16 กุมภาพันธ์ 2555 22:23 น.

มุมใจ

คนกรุงศรี


ณ มุมหนึ่ง ของใจ ใครคนนี้	
แน่ยังมี เธออยู่ เป็นคู่ขวัญ
แม้อยู่ห่าง ต่างแดน แสนไกลกัน		
ณ มุมนั้น มีเรา เข้าครอบครอง

ณ มุมหนึ่ง ของใจ คนไหวอ่อน
อย่าร้าวรอน หม่นไหม้ หรือใจหมอง
แล้วมุมนี้ สองใจ เราหมายปอง		
ก็มิต้อง ปวดร้าว เหน็บหนาวใจ

ณ มุมหนึ่ง ถ้าหวั่น พบวันล้า	
คำสัญญา ยังมั่น มิหวั่นไหว
ฝากดวงมาน ผ่านมา บนฟ้าไกล		
แล้วก้าวไป เคียงคู่ จะอยู่เคียง

				
13 กุมภาพันธ์ 2555 21:52 น.

กุหลาบหม่น ของคนหมอง

คนกรุงศรี


กุหลาบแดง ของคน ที่หม่นหมอง		
ด้วยเจ้าของ ฟูมฟัก เสียนักหนา
ทั้งใส่ปุ๋ย พรวนดิน มอบวิญญาณ์			
ดอกได้มา งดงาม ต้องตามใจ
		
กุหลาบแดง เคยให้ ใครคนหนึ่ง		
คนที่ซึ่ง ผูกสมัคร แสนรักใคร่
เพียงแต่ว่า ฟ้าพราก เธอจากไป			
แสนอาลัย ทุกข์ถม ตรมประดัง
		
จากวันนั้น ถึงวันนี้ หลายปีผ่าน		
ความร้าวราญ เกาะกมล เหตุหนหลัง
หัวใจหวั่น สั่นคลอน อ่อนกำลัง			
ดีว่ายัง ยอมรับ กับเหตุการณ์
		
อยากมีหวัง ครั้งใหม่ ล้างใจหม่น		
เลิกผจญ ความเศร้า ที่ร้าวฉาน
รอแรงใจ ใครมอบ ปลอบดวงมาน			
โปรดเจือจาน ปันใจ มาให้ที
		
กุหลาบหม่น มอบให้ ใครคนนั้น		
แต่ยังหวั่น ฤทัย กระไรนี่
กุหลาบแดง ของคน หม่นฤดี			
อาจไม่มี ใครปอง คงมองเมิน
		
แม้ไม่มี ใครรับ เก็บกลับบ้าน		
ทนร้าวราญ ต่อไป ให้นานเนิ่น
แม้ทุกข์ตรม ซมต่อ ขอเผชิญ			
มินานเกิน ปลิดปลง คงชินชา

คนกรุงศรี ฯ
กลุ่มวรรณกวีศรีอยุธยา
				
11 กุมภาพันธ์ 2555 22:39 น.

แพ้ใจเธอ

คนกรุงศรี


ฟังเสียงขลุ่ย โหยหา พาใจหวน		
จึงรัญจวน รักจาง อย่างใจหาย
รู้ว่าเจ็บ เหน็บร้าว หนาวใจกาย		
แต่ก็สาย แล้วหนอ ท้อใจเกิน

คำสัญญา ยังอยู่ คู่ใจพี่			
ทุกครั้งที่ มอบให้ ก็ใจเขิน
มาวันนี้ เหตุใด ดวงใจเมิน			
ต้องเผชิญ ความหม่น จนใจตรม

อยากบอกว่า ยามนี้ มีใจภักดิ์		
เกรงเจ็บหนัก หมองไหม้ จนใจขม
กลัวจะจาก พรากไป จนใจซม		
ทุกข์ระทม จริงแท้ แพ้ใจเธอ

พอดวงจิต คิดไป พาใจหน่าย		
ยังเสียดาย ตัวที่ มีใจเผลอ
ต้องผิดหวัง เพราะเขลา เราใจเบลอ		
จึงมาเจอ คนซื่อ หรือใจเก

บางครั้งที่ คิดถึง จึงใจหม่น			
เจ็บเสียจน หม่นไหม้ ดวงใจเขว
เพราะยังจำ สัญญา พาใจเซ			
เพราะรวนเร หรือไม่ ดวงใจนี้
	
แว่วเสียงขลุ่ย อีกคราว ร้าวใจหวั่น		
อยากลืมวัน เคยรัก หักใจหนี
ทนระทม ตรมเศร้า เข้าใจดี			
ด้วยมิมี คนใด รู้ใจเรา
				
10 กุมภาพันธ์ 2555 21:53 น.

เงาในดวงใจ

คนกรุงศรี

	
น้ำค้างพรม ลมพลิ้ว ใจหวิวหวั่น			
อะไรกัน แฝงเงา ให้ร้าวฉาน
เหมือนเกาะอยู่ คู่กัน กับดวงมาน			
ความร้าวราญ ผสม กับตรมทรวง

ทุกเวลา นาที ที่ผ่านผัน			
หลายคืนวัน มั่นใจ ให้แหนหวง
ความสับสน ปนอยู่ คู่แดดวง			
อยากจะล่วง พ้นผ่าน กาลเวลา

สิ่งใดเล่า เข้าสุม คลุมดวงจิต			
ถูกหรือผิด คิดค้น ดั้นด้นหา
เป็นภาพหลอน ซ่อนกล มนต์มายา			
พบเพียงว่า ลึกลึก รู้สึกดี

เฝ้าพินิจ คิดหา ว่าเหตุผล			
แสนวกวน วุ่นวาย ใจเหลือที่
สิ่งพบพาน หลายหลาก แสนมากมี			
ถ้อยวลี คำนั้น พรั่นฤทัย

แล้วใจก็ ค่อยค่อย เกิดรอยด่าง			
กับอ้างว้าง กมล สุดหม่นไหม้
สุดหนาวเหน็บ เจ็บร้าว กับเงาใจ			
ยิ่งทำให้ ดวงมาน ถึงซานซม

ความรู้สึก พลาดผิด สะกิดอยู่			
กับอดสู พร้อมรับ กับขื่นขม
ปิดบังเงา เอาแนบ แอบเชยชม			
สุดจะข่ม ใจพราก ให้จากลา

คนกรุงศรี ฯ
กลุ่มวรรณกวีศรีอยุธยา
				
9 กุมภาพันธ์ 2555 22:56 น.

อธิฐาน

คนกรุงศรี

	
                    อธิษฐาน				
เพราะว่าฝัน นั้นไกลลิบ เกินหยิบจับ
เคยยอมรับ เราคง ต้องปลงตก
กลัวจะหมอง หม่นไหม้ ใจช้ำฟก
จึงเก็บหมก เอาไว้ ในส่วนลึก

รักมิได้ ใสสว่าง ดั่งเราคิด
มันมืดมิด ร้าวรอน ดั่งตอนดึก
ทนเงียบงำ อำไว้ ด้วยใจนึก
หากฝนฝึก คงหาย คลายความทุกข์

มีเพียงรัก มอบให้ ไว้ทั้งหมด
กะกำหนด ชีวา คงผาสุข
ตั้งนิยาม ความฝัน ที่ทันยุค
คอยปลอบปลุก ถ้าพร้อม ค่อยยอมรับ

แต่กำแพง แกร่งกั้น คือพันธะ
เป็นภาระ เนิ่นนาน ชั่วกาลกัป
สร้างความดี มีมา คณานับ
กลัวตกอับ หม่นไหม้ ไร้คนคบ

รักแล้วมี ทุกข์กัน ทั้งนั้นแหละ
หากแยกแยะ มิทัน พลันสิ้นจบ
หลากหลายเรื่อง รุมเร้า เข้าสมทบ
แม้สู้รบ อย่างไร ไม่ชนะ

รักฉันมี แต่ให้ ได้ปรากฏ
วาดภาพพจน์ ความคิด อิสระ
อธิษฐาน ก่อนนอน วอนคุณพระ
หวังพบปะ ชาติหน้า อนาคต

คนกรุงศรี ฯ
กลุ่มวรรณกวีศรีอยุธยา												
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกรุงศรี
Lovings  คนกรุงศรี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกรุงศรี
Lovings  คนกรุงศรี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคนกรุงศรี