27 กันยายน 2554 21:51 น.

แด่เธอ กลั่นแก้ว

คนกรุงศรี

กลอนสุภาพ หรือเรียกว่ากลอนแปด
หนึ่งบทมีสี่วรรค  หนึ่งวรรคมีแปดคำ เจ็ดหรือเก้าก็ได้  แต่ไม่ควรถึงสิบคำ
ผังการสัมผัสบังคับ  หรือเรียกว่าสัมผัสนอก

 อยากสืบสาย วรรณศิลป์ ยินดี นัก      ( นัก   สัมผัสกับ  รักษ์ )
 ร่วมร้อยรักษ์ อักษรา ภาษาศานต์     (  ศานต์  สัมผัสกับ กานท์  และ  นาน )
สร้างสรรค์คำ ล้ำรส ของบทกานท์		
ยึดตำนาน ฉันทลักษณ์ หลักวิชา        (วิชา   ชา สัมผัสกับ  ว่า  เรียกส่งสัมผัส )

 กลอนกินใจ ไพเราะ เสนาะหู			
ต้องเรียนรู้ เรื่องกฎ กำหนดว่า   
 ถูกสัมผัส จัดไว้ ในตำรา				
สัมผัสนอก นั้นหนา อย่าบิดเบือน   (รา กับ  หนา )ใช้คำที่ ห้าได้

ข้อห้าม 
ชิงสัมผัส  มีคำที่สัมผัสได้ก่อนถึงคำที่บังคับ
สัมผัสซ้ำ  ใช้คำเดิมในตำแหน่งที่กำหนด 

อยากสืบสาน วรรณศิลป์ ยินดี นัก		
ร่วมร้อยรักษ์ อักษรา ภาษาศานต์
สร้างผลงาน  ล้ำรส ของบทกานท์	( งาน ชิง สัมผ้ส	กับ ศานต์  ก่อน กานท์ )	
ยึดตำนาน ฉันทลักษณ์ หลักวิชา

กลอนกินใจ ไพเราะ เสนาะหู			
ต้องเรียนรู้ เรื่องกฎ กำหนดว่า
 ถูกสัมผัส จัดไว้ ในวิชา               (วิชา  สัมผัสซ้ำกับ วิชา  )
สัมผัสนอก นั้นหนา อย่าบิดเบือน

บทแรกมีคำว่างาน  อยู่ด้นหน้าคำว่ากานท์ เรียกชิงสัมผัส
บทที่สองวรรคที่สามจากตำรา ถ้าเป็นวิชา จะเหมือนกับคำว่า หลักวิชา  เรียกว่า สัมผัสซ้ำ

สัมผัสเลือนคือ  ใช้สระไม่เหมือนกัน  แต่คำจะคล้ายกัน  เช่น  โฉม  กับคำว่า  ชม,
เต้น  กับคำว่า  เย็น , และอื่นอื่นด้วย

เสียงท้ายวรรค ตามตารางที่ให้ไว้ คำว่า (น้อย) คือใช้ได้ แต่จะไม่เพราะ แต่ไม่ผิด

สัมผัสในเพิ่มความไพเราะ  ( คำที่สาม กับคำทีสี่  คำที่ห้ากับคำที่หก  ) ไม่มีก็ได้ ตำรวจไม่จับ  สัมผัสด้วย สระหรือ อักษรก็ได้				
24 กันยายน 2554 21:46 น.

อยากให้รู้

คนกรุงศรี

พอรู้จัก รักเรา ถึงเหงาหงอย
มานก็พลอย เริ่มหม่น ปนเจ็บจิต
สุดปวดร้าว หนาวแท้ เพราะแผลพิษ
ต้องปกปิด มิให้ ใครรับรู้

อยากเอื้อนเอ่ย เผยไป แต่ไม่กล้า
พอรู้ว่า รักใคร ใจหดหู่
ยังแอบคิด แอบจัอง แอบมองดู
มิอยากอยู่ แต่ยัง อยากล้างใจ

พบเธอช้า กว่าเขา เรายอมรับ
บ่อยต้องซับ น้ำตา คราหมองไหม้
ขอเพียงรัก กับยืนดู อยู่ไกลไกล
ขอแค่ให้ รู้ว่าฉัน นั้นรักเธอ				
23 กันยายน 2554 22:29 น.

แด่เธอ กลั่นแก้ว

คนกรุงศรี

	ฉันทลักษณ์บทกลอน

อยากสืบสาน วรรณศิลป์ ยินดีนัก		
ร่วมร้อยรักษ์ อักษรา ภาษาศานต์
สร้างสรรค์คำ ล้ำรส ของบทกานท์		
ยึดตำนาน ฉันทลักษณ์ หลักวิชา

กลอนกินใจ ไพเราะ เสนาะหู			
ต้องเรียนรู้ เรื่องกฎ กำหนดว่า
ถูกสัมผัส จัดไว้ ในตำรา		
 สัมผัสนอก แน่นหนา อย่าบิดเบือน

สัมผัสใน ไม่ว่า ถ้ามีเหมาะ			
เพิ่มความเพราะ พิมพ์ใจ หาใครเหมือน
สัมผัสซ้ำ เคร่งครัด สัมผัสเลือน			
ต้องคอยเตือน ห้ามไว้ สิ่งไม่ควร

ชิงสัมผัส อีกข้อ ก็ไม่ได้			
ส่งสัมผัส บทต่อไป ให้ครบถ้วน
 เสียงท้ายวรรค กำหนด จดจำนวน		
ทุกอย่างล้วน ควรใช้ ให้ครบครัน

หลากวจี ลีลา ค้นหาถ้อย			
มาเรียงร้อย ลำนำ คำเสกสรร
ใส่ลูกเล่น ลวดลาย ร่ายรำพัน			
ภาษานั้น อยากเห็น เป็นของไทย

เขียนเรื่องราว เนื้อความ ตามที่ฝัน	
มิว่ากัน เท็จจริง ทุกสิ่งไหม
 บทกวี ที่ซึ้ง ตรึงฤทัย 			
แล้วผู้ใด ไหนพ้น มนต์กวี

คนกรุงศรี ฯ
	


เสียงท้ายวรรค
                     เสียง   สามัญ         เอก         โท         ตรี         จัตวา

         วรรคที่   ๑        น้อย           ได้           ได้        ได้            ได้
         วรรคที่  ๒         ไม่            ได้           ได้        ไม่            ได้     
         วรรคที่   ๓         ได้             ไม่           ไม่       น้อย         ไม่
         วรรคที่   ๔        ได้             ไม่           ไม่       น้อย          ไม่				
22 กันยายน 2554 21:49 น.

ลีลาศิลป์

คนกรุงศรี

ภาษาศิลป์ จินตกรรม หวานล้ำลึก
ซอกซอนความ รู้สึก ให้ฮึกเหิม
เฝ้าร้อยเรียง ถักทอ ตามต่อเติม
นับวันเพิ่ม พูนพจน์ รสลีลา

ภาษาศิลป์ สื่อสาร งานอักษร
ให้บวร ยิ่งยง ดำรงค่า 
วัฒนธรรม สืบทอด ตลอดมา
พัฒนา ฝึกปรือ ลายสือไทย

ภาษาศิลป์ งดงาม ยามสร้างสรร
แวดวงวรรณ หลอมรวม ร่วมสมัย
อนุรักษ์ อักษรา อ่าอำไพ
เทิดทูนให้ คงอยู่ คู่แผ่นดิน

กวีฤๅ จะแล้ง แหล่งสยาม
ทั่วเขตคาม สามารถ ทั้งศาสตร์ศิลป์
 ไม่เว้นแม้ จักรีวงศ์ องค์ภูมินทร์
 วลีริน หวานรื่น ชื่นชีวา

อักษรไทย เทียบค่า ภาษาชาติ
จึงเด่นคู่ เอกราช ศาสนา
หลายร้อยล้าน ดวงใจ ใฝ่ศรัทธา
เจตนา ค้นคิด ประดิษฐ์คำ

ภาษาศิลป์ อ่อนช้อย รอยจารึก
ความรู้สึก นุ่มนวล ชวนดื่มด่ำ
ทุกวรรคตอน ตรึงตรา น่าจดจำ 
ศาสตร์ศิลป์ล้ำ รุ่งเรือง เมืองกวี

นก สุวิมล
				
22 กันยายน 2554 21:39 น.

มนต์กวี

คนกรุงศรี

เปิดประตู หัวใจ ให้กว้างกว้าง
สองเท้าย่าง ย่ำไป ในวิถี
ก้าวสู่ลาน อักษร กลอนกวี
โรยเส้นสี งดงาม ตามอารมณ์
	ความคิดเปรียบ อาภรณ์ สะท้อนภาพ
	คอยซึมซาบ ซอกเซาะ อย่างเหมาะสม
	มีสุขเศร้า เง้างอน ซ่อนเงื่อนปม
	แทรกผสม ฝากไว้ ในผลงาน
อักษรา คล้ายมี เงาชีวิต
โสตสถิต สดับ ยามขับขาน
อ่อนโยนและ อ่อนไหว ในดวงมาน
ก้องกังวาล ภวังค์ สิ้นกังวล
	แม้เหนื่อยนัก พักผ่อน เสียก่อนนะ
	ทุกสิ่งจะ ผ่อนคลาย หายสับสน
	มาสิฟัง ดนตรี มากมีมนต์
	ที่เปี่ยมล้น เสน่ห์ แห่งเสรี
ลองนับดาว อย่างฉัน วันละครั้ง
เติมพลัง หัวใจ ให้เต็มที่
ขอแผ่นฟ้า แสนกว้าง ต่างเวที
เติมแสงสี สดสวย ด้วยจันทรา
	แล้วเขียนบท กวี ที่แสนรัก
	เรียงสลัก ทุกช่วง ความห่วงหา
	อยู่กลางอ้อม แดนสรวง ดวงดารา
	พักสายตา พร้อมกับ หลับฝันดี
เมขลา
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกรุงศรี
Lovings  คนกรุงศรี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกรุงศรี
Lovings  คนกรุงศรี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคนกรุงศรี