30 พฤศจิกายน 2557 21:39 น.

คือดวงใจ

คนกรุงศรี

เมื่อวันวาร ผ่านผัน แสนนานเนิ่น

สองเราเดิน ร่วมทาง เพื่อสร้างฝัน

วางวิถี ชีวิต ช่วยคิดกัน

ร่วมฝ่าฟัน อุปสรรค ทั้งหนักเบา

 

ด้วบความรัก เข้าใจ หมายมุ่งสร้าง

แม้มีบ้าง หมางใจ ให้หงอยเหงา

ความอดทน อดกลั้น ช่วยบรรเทา

เพราะสองเรา เข้าใจ ในแนวทาง

 

หวังก้าวข้าม ตวามยาก จากวันก่อน

พบลุ่มดอน หนามขวาก ร่วมถากถาง

ด้วยความรัก ห่วงใย ไม่เจือจาง

สามารถย่าง ผ่านผัน อย่างมั่นใจ

 

เรือลำเดียว เกี่ยวก้อย ร่วมลอยล่อง

ช่วยสอดส่อง มองทาง สว่างใส

ถือหางเสือ คัดท้าย คุมสายใบ

พายุใหญ่ คลื่นจัด พัดไม่จม

 

เป็นนางแก้ว ในใจ หาใครเท่า

ดั่งสองเรา ฟ้าสร้าง อย่างคู่สม

ทองเนื้อเก้า เราได้ ไว้ชื่นชม

รื่นภิรมย์ ร่วมอยู่ คู่ชีวี

 

ขอขอบคุณ สิ่งดีดี ที่มีให้

ยากหาใคร ทั่วแคว้น มาแทนที่

แทนมะลิ ร้อยมาลัย ให้คนดี

ใจฉันนี้ นั่นหรือ ...ก็คือเธอ

12 พฤศจิกายน 2557 21:58 น.

ที่ปลายโลก

คนกรุงศรี

เดินถึงจุด สุดท้าย ที่ปลายโลก

สายลมโบก เหน็บหนาว ปวดร้าวแสน

ทางสายเปลี่ยว เดินเดียวดาย สุดชายแดน

แต่ขาดแคลน ไมตรี มิมีใคร

 

ฟ้าเริ่มมัว ทั่วทิศ มืดมิดแล้ว

เหมือนเสียงแว่ว คร่ำครวญ สุดหวนไห้

กับดวงตา จ้องมอง ของภูตไพร

คล้ายชวนไป ร่วมทาง อย่างพวกมัน

 

สองขายัง ยืนอยู่ ขอสู้ต่อ

ถึงจะท้อ เท่าไร ไม่แปรผัน

จะรอรุ่ง พรุ่งนี้ มีอีกวัน

จะกัดฟัน เฝ้าค้น อยู่คนเดียว

 

โลกที่ฝันนั้นมี คนที่หมาย

แม้จะคล้าย เพียงเงา ที่เปล่าเปลี่ยว

โลกความจริง ยิ่งเศร้า เหงาจริงเชียว

ได้แค่เที่ยว คาดฝัน ทุกวันคืน

 

9 พฤศจิกายน 2557 20:49 น.

เดินเดียวดาย

คนกรุงศรี

เดินเดียวดาย ปลายทาง ที่ข้างหน้า

สุดสายตา หาใคร ก็ไม่เห็น

ทางสายเปลี่ยว ปลายแดน แสนเยือกเย็น

ด้วยจำเป็น ต้องอยู่ สู้ความจริง

 

สุดทางนี้ มีใคร ที่ไหนหรือ

จะยุดยื้อ ตัวตน พ้นทุกสิ่ง

แม้มีเพิง พำนัก ขอพักพิง

อย่าทอดทิ้ง เหมือนไร้ หมดไมตรี

 

มองข้างหน้า ฟ้าดำ ใกล้ค่ำแล้ว

ยังไร้แวว จุดหมาย แห่งไหนนี่

จึงเหน็บหนาว ร้าวรวด ปวดฤดี

ก็ยากที่ จะหวัง ว่ายังคง

 

แสงริบหรี่ ที่ปลาย ทางสายนั้น

เป็นเพียงฝัน ลางลาง อย่างเศษผง

สองเท้ายัง ย่ำย่าง บนทางตรง

พบป่าดง ก็หมายว่า จะฝ่าฟัน

7 พฤศจิกายน 2557 21:41 น.

ทางสายเปลี่ยว

คนกรุงศรี

ทางสายเปลี่ยว เดียวดาย ที่ปลายโลก

มีทุกข์โศก ปนเศร้า และเหงาหงอย

จะเหลียวหา ใครเขา ยังเฝ้าคอย

ตาละห้อย น้อยใจ ไร้คนแล

 

อยากมีใคร คอบมอบ เพื่อปลอบขวัญ

มาช่วยกัน เยียวยา รักษาแผล

ความว้าเหว่ เร่ถาม ตามรังแก

จนดวงแด ซึมซับ กับความตรม

 

ยกมือชู โปรดด้วย จงช่วยฉุด

ให้พ้นหลุด จากท่าม ความขื่นขม

ขอไออุ่น อบให้ หายซานซม

อย่าให้จม จนหาย ที่ปลายทาง

6 พฤศจิกายน 2557 22:05 น.

เงาอนาคต

คนกรุงศรี

สองดวงตา ฝ้าฟาง ร่างผอมแห้ง

กับเรี่ยวแรง หนึ่งที่ มีความหวัง

ทุกสิ่งล้วน ไม่มี ความจีรัง

ตราบเมื่อยัง คงอยู่ สู้ต่อไป

 

หลายเส้นเอ็น คดโค้ง หังโก่งงุ้ม

หนังห่อหุ้ม โครงสร้าง ร่างสั่นไหว

หูเคยรับ สรรพเสียง สำเนียงใด

ทั้งใกล้ไกล ดูเหมือน เริ่มเลือนลาง

 

ผิวเคยตึง กระชับ กลับแปรเปลี่ยน

จากนวลเนียน ก็ขรุขระ เริ่มกระด้าง

ผมที่เคย ดำขรับ กลับเจือจาง

ร่วงและบาง ปนหงอก สีดอกเลา

 

ฟันที่เคย เรียงแถว เป็นแนวสวย

ก็โย้ด้วย หลุดหรอ สิ้นหล่อเหลา

ทำจดจด จ้องจ้อง คล้ายย่องเบา

ทั้งแข้งเข่า แขนข้อ ทรมา

 

นี่แหละคือ นิยาม ของความแก่

กายอ่อนแอ สารพัน มากปัญหา

บ้างลูกหลาน เจ้ากรรม ไม่นำพา

ส่งบ้านพัก คนชรา น่าน้อยใจ

 

สองดวงตา ฝ้าฟาง ร่างแก่เฒ่า

คือภาพเงา อนาคตแท้ แน่ไฉน

เมื่อหนุ่มสาว ขาวผ่อง หน้ายองใย

พอหมดวัย ความชรา ...เข้ามาเยือน

 

Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกรุงศรี
Lovings  คนกรุงศรี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกรุงศรี
Lovings  คนกรุงศรี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคนกรุงศรี