29 เมษายน 2557 22:16 น.

รักห่วง คิดถึง

คนกรุงศรี

ฝากสายลม บอกมา ว่าคิดถึง                  ใครคนหนึ่ง ที่เรา เฝ้าห่วงหา เฝ้าชะแง้ แลดู อยู่หลายครา                   มิหวนมา ส่งข่าว ให้เราฟัง

 เธอยู่เย็น เป็นสุข หรือทุกข์หนอ             ใจจดจ่อ รอเขา คอยเฝ้าหวัง รู้ป่วยไข้ ไม่สบาย หายหรือยัง                  ทุกวันตั้ง ตาคอย อย่างน้อยใจ

 ยังเป็นพี่ เป็นเพื่อน เหมือนเมื่อก่อน        เคยต่อกลอน ล้อกัน วันสดใส แต่วันนี้ สุดหวง และห่วงใย                      ทุกข์สุขใด ส่งข่าว เล่าสู่กัน

8 เมษายน 2557 21:57 น.

บทความลับ

คนกรุงศรี

อีกค่ำนี้ ที่ใจ สุดไหวหวั่น            

 เพราะใครกัน บรรเลง บทเพลงหวาน  แต่แฝงด้วย ความเศร้า และร้าวราญ 

 สะกิดมาน ที่แย่ ด้วยแผลเป็น

  เพลงขลุ่ยผิว ลิ่วมา จากฟ้ากว้าง 

 ใครหนอช่าง เย้ยเรา ดั่งเขาเห็น   เหมือนรู้ว่า ข้าช้ำ และลำเค็ญ

 ช่างเลือดเย็น ตอกย้ำ จนช้ำทรวง

 คำเขาเคย เปรยมา ว่าอย่าหมาง

  ไกลเพียงร่าง ต่างใจ สุดให้หวง   ทุกคืนยัง ไต่ถาม ติดตามทวง 

  บอกให้ล่วง รู้ไว้ ด้วยใจจริง

  แม้เชื่อความ ตามนัย ที่ใบ้บอก

  แต่ช้ำชอก เหมือนเคย ด้วยเฉยนิ่ง   ทวงสัญญา จากใจ ไว้อ้างอิง

 ด้วยหลายสิ่ง เรารู้ มิคู่ควร

  ฟังบทกลอน ร่อนมา จากฟ้าเหนือ

  ไหมมีเหลือ เผื่อใจ ที่ไห้หวล   เถอะสงสาร คนไกล ใจรัญจวน

  ทุกอย่างล้วน จากมาน ที่ซานซม

  บทความลับ คับใจ คนไหวอ่อน 

  ทั้งหนาวร้อน กังวล จนขื่นขม   สักเศษเดียว เสี้ยวใจ ให้เขาชม

   มิได้ก็ ขอก้ม หน้าจมดิน

4 เมษายน 2557 22:29 น.

ตะกั่ว

คนกรุงศรี

    นิทานกลอน สอนใจ เล่าไว้ว่า    สองยายตา หากิน แบบสิ้นหวัง    ปล่อยหญ้ารก ปรกทุ่ง แสนรุงรัง    มัวแต่นั่ง ขอพร อ้อนเทวา

    พระธุดงค์ องค์เดียว ท่านเที่ยวด้น     หวังมรรคผล สงบ พบสุขา     ปักกรดที่ ท้ายคุ้ง ริมทุ่งนา     ทั้งยายตา เตรียมใจ ได้ของดี

   ฉันขอลาภ หวังรวย ท่านช่วยเถิด    พระก็เกิด เมตตา เรียกมานี่    ให้ตะกั่ว เก้าก้อน สอนวิธี    อยากมั่งมี นำไป หลอมในเตา

    เมื่อละลาย กลายเป็น เช่นทองแท้     กับข้อแม้ มีว่า อย่างโง่เขลา     ถ่านที่รุม สุมไฟ ให้เลือกเอา     รากต้นพริก มาเผา เก็บเถ้ามัน

   ทั้งยายตา มานะ จะหาถ่าน    จึงไถหว่าน ที่นา พาขยัน    ปลูกต้นพริก หลายไร่ ไม่นานวัน    พริกพวกนั้น ออกเมล็ด ให้เด็ดกิน

    ก่อนต้นแก่ เก็บขาย มากมายนัก     ยึดเป็นหลัก ถึงกับ รวยทรัพย์สิน     มีเงินทอง พอเพียง เลี้ยงชีวิน     ทิ้งเสียสิ้น ตะกั่ว ...มิมัวรอ

ขรัวตา กลุ่มวรรณกวีศรีอยุธยา

2 เมษายน 2557 22:05 น.

ณ คืนนี้

คนกรุงศรี

  ณคืนนี้ มีดาว สกาวฟ้า  เมื่อจันทรา หลบเร้น มิเห็นแสง  กกอ้อลู่ หวิดล้ม เพราะลมแรง  ฤดูแห่ง คิมหันต์ นั้นเริ่มกราย

 อบไอดิน กลิ่นฟาง ที่ข้างบ้าน  ดอกคูณบาน เห็นก่อน เมื่อตอนสาย  พอลมพลิ้ว ลิ่วผ่อน พอร้อนคลาย  ฟังที่ปลาย นาแว่ว เสียงแผ่วครวญ

 เหลงขลุ่ยผิว ลิ่วมา เมื่อฟ้ามิด  ช่างจับจิต จับใจ จนไห้หวน  คิดเมื่อยัง ครั้งอยู่ คู่กับนวล  ใจปั่นป่วน กังวล สับสนจริง

 

Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกรุงศรี
Lovings  คนกรุงศรี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกรุงศรี
Lovings  คนกรุงศรี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคนกรุงศรี