าขัน
ให้พ่อทำแทนลูกแก้วก็แล้วกัน
อยากนอนโคลนหรือปลักนั้นเชิญกันเลย

            เมื่อติดดินดินจึงคุ้มด้วยภูมิดิน
ภูมิต้านทานเคยได้ยินบ้างไหมเอ่ย
กายที่แกร่งแรงที่กรุ่นด้วยคุ้นเคย
การติดดินหรอกเจ้าเอ๋ยจงเคยจน

             เห็นเด็กน้อยของพ่อก่อหลุมปลัก
เอามือฟายเป็นพักพักจนคลั่กข้น
เกลือกในปลักผลักกันเล่นเป็นเหมือนคน
เคลือบด้วยผลฟักเน่าก็เบาใจ

             ว่าต่อไปภายหน้าแม้ว่าพ่อ
จะอยู่ต่อยืดชีวาหรือหาไม่
ลูกจะมีที่ยืนอย่างใครใคร
และสร้างทางของลูกไปไม่แร้นแค้น

              เสมอไปไหมจมปลักต้องดักดาน
ชีวิตจริงกับนิทานต่างกันแสน
แต่นิทานกับเรื่องจริงยิ่งร่วมแดน
มีแก่นแกนเดียวกัน???
เชิญปันคำ .
--------------------------------------------------------------

ว่าไงล่ะครับ คุณอาภาภัส

สวัสดีครับ  คุณเรน  คุณมัท  คุณตฤณ  คุณพู่กันของหูกวาง  คุณเจลใส
คุณผู้หญิงฯ ,  คุณนางฟ้าฯ ,  คุณหนึ่งนะ , คุณทิกิ  และทุกคน				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์