9 เมษายน 2555 22:14 น.

เด็กเลี้ยงควาย

คนกรุงศรี

	
เจ้าสมปอง เพื่อนฉัน วันวัยเด็ก		
ตัวเล็กเล็ก เกเร ทำเฉไฉ
อยู่โรงเรียน ประชาบาล ถิ่นบ้านไกล			
เข็ญไม่ไหว เกียจคร้าน เรื่องการเรียน

ชอบเลี้ยงควาย ปลายนา ริมป่าเขา		
ไม่ชอบเอา การงาน เรื่องอ่านเขียน
แม้ครูสอน เอาไว้ ให้พากเพียร			
มิอาจเปลี่ยน ใจได้ ให้ระอา

จบป.สี่ จากไป ในวันนั้น			
เพื่อนพากัน เข้าเมือง เรื่องศึกษา 
เรียนให้สูง จะได้ดี มีวิชา				
ปริญญา ได้ไป กันหลายคน

ปีนี้จัด นัดชุมนุม กลุ่มศิษย์เก่า		
โรงเรียนเรา ร่วมงาน การกุศล
พัฒนา ตั้งกลุ่ม แหล่งชุมชน				
จึงส่งผล เพื่อนเก่า เราพบกัน

ทั้งตำรวจ พยาบาล ผู้การ,หมอ		
ท่านผ.อ. ทนาย หลายคนนั่น
ครู,ปลัด ผู้ว่า สารพัน				
และไหนนั้น สมปอง เพื่อนของเรา

ครูบอกว่า สมปอง ต้องลำบาก 		
งานหนักมาก  อ่อนล้า จนน่าเศร้า
ยังเลี้ยงวัว เลี้ยงควาย ในลำเนา			
มีควายเก้า ร้อยตัว...วัวเกือบพัน
				
6 เมษายน 2555 22:49 น.

ประณิธาน

คนกรุงศรี

ประณิธาน ที่มั่น จะสรรสร้าง		
เดินบนทาง สายนั้น วรรณศิลป์
มรดกไทย ให้อยู่ คู่แผ่นดิน			
วาดวางจินต์ รจนา ภาษากานท์

เรียงอักษร อ่อนช้อย เป็นสร้อยสาย	
ร่างระบาย คำกลอน อันอ่อนหวาน
ให้โลกรู้ รับรส พจมาน				
และลูกหลาน ของไทย ได้ยลยิน

วัยหยุดเขียน คือว่า วันลาลับ		
วันที่หลับ ตาลง คงหมดสิ้น
ถ้ายังอยู่ รู้ได้ ในใจจินต์			
จะร่ายริน หลั่งคำ ลำนำกลอน	
				
6 เมษายน 2555 22:44 น.

สมปองผู้กล้าหาญ

คนกรุงศรี

	
วีรบุรุษ สุดกล้า ผู้สามารถ			
จะประกาศ ความเกรียงไกร ให้ประจักษ์
ประชาชน ทั้งผอง ต้องพิทักษ์			
ยึดถือหลัก คุณธรรม ประจำตน

สมปองมุ่ง หมายใจ ไว้เช่นนั้น		
จึงทุกวัน ช่วยเหลือ เพื่อกุศล
ด้วยความดี มีให้ ไปทุกคน				
จึงส่งผล คุณงาม ตามติดตัว

พอวันนี้ มีเรื่อง ก็เนื่องจาก			
มีเด็กมาก มายนัก ชักจะมั่ว
วิ่งเล่นกัน ริมท่า ดูน่ากลัว				
เผลอลอดรั้ว ตกน้ำ ดิ่งดำไป

น้ำเชี่ยวกราก หลากไหล ว่ายไม่แกร่ง	
เริ่มอ่อนแรง ข้อล้า ท่าไม่ไหว
ลำลักน้ำ สุดขยาด แทบขาดใจ			
สมปองไว โจนลง ตรงประคอง

อุ้มขึ้นมา เยียวยา เหมือนว่ารู้		
เพราะเคยดู เคยเรียน เพียรจนคล่อง
แล้วหลายคน ชื่นชม เจ้าสมปอง			
อย่างนี้ต้อง ลงข่าว เล่าเรื่องมัน

นักข่าวถาม เป็นอย่างไร ในวันนี้		
ช่วยชีวี เด็กไว้ เหนือใฝ่ฝัน
สมปองกล่าว อยากรู้ อยู่เหมือนกัน 		
ใครถีบฉัน ลงน้ำ ....ช่วยถามที

ขรัวตา

				
3 เมษายน 2555 22:36 น.

คนกรุงศรี

คนกรุงศรี

				
อยากจะจาร สานกลอน อักษรศิลป์		
ตามดังจินต์ รินคำ ให้ฉ่ำหวาน
คัดวลี หลากรส พจมาน				
เป็นกลอนกานท์ หวังเพราะ เสนาะใจ

เกิดที่ย่าน บ้านทุ่ง เมืองกรุงศรี		
ก็หลายปี มีมา อายุขัย
ก็มากอยู่ ดูแย่ เพราะแก่วัย				
แต่ว่าไฟ ไม่มอด ตลอดมา

ที่ว่าไฟ ในนิยาม มีความหมาย		
อยากกรีดกราย เรียงคำ นำภาษา
อักษรศิลป์ กินใจ ในอุรา				
อยากนำพา ให้ดำรง อยู่คงทน

เรียนเพื่อนพ้อง น้องพี่ ที่นับถือ		
พวกเราคือ ผู้หนึ่ง ซึ่งหวังผล
ด้วยใจภักดิ์ รักกวี ที่ยินยล				
ขอทุกคน ร่วมด้วย ช่วยบรรเลง

หยิบปากกา คว้ากระดาษ วาดอักษร		
ทุกวรรคตอน เขียนไป ไม่รีบเร่ง
บางถ้อยคำ หยอกเย้า เรากันเอง			
มิกลัวเกรง โกรธเคือง กันเรื่องไร

ฉันทลักษณ์ หลักกฎ กำหนดนิด		
สิ่งถูกผิด ร่วมกัน นั้นแก้ไข
ต้องคงรูป บทกลอน อักษรไทย			
ดำรงไว้ ให้อยู่ คู่แผ่นดิน
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกรุงศรี
Lovings  คนกรุงศรี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกรุงศรี
Lovings  คนกรุงศรี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคนกรุงศรี