3 พฤศจิกายน 2550 12:16 น.

เ รื่ อ ย ๆ ม า เ รี ย ง ๆ

นั่งยิ้มริมระเบียง


ไม่ได้เศร้ามากมาย

แต่คล้าย ๆ จะผิดหวัง

เคว้ง ๆ คว้าง ๆ

ใจบาง ๆ ล่องลอย



ไม่ได้เหงาซักนิด

แต่ก็ติด จะหงอย ๆ

ซึม ๆ เล็กน้อย

เหมือนถูกปล่อย ลอยทะเล



ไม่ได้คิดถึงใครนะ

เพียงแต่ว่า ใจร่อนเร่

พอนิ่ง ก็เกเร

โอ้ละเห่ ลอยไปไกล


... ... ... ... ... ... ... ... ...






อยากบอกว่า ช่วงนี้ร่อนเร่จริง ๆ
เสาร์ก่อน ไปบ่อพลอย ที่กาญน์
ไปเที่ยวซาฟารีปาร์คค่ะ
ไปย้อนรอยรายการย้อนรอยอีกที
ประทับใจเจ้ายีราฟคอยาวที่เชื่องมาก ๆ
มันยื่นหัวเข้ามาทางหน้าต่างรถ
เพื่อตื๊อจะกินแครอท
1 ชิ้นไม่พอ จะกินอีก ๆ ๆ ๆ
ก็เลยเอาไปซ่อนไว้ที่พื้นรถข้างเบาะนั่ง
มันเห็น ก็ยื่นหน้าแหลม ๆ ตามลงไป
จนถึงกาละมัง แล้วก็หม่ำจนหมด





วันอาทิตย์ 
ไปเดินงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ
ได้นิยายของคุณกิ่งฉัตรกลับบ้าน
4 เล่มหนา ๆ พร้อมลายเซ็นต์คนเขียน
(ที่แลกมาด้วยความหน้าแตกเล็กน้อย
เพราะจำคุณกิ่งฉัตรไม่ได้ ทั้งที่เค้ายืนอยู่
ตรงหน้า แล้วถามว่า เอาลายเซ็นต์ไม๊คะ 
ฮือ ๆ)
4 เล่มนี้
รับรองอ่านเป็นเดือนจนหายเบื่อแน่ ๆ




คิดถึงทุกคนนะคะ
ว่าง ๆ จะแวะมาอีก



บายยยยยยยยยยยยย จุ๊บ ๆ











.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..


ไม่ได้คิดถึึงใคร

แต่ตอบไม่ได้ ทำไมว่างเปล่า

จะว่าเหงา ก็ไม่เหงา

แค่เศร้า ๆ ในบางเวลา


.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..




				
23 ตุลาคม 2550 18:46 น.

ค ว า ม รั ก ค รั้ ง สุ ด ท้ า ย

นั่งยิ้มริมระเบียง


เมื่อรักเกิดขึ้นได้

ก็ไม่เป็นไร หากจะจบสั้น - สั้น

ก็จะคิดว่าแค่ฝัน

ฝันว่าได้รู้จักกัน ได้เข้าใจ



แค่ความรู้สึกรัก ครั้งล่าสุด

แต่คงไม่หยุด ให้เป็นครั้งสุดท้าย

ชีวิตยังอีกยาวไกล

ก็คงจะมีใคร ในสักวัน



จะไม่ลืมคุณหรอกนะ

จะเก็บไว้ในใจจนกว่าเวลาผ่าน

จะปล่อยให้คืนวันนานเนิ่นนาน

ค่อย ๆ ลบภาพหวานจนหมดรอย



--------------------------------------------

วันนี้เป็นวันหยุดที่คุ้มค่ามาก ๆ

เพราะนอกจากจะได้เดินสายโทรศัพท์

ขึ้นชั้นสองของบ้าน (เพื่อต่อเน็ตตอนตื่นนอน)

ซึ่งผลัดวันประกันพรุ่งมานานนนนนนแล้ว

ยังอารมณ์ดีพอจะเอารูปสวย ๆ 

ใส่กรอบติดข้างฝา

ได้จัดบ้านจนเรี่ยมมมม ไม่มีฝุ่น

ได้หม่ำส้มตำเจ้าประจำที่แสนอร่อย

แล้วยังมีเวลาเหลือ

ให้ไปรื้อซีดีเก่า เอามาดูใหม่อีกครั้ง

------------------------------------------



แล้วก็เลือกดูเรื่องนี้ค่ะ

" ความรักครั้งสุดท้าย "  

หนังของท่านมุ้ย

แล้วก็เหมือนทุกครั้ง 

คือร้องไห้ตาบวมมมมมมม บวม ๆ ๆ

ทั้งที่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา 

ยังล้อน้องที่ทำงาน

เรื่องร้องไห้ตาบวมปูดมาหยก ๆ   : ) 

ก ร ร ม ! !


หนังเรื่องนี้ 

พระเอกน่ารัก นางเอกเท่ห์

แต่เพลงประกอบหนังนี่สิ... 

ฟังแล้วอิน ๆ ๆ ๆ ๆ สุด ๆ    : (

-----------------------------------------


จำกันได้ไม๊คะ 

เ พ ล ง ค ว า ม รั ก ค รั้ ง สุ ด ท้ า ย


-----------------------------------------








ความรักที่ผิดหวัง...

จะฝังแล้ววางพวงหรีด

เก็บรอยเฉือน เหมือนถูกกรีด...

จากรอยช้ำ ทำเป็นหรีด

อดีตทิ้งไป

...


ความรักครั้งสุดท้าย...

ไม่เคลื่อนคลาย ให้ใคร

จากชีวิต... ชิดดวงใจ...

ด้วยความรัก ควักวางให้

แนบใจของเธอ

...


แม้ร่างจมสู่ดิน 

สิ้นใจไม่เจอะเจอ

จะขอตามติดเธอเสมอ...

จนเจอ... ภพอื่น

...


ความรักครั้งสุดท้าย...

ตราบวันชีพวาย ยังชื่น

แน่นอนนัก...รักยาวยืน 

ให้เธอแล้วไม่ขอคืน

ชื่นใจไหมเธอ

...




				
23 ตุลาคม 2550 07:22 น.

แม้เป็นเพียงเถ้า ธุลี ให้เธอ...

นั่งยิ้มริมระเบียง


ฟังเพลงเก่า ก็เหงาได้

ตราบที่ใจ ใฝ่จะเหงา

รักร้าย ไม่ร้ายเท่า

ถ้าใจเรา ไม่คิดไกล



รักแล้ว ก็รักเลย

และไม่เคย เปลี่ยนไปไหน

ให้ลืม จะลืมให้

ทั้งที่ใจ ไม่เคยลืม



-----------------------------------
-----------------------------------



ไปได้ยินเพลงเก่ามาอีกแล้วจ้าาาา

ตอนเย็น ๆ ตะวันรอน ๆ ฝนตกพรำ ๆ

เฮ่ออออออออออออ..

เพราะจับใจ จนต้องไปค้นหาในเน็ต


ชื่อเพลงว่า ธุลี คนร้องชื่อ ฤทธิพร อินสว่าง


แต่คนเขียนเนื้อเป็นใครไม่รู้เหมือนกัน

ฟังแล้วมันเศร้าจับใจจริง ๆ เล๊ยยยย

---------------------------------------
---------------------------------------





ให้ฉันเป็น อะไรก็ได้ 

สุดแต่จะหมายให้ฉันเป็น

เจ็บก็จะทน จนเธอได้เห็น 

ว่าฉันได้เป็นเช่นเธอต้องการ



ให้ฉันเป็น อะไรก็ได้ 

ก็แค่ผู้ชายที่ซมซาน

ก็แค่คนโซ โซไปวัน ๆ 

ไม่มีรากฐานที่มั่นคง



ให้.... ฉันเป็นอะไรก็ได้ 

กำหนดฉันไว้เป็นได้เสมอ

แม้..... เป็นเพียงเถ้า ธุลีให้เธอ 

เหยียบย่ำจนกว่า ชีวาจะวาย



ให้ฉันเป็น อะไรก็ได้ 

ก็อยากให้ตาย หรืออยากให้ปลง

แต่ตราบที่ใจ เยื่อใยความรักสิ้นลง

ให้ตายกับปลง ตายคงง่ายกว่า



* ให้ฉันเป็น อะไรก็ได้ 

กำหนดฉันไว้เป็นได้เสมอ

แม้เป็นเพียงเพื่อน เลือนใจรักเธอ

แสร้งยอมเสียหลัก ก็จักยอมเซ




แม้...... เป็นเพียงเถ้า ธุลีให้เธอ

เหยียบย่ำจนกว่า ชีวาจะวาย




--------------------------------------------
--------------------------------------------

อย่างที่บอกไว้ค่ะ

ว่าเพลงนี้ เศร้าได้ใจจริง ๆ เลย




				
19 ตุลาคม 2550 15:51 น.

คิดถึงเมืองเหนือ

นั่งยิ้มริมระเบียง


ฟ้าหม่น

สายฝนปะปน สายลมหนาว

จันทร์กระจ่าง พร่างแพรดาว

ฤดูกาลผ่านเข้า สู่เหมันต์



หลับตา คิดถึงดอยอินทนนท์

เด็กน้อยชาวเขาหอบดอกไม้จนล้น ขายฝัน

แก้มแดง ปากแดง (บางที) ไม่แปรงฟัน

แต่รอยยิ้มแสนหวาน ประทับใจ



คิดถึงทะเลหมอก เป็นปุยขาว

ดาระดาษพร่างพราวนอกระเบียงไม้

คิดถึง คิดถึง ทนได้ไง

อยากชวนเพื่อนรู้ใจ..

..ไปไม๊ ไปไม๊ ไปขึ้นดอย



- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -




ไม่ได้ไปเหนือมา 5 ปีแล้ว

คิดถึงจนนอนฝัน

วันก่อน เพื่อนบอกว่าป้าจะเปิดร้านอาหาร

ที่เวียงป่าเป้า

วันก่อนนู้นนนนน

พี่คนหนึ่งที่ดอยสะเก็ดโทรมาชวนไปกางเต๊นท์

แล้วก็ไม่กี่วันที่ผ่านมา

เพื่อน ๆ มันก็เตรียมตัวแพ็คกระเป๋า

ไปแม่ฮ่องสอน




แง๊ ...............

อยากไปจนทนไม่ไหว




กลอนบทนี้

จึงเขียนขึ้นจากความคับข้องหมองใจ

อย่างที่สุดค่ะ

ฮือ ๆ





				
19 ตุลาคม 2550 08:55 น.

เ ส้ น ข น า น ที่ ผ่ า น พ บ

นั่งยิ้มริมระเบียง


เรายืนอยู่คนละฟาก ฝั่งแม่น้ำ

ที่สุดจะก้าวข้าม ไปหาได้

ทำได้เพียงสบตา อยู่ไกล ๆ

แอบส่งหัวใจ ไปพูดจา



เป็นความเข้าใจ ที่หม่นเศร้า

เป็นความปวดร้าว ที่มีค่า

เป็นน้ำตา ที่ยินดีแลกด้วยน้ำตา

เป็นนาฬิกา ที่หยุดหมุนเพียงชั่วคราว



ต่างเป็นเพียงเส้นขนานที่ผ่านพบ

เป็นนิยายที่ถูกเขียนให้จบ บนความเศร้า

เป็นรอยเล็กที่แอบลึกในใจเรา

เป็นความอบอุ่นที่ว่างเปล่า ร้าวอารมณ์


				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนั่งยิ้มริมระเบียง
Lovings  นั่งยิ้มริมระเบียง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนั่งยิ้มริมระเบียง
Lovings  นั่งยิ้มริมระเบียง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนั่งยิ้มริมระเบียง
Lovings  นั่งยิ้มริมระเบียง เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงนั่งยิ้มริมระเบียง