อารมณ์กลอนตอนอกหัก

ทัดหทัย

บ่อยครั้งที่ความผิดหวังจากความรักเป็นแรงบันดาลใจทำให้เกิดบทกวีดีๆ ขึ้นมา   
และว่ากันว่าเรื่องของความรักที่ผิดหวังนั้นจะตราตรึงในหัวใจคนอ่านได้ดีกว่ารักหวานชื่น
แต่คงไม่จำเป็นว่าคนไม่เคยอกหักจะเขียนกลอนอกหักไม่ได้ หรือได้ไม่ดี
ลองดูไหม ? ว่าคุณสามารถถ่ายทอดความรู้สึกอะไรได้บ้างถ้าคุณอกหัก หรือสมมติว่าอกหัก
ลองเขียนเป็นกลอนตลาด ความยาว 2-4 บท ลงในกระทู้นี้สิ
หมดเขตส่งกลอน 22 กพ 2549 เวลา 24.00 น.
ผมอ้อนวอนเพื่อนหลายคนมาช่วยเป็นกรรมการตัดสินแล้ว
และจะมีของที่ระลึกให้เจ้าของผลงานที่เข้ารอบสุดท้าย 5 ชิ้น
กับรางวัลพิเศษสำหรับชิ้นที่ถูกใจกรรมการที่สุด
โดยจะประกาศผลในวันศุกร์ที่ 24 กพ 2549  แน่นอน
ไม่มีการเลื่อนเหมือนรางวัลพานแว่นฟ้าปีล่าสุดอย่างเด็ดขาด				
comments powered by Disqus
  • น้ำตาเทียน

    17 กุมภาพันธ์ 2549 21:15 น. - comment id 13403

    เอ่อ ผมไม่ได้คิดที่จะติดคุณ.หรอกนะครับ แต่ความคิดของผมคิดว่า ควรจะตั้งกระทู้ที่เป็นความหาความสนุกสนาน มากกว่าที่จะเชิญชวนให้ผู้อื่นมาตัดสินหรือแข่งขันกันโดยหวังรางวัลใดๆ (อันนี้คือความคิดของคนคนหนึ่ง ซึ่งไม่ดีเด่นอะไรหรอก) เอาเป็นว่าคุณตอบกระทู้นี้ แล้วผมจะมารอดูอีกทีว่าคุณคิดยังไงนะครับ  ผมคิดว่าความคิดของผมเป็นการดีแท้แน่ (หุๆ)
  • rain..

    17 กุมภาพันธ์ 2549 21:49 น. - comment id 13405

    ..แบบเรนขอสมัครเป็นคนแรกนะคะ..
    11.gif..  เรนไม่เคยอกหัก..
     แต่เรนก็เคยเห็น.. เพื่อนเรนร้องไห้ ..
    ตอนที่..พี่ชายของเธอเดินกับคนอื่น..
      เรน..จำความรู้สึกตรงนั้นได้ ..18.gif..
    เธอร้องไห้.. มากมาย..
       เรนสงสารเธอ..
    ตอนนั้นเรนรู้นะคะว่า ..  เธอต้อง..เสียใจมากๆ..
    
        เรนขอเวลานิ๊ด..ด..นึง.นะคะ..
    แบบเรนจะสมมติว่า.. เรนเห็นพี่ชายเรนไปเที่ยวกับคนอื่น..  50.gif..
       เรนต้องเสียใจ...11.gif..
    และเรนต้องร้องไห้.. 66.gif..
          ...
      เก๊าะเพราะ..เรนอยากได้ของรางวัลนะดิคะ..
    62.gif..
            เรนจะพยายาม.. 50.gif..
     และเรน..ต้องทำได้..
    
        ซาแว้ปป..
  • หยาดอรุณ (แดดเช้า)

    17 กุมภาพันธ์ 2549 22:35 น. - comment id 13406

    ยังไง ก็ขอลองเขียนกลอนอกหักมั่งนะคะ บังเอิญเป็นคนเศร้าไม่เป็น แต่พยายามจินตนาการสุดชีวิตแล้วค่ะ : )
    
    \"เสีย\"
    หัวใจฉันถูกหั่นบดบนขดเข็ม
    ที่เลาะเล็มลวดหนามเกินห้ามฝืน
    ยังยอมยอบมอบฝันกลั้นก้อนกลืน
    วอนเธอยืนเหยียบย่ำให้หนำใจ
    
    เสียเธอแล้วแก้วร้าวช่างหนาวเหน็บ
    เศษแก้วบาดจนเจ็บจวนหวาดไหว
    เหมือนสะเก็ดเกล็ดกระสุนพรุนผ่าใน
    ช้ำร่ำไห้ใครถอดถอนวอนเมตตา
    
    เสียเธอไปไม่เท่าเศร้าเสียใจ
    แปลบหวนไห้เสียขวัญหวั่นผวา
    ถึงข้างกายเดียวดายนักจำหักลา
    ยังดีกว่าข้างใจไม่มีเธอ
    
    หัวใจฉันถูกบดขดเข็มทิ่ม
    ราวลวดลิ่มหนามเสี้ยนแผลเผยอ
    ลมปากโปรยสะเทือนเหมือนละเมอ
    เอ่ยคำเพ้อเจ็บช้ำซ้ำรอยเดิม.
    
    ส่งมาร่วมสนุก ไม่ได้หวังรางวัลใดๆ 
    เพียงต้องการมาเป็นกำลังใจให้กิจกรรมครั้งนี้
    
    ร่วมสร้างสรรค์และต่ออายุวรรณศิลป์ ...
  • มิเคยลืม...

    17 กุมภาพันธ์ 2549 22:16 น. - comment id 13410

    ไม่ทราบว่างานนี้มีใครเป็นกรรมการมั่งคับ?
  • ผู้ ห ญิ ง ช่ า ง ฝั น..

    18 กุมภาพันธ์ 2549 08:00 น. - comment id 13412

    มาสนับสนุนค่ะ..  ชอบอารมณ์งานนี้...
    แต่คงไม่มีความสามารถพอ...
    ไว้รออ่านงานเพื่อน ๆ  ดีกว่า...
    
    36.gif
  • ทัดหทัย

    18 กุมภาพันธ์ 2549 08:41 น. - comment id 13414

    ทำไมต้องมีการแข่งขัน ?
    
    ผมไม่ได้คิดจะให้ใครมาเอาเป็นเอาตายกับผลของการแข่งขัน
    แค่อยากให้มันเป็นแรงกระตุ้น รางวัลที่ตั้งไว้ก็เล็กน้อย
    คงไม่จูงใจบรรดานักล่ารางวัลตัวจริงให้มาร่วมวงหรอก
    
    ผมแค่อยากให้เพื่อนๆ เติมความตั้งใจให้ตัวเอง
    เพื่อที่จะพยายามเขียนให้ดีที่สุด
    ทำเหมือนแค่แข่งกับตัวเอง  ร่วมสนุกสนานกัน
    
    สำหรับกรรมการขออภัยที่ไม่บอกรายชื่อตอนนี้
    กันไม่ให้เพื่อนบางคนเอาเปรียบด้วยการเดาทางกรรมการ หรือแอบใช้เส้น อิอิ
    บอกได้แต่ว่าเป็นคนที่มีผลงานทั้งในหน้านิตยสาร และแวดวงการประกวด
    อ้อ..ไม่ใช่ผมด้วยแหละ
  • ทัดหทัย

    18 กุมภาพันธ์ 2549 08:53 น. - comment id 13415

    หยาดอรุณ...
    
    ทำเก๋ด้วยชื่อกลอนที่ทำให้นึกถึง  \"เสียเจ้า\" ของ อังคาร  กัลยาณพงศ์
    
    คนอื่นๆ ที่จะตามมาคงกำลังคิดพล๊อตและวรรคทองเด็ดๆ
    
    ก็..นะ.. งานอย่างนี้จะให้เขียนเรื่อยเปื่อยได้ไง
    มันก็ต้องคิดหน่อยว่าจะเขียนอะไร และอย่างไร
    เพื่อให้โดนใจคนอ่านที่สุด
    
    เอาใจช่วยทุกคนนะครับ
  • เรไร

    18 กุมภาพันธ์ 2549 09:31 น. - comment id 13416

    
    เดี๋ยวขอเวลาไปทำให้ตัวเองอกหักก่อนน่ะครับ เอ่อ..แบบว่าอารมณ์อกหัก ไม่มีเลย ขอไปบิ้วก่อนแล้วกัน อิอิอิ
  • แสงไร้เงา

    18 กุมภาพันธ์ 2549 12:45 น. - comment id 13418

    เคยอกหักนะค่ะ
    
    แต่แต่งกลอนไม่เป็นค่ะ
    
    แวะมาเยี่ยมค่ะ
    
    36.gif
  • ดอกข้าว

    18 กุมภาพันธ์ 2549 14:47 น. - comment id 13423

    ค่ำ 
    ดอกข้าว 
    ...
    
    เขายังอยู่ยังยืนอยู่ที่ตรงนั้น
    ใกล้ค่ำแล้วเขายังมั่นยืนมองอยู่
    เขาก้มหน้าน้ำตาไหลพร่าพรู
    แสงตะวันใกล้ลับภู  เขาเฝ้ามอง
    
    เธอยังอยู่ยังยืนอยู่ที่ตรงนั้น
    ใกล้ค่ำแล้วเธอยังมั่นไม่ขุ่นข้อง
    เธอก้มหน้าน้ำตาอาบหน้านอง
    ฟ้าเริ่มหมองเธอหนาวและร้าวรอน
    
    เธอเห็นเขาคล้ายว่าไม่เห็นเขา
    ใกล้ค่ำแล้วรูปเงาเป็นกลุ่มก้อน
    เธอเรียกเขาหากเขาไม่อาทร
    เมื่อตะวันแสงอ่อน เขาเอ่ยลา
    
    เอาอันนี้นะครับ เพราะผมแก้บทกลอนนิดหน่อยเปลี่ยนคำว่าพรั่งเป็น พร่าพรู ครับ
     ถ้าได้รางวัล เอาไอติมแม็คนัม นะครับ 
    71.gif
  • ทัดหทัย

    19 กุมภาพันธ์ 2549 08:43 น. - comment id 13428

    แว่วๆ ว่าหลายคนเกร็งกับงานนี้
    ในขณะที่หลายคน(เหมือนกัน)กำลังซุ่มเขียนอย่างตั้งอกตั้งใจ
    
    มีคำถามจากเพื่อนๆ ว่าคนหนึ่งจะส่งได้กี่ชิ้น
    ตอบตรงนี้เลยว่าส่งได้โดยไม่จำกัดนะ
    
    ดอกข้าว กับงานชื่อ ค่ำ
    เป็นอีกความพยายามที่จะสื่ออารมณ์โดยใช้ช่วงใกล้ค่ำเป็นฉาก
    แต่น่าจะมีเนื้อหาเรื่องราวมากกว่านี้อีกหน่อย
    
    ผมได้รับคำแนะนำมาว่า..
    การเขียนงานเพื่อสื่ออารมณ์นั้นไม่สามารถละเลย story ได้
    ฉาก ก็เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการสร้างอารมณ์ร่วม
    ที่ลืมไม่ได้อีกข้อก็คือน้ำเสียงของบทกลอนจะต้องคล้อยตามอารมณ์ที่สื่อ
    และส่วนมากจะเลือกเขียนในแนว Romantic เพื่อให้ \"แรง\" พอที่จะกระทบอารมณ์คนอ่าน
    
    อ้อ..กระต่ายตัวที่หลับอยู่น่ะ  ระวังเต่าจะเข้าเส้นชัยไปก่อนนะ
    
    35.gif35.gif35.gif35.gif35.gif
  • ร้อยฝัน

    19 กุมภาพันธ์ 2549 09:37 น. - comment id 13429

    นึกสนุก  ขอสนุกด้วยคนนะคะคุณพ่อมด
    
    เพราะอกหัก...จึง
    
    ไม่อยากเจอให้จดจำจนช้ำจิต
    ไม่อยากคิดถึงวันฝันสุขสม
    ไม่อยากรู้ความปวดร้าวคราวระทม
    ไม่อยากตรมเศร้าหมองนองน้ำตา
          เพราะ...
    เพียงแค่ใจเจ็บช้ำก็เจียนตาย
    เพียงแค่หมายจะถวิลก็สิ้นท่า
    เพียงแค่เริ่มก็สิ้นสุดหยุดเวลา
    เพียงแค่โหยหาก็ขมขื่นสะอื้นดัง
          จึง....
    จำต้องขอแยกทางห่างความรัก
    จำต้องหักห้ามใจไม่คืนหลัง
    จำต้องร้างราไกลยามใจพัง
    จำต้องนั่งโศกเศร้าเหงาเดียวดาย
  • พระจันทร์เศร้าฯ

    19 กุมภาพันธ์ 2549 17:02 น. - comment id 13431

    เขียนไม่ได้หรอกพี่
    ก็อกมันไม่หักอ่ะนะ
    มาตามดูเฉย ๆ แล้วกันนะจ๊ะ
    กำลังเมาหมัดกับบทความเคล็ดลับทนายน่ะจ้ะ มึนดีแท้
  • rain..

    19 กุมภาพันธ์ 2549 17:49 น. - comment id 13432

    อกหักเพราะ..แอบรัก..
        ................
    
     คำสัญญาของคุณอบอุ่นยิ่ง..    
    แววตานิ่งครุ่นคิดมีสิทธิ์มั้ย?
    ก็ตอนนั้นเรนรู้คุณคู่ใคร..
    จิตหวั่นไหวทุกครั้งที่นั่งมอง..
    
           อ่านหนังสือวกวน..ใครต้นเหตุ..?
     เพราะขอบเขตเหตุผล.. เลยหม่นหมอง..
    รักผิดถูกร้อนรน ..แค่ผล..ลอง..
    ใจลอยล่องเดินงง.. เพราะหลงทาง..
    
         ภาพที่เห็นอยากบอก..ว่าชอกช้ำ..
    พี่ใจดำ..ไม่รับเรนกลับบ้าน..
    เรนไม่ได้ขี้เก้กเป็นเด็กพาล..
    แค่อ่อนหวาน..ในแบบที่แอบเจอ
    
            เสียงพูดคุยเคล้าคลอ..ก่อรอยร้าว
    อยากฟ้องดาวเรื่องเขา..ทำเราเพ้อ
     คำสัญญา..พี่ชาย.. ทำร้ายเธอ..
    อยากให้เผลอมองเน้น..เรนเป็นแฟน
    
         เพราะผิดหวังน้ำตานองเลยร้องไห้
    จะอย่างไรขอทวงใช่หวงแหน..
    เป็นพี่ชายพ่อกำหนด..  มาทดแทน
    ขออ้อมแขนอบอุ่น.. ที่คุ้นเคย..
     
     สัญญาใหม่เขียนเป็นก็เห็นผล..
    เปลี่ยนตัวตนพี่ชาย..ความหมายเอ่ย..
    เปลี่ยนรู้สึกเปลี่ยนใจ..นั้นใช่เลย..
    พี่ชายเอ่ย.. รักเร้น.. ขอเป็นเรน..   7.gif
         
      ............................................
    
    
          พล๊อตเรื่องของเรน.. คงไม่ผ่าน.. เรนเพียงมาบอกว่า..  ตอนนี้เรนไม่แข่งแล้วนะคะ..  เก๊าะเรนรู้ว่า... เรนคงสู้เด็กชายคนนั้น..ไม่ได้.. 66.gif
    เพียงเรนถามนิ้ดนึงนะคะ..
       มัยต้องเป็นบทกวีที่เป็นของคนอกหักเท่านั้นหรอคะ.. ที่ตราตรึงหัวใจของคนอ่าน.. เก๊าะเรนไม่เข้าใจ..  นะดิคะ
    ง้าน..น.. บทกวีของเรน.. ก็คงไม่เข้าตากรรมการร้อก..ก..   เฮ้อ.. อ.. ! (เห็นปล่าวคะ..ว่าเรนถอนใจ.. )..
     
           เรนผิดเอง.. ที่แอบรักพี่ชาย..65.gif
     
    บทกวีรักที่อ่อนโยน.. ในแบบของพี่ๆหลายๆคน..ก็ทำให้เรน..รู้สึกอ่านแล้วประทับใจ..  และเรนก็ชอบนะคะ..
        แบบของเพื่อนเรน.. ก็มีนะคะ..   
    เรนว่า..  การเขียนบทกวีที่มีอารมณ์รัก.. ก็ทำให้หัวใจตราตรึงได้เช่นกัน..   
    71.gif..
                ..
    
      (สิ่งที่เรนเขียน..เป็นเพียงเรื่องสมมติเอง..65.gif)
  • หาดฟ้า&ป่าฝน(ไม่ลงทะเบียน)

    19 กุมภาพันธ์ 2549 20:01 น. - comment id 13434

    ขอร่วมส่งด้วยคนนะ ท่านทัดฯ
    
       ร้าง...
     เคยอ้อมแขนแห่งข้าฯเคลียคลอ
    อ้อนโอบอุ่นคุ้นทอกล่อมห้วง
    สิเน่หาเยิ้มเอ่อนัยน์ตาพร่า ยวง
    ปริ่มใจเจ้าเร้ารวงแนบท่วงที
    
     ร้างลงแล้วแนวแขนเคยวาง
    อุ่นกลับว้างเยียบจางป่นปี้
    ตาเจ้าสิ้นแล้วแววรัก-สลักฤดี
    อกเกรียมไหม้-ใจนี้มีข้าฯลำพัง..
    
    หาดฟ้า&ป่าฝน
  • หม่อมเจ้า

    19 กุมภาพันธ์ 2549 21:18 น. - comment id 13435

    รว่มด้วยนะงับ ถึงจาเเรงไปหน่อยเเต่เราว่ามานสะใจดีอ่ะ
    
    ...มึงทิ้งกูเอง...
    
       จักให้รักรักแท้มิใช่หึง
    กูกับมึงเลิกกันแล้วมิใช่หรือ
    จะมาง้อขอความรักไอ้กระบือ
    กูจะถือสากกะเบืออัดปากมึง
    
       จะมาขอความรักกับกูอีก
    กูไม่ถีบไสหัวมึงก็แล้วไป
    ถึงจะมีคนใหม่แล้วทำไม
    คงไม่ใช่มึงหรอกไอ้ห้าเบี้ย
    
       กูรำคาญจริงจริงนะไอ้ขอกทวย
    ยังให้เพื่อนมาช่วยขอความรักอีก
    เห็นกูมีคนใหม่แล้วได้ดี
    มึงอิจฉากูล่ะซี่ไอ้สัตว์เอ้ย
    
       กูไม่มีใจให้มึงอีกแล้วโว้ย
    มาร้องไห้โหยโหยอยู่หน้าบ้าน
    ช่างมึงเถอะไอ้เหี้ยประจัญบาน
    กูไปสร้างครอบครัวใหม่แล้วบ้ายบาย
    
    ขอโทษนะทุกคนที่มานหยาบ(มากๆ)เเต่ว่าอันนี้เป็นกลอนที่เจ้(พี่เราอ่ะ)ให้เราเเต่ง เนื่องจากอะรัยคงมะต้องพูดนะ มานออกจาเปนเรื่องเล่าที่เจ็บ(มั้ง).....เราก็มะเข้าใจหรอกเเค่เค้าให้เเต่ง
      เเต่ถ้ามานหยาบไปเราก็ขอโทษอย่างเเรงไว้ ณ ที่นี้เลยนะ...
  • หม่อมเจ้า

    19 กุมภาพันธ์ 2549 21:20 น. - comment id 13436

    มานออกจามะเข้ากับหัวข้อที่ตั้งไว้เลยเนอะ  อิอิ เพิ่งมาคิดด้ายตอนโพสเสดเเล้วเนี่ย เฮ้ออ
    งั้นก็ถ้าใครจาอ่านก็อ่านเลยนะ เเต่เราว่าขอให้ผ่านไปดีกว่า ไปละ บาย
  • ..สีน้ำฟ้า..

    19 กุมภาพันธ์ 2549 21:51 น. - comment id 13437

    เพิ่งสร่างเมา..เอ๊ย เพิ่งหาเวลามาหาอะไรอ่าน ตามใจอยากอ่าน เจอกระทู้นี้แล้วตาค้างหน่อย ๆ
    
    เฮ้อ.. แบบว่า ใช้ของเก่ามาเล่าใหม่ได้ไหมคะ คุณทัดหทัย มุขใหม่ไม่ค่อยจะเกิดอีกแล้วว
    
    เหอ ๆ
    
    แล้วจะแวะมาใหม่ค่ะ น่า..ก่อนหมดเขตสักสองนาที ก็อย่าตัดสิทธิน๊า
    
    63.gif
  • ท่องเมฆา

    19 กุมภาพันธ์ 2549 22:54 น. - comment id 13439

    36.gif
    
    ขอแจมความอกหักด้วยคนครับ
    
    ได้ยลเธอเพียงบทกลอนถอนสะอื้น
    ยามหลับตาผวาตื่นคร่ำครวญหา
    กลัวไม่ได้ต่อกลอนตอนเธอมา
    เฝ้าถ่างตาหน้าจอรอคนดี
    
    ขยับเมาส์เข้ากระทู้อยู่เวียนวน
    หวังได้เจอหน้ามลคงสุขศรี
    วันทั้งวันเฝ้าเวียนอ่านงานกวี
    หวังจะมีเงาเธอบ้างไม่คว้างใจ
    
    ได้พบเจอเธออีกครั้งก็ยังชื่น
    ชั่วแวบเดียวก็ขมขื่นสะอื้นไหว
    บทกลอนเธอเคียงคู่อยู่กับใคร
    ปล่อยให้ใจฉันเจ็บช้ำกลืนน้ำตา
    
    ขยับนิ้วปิดคอมพ์ตรอมใจจาก
    ต้องจำพรากจากกวีที่ครวญหา
    ลาแล้วหนอ \"เงากวี\" พี่สั่งลา
    หวังคราวหน้าคงเจอะเจอเธอคนเดียว......10.gif
  • สร้อยแสงแดง

    20 กุมภาพันธ์ 2549 00:50 น. - comment id 13440

    พิรุณเหยาะเปาะแปะแฉะหน้าต่าง
    ยืนตาค้างปากหวอด้วยรอสาว
    นัดเอาไว้ห้าโมงไปกินข้าว
    นี่นั่งหาวยืนหอนจนอ่อนใจ
       แว่วมือถือกรีดเสียงแทรกสายฝน
    กดปุ่มล่างปุ่มบนเป็นการใหญ่
    เป็นข้อความจากน้องต้องรีบไป
    กับเพื่อนชายรูปหล่อพ่อก็รวย
       อ้าวตายหอมตายกระเทียมช่วยเรียมหน่อย
    นัดไว้แล้วน้องน้อยเบี้ยวได้สวย
    ตัวก็จนดันเพ้อเผยอรวย
    แม่คนสวยจึงตีจากพรากเราไกล
  • ทัดหทัย

    20 กุมภาพันธ์ 2549 08:12 น. - comment id 13441

    งานเลี้ยงคราวนี้แม้ไม่ครึกโครมแต่ก็เริ่มจะคึกคักแล้ว
    
    ร้อยฝัน.. มาในแนวประยุกต์ที่มีส่วนเกินรูปแบบกลอนตลาดออกมา(โดยไม่จำเป็น)
    ผมขออนุญาตตัดเหลือดังนี้
    
    ไม่อยากเจอให้จดจำจนช้ำจิต
    ไม่อยากคิดถึงวันฝันสุขสม
    ไม่อยากรู้ความปวดร้าวคราวระทม
    ไม่อยากตรมเศร้าหมองนองน้ำตา
         
    เพียงแค่ใจเจ็บช้ำก็เจียนตาย
    เพียงแค่หมายจะถวิลก็สิ้นท่า
    เพียงแค่เริ่มก็สิ้นสุดหยุดเวลา
    เพียงแค่โหยหาก็ขมขื่นสะอื้นดัง
         
    จำต้องขอแยกทางห่างความรัก
    จำต้องหักห้ามใจไม่คืนหลัง
    จำต้องร้างราไกลยามใจพัง
    จำต้องนั่งโศกเศร้าเหงาเดียวดาย
    46.gif46.gif46.gif
    
    เรน..  อ่านกติกาข้างบนอีกครั้งนะจ๊ะ เรากำหนดความยาว 2-4 บทอ้ะ ใครเขียนยาวกว่า 4 บท ก็หมดสิทธิ์
    50.gif50.gif50.gif
    หาดฟ้าฯ..  2 วรรคแรกทำเอาผมนึกว่าจะเล่นกลบทกลอนโคลง-โคลงกลอน
    สำรวจจังหวะกลอนให้เป็นกลอนตลาดอีกทีก็ดีนะ
    48.gif
    
    หม่อมเจ้า..  ทบทวนฉันทลักษณ์กลอนตลาดดูก่อนดีไหม  เวลายังมีเหลือ
    44.gif44.gif44.gif
    
    ท่องเมฆา, สร้อยแสงแดง..  ขอบคุณที่มาร่วมสนุก
    31.gif
  • ต่อง (ต้อง) ksg

    20 กุมภาพันธ์ 2549 10:28 น. - comment id 13442

    **..  เพราะหัวใจ  ภักดี  เป็นที่สุด
           มิอาจหยุด  คิดถึง  แม้หนึ่งหน
           พิศวาส  แน่นหนัก  ปักกมล
           จึงทุกข์ทน  เช่นนี้  ทุกวี่วัน..
    
    **..  ไม่ทวงถาม  สัญญา  ว่ารักไหม
           ดูการทำ  เช่นไร   มอบให้ฉัน
           เธอตัดขาด  ความเป็นเรา  เพียงเท่านั้น
           ก็เปลี่ยนผัน  เป็นทาสเธอ  เสมอไป..
    
    **..  ทุกทุกวัน  มีไป  ย่อมไร้ค่า
           รอยน้ำตา  ของคน  ซึ่งหม่นไหม้
           เป็นพยาน  รักช้ำชอก  บอกใครใคร
           ฉันเหลือค่า  เพียงเท่าใด  เสี้ยวใจเธอ..
    
    ด้วยความหวังดี
    
    ก.นพดล  รักษ์กระแส
    
    ก.ประแสร์  ศิษยาพร
    1.gif
  • กุ้งหนามแดง

    20 กุมภาพันธ์ 2549 10:49 น. - comment id 13443

    อารมณ์ตอนอกหักเหรอ...เดี่ยวรอกลั่นนิดนึงน่ะ..คุณทัดหทัย..
    
    ยังมีอีกสี่วัน..ขอเวลาทำอารมณ์นิดนึง..
    ..
  • กุ้งหนามแดง

    20 กุมภาพันธ์ 2549 11:32 น. - comment id 13444

    ขอส่งชิ้นแรก..ชื่อว่า..แค้น..
    
    แค้น..
    เหมือนฟ้าผ่ากลางวันโลกพลันหยุด
    ลมหายใจสิ้นสุดสะดุดหาย
    เธอเอ่ยขอเลิกกันฝันมลาย
    สิ้นความหมายรักข้าน้ำตานอง
    
    ที่ผ่านมาให้ลืมเคยปลื้มหลง
    ยังยืนงงไร้ระบอบตอบสนอง
    จะล้มลงยังห่วงใครประคอง
    ภาพที่มองพร่าไหวใจสะเทือน
    
    คอแห้งผากอยากเอ่ยอวยพรให้
    ในเวลาอันใกล้ใจถูกเฉือน
    ทั้งสมองมึนงงคงเลอะเลือน
    กับแชเชือนของใครที่ใกล้ตัว
    
    ขอให้เธอโชคดีในชีวิต
    อย่าได้คิดห่วงใยให้ปวดหัว
    ล้มแล้วลุกสักวันไม่หวั่นกลัว
    ถ้าหมองมัวตกอับอย่ากลับมา
    
    เพราะฉันนี้เจ็บจำไม่ช้ำบ่อย
    ลำบากหน่อยอกหักพอรักษา
    ไม่หวังให้แสดงเจตน์เวทนา
    ขอขมาอย่าหวัง..พลั้งอภัย
    ..
  • สีน้ำฟ้า

    20 กุมภาพันธ์ 2549 11:56 น. - comment id 13445

    อ่ะ อ้าว.. เมื่อกี้เครื่องแจม ไม่มีกลอนคุณกุ้งฯ อ่ะ..
    
    หวาย ... 62.gif
  • พุด

    20 กุมภาพันธ์ 2549 13:07 น. - comment id 13446

    10.gif
    ดั่งดวงใจถูกทับไว้ใต้หล้า
    เกิดชาติหน้าชาติไหนอย่าพบเห็น
    ก้มหน้ากินดินทรายตายทั้งเป็น
    คนเลือดเย็นเชือดเนื้อเถือดวงใจ..
    
    ยอมตกนรกหมกไหม้หากมีเธอร่วมสวรรค์
    ลงโลกันตร์กี่ขุมไฟสุมใส่
    ให้กาจิกดวงตาค่อยสิ้นใจ
    อธิษฐานไปทุกภพชาติสวาทวาย...
    10.gif
    
    ร่วมแจมแบบเจ็บถึงใจค่ะ
  • สีน้ำฟ้า

    20 กุมภาพันธ์ 2549 11:50 น. - comment id 13447

    สนามเริ่มร้อนแล้วแฮะ
    
    ทำไม..แจมคิดไม่ออกอ่ะ
    
    **ฝากถึงคุณกุ้งหนามแดง .. หมดเขตส่ง 22 นะคะ 24 น่ะประกาศผล
    
    แหะ แหะ เป็นห่วง เดี๋ยวหลงวัน
  • บินเดี่ยวหมื่นลี้

    20 กุมภาพันธ์ 2549 13:08 น. - comment id 13448

    ต่อ..คห.26..อิอิ...หากได้รางวัลหารสองนะ...
    
    หากเสน่หาอาลัยสายสวาท
    มิตัดขาดยังคงซื่อตรงเสมอ
    อย่าปล่อยคนของใจให้ละเมอ
    อีกพร่ำเพ้อครวญคร่ำจมน้ำตา
    
    หากอาลัยอาวรณ์ตอนแรกรัก
    สะบั้นหักเกินใจไขว่คว้าหา
    อย่าได้กลัวเพียงคำกล่าวอำลา
    เอื้อนเอ่ยมาให้ได้ยินว่าสิ้นกัน
    31.gif
  • เพียงพลิ้ว

    20 กุมภาพันธ์ 2549 14:16 น. - comment id 13449

    แสนสมเพชตัวเองเก่งแต่ปาก
    บอกแค้นมากใจสับปลับกลับคิดถึง
    เอ่ยคำลายังเผลอช้ำแอบรำพึง
    ปากว่าขึ้งยังโหยหายังอาวรณ์
    
    เตือนใจตนลืมความหลังครั้งเก่าเถิด
    อย่ามัวเพริศฝันเพลินเกินไถ่ถอน
    เอาเข้าจริงมือก่ายหน้าหลับตานอน
    จิตรุ่มร้อนคิดถึงเขาคนเราชัง
    
    ตั้งใจจริงต่อไปลืมให้หมด
    มิจำจดผู้ร้ายทำลายหวัง
    เดินแผนสูงลวงหญิงไม่จริงจัง
    พร่ำเพียรสั่งบอกใจให้ลืมลา
    
    ลบให้หมดสิ่งงามเรียกว่ารัก
    จงตระหนักแต่พิษเล่ห์เสน่หา
    อดีตร้ายฝังจิตภาพติดตา
    สิ่งที่ว่ารอยอาลัยจะไม่มี
    
    
    ขอร่วมสนุกด้วยคนค่ะ
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif
  • กุ้งหนามแดง

    20 กุมภาพันธ์ 2549 14:29 น. - comment id 13450

    ขอบคุณคุณสีน้ำฟ้าค่ะ พอดีกุ้งอ่านไม่ละเอียดเลยหลงวันไปหน่อย โชคดีมีคุณสีน้ำฟ้าคอยเตือน  
    
    :)
    
    เดี่ยวไปเอาหัวหอมในครัวก่อน ถ้ามีเวลาว่าจะเขียนอีกสักชุดนึงค่ะ..
    
    ..
  • พุด

    20 กุมภาพันธ์ 2549 16:04 น. - comment id 13454

    
    กติกาหนึ่งคนโพตส์ได้กี่ครั้งค่ะ
    
    โลกมืดมนราวไร้สิ้นแสงพระอาทิตย์
    หากใจดวงช้ำมืดมิดเสียยิ่งกว่า
    น้ำในทะเลมหาสมุทรเหลือคณนา
    ยังน้อยกว่าน้ำตาในหัวใจ
    
    หมดสิ้นไฟฝันสวรรค์วาย
    คล้ายคล้ายตายทั้งเป็นฤาไฉน
    รอวันตรอมถึงที่สุดหยุดหายใจ
    พร้อมให้เธอสาสะใจ...ในวันนั้น..!
    10.gif
  • ทัดหทัย

    20 กุมภาพันธ์ 2549 16:10 น. - comment id 13455

    มาย้ำกติกาอีกครั้งว่า
    
    1. ความยาว 2-4 บท (ห้ามเกิน)
    
    2. ส่งกี่ชิ้นก็ได้
  • ทัดหทัย

    22 กุมภาพันธ์ 2549 08:01 น. - comment id 13456

    ผมเชื่อนะ..ว่าใครก็ตามที่พยายามเขียนให้ดีที่สุด
    หรือใครก็ตามที่แวะเวียนมาพิจารณาข้อดีข้อด้อยของเพื่อนๆ
    เขาย่อมจะได้ประโยชน์จากตรงนั้นไปไม่มากก็น้อย
    และนี่คือเหตุผลที่เกิดกระทู้นี้ขึ้น
    
    บางคนมีการขึ้นกลอนที่น่าสนใจ
    บางคนมีการเดินความที่ชวนติดตาม
    บางคนมีการจบที่ประทับใจ
    เหล่านี้..ที่เป็นเสน่ห์ของงานเขียน
    เมื่อบวกกับเนื้อความที่ตรงใจคนอ่าน
    วรรคทองที่บาดลึกกินใจ
    
    ทุกคนทำได้
    แม้ว่าจะต้องใช้เวลาฝึกฝนเพื่อเพิ่มทักษะอีกบ้าง
    แต่การเดินทางโดยมีจุดหมายและเส้นทาง
    ก็ง่ายกว่าดุ่มเดาไปโดยไร้จุดหมายและทิศทาง
    มิใช่หรือ ?
    
    31.gif
  • พุด

    20 กุมภาพันธ์ 2549 16:18 น. - comment id 13457

    
    ยิงฉันสิด้วยศรพิษน้ำผึ้ง
    อย่าคำนึงถึงเจ็บฉันทนได้
    จำเลยรักประหารสิให้ถึงตาย
    อย่าได้ไว้ชีวีมีเมตตา
    
    ยิงฉันสิยินดีตายที่ตรงหน้า
    เพื่อให้ฟ้าดินรับรู้ปรารถนา
    เมื่อสิ้นภักดิ์รักแล้วอย่ากรุณา
    เหลือวิญญาญ์ยังดีกว่าเจ็บนี้ไม่มีเธอ..
    10.gif10.gif10.gif16.gif
  • ทัดหทัย

    21 กุมภาพันธ์ 2549 15:59 น. - comment id 13458

    บางชิ้นที่ซ้ำกัน ผมลบชิ้นที่ไม่เอาออกให้นะ
    
    ส่วนชิ้นที่มายืมพื้นที่ก็ปล่อยไว้
    เพราะกรรมการจะดูเองว่าตรงตามโจทย์หรือเปล่า
    
    32.gif
  • พุด

    20 กุมภาพันธ์ 2549 16:27 น. - comment id 13460

    
    ยื่นหัวใจให้เธอไปขยี้
    แหลกป่นปี้เหลือเลือดรักยังแดงฉาน
    ให้โลกรู้ว่าภักดีเธอตราบชั่วกาล
    ถึงทรมานเพียงไหนใจก็ยอม
    
    ถือเป็นโชคพบเธอเผลอรักแล้ว
    เหมือนดั่งแก้วกลางใจคอยถนอม
    เธอเห็นฉันเป็นสนามอารมณ์ฝากตรมตรอม
    ดั่งพะยอมเหยียบคาเท้าเศร้าใจนัก..!
    
    10.gif10.gif10.gif16.gif
  • พุด

    20 กุมภาพันธ์ 2549 16:34 น. - comment id 13461

    
    วิบากกรรมย้ำรอยวนมารับเจ็บ
    ถูกกรงเล็บพันธนาขยุ้มเหยื่อ
    ไร้เดียงสาดั่งมฤคาหลงไปเชื่อ
    คนหน้าเนื้อใจเสือเพชฌฆาตใจ
    
    น้ำคำหวานปานน้ำผึ้งยามแรกรัก
    พอสิ้นภักดิ์แปรเป็นพิษหยิบยื่นใส่
    ตายทั้งเป็นให้เห็นเห็นสาสะใจ
    พรานยิ้มไยไพเกมล่าสมปรารถนาแล้ว..
    
    10.gif10.gif16.gif
  • พุด

    20 กุมภาพันธ์ 2549 16:44 น. - comment id 13462

    10.gif
    เชือดช้าช้าทาเกลือที่เนื้อใจ
    ไม่เป็นไรเกมนี้สมปรารถนา
    พลีสังเวยรักนี้ด้วยวิญญาญ์
    ไม่วอนว่าเจ็บแค่ไหนไม่มีน้ำตา
    
    ทาสทรมานหวังชดใช้รอยกรรมเก่า
    เป็นบาปเงาติดตามหลงปรารถนา
    หวังโซ่สวาทรัดร้อยพันธนา
    หลุดพร้อมดวงชีวาที่ปลิดปลิว..เป็นนิรันดร์
    
    10.gif10.gif16.gif
  • พุด

    20 กุมภาพันธ์ 2549 16:52 น. - comment id 13463

    10.gif16.gif
    
    อีกซักบทค่ะ
    แบบนิ่มๆ
    
    
    ดอกเจ็บจำผลิกลางใจใครคนหนึ่ง
    ดอกคะนึงจึงตัดใจไม่เหลียวหลัง
    ดอกเสน่หาลาลับดับจีรัง
    ดอกไร้หวังบานมาแทนกลางแก่นใจ
    
    ดอกเงียบงามในเนื้อใจยังคงอยู่
    ดอกให้สู้รอผลิช่อชูไสว
    ดอกปล่อยวางพร่างกระจ่างสอนสัจจะใจ
    ดอกน้ำใจยังใสงามท่ามโลกลวง
    
    ดอกพุดซ้อนกลีบบางบางขาวสะอาด
    ดอกพุทธชาติสละสิ้นไร้ห่วงหวง
    ดอกลั่นทมยังให้หอมแม้นโศกทรวง
    ดอกรักร่วงลาจริงสิ่งยอมรับ
    
    ดอกเดียวดายหมายเพียงใจสุขสงบ
    ดอกลบเลือนไปไร้ใครภักดิ์
    ดอกเมตตาชูช่อคลอดอกธรรมยังงามนัก
    ดอกเจ็บจักสอนใจจำย้ำใจตรอม
    
    ดอกความดีไร้ค่าขอลาแล้ว
    ดวงดอกแก้วยังแพร้วพร่างกลางใจหอม
    ดอกพลีให้แม้นได้รับเพียงตรมตรอม
    ดอกพยอมอัญมณีไพรใจหอมบุญ
    
    ดอกน้ำใจใสซื่อแสนพิสุทธิ์
    ดอกรู้หยุดรู้วางพร่างหอมกรุ่น
    ดอกไกลห่างอ้างว้างไร้ไออุ่น
    ดอกรักละมุน....
    จึงผลิเศร้าหนาวดายเดียวไปนิรันดร์...
    ................
    
    
    10.gif16.gif
  • หยาดอรุณ (แดดเช้า)

    20 กุมภาพันธ์ 2549 17:00 น. - comment id 13464

    ลืม
    
    ลืม .. เสียเถิดเธอคนดีเคยมีฉัน
    ลืม .. ความฝันวันเก่าเคยเฝ้าหวน
    ลืม .. รสรักซึ้งซ่านหวานรัญจวน
    ลืม .. ทบทวนทุกสิ่งความจริงใจ
    
    วันที่เธอวิวาห์อย่าคิดถึง
    สิ่งซาบซึ้งวันวานหวานแค่ไหน
    เธอควรรู้ควรดูแลคือคนใด
    ปล่อยฉันไปเสียเถอะ .. เธอควรลืม
    
    ได้โปรดเถอะ .. ช่วยลืมเลือนเพื่อนคนนี้
    อย่าได้มีเยื่อใยไหวด่ำดื่ม
    แค่หนึ่งคนคราวเธอเผลอหยิบยืม
    หลงปลาบปลื้มชั่วคราวแล้วผ่านเลย
    
    ห่วงคนข้างกายเธอ .. เถอะคนดี
    ปล่อยฉันนี้เลือนหายไปเฉยเฉย
    เพียงสัญญาปากเปล่าอย่าเปรียบเปรย
    เทียบชื่นเชยคนร่วมฝันวันวิวาห์.
    
    ส่งเข้าประกวดอีกบทละกัน ... กันเหนียว
    
    อารมณ์อกหัก ดูเหมือนง่ายนะคะ  ... แต่แล้วมันไม่ง่ายอย่างที่คิด
    แต่ละสถานการณ์ ความเจ็บปวดก็ต่างกันแล้ว
    ถ่ายทอดแต่ละครั้ง ... สูญเสียกำลังใจภายในไปเยอะเลย
  • ชลกานต์

    21 กุมภาพันธ์ 2549 17:34 น. - comment id 13465

    ..โอ้ความเศร้า..
    
    โอ้ความเศร้าเราเป็นญาติกันชาติไหน
    เจ้ามิเคยห่างไกลจากใจฉัน
    แม้นมีรักก็เหี้ยมหักจนจาบัลย์
    เฝ้ารุมรุกชีวันแทบมรณา
    
    มาความรักตักบาตรร่วมขันไหม
    ชาติหน้าคงจะได้สมปรารถนา
    มิต้องทนวนว่ายในสายน้ำตา
    จนคนเขาเวทนาอย่างที่เป็น
    
    นะความเศร้าหากเป็นญาติกันชาตินี้
    ฉันยินดีอยู่กับเจ้าร่วมขื่นเข็ญ
    จงกระหน่ำซ้ำเศร้าร้าวลำเค็ญ
    แต่ชาติหน้าขอเว้นอย่าพบพาน
    
    โปรดเถิดนะความรักแม้นชาติหน้า
    หวังเจ้าจะกรุณาอย่าเลยผ่าน
    เอื้อน้ำผึ้งเดือนห้าสุวมาลย์
    อย่าให้ต้องร้าวรานอีกชาติเลย..
    
    
    ..ข้าพเจ้าขอส่งกลอนบทนี้มาร่วมด้วยนะคะ
    16.gif
  • ทัดหทัย

    20 กุมภาพันธ์ 2549 18:32 น. - comment id 13466

    พุด..  ส่งมาแบบปูพรม 6 ชิ้น
    ความยาวเกินกำหนดเสีย 1 ชิ้น
    เหลืออีก 5 ชิ้น  อืมมมมม 
    
    ส่วนคนอื่นๆ ทั้งที่ลงสนามแล้วและที่ยังรอจังหวะ
    ผมว่างานนี้เข้มข้นแน่ๆ
    
    ดีใจจัง  ที่ไม่ได้เป็นกรรมการ 9.gif
  • พระจันทร์เศร้าฯ

    21 กุมภาพันธ์ 2549 17:33 น. - comment id 13467

    ว่าจะไม่ร่วมเล่นนะคะ เพราะอกไม่หัก
    แต่มีใครบางคนมาร่วมประชันกลอน 
    เลยขอเล่นตามกติกาหนึ่งบทค่ะ
    ชื่ออะไรดีคะ อะตั้งไปแล้วกัน ไม่มีชื่อ กลัวผิดกติกา 
    
    \"ร้าว...\"
    ฝนพร่างพรมลมพัดอากาศหนาว 
    ในอกสาวกลับร้อนเพราะอ่อนไหว 
    ภาพรักเก่าย้อนอดีตมากรีดใจ 
    ฟ้าร้องไห้พร่ำเพรียกเรียกน้ำตา 
    
    ยามน้องหนาวพี่กอดไว้ให้ไออุ่น 
    ซบหน้าหนุนอกพี่ชายหายผวา 
    ฟ้าร้องครางพี่กระชับรับขวัญมา 
    จูบพระจันทร์แก้วตาน้องอย่ากลัว 
    
    ฟ้าวันนี้ก็เป็นเช่นวันนั้น 
    เสียงโครมคลั่งครืนครั่นสนั่นทั่ว 
    ใจดวงเดิมเหน็บหนาวร้าวใจตัว 
    ให้หวั่นกลัวเหว่ว้าคราพี่เมิน 
    
    แม้ว่าฟ้าวันใหม่ไม่เปลี่ยนสี 
    แต่ใจพี่คนดีสิห่างเหิน
    น้ำตารินหลั่งไหลใจยับเยิน
    ร้าวจนเกินเหลือแล้วแก้วพี่เอย
    10.gif
  • ดากานดำ

    20 กุมภาพันธ์ 2549 18:38 น. - comment id 13468

    "ร อ คํ า อํ า ล า\"
    ตี ส อ ง ยั ง ค ง ม อ ง น า ฬิ ก า 
    น้ำ ต า ริ น ช้ า ช้ า เ กิ น ก ลั้ น ไ ห ว
    เ จ็ บ เ ห ลื อ เ กิ น ที่ ยั ง คิ ด ห ล อ ก ใ จ
    อี ก ค ง ไ ม่ สั ก เ ท่ า ไ ร เ ข า จ ะ ม า 
    
    ก อ ด ห ม อ น ข้ า ง ห วั ง ส ร่ า ง สิ้ น ค ว า ม โ ศ ก 
    ว อ น ส า ย ล ม โ บ ย โ บ ก เ ข า คื น ห า 
    ไ ม่ น า น ห ร อ ก. . . ป ล อ บ ใ จ ทุ ก เ ว ล า
    ทั้ ง ที่ ใ จ รู้ ว่ า. . . ย า ก เ กิ น จ ริ ง
    
    เ สี ย ง เ ห ล่ า น ก กู่ ร้ อ ง ดั ง ก้ อ ง ฟ้ า 
    ร อ ย น้ำ ต า ยั ง ชื้ น ข ม ขื่ น ยิ่ ง
    เ ข า จ า ก ไ ป ไ ม่ ฟั ง คำ พ ร่ำ ป ร ะ วิ ง
    นึ ก จ ะ ทิ้ ง ก็ ทิ้ ง ไ ป ไ ม่ แ ม้ ล า. . .  
    
    เอาอันนี้สุดท้ายแย้วโทดนะค้า
  • หยาดอรุณ

    20 กุมภาพันธ์ 2549 18:47 น. - comment id 13469

    เผา
    
    เผารูปถ่ายหลายใบให้เป็นเถ้า
    ควันความเหงาแทรกมาน้ำตาไหล
    สิ่งทรงจำล้ำลึกตรึกตอกใจ
    มีไหมใครเขี่ยเขม่าที่เข้าตา
    
    โหมไฟแค้นแน่นอกสะทกพรั่น
    จะเผารักเผาฝันให้หมดค่า
    เผาถ้อยคำพร่ำเพ้อเผลอสัญญา
    เผาใบหน้าติดตรึงเคยซึ้งทรวง
    
    ไหม้ใจคลั่งชิงชังหวังแทรกหนี
    ไม่อยากมีภาพเธอยังเผลอห่วง
    อยากมุดดินจมใจให้สุดดวง
    มอดไฟหวงหวั่นหวาดแทบขาดใจ
    
    เผารูปถ่ายหลายใบให้เป็นเถ้า
    ผงเขม่าปลิวลอยเป็นรอยไหม้
    เหลือเพียงเถ้าเทาดำช้ำทรวงใน
    โลกทั้งใบสลายลงแล้วตรงนี้.
    
    มาเผาอีกสักชิ้น ... ก่อนจะอกหักจากรางวัล
    เดี๋ยวจะเผากระดาษเงินกระดาษทอง ขอให้ร่ำรวยๆ 
    
    อิอิ
  • จิตรนัย

    20 กุมภาพันธ์ 2549 19:43 น. - comment id 13470

    ขอแก้ไขครับ เลือกบทนี้นะครับ
    
     \"เก็บมาช้ำ\" 
    
    เก็บความช้ำพับไว้แนบใต้หมอน
    ยิ่งคิดถึงคนเคยอ้อนเคยนอนฝัน
    หยุดปวดร้าวเจ็บหนักพักสักวัน
    หลังจากกลั้นสะอื้นทั้งคืนแล้ว
    
    ก่อนดวงใจต้องตื่นฟื้นโศกเศร้า
    ซ้ำแผลเก่าถูกถมดั่งคมแก้ว
    ใจบีบคั้นแปลบปร่าน้ำตาแพรว
    ยิ่งฉายแววบอบช้ำย้ำอารมณ์
    
    ความคิดถึงรันทดยากลดละ
    ใจจวนจะวางวาย..พ่ายรักล่ม
    ยิ่งจิตคิดยิ่งพร้อมจะยอมตรม
    ทุกข์สาสมเพราะใจอยากไม่ลืม!
  • กุ้งหนามแดง

    20 กุมภาพันธ์ 2549 20:39 น. - comment id 13471

    เพราะเธอหรือเปล่า..หลังจากได้หอมแดงในครัวมาแล้ว ยังได้หนังสือธรรมมะติดมือมาด้วย..
    
    
    กินไม่ได้นอนไม่หลับแทบจับไข้
    อาการใบ้เบื้องต้นระคนหมอง
    ไร้วิญญาณยามเผลอนั่งเหม่อมอง
    ซึมเศร้าครองคลุกเคล้าเหมือนเมายา
    
    ฟังเพลงเศร้าทุกคราน้ำตาหยด
    ยิ่งรันทนยิ่งซ้ำ-ช้ำหนักหนา
    เจ็บกระอักทดท้อทรมา
    เร่งเวลาให้ตายหมายลืมเธอ
    
    ยามข่มตายิ่งเห็นภาพเด่นชัด
    ยิ่งสะบัดยิ่งชิดจิตเสนอ
    คือใครกันมุ่งหมายทำร้ายเธอ
    เมื่อเลิกเพ้อคงพบพร้อมจบมัน
    ..
    
    ซ้ำนิด แต่คิดว่าควร..
  • กวีปกรณ์

    20 กุมภาพันธ์ 2549 19:48 น. - comment id 13473

    ...ไม่สิ้นรัก...
    หยิบรูปถ่ายใบเก่าครั้งเราสอง
    คงเคียงครองปองรักไม่ห่างหาย
    ฮัมเพลงรักบทเก่าเศร้าเดียวดาย
    สิ้นเรือนร่างเธอข้างกายคล้ายวันวาน
    
    น้ำตาหยาดรินไหลในดวงจิต
    ซ่อนกล้ำกลืนฝืนปิดด้วยเพลงหวาน
    ท่วงทำนองปรับเปลี่ยนไปตลอดกาล
    แทรกผสานด้วยสะอื้นหมื่นทำนอง
    
    แม้เพลงรักจักเปลี่ยนเป็นเพลงเศร้า
    เปี่ยมไปด้วยความเหงาอันหม่นหมอง
    แต่ยังคงถักถ้อยพร่ำร้อยกรอง
    เพียงคำรักที่จักร้องปองเธอยิน
    
    จะจากไปไกลตาขอบฟ้ากั้น
    หรืออยู่ใกล้ใครกัน...รักทั้งสิ้น
    วอนสายลมโบกบรรเลงเพลงโบยบิน
    ให้รับรู้ทั้งชีวินมีเพียงเธอ
    
    ขอร่วมสนุกด้วยคนครับ คราวนี้ไม่เกินแล้วนะคับ
  • เรไร

    20 กุมภาพันธ์ 2549 22:40 น. - comment id 13474

    หิ่งห้อย 
    
    เหมือนชีวิตมืดมนซ้ำหม่นหมอง
    รักเคยครองเคียงข้างมาห่างหาย
    ฝันสดใสเริ่มลดหมดประกาย
    เลือนละลายลาลับกับเวลา
    
    ห้วงแห่งความทรงจำคอยย้ำจิต
    พ่ายแพ้พิษความรักยากรักษา
    ร้าวระทมห่อเหี่ยวเกินเยียวยา
    รอให้ฟ้ามาโปรดลงโทษทัณฑ์
    
    ขออยู่อย่างทุกข์ตรมทนขมขื่น
    โศกสะอื้นเหว่ว้าแทบอาสัญ
    ให้รอคอยกล้ำกลืนทุกคืนวัน
    จงหวาดหวั่นเพ้อพร่ำเผลอคร่ำครวญ
    
    คล้ายหิ่งห้อยกระพริบแสงริบหรี่
    ยามราตรีกู่ร้องก้องกำสรวล
    ต้นลำพูที่เก่าเฝ้ารัญจวน
    คอยรักหวนคืนมาน้ำตาริน
    
    บิ้วมาได้เท่านี้แหละครับ 
  • เรนโมเมจัง..

    20 กุมภาพันธ์ 2549 23:57 น. - comment id 13475

    ..เรนบอกแล้วงัยคะ..ว่าเรนไม่แข่ง..
    เรนแค่เขียนเพื่อให้เด็กชายคนนั้นเข้ามาอ่านเอง..
       
       เรนแค่เขียน..เรนไม่แข่ง..นะคะ15.gif..
    
    ก็เพราะเรนรู้..นะดิคะ ..
       บางอย่างที่เรนทำได้..และทำได้ดีด้วยดิคะ..
    แต่บางสิ่ง.. เรนแพ้..
       และเรนก็ยอมรับมัน.. ในแบบที่คุณลุงของเรนท่านเคยสอนเรน.. ให้เรนรู้จักที่จะยอมรับความรู้สึกผิดหวัง..ตรงนั้น..
           ...
    36.gif..
         เรนขอบคุณนะคะ.. 
    50.gif..
              ...
     พี่ๆเค้าเก่งกันจัง..  11.gif..  เรนว่าคณะกรรมการท่านต้องปวดหัวแน่ๆด้วยดิคะ..42.gif..
  • สุกรวดี

    21 กุมภาพันธ์ 2549 06:24 น. - comment id 13476

    กับวันนี้ที่เห็นฉันเป็นอยู่ 
    เธอจะรู้บ้างไหมใครหมองหมาง 
    ยังคิดหวงห่วงใยไม่จืดจาง 
    ยามอยู่ห่างฝันใฝ่ใจอาวรณ์
    
    เดินโซเซเฉไฉเหมือนไร้หลัก
    เหตุเพราะรักแหนงหน่ายสุดถ่ายถอน 
    ทนกล้ำกลืนฝืนใจไม่หลับนอน
    ทุกขั้นตอนแจ่มชัดเกินตัดใจ
    
    ออกอาการให้เห็นเป็นประจักษ์
    เชื้อโรครักเกาะกินสิ้นสงสัย
    มิหลงเหลือส่วนดีอยู่ที่ใด
    เกินจะใส่ยาพ่นฝนยาทา
    12.gif
  • สุกรวดี

    21 กุมภาพันธ์ 2549 06:26 น. - comment id 13477

    ดอกนกยูงแย้มยิ้มรับคิมหันต์
    แล้วก็สั่นกิ่งส่ายคล้ายคนเหงา
    สายลมร้อนเริ่มแล้วอย่างแผ่วเบา
    ดั่งคำเขาเออออข้อสัญญา
    
    น้ำตาวกตกในไร้ทางแก้
    ใครจะแลเหลียวมองปองรักษา
    มองหาคนใจดีมีเมตตา
    ช่วยใส่ยาโลมไล้ไปพลางพลาง
    
    ดอกนกยูงยิ้มแย้มงามแจ่มยิ่ง
    ลมไกวกิ่งยิ่งมองยิ่งหมองหมาง
    ดอกสีแดงเริ่มหล่นเกลื่อนกล่นทาง
    วันรักร้างจางเลือนเหมือนยูงโรย
    12.gif
  • สุกรวดี

    21 กุมภาพันธ์ 2549 08:23 น. - comment id 13478

    เพราะเธอมีคนใหม่ใจจึงเปลี่ยน
    เคยแวะเวียนเช้าค่ำทำเป็นเขิน
    เหมือนไม่คุ้นเคยพอต้องรอเชิญ
    เธอหมางเมินเกินต่อข้อสัญญา
    
    ทนอดสูรู้เห็นเธอเป็นอื่น
    ต้องกล้ำกลืนหม่นหมองมองข้างฝา
    ภาพถ่ายคู่เคียงชิดยังติดตา
    เคยมาหาให้เห็นเว้นผ่านปี
    
    จึงช้ำหนักรักกลายสายสุดแก้
    เป็นผู้แพ้แน่ใจในวิถี
    มิหลงเหลือเยื่อใยใจ\"ดำดี\"
    ยามเธอมีรักใหม่ไว้ชื่นชม
    12.gif
    
    มาล่าช้า หวังว่ายังทัน.....ฮี่ฮี่
  • กุ้งหนามแดง

    21 กุมภาพันธ์ 2549 09:19 น. - comment id 13480

    ขอส่งอีกหนึ่งชุดค่ะ เพราะว่าชุดแค้น มันเกินไปหนึ่งบท ..จึงใช้ชุดนี้แทนค่ะ..
    
    เคล็ด
    ผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นมอบวันเกิด
    แต่ละเมิดโบราณฟังผ่านหู
    เงินแก้เคล็ดบาทหนึ่งพึงแลกดู
    ไม่เชื่อครูชี้นำขำแทบคลาน
    
    จึงมินานรู้ทางต่างคิดผิด
    จากสนิทกลับกลายคลายความหวาน
    ผ้าเช็ดหน้าผืนเก่าซับร้าวราน
    แผลวันวานยังบาดแทบขาดใจ
    
    วันเกิดผ่านกี่ครั้งยังจำจด
    ทรยศของเธอกับเผลอไผล
    โทษตัวเองที่ผิดให้สิทธิ์ใคร
    เข้ามาในหทัยหมายทดลอง..
    ..
  • ศรีวิจิตรา

    21 กุมภาพันธ์ 2549 09:34 น. - comment id 13481

    สายฝนพรมโลมหล้าจนล้าอ่อน
    ดั่งใจรอนอ่อนล้าคราใจหนาว
    ยามรักล้าลาไกลห่างใจเรา
    รอยร้าว......ใยมิเลือนเหมือนฝนลา
    
    รักแรมร้างยังฝากรอยลาง
    เงาบาง ๆยังหลอนคนจนผวา
    สะเก็ดรักสะกิดใจ....ทรมา
    วสันต์ลาใยมิพราก.....แผลรัก
    
    ลมหนาวเริ่มพร่างพรูกราวกรูโหม
    พัดถาโถมกิ่งใจจนราญหัก
    ปลิดปลิวโปรยปรายคือใบรัก
    ดอกโรยก้านหักกลีบกระจาย
    
    เหลือแต่ตอยืนต้นเหมือนคนเศร้า
    แทนคำเล่าเพ้อบ่นของคนพ่าย
    จะทาบหน่อกอแยกไม่แตกใบ
    ยากจะปลูกขึ้นใหม่มันกลายพันธ์
    
    มาอกหักด้วยคนค่ะ 
    10.gif
  • กระบี่เพลย์บอย......

    21 กุมภาพันธ์ 2549 09:53 น. - comment id 13482

    อกกำลังจะหักน่ะ ขออนุญาต ใช้พื้นที่ ประกาศหาคนหาย หน่อยครับ เห็นแว๊บ ๆ น๊ะว่าอยู่ที่นี่ เพราะลืมพาสเวิร์ด เลยล๊อคอินไม่ได้ 
    
    29.gifเฮียมันแค่คนจรนอนหมอนหมิ่น
    เท้าติดดินท่องทั่วหัวระแหง
    สองเท้าก้าวตราบที่ยังมีแรง
    เดินตามแสงแห่งฝันอันทรนง
    
    เพลงกระบี่มิเทียบขั้นชั้นผู้กล้า
    คมวาจาไม่เข้าขั้น จันทร์ไม่หลง
    เปลี่ยนไอพี ซิเฮียเจ๋งเก่งจนงง
    รักมั่นคงไม่เปลี่ยนใจหมือนไอพี
    
    เฮียทำผิดสิ่งใดให้จันทร์หมอง
    ใยเจ้าเร้นนวลละอองจันทร์ของพี่
    จงเมตตา ใจพเนจร วอนคนดี
    แม้ปราณีแค่เสี้ยวใจได้โปรดรัก
    
    จันทร์อยู่ไหนหากวันนี้พี่ไม่เห็น
    จักประชดให้เนื้อเย็นได้ประจักษ์
    ยืนขอทานใต้สะพานลอยคอยเศษรัก
    เจ้าประจักษ์พี่รักจันทร์ยังมั่นคง......
    
    พระจันทร์เศร้า เจ้าอยู่หนาย....
  • ..สีน้ำฟ้า..

    21 กุมภาพันธ์ 2549 23:34 น. - comment id 13484

    รักแล้ง..กับ..แรงลม
    
    ลมแล้งพัดแรงแรงเหมือนแกล้งหยอก
    ใบพร้อมดอกลมแล้งแข่งกันร่วง
    ที่ยังเหลือโดดเด่นเป็นพุ่มพวง
    รับแสงดวงอาทิตย์จ้าอย่างท้าทาย
    
    เหงาจนยากพิสูจน์พูดมาได้
    เธอลาไกลลืมร้างแล้วห่างหาย
    ป่านฉะนี้คงมีคู่อยู่เคียงกาย
    เจ็บเจียนตายคนเก้อเผลอเพ้อครวญ
    
    มองลมแล้งเหย้าหยอกดอกลมแล้ง
    เหมือนจะแกล้งหัวใจไห้โหยหวน
    สั่นสะอื้นร้ายนักรักเรรวน
    โอ้มิควรหลงลมให้ชมเชย
    
    62.gif
    
    ขอความกรุณาลบความเห็นที่ 33  ของสีน้ำฟ้าได้เลยนะคะ ขออภัยเพิ่งเห็นคำผิด และมีแก้ไขเพิ่มเติมค่ะ
    
    1.gif
  • พุด

    21 กุมภาพันธ์ 2549 11:17 น. - comment id 13485

    10.gif16.gif
    พระพุทธองค์ทรงกล่าวสอน
    ทุกฉากตอนทุกข์รักเป็นหนักหนา
    ไฉนเลยทุกดวงใจหมายไขว่คว้า
    ได้น้ำตาอกตรมจมพันธนา
    
    มาวันนี้เธอกล่าวลาว่าจบจาก
    น้ำตาพรากเพราะดีใจใช่โหยหา
    เพราะที่สุดใจดวงนี้ได้อิสรา
    หลังรอท่าปลดบ่วงใจ..นานหลายปี...
  • พุด

    21 กุมภาพันธ์ 2549 11:28 น. - comment id 13486

    1.gif52.gif
    ได้ใจดวงกระจ่างสว่างสงบ
    หลังจากพบพายุรักมาหลอกหลอน
    นานหลายปีจมน้ำตาหลงอาทร
    ทุกข์ฉากตอนแสนเศร้าหนาวน้ำตา
    
    ทางเส้นงามเดียวดายหมายสุขนิรันดร์
    เส้นทางสวรรค์สายสีขาวกระจ่างจ้า
    รักพระรัตนตรัยคือรักแท้ชั่วชีวา
    เลิกตรมน้ำตาเสียใจ...ไม่โง่แล้ว.. !..
  • ทางแสงดาวเองครับ

    21 กุมภาพันธ์ 2549 11:33 น. - comment id 13487

    14.gif
  • หยาดอรุณ (แดดเช้า)

    21 กุมภาพันธ์ 2549 21:33 น. - comment id 13488

    ร้าง
    
    นาฬิกาไขลานหยุดนานแล้ว
    ดอกไม้ในแจกันแก้วก็เหี่ยวเฉา
    กระจกขุ่นฝุ่นจับกับรอยเงา
    ลมแล้งเหงาลอยคว้างอยู่ข้างกาย
    
    รอยน้ำตาแห้งกรังขังชีวิต
    โลกมืดมิดนานวันบั่นความหมาย
    ช่อดอกไม้หม่นสีหนีกลิ่นอาย
    กลีบร่วงรายโรยราร้างอาวรณ์
    
    หนามที่แห้งแข็งคมกว่าตอนสด
    น้ำตารดหัวอกหมกไหม้ซ่อน
    ริ้วรอยงามหนามบาดขาดใจรอน
    กลีบเคยอ่อนหมองหม่นคนโรยตาม
    
    นาฬิกาไขลานหยุดนานแล้ว
    ดอกไม้ในแจกันแก้วกร้านคมหนาม
    สุดแสบเสี้ยนเจียนตายในทุกยาม
    จมคำถามน้ำตารดหมดอาลัย.
    
    
    เล่นกับฉากดูมั่งดีกว่า ...
    แหะ แหะ ... รอยหยักในสมองเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย
    กว่าจะได้งานชิ้นนี้ขึ้นมา :P
  • บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก

    21 กุมภาพันธ์ 2549 11:41 น. - comment id 13489

    ความคุ้นเคย 
    ------------------------- 
    
    เคยชื่นชมข่มใจเมื่อไกลจาก 
    ชีวิตมีพลัดพรากกันหลากหลาย 
    \"อนิจจัง\" ตั้งอยู่เพียงครู่คลาย 
    ก็กลับกลายเปลี่ยนแปรไม่แน่นอน 
    
    ทนมิได้ในการเปลี่ยนแปลงนั้น 
    จึงเรียกกันว่า \"ทุกขัง\" พระสั่งสอน 
    ทุกข์ภายในภายนอกรุมยอกย้อน 
    จะถ่ายถอนได้นั้นให้หมั่นวาง 
    
    เพราะมิอาจบังคับและจับขัง 
    ให้ตรงตั้งเช่นเคยลงเลยต่าง 
    จึงเรียกว่า \"อนัตตา\" ตามแนวทาง 
    ทุกสิ่งอย่างล้วนเป็นเฉกเช่นกัน 
    
    ทั้งเราเขาทุกอยู่ที่อยู่ร่วม 
    เพียงใส่สวมอาศัยชั่วใจกลั้น 
    วันใดลมหายใจไม่สัมพันธ์ 
    ก็วันนั้นต้องพรากทิ้งซากไว้ 
    
    นี่ล่ะหนอชีวิตแม้ชิดเชื้อ 
    คราถึงเมื่อลาลับกลับผลักไส 
    ก่อนวางวายตายจริงประวิงใจ 
    ฝึกขวนขวายตั้งจิตพินิจดู 
    
    มิมีผู้รู้แก่นทำแทนได้ 
    พ่อแม่ไซร้เพียงมอบกายาสู่ 
    พุทธองค์เพียงตรองสัพพัญญู 
    ชี้ให้รู้เท่านั้นสร้างสรรค์เอา 
    
    ------------------------ 
    บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก 
    ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙
  • พุด

    21 กุมภาพันธ์ 2549 11:43 น. - comment id 13490

    10.gif16.gif
    โลกสีดำดั่งศอพระศิวะ
    เมื่อเธอผละจากไปไม่หวานชื่น
    ดั่งลอยคอในทะเลกว้างร้างไร้ทุกวันคืน
    ทั้งยามตื่นยามนอนอาวรณ์นัก
    
    แล้วหันไปเห็นเรือน้อยลอยลำเข้ามาสู่
    เรือ*ชื่อรู้ทันเท่า*มาทายทัก
    รับขึ้นฝั่งเลิกลอยคอกลางทะเลรัก
    ราวกับหัตถาสวรรค์พลันยื่นมา
    
    ดวงตาฟ้าดินยังเมตตาให้มาพบ
    พุทธพจน์บทสอนใจเลิกไขว่คว้า
    ไม่มีเขาไม่มีเราไม่มีน้ำตา
    ตัดปรารถนาชาตินี้มิเวียนวน
    
    เดินเข้าสู่ร่มรัตน์ร่มฉัตรแก้ว
    ห่างบ่วงแร้วพรานกิเลสทุกแห่งหน
    พ้นไฟรักรอเผาไหม้เกรียมกมล
    เสมือนบัวพ้นน้ำ..รอแสงธรรม...
  • พุด

    21 กุมภาพันธ์ 2549 11:54 น. - comment id 13491

    เธอมิใช่คู่ธรรมแค่ทำท้อง
    ใช่คู่ทองปองหมายในวิถี
    เธอแค่คนกิเลสหนามัดชีวี
    ใช่คนดีรักแค่เนื้อนอกแสนหลอกลวง
    
    เธอแค่คน คนคน คนหนึ่ง
    อย่าหมายซึ้งถึงบึ้งใจจะห่วงหวง
    เคยรักเธอด้วยตาบอดทั้งสองดวง
    ให้เลยล่วงถึงวันนี้..มาได้ไง
    10.gif
    
    พุดแต่งได้เป็นร้อยค่ะอิอิ
    สดสด..งดรับพิจารณาก็ได้นะคะ
    แค่มาสร้างสีสันค่ะ36.gif
  • บินเดี่ยวหมื่นลี้

    21 กุมภาพันธ์ 2549 12:25 น. - comment id 13492

    อิอิ...มาอีกรอบ...อัลมิตราลงมากดดัน..เราลงมากันเหนียว....
    
    เย็นยะเยียบเงียบสงบทรุดซบโลก
    หยาดน้ำค้างพรมโศกวิโยคสั่น
    คืนเหน็บหนาวร้างเงาเจ้าเพ็ญจันทร์
    คล้ายความฝันถูกลบฝังกลบดิน
    
    ช่างมืดมนอนธกาลเกินขานไข
    หนึ่งหัวใจล้าแรงและแหว่งวิ่น
    จมความเจ็บปวดช้ำน้ำตาริน
    ฤๅจะสิ้นชีพดับพร้อมกับจันทร์
    
    จันทร์เจ้าเอ๋ยเคยสว่างกระจ่างแจ้ง
    ทาบทอแสงอาบลานถักสานฝัน
    สองหัวใจได้แนบชิดสนิทกัน
    สุดท้ายวันรักสลายก็กรายเยือน
    
    เย็นยะเยียบเงียบสงบทรุดซบโลก
    น้ำตาโศกรินไหลใครจักเหมือน
    ห่มคลุมทุกข์รุกใจไม่รางเลือน
    แม้นดาวเดือนยังลับหายมิชายตา
    31.gif
  • ketana

    21 กุมภาพันธ์ 2549 12:02 น. - comment id 13493

    เสียงสังคีตผะแผ่วแว่วยินเสียง 
    สื่อสำเนียงลอยลมนำขมขื่น 
    บทบรรเลงเพลงช้ำสุดกล้ำกลืน 
    ต้องทนฝืนเฝ้าฟังหลั่งน้ำตา 
    
    จิตใจเศร้าร้าวรันทดแสนหดหู่ 
    ต้องอดสูสิ้นสวาทปรารถนา 
    รักเคยหวานซ่านซึ้งตรึงอุรา 
    ต้องเจ็บปร่าปวดแปลบแสบฤดี 
    
    เคยมั่นใจใกล้ชิดสนิทสนม 
    ต้องระทมรักมลายมาหน่ายหนี 
    ความโศกศัลย์ถั่งโถมถมทวี 
    เหมือนดนตรีตอกย้ำให้ช้ำใจ 
    
    ขอปิดตาปิดไว้ไม่อยากรู้ 
    อยากอุดหูเลิกรับกับหวั่นไหว 
    เสียงสังคีตดังว่าคำอาลัย 
    สะอื้นไห้ทนยินจนสิ้นลม 
    
    มาร่วมอกหักด้วยสักอารมณ์ ครับ
  • พุด

    21 กุมภาพันธ์ 2549 12:31 น. - comment id 13494

    52.gif
    แก้คำค่ะ
    ใครว่าอกหักต้องซดน้ำใบบัวบก
    สำหรับฉันคงต้องยกซดหมดทั้งไห
    เพราะหักแล้วหักเล่านะหัวใจ
    ไม่เป็นไรยังดีมีคนรัก..
    
    เป็นบทเรียนเวียนวนมาเฝ้าสอน
    อย่าอาวรณ์อาลัยหลงไปภักดิ์
    รักเล่นเล่นลวงลวงอย่ารึงรัด
    แค่เกมรักเกมลวง..ไม่เสียใจ52.gif
  • พุด

    21 กุมภาพันธ์ 2549 12:44 น. - comment id 13495

    แก้คำสัมผัสระหว่างบทค่ะอิอิ
    และ
    สองสามวันนี้สนุกดีกับอารมณ์อกหักค่ะ
    กว่าจะหมดเขต อีกตั้งสองวัน
    อย่ากระนั้นเลย
    เป็นนักกลอนนอนเปล่าก็เศร้าใจนะ
    ............
    
    ถ้าหัวใจฉันเป็นเช่นกระดาษ
    เธอเวียนวาดภาพหวานเสียสวยหรู
    หลังจากนั้นมาทิ่มแทงจนเป็นรู
    ไร้รับรู้กระดาษขาดชิ้นดี
    
    
    ถ้าหัวใจฉันเป็นเช่นถนน
    เธอก็เช่นคนขับสิบล้อบึ่งขยี้
    เพราะคิดว่าถนนไร้ชีวี
    ลองตรองซีไม่มีถนน..ก็สิ้นหนทาง.52.gif
  • ทัดหทัย

    21 กุมภาพันธ์ 2549 13:35 น. - comment id 13497

    อะนะ..  ผ่านมาถึงนาทีนี้
    หลายคนเริ่มเอาฝีมือมาอวด
    ขณะที่บางคนมาเล่นจำอวด
    
    ยังไงๆ ก็บอกย้ำอีกที  ว่าต้องส่งกลอนภายใน 22 กพ 2549
    โดยจะเอาวันที่ที่แสดงใน คห. นั้นเป็นหลักฐาน
    
    กระต่ายตื่นหรือยังเอ่ย  อิอิ 35.gif
  • กวีปกรณ์

    21 กุมภาพันธ์ 2549 14:01 น. - comment id 13499

    คุณทัดหทัย ผมขอเอากลอนที่เคยแต่งไว้มาลงด้วยคงไม่ผิดกติกาอะไรนะคับ มันเศร้า ๆ เหมือนกัน คงได้นะคับ
    
    เจ้าชายนิทรา
    
    เพราะเหตุใดไยยังจินต์ถวิลหา
    คอยไขว่คว้ารักไว้ในความฝัน
    อยู่ร่วมเรียงเคียงใกล้ในวารวัน
    แท้จริงนั้นจากกันไปไกลลิบตา
    
    เพราะไม่อาจยอมรับกับความเศร้า
    ความหงอยเหงาเปล่าไร้ใจเจียนบ้า
    จึงเฝ้าเพ้อเผลอสร้างร่างมายา
    คอยจินตาวาดฝันถึงวันวาน
    
    ขอนิทราตราบฟ้าดินสลาย
    ไม่เขยื้อนเคลื่อนกายหมายสถาน
    ขอหลับอยู่เพียงฝันอนันต์กาล 
    นานเท่านานไม่ขอตื่นฟื้นความจริง
    
    โอบกระชับกับหมอนที่นอนข้าง
    กับหทัยดวงร้างช่างเปล่ายิ่ง
    ขาดสักคนเคียงแนบคอยแอบอิง
    จึงขอเพียงนอนนิ่งดิ่งนิทรา
  • ขอโทษครับ...ผมเมา

    21 กุมภาพันธ์ 2549 14:13 น. - comment id 13500

    มองดูน้ำสีอำพันวันใจเศร้า
    วันที่เจ้าจากลาใจข้าหมอง
    ปล่อยให้ข้าทนช้ำน้ำตานอง
    คร่ำครวญร้องแทบบ้าชีวาวาย
    
    รินลงไปดื่มเข้าไปไหวสะทก
    เหล้าที่หกลงพื้นถูกกลืนหาย
    เหมือนรักนี้ที่มีให้ตั้งมากมาย
    แต่สุดท้ายก็จมลับไม่กลับมา
    
    มองแก้วเหล้าว่างเปล่าใจร้าวรวด
    แสนเจ็บปวดลึกล้ำช้ำหนักหนา
    เหล้าก็หมดใจก็หมองเหมือนน้องลา
    เหลือแค่เพียงน้ำตาที่หลั่งริน
    
    โอ้..หัวอกคนใจช้ำค่ำคืนนี้
    เหล้าไม่มีนางไม่แลใจ แดดิ้น
    มีแต่น้ำอกกลัดหนองรองดื่มกิน
    แทบดับสิ้นใจเศร้าเคล้าน้ำตา....ฯ
    
    51.gif
    
    ด้วยคนครับ   มาแบบเดาๆ คนเมา มั่วอกหัก   
    29.gif51.gif
  • ...หม่อมเจ้า...

    22 กุมภาพันธ์ 2549 11:49 น. - comment id 13501

    ...เศร้า...
    
     จะให้เศร้า..เศร้าเเล้ว..เเละเศร้าอีก
    เศร้ากี่ที..จึงจะพอ..ต่อความหมาย
    จะให้เศร้า..เศร้าเเล้ว..เศร้าจนตาย
    จึงจะหมาย..ถึงคำว่า..อกหักเอย
    
    อย่างนี้ด้ายไหมงับคุณ หัดหทัย 
    ถ้าด้ายก็ขอส่งด้วยน้า(มาวันสุดท้ายพอดี)
    เราเตเงด้ายเเค่นี้อ่า
  • เรียม

    22 กุมภาพันธ์ 2549 15:00 น. - comment id 13502

    10.gif
    ใต้ตาลเดี่ยวเปลี่ยวร้างไร้คนรัก
    คราอกหักเหมือนตกตาลสิ้นหวานฝัน
    ตาลต้นนี้เราเคยมีกันและกัน
    แลกสวรรค์สวาทมิคลาดคลา
    
    เหมือนน้ำผึ้งเจือยาพิษคิดไม่ถึง
    ว่าความซึ้งจะซ่านปานถูกฆ่า
    เหมือนงูเห่าฉกกัดชาวนา
    ไม่รู้ค่าช่างเลือดเย็นเช่นฉะนี้..!
  • หยาดอรุณ (แดดเช้า)

    21 กุมภาพันธ์ 2549 14:54 น. - comment id 13503

    น้ำตา-ทะเล
    
    ทะเลกว้างคว้างเคว้งสุดเวิ้งฟ้า
    นั่นน้ำตาของฉันยามขวัญหาย
    หล่นร้าวร่วงห้วงฝันพลันมลาย
    หลั่งเป็นสายเลือดลงร้าวตรงนี้
    
    เธอเอ่ยร่ำคำลาบอกจะจาก
    น้ำตาพรากกล้ำกลืนเกินฝืนหนี
    ทะเลกว้างห่างเหินเกินไมตรี
    จะเชื่อมรักร้าวฤดีประสานใจ
    
    สายน้ำไม่ไหลกลับแสนคับอก
    หวั่นสะทกสะอื้นเกินฝืนไหว
    น้ำเกินกักหลากท่วมท้นความใน
    ระบายไห้โหยหาค่าผูกพัน
    
    ทะเลกว้างห่างใจห่างไกลนัก
    เหมือนห่างรักห่างความคิดปิดความฝัน
    น้ำตาใจใช่ไหมในทะเลนั้น
    เกินกดกลั้นทุกข์ร่ำทุกค่ำคืน.
    
    แฮ่กๆ ... ในที่สุด งานชิ้นนี้ก็จบจนได้
    เดี๋ยวจะลองแต่งมาส่งอีกนะคะ : )
  • หยาดอรุณ (แดดเช้า)

    22 กุมภาพันธ์ 2549 08:59 น. - comment id 13504

    ร้าว
    
    ในห้องหับคับแคบแอบซ่อนซุก
    นาฬิกาเก่าปลุกลุกไม่ไหว
    หนาวน้ำค้างข้างนอกหมอกลงใจ
    ทอดอาลัยภาพผนังยังตราตรึง
    
    ยิ้มเศร้าเศร้าตาโศกโศก .. เธอคนนั้น
    คนที่ทำให้ฉันเคยหวงหึง
    ลมระลอกหนาวผ่านเคยซ่านซึ้ง
    มารำพึงวันนี้ที่รักร้าว
    
    อยากจะคว้าภาพตรงหน้ามาคว่ำลง
    แต่ยังคงมองนิ่งนอนเหน็บหนาว
    กายยังซบน้ำตาไหลในทุกคราว
    เมื่อเรื่องราวภาพเธอลอยเพ้อมา
    
    ในห้องหับคับแคบฉันแอบซุก
    ไม่อยากลุกจากห้วงฝันวันไร้ค่า
    ฝุ่นจับเขรอะเปรอะช้ำคลอน้ำตา
    ภาพตรงหน้าแตกร้าว .. ทุกคราวมอง.
    
    ชิ้นที่หกครับผม ...
    ซ้อมมือ ..... รางวัลคือผลพลอยได้
    แต่ดีใจได้มีโอกาสได้พยายามเขียนงานแนวนี้ที่ไม่ถนัดเลยจริงๆ 
    
    ขอบคุณค่ะ ... คุณทัดหทัย
  • กวีปกรณ์

    21 กุมภาพันธ์ 2549 15:00 น. - comment id 13505

    ...ยังหายใจ...
    
    กาลเวลาค่อยผ่านไปในชีวิต
    ความหวั่นกลัวถูกพิชิตจิตไสว
    เรื่องที่ผ่านรานลิดปลิดจากใจ
    ล้างหทัยไร้อดีตอันซีดจาง
    
    ควานสัมผัสวิญญาณ์โหยหาเธอ
    กลับพบเจอกำลังใจในความว่าง
    ความโง่เขลาเหงาดวงแดแลเลือนลาง
    จึงปล่อยวางพลางหยุดพักรักษ์หทัย
    
    ความรักมักมาเยือนและเลือนร้าง
    บนเส้นทางหว่างจิต...คิดหวั่นไหว
    พลังรักเปลี่ยนชีวิตผิดแผกไป
    เมื่อยอมรับและเข้าใจ....ไม่กลัว
    
    คล้ายคล้ายฉันค้นพบหนทาง
    ซึ่งเรียบง่าย...กลายสว่างทางสลัว
    แม้คืนนี้มีเพียงฉันนั้นเคียงตัว
    กลับสุขใจไม่กลัว...ฉันยังหายใจ
  • กวีปกรณ์

    21 กุมภาพันธ์ 2549 15:13 น. - comment id 13506

    ใครจะว่า กวีปกรณ์ขี้โกงก็ยอมหละ เพราะไม่มีเวลาแล้ว ผมต้องทำภาคนิพนธ์ส่งปลายภาค ขอโอกาสคว้ารางวัลให้ติดหนึ่งในห้าก็ยังดี 
    
    สุรารัก...สุราใจ
    
    คว้าขวดเหล้ากระดกดื่มกลืนลงคอ
    น้ำตาหนอเคล้าเหล้าจางไร้รสขม
    เดินเซซัดควาญหารักร้าวระทม
    ใจโง่งมกอดขวดเหล้าเศร้าดวงใจ
    
    หารักยากอยากรักใครคนหนึ่ง
    หนึ่งคนซึ่งพิเศษซึ้งตรึงจิตไว้
    ได้แต่โดนปอกลอกหลอกดวงใจ
    น้ำตาไหลไร้รักปลอบชอกช้ำทรวง
    
    มีแต่เหล้าเป็นเพื่อนในคืนนี้
    โอ...ราตรีนานนักใครจะหวง
    สักคนหนึ่งมีไหมที่ไม่ลวง
    ยากเหลือเกินจะทนล่วงพ้นราตรี
    
    นอนกอดเหล้าข้างทางเท้าเขานึกเหยียด
    เขารังเกียจมองผ่านเมินหน้าหนี
    ใครเขาเล่าจะมองเห็นเป็นคนดี
    เห็นแต่ผีสุรารัก...สุราใจ...
  • สีน้ำฟ้า.. งัวเงียมาอ่าน

    22 กุมภาพันธ์ 2549 09:12 น. - comment id 13507

    อรุณสวัสดิ์ค่ะ
    
    แจมเลิกงานเมื่อตอนตีสี่ครึ่ง... แถมตื่นมานั่งงมคีย์บอร์ดตอน.. ตีเจ็ดกว่า ๆ
    
    เฮ้อ... แล้วก็อดแวะมาไม่ได้
    
    ต้องบอกแบบเดียวกับ คุณแดดเช้า.. ขอบคุณ คุณทัดหทัย อย่างน้อย.. มุมมองแจมก็กว้างขึ้น ได้ความขยันมาอีกนิดหน่อย
    
    46.gif
  • กุ้งหนามแดง

    22 กุมภาพันธ์ 2549 10:27 น. - comment id 13508

    รักติดลบ
    
    กินไม่ได้นอนไม่หลับแทบจับไข้
    อาการใบ้ลุกลามโรคถามหา
    หวนคะนึงวันสุขทุกเวลา
    กับน้ำตา,ลบออกหารหลอกลวง
    
    ผลลัพธ์คือทุกข์เทวษเศษสะอื้น
    หลงหยิบยื่นให้ลองทั้งของหวง
    เกินคาดหมายประกอบการโดนผลาญทรวง
    เห็นเขาควงหญิงอื่นคืนแผงเรา
    
    เต็มใจมอบไม่เหลือใจเผื่อช้ำ
    คนใจดำทำร้ายคล้ายถูกเหมา
    คงดวงใจโศกศัลย์ดันไม่เอา
    เก็บไว้เศร้าเหงาครบนั่งตบยุง..
    
    ขอเสริมแนวอกหักอีกหนึ่งอารมณ์ค่ะ..
  • ดินถล่ม ณ เสาไห้

    22 กุมภาพันธ์ 2549 10:57 น. - comment id 13509

    19.gifมองฟ้าเหงาเงาตลกคำอกหัก
    ถ้ามีรักแล้วใยมีคำนี้หนอ
    ถ้ารักแล้วเอาแต่ได้ให้สอพลอ
    ฉันจะขออกหักมิรักใคร
    แต่ถ้ารักหนักแน่นแผ่นภูผา
    และถ้ามีศรัธทาหัวใจใส
    แล้วถ้ายังอกหักมิวางวาย
    ฉันขอตายแทบบาทไร้กราบกราน
    *แต่งมาเป็นเพื่อนนะ
  • จิตรนัย

    22 กุมภาพันธ์ 2549 11:35 น. - comment id 13511

    \"ยิ่งช้ำคำปรานี\" 
    
    มีคนทักฉันว่าแววตาเศร้า
    เส้นผมเผ้ารุงรังยังไม่ตัด
    กายผอมโซหมองคล้ำดำชะมัด
    เห็นแล้วขัดสายตาเวลามอง
    
    ฉันไม่สนใครทักเลยสักนิด
    ยังครุ่นคิดกับรักมักเศร้าหมอง
    บางครั้งคิดขึ้นมาน้ำตานอง
    ภาพเธอฟ้องรักร้าวคราวจากลา
    
    เช้าแล้วหรือที่เรามัวเฝ้าคิด
    ใครถูกผิดวันนั้นทวนปัญหา
    ผลสุดท้ายน้ำนองเต็มสองตา
    เมินข้าวปลาไม่กินไม่ยินดี
    
    เธอได้จากฉันไปหลายเดือนแล้ว
    ทิ้งรอยแนวทุกข์ท้นเจ็บล้นปรี่
    คือคำขาดของเธอเผลอปรานี
    เราเป็นพี่น้องกันสัญญานะ
    
    เลือกชิ้นนี้นะครับ
    
    36.gif
  • เรียม

    22 กุมภาพันธ์ 2549 15:09 น. - comment id 13512

    10.gif
    เราพบกันวันที่ฝนพร่างสาย
    กับนัดหมายสำคัญในวันนี้
    ฝนพาเศร้าหนาวเหน็บในฤดี
    เมื่อคนดีกล่าวคำลาว่าจบกัน..!
    
    ฉันหันหลังเดินร้องไห้ท่ามสายฝน
    พายุปนน้ำตาแสนโศกศัลย์
    ฟ้าร้องไห้ร่วมเวทนาบูชายัญ
    พร้อม*สวรรค์ปิดแล้ว*สำหรับเรา..!
  • ทัดหทัย

    23 กุมภาพันธ์ 2549 08:30 น. - comment id 13518

    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif
    
    วันนี้..  กอนกูย จะมาคัดเลือกชิ้นงานที่ไม่ผิดกติกา และไม่ผิดฉันทลักษณ์
    เพื่อรวบรวมไปเข้าที่ประชุมซึ่งมี ธาร  ธรรมโฆษ เป็นประธาน
    โดยนัดประชุมพิจารณาผลงานเพื่อนๆ ตอนเย็นวันพรุ่งนี้
    
    ส่วนผมก็นอนรอผลเพื่อมาแจ้งให้ทราบกัน
    
    16.gif16.gif16.gif16.gif16.gif16.gif16.gif16.gif
    
    หลักเกณฑ์ในการตัดสินก็หนีไม่พ้นที่จะพิจารณา ความ, คำ, กลวิธีในการนำเสนอ
    โดยให้น้ำหนักกับการสื่ออารมณ์
    
    ใครที่ใช้คำผิดความหมายก็จะเสียคะแนนมากหน่อย
    เพราะกรรมการจะไม่เดาใจคนเขียนว่าตั้งใจสื่ออะไร
    
    ..................................................................
    
    ขอบคุณหลายๆ คน ที่มาร่วมสนุก
    บางคนที่มาสนุกคนเดียวแบบไม่รู้จักกาละเทศะ ก็ถือว่าเป็นจำอวด
    
    สำหรับคำเรียกร้องว่า เอาอีกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    ผมขอทำใจก่อน
    
    แบบว่าอยู่เฉยๆ มาเปลืองแรง เปลืองเวลา เปลืองเงิน  
    ยังดีว่ายังไม่ถึงกับเปลืองตัว 50.gif
    
    ยังไงๆ เพื่อนๆ ก็เตรียมตัวศึกษาเทคนิคการเขียน และลับฝีมือไปพลางๆ ก็แล้วกัน
    
    เดี๋ยวว่างๆ จะมาวิพากษ์ภาพรวมของงานนี้อีกที
    43.gif
  • หยาดอรุณ (แดดเช้า)

    22 กุมภาพันธ์ 2549 21:07 น. - comment id 13519

    สำนวนที่เก้า 
    ก่อนเที่ยงคืน จะถึงโหลไหมเนี่ย :P
    
    ดอกหญ้า
    
    กุหลาบงามหนามในมือหรือคือรัก
    เธอจึงผลักดอกหญ้าว่าค่าต่ำ
    ประคองกลีบกรุ่นหอมมิให้ช้ำ
    แล้วเหยียบย่ำหญ้าน้อยให้ด้อยลง
    
    เป็นเพียงดอกไม้เล็กเล็กที่เธอทิ้ง
    ไม่ขึ้นหิ้งบูชาค่าสูงส่ง
    เทียบกุหลาบเริ่ดหรูดูอาจอง
    เธอบรรจงประคองรักไม่ผลักลา
    
    ดอกหญ้าจึงถูกทึ้งเด็ดยามเธอเหงา
    พร้อมบรรเทาทุกข์ร่ำยามหม่นค่า
    เมื่อกุหลาบช่องามก้าวข้ามมา
    จึงรู้ว่าเธอเลือกทางจะห่างไป
    
    เธอจำเจ็บอักเสบหนามช้ำกุหลาบ
    ตรมตราบาปเลือกทนหนทางใหม่
    ปล่อยดอกหญ้าค่าด้อยก้มน้อยใจ
    เดียวดายในความอับเฉาเศร้านิรันดร์.
    
    จะหมดมุกแล้วนะ .. เหลือเวลาอีก 3 ชั่วโมง
    
    รออ่านมือดีเขียนส่งในวินาทีสุดท้ายดีกว่า
    
    สงสัยต้องมีคนกั๊กๆ งานดีๆ ไว้ยังไม่ส่งเข้ามาแน่ๆ เลย กลัวถูกขโมยพล็อต อิอิ
    
    ถือว่าคุ้มนะคะ ... ได้มีโอกาสหัดเขียนกลอนแนวนี้ด้วย
    
    เลือกสำนวนนี้นะคะ
  • สุกรวดี

    22 กุมภาพันธ์ 2549 19:22 น. - comment id 13520

    เคยนั่งมองท้องฟ้าคราครั้งเผลอ
    ภาพที่เธอเคียงคู่ดูสดใส
    เดินกระเซ้าเย้าหยอกบอกเป็น\"นัย\"
    หล่อนคือใครใช่ฉันดังสัญญา
    
    ยามเมฆเคลื่อนเลื่อนลอยใจพลอยหมอง
    คู่หมายปองเปลี่ยนใจไม่มาหา
    มีหญิงใหม่ไม่เร้นเห็นตำตา
    คำนินทามีให้ไม่เว้นวัน
    
    ยอมรับว่า\"อกหัก\"คนรักหลอน
    จะหลับนอนถอนใจไม่สุขสันต์
    เคยรักใคร่ใกล้ชิดจิตผูกพัน
    กลับมาผันแปรไปไม่เหมือนเดิม
    12.gif
  • สุกรวดี

    22 กุมภาพันธ์ 2549 19:23 น. - comment id 13521

    เคยคิดว่าอยู่ไกลไร้คนห่วง
    จะทักท้วงถามใครก็ไม่กล้า
    เพราะหมดสิทธิ์ชิดใกล้อยู่ไกลตา
    ข่าวมีมาเสมอเธอเปลี่ยนไป
    
    เธอมีคู่ควงใหม่ไม่ซุกซ่อน
    นั่งอิงอ้อนออดกันวันฟ้าใส
    มิอาจเอ่ยกล่าวหาว่าสองใจ
    เธอทำได้ไม่ผิดสิทธิ์ของเธอ
    
    คนพ่ายแพ้คือฉันในวันนี้
    ดวงฤดีชอกช้ำน้ำตาเอ่อ
    ขอสาปรักเหลวไหลไม่ขอเจอ
    หากจะเผลอพลาดซ้ำก็จำยอม
    12.gif
  • ชลกานต์

    22 กุมภาพันธ์ 2549 17:36 น. - comment id 13522

    ขลุ่ยใครครวญบรรเลงเพลงแสนโศก
    โลกทั้งโลกดิ่งดำทำนองเศร้า
    ยิ่งซ้ำเติมความช้ำชอกยอกทรวงเรา
    ใต้ร่มเงาลั่นทมขมขื่นใจ
    
    ดอกลั่นทมลมเฆี่ยนเจียนม้วยมรณ์
    เราจะฝังความร้าวรอนไว้ที่ไหน
    เพื่อยุติน้ำตาความอาลัย
    มันท่วมท้นดวงใจทรมาน
    
    ทำฉันใดให้รักอันขมขื่น
    เปลี่ยนเป็นความรมย์รื่นชื่นฉ่ำหวาน
    ทำฉันใดให้ดอกรักที่หักราน
    กลับผลิบานบนช่อดังเคยมา
    
    ดอกลั่นทมลมเฆี่ยนไม่คืนต้น
    ดอกรักหล่นตกตายไปต่อหน้า
    เพลงขลุ่ยซ้ำคร่ำครวญชวนสั่งลา
    ประเดี๋ยวใจของข้าคงวางวาย..
    
    --แวะมาส่งอีกบทค่า--
  • เรนเอง..

    23 กุมภาพันธ์ 2549 12:55 น. - comment id 13523

    ..เรนขอโทษนะคะ..66.gif..
  • หยาดอรุณ (แดดเช้า)

    22 กุมภาพันธ์ 2549 18:14 น. - comment id 13525

    ตุ๊กตา
    
    ตุ๊กตาตัวเก่าเขาเคยให้
    ถูกวางไว้ใต้เตียงไม่อยากเห็น
    เคยกอดก่ายข้างข้างต่างคนเป็น
    คลายหนาวเย็นยามราตรีที่ผ่านมา
    
    ฝุ่นเกาะเขรอะเปรอะใจเหมือนไม่รู้
    ลึกยังอยู่รอยกอดเคยไขว่ค่า
    ในคืนค่ำช้ำหมองต้องร้างลา
    ตุ๊กตาถูกทิ้งขว้างกลางรอยช้ำ
    
    ไม่อยากให้โลกนี้มีแม้เงา
    ของคนเก่าเคยคิดถึงซึ้งทุกค่ำ
    พอกันที .. ไม่มีแม้สิ่งทรงจำ
    ตุ๊กตาจึงถูกคว่ำอยู่ใต้เตียง
    
    ตุ๊กตาตัวเก่าเขาเคยให้
    มีรอยใจก่อนจากอยากหลีกเลี่ยง
    ตุ๊กตาตัวใหม่ใจลำเอียง
    ป่านนี้เพียงอยู่กับใครไม่อยากคิด.
    
    สำนวนที่เจ็ดนะคะ ยังไม่ครบโหลเลย
    ไม่รู้จะฝึกเขียนกลอนแนวนี้ได้ครบโหลภายในกำหนดได้หรือเปล่า อิอิ
    
    ได้ซ้อมมือนี่ดีจังเลยเนาะ รางวัลเป็นผลพลอยได้ (ถ้าได้ก็ดี ฮา)
    
    มาร่วมสนุกค่ะ ... แต่ไม่ใช่แค่เพียงสนุกนะ กำลังตั้งใจเรียนรู้และหัดเขียนไปด้วย : )
    
    ส่งสำนวนนี้นะคะ
  • ทัดหทัย

    23 กุมภาพันธ์ 2549 15:37 น. - comment id 13526

    ผมเองก็เขียนกลอนไม่ได้ดีนัก
    แม้ว่าจะพอมีหลักที่ได้รับคำแนะนำจากรุ่นพี่ๆ มาบ้าง
    
    ไม่อาจหาญที่จะแนะนำใคร
    แต่ขอตั้งข้อสังเกตบางประการ คือ
    
    1. ไม่น่าเชื่อว่าบางคนไม่ได้อ่านกติกาให้ละเอียดก่อนส่งงาน  เห็นได้จากบางชิ้นที่ยาวเกินกว่าที่กำหนดไว้
    
    2. งานบางชิ้น ส่ออาการว่าไม่มีการกำหนดประเด็น ไม่มีการวางแผน แต่เขียนไปเรื่อยๆ ให้ครบจำนวนบทที่กำหนด
    
    3. บางคนไม่ได้ตรวจสอบความหมายของคำที่ใช้  ทำให้การสื่อความเพี้ยนไป
    
    4. อาการกลอนพาไปยังมีให้เห็นในบางชิ้นงาน
    
    หวังว่าข้อสังเกตเล็กๆน้อยๆ นี้จะเป็นอุทาหรณ์สำหรับการเขียนกลอนของเพื่อนๆ ต่อไป
    
    36.gif
  • นัทนิตย์

    22 กุมภาพันธ์ 2549 21:38 น. - comment id 13527

    ผมสละสิทธิ์ค้าบ  อกหักจนล้น15.gif
  • สุกรวดี

    22 กุมภาพันธ์ 2549 19:34 น. - comment id 13528

    เพลงรักหวานผ่านหูรับรู้สึก
    ในส่วนลึกนึกตามความสดใส
    มีเนื้อหาบอกบ่งอย่างจงใจ
    นึกถึงไอรักกรุ่นอบอุ่นทรวง
    
    แม้ด้านนอกหมอกหนาฟ้าสีหม่น
    มองมิเห็นถนนในบางช่วง
    แต่ไฟรักมากล้นสร้างผลพวง
    เหมือนอยู่สรวงสวรรค์ควันรักรม
    
    แต่วันนี้เพลงนั้นมันบาดจิต
    ด้วยผลพิษรักหลอนนอนขื่นขม
    เสียงอ้อนอ้อดสอดคล้องยิ่งหมองตรม
    สวรรค์ล่มรักร้าวหนาวเหลือทน
    
    มิอาจเอ่ยปากออกบอกใครได้
    ว่าเหน็บหนาวแค่ไหนในเหตุผล
    หนาวเพราะขาดรักครองห้องกมล
    กลายเป็นคนหม่นเศร้าเจ้าน้ำตา
    12.gif
    ตรวจพบว่ามีกลอนชิ้นล่าสุดมีตกหล่นไป\"1คำ\"  ขอส่งใหม่อีกรอบนะคะ
  • สุกรวดี

    22 กุมภาพันธ์ 2549 19:24 น. - comment id 13529

    เธอโสภาน่าชมสมเรือนร่าง
    แก้มคิ้วคางปากคอพอสูสี
    อกเธออวบเห็นชัดถนัดดี
    ขาแขนมีครบถ้วนไร้ส่วนเกิน
    
    กับข่าวลือเล่าบอกเธอ\"ชอกช้ำ\"
    หลงเชื่อคำอิงอ้างอย่างผิวเผิน
    จึงเก็บตัวปิดใจไม่รับเชิญ
    วันนี้เดินเชิดหน้าอย่างท้าทาย
    
    เธอเปลี่ยนไปไม่เหมือนหลายเดือนก่อน
    กับช่วงตอน\"อกหัก\"รักสลาย
    ด้วยเธอกินทุกอย่างวางเรียงราย
    มองละม้าย\"หมูอ้วน\"โดยส่วนรวม
    12.gif
  • ไรไก่

    22 กุมภาพันธ์ 2549 22:13 น. - comment id 13530

    เขียนได้แค่เนี้ยค่ะ
    
    ช้ำรัก
    
    นั่งเหม่อมองท้องฟ้าพาใจหนาว
    คิดถึงคราวรักหวานกลางใจฝัน
    เคยเคียงคู่หัวใจกันและกัน
    เธอกับฉันรักกันมั่นสัญญา
    
    มาบัดนี้ท้องฟ้ากับเปลี่ยนสี
    เธอคนดีเปลี่ยนผันสร้างปัญหา
    ควงคู่ใหม่ให้เห็นในพริบตา
    ไม่เห็นค่าความรักต้องร้าวราน
    
    เมื่อเธอมีคนใหม่ใจเป็นสอง
    ความรักหมองเกินใจแก้ไขขาน
    ขออำลาจากไกลตลอดกาล
    ช้ำดวงมาลย์เจ็บจำจนวัยตาย
    
    
    29.gif29.gif29.gif
  • หยาดอรุณ (แดดเช้า)

    22 กุมภาพันธ์ 2549 19:01 น. - comment id 13531

    และแล้ว ...
    สำนวนที่ 8 ก็คลอดออกมาจนได้ : )
    
    นรก
    
    หากจะถามนรกลึกสักแค่ไหน
    ลึกเท่าใจของฉันหวั่นผวา
    ในคืนค่ำร่ำไห้ไหววิญญาณ์
    ดื่มน้ำตาร้อนใจไฟทุกข์กลืน
    
    น้ำนรกหมกไหม้ในใจฉัน
    สุดสิ้นฝันสิ้นรักหนักเกินฝืน
    ห้องสีขาวมืดมิดปิดทางยืน
    ราวค่ำคืนคลุ้มคลั่งหลั่งน้ำตา
    
    ช่อดอกไม้ข้างหมอนเคยนอนฝัน
    มาถึงวันโรยร้างถูกขว้างค่า
    หนามนรกเสียบแสบแปลบอุรา
    แทงใจล้าฝันร้ายคล้ายดับวิญญ์
    
    หากจะถามนรกลึกสักแค่ไหน
    เธอจากไปเจ็บลึกไม่รู้สิ้น
    หนามยอกย้ำดื่มน้ำตาจนชาชิน
    เหมือนดื่มกินน้ำนรกในอกร้าว.
    
    รบกวนลบ 2 สำนวนแรกทิ้งด้วยค่ะ : )
    ส่งสำนวนนี้นะคะ
  • พระรอง

    22 กุมภาพันธ์ 2549 22:20 น. - comment id 13532

    กลายเป็นตัวตลกตอนอกหัก
    หลายคนทัก..เฮ้ย !! เหงา,ปวดร้าวไหม ?
    เลยต้องปั้นหน้าขำ..ถามทำไม ?
    หลุดจากปากคือ..ไม่  ใจยังดี
    
    ตัวตลกแอบร้องไห้ใจสะอื้น
    รักขมขื่นหมกไว้ในอกนี่
    ฉาบฉวยอาจมองผ่านสุขนั้นมี
    แต่ภายในทุกข์ล้นปรี่สุมที่เรา
  • คนดื้อ

    22 กุมภาพันธ์ 2549 22:45 น. - comment id 13534

    กำแพงใจ
    
    
    รักไม่เป็นเช่นหวังไว้ในชีวิต
    สงสารจิตเจ็บหนักต้องรักษา
    จำหมองหม่นคนเดียวหวังเยียวยา
    ให้น้ำตารินหยดรดแผลใจ
    
    กี่หยาดหยดรดราดที่บาดแผล
    ปวดดวงแดช้ำมากยากแก้ไข
    รักรันทดสลดนักปักทรวงใน
    ขอร่ำไห้กลืนกล้ำตามลำพัง
    
    ก่อกำแพงกั้นใจให้คงมั่น
    หวังป้องกันรักร้าวจากคราวหลัง
    ปิดประตูขังฤดีอย่างจีรัง
    เพื่อยับยั้งรักลวงล่วงเข้ามา
    
    1.gifร่วมด้วยคนนะคะ
  • ชมอักษร .. unlogin ^_^

    22 กุมภาพันธ์ 2549 22:47 น. - comment id 13535

    
    ::: น้ำตา..แทนค่าช้ำ ::: 
    
    ใจสะทกอกสะท้านร้าวรานนัก
    เมื่อความรักเลือนลางแทบจางหาย
    คนที่เคยพร่ำพรอดกอดเกี่ยวกาย
    วันนี้คล้ายหลบหน้าลืมมาเจอ
    
    วันเลยเลื่อนเดือนผ่านพาลขมขื่น
    มิอาจฝืนน้ำจากใจที่ไหลเอ่อ
    โหมทะลักท่วมตาจนพร่าเบลอ
    เพราะรอเก้อซ้ำซ้ำแสนลำเค็ญ
    
    หยาดน้ำตารินรดกี่หยดแล้ว
    หมดวี่แววคนของใจมาให้เห็น
    ก่อนได้พบเช้าสายจนบ่ายเย็น
    ตอนนี้เป็นเช่นไรจึงไม่มา
    
    คงเป็นลางเตือนไว้รักใกล้ล่ม
    เคยร่วมบ่มไม่ทันไรก็ไร้ค่า
    น้ำที่ล้นปริ่มนองทั้งสองตา
    สื่อวาจาแทนคำ .. ช้ำเหลือเกิน ..
    
    .........................................
    
    
    ปล. ขอส่งงานเก่าเข้าประกวดก่อน .. ไม่รู้สัดส่วนจะพอสู้เขาไหวมั๊ยน้อออ .. เหะๆๆ
     
    65.gif
  • คนทะเล

    22 กุมภาพันธ์ 2549 22:48 น. - comment id 13536

    ฉันวันนี้
    
    สิ่งที่เขาเคยให้ไม่มีแล้ว
    หายใจแผ่วน้ำตานองต้องทนไหว
    เจ็บแสนเจ็บช้ำสุดช้ำต้องทำใจ
    แต่นี้ไร้ความหมายตายจากกัน
    
    หมดความรักความหลังครั้งหวานซึ้ง
    สิ้นคนึงสายสวาทเคยวาดฝัน
    จบเพราะจากลืมลบจบสัมพันธ์
    ตั้งใจมั่นขึ้นจากบ่วงลวงชีวี
    
    ฉันวันเก่าเขลานักเพราะรักมาก
    ผ่านลำบากรักคุดสุดหมองศรี
    ทิ้งความทุกข์โศกศัลย์ลากันที
    ฉันวันนี้ไร้ใจไม่เหมือนเดิม
    
    
    36.gif
  • ผู้หญิงสีม่วง

    22 กุมภาพันธ์ 2549 23:03 น. - comment id 13537

    
    \" ร่องรอยรัก \"
    
    เพียงย่างเท้าเข้าห้องต้องเจ็บช้ำ
    ยังจดจำภาพเก่าของเราสอง
    ใจมันแปลบปวดปร่าน้ำตานอง
    ทุกสิ่งของบาดตาอย่างทารุณ
    
    กลางคืนนอนเหว่ว้าน้ำตาไหล
    จะห่มผ้าอย่างไรก็ไม่อุ่น
    หมอนอีกใบยังไม่สิ้นกลิ่นอายคุณ
    ใครจะหนุนกล่อมฉันหลับฝันดี
    
    ก่อนเคยอยู่ร่วมเรียงนอนเคียงข้าง
    ไยมาร้างจนลับคล้ายกับหนี
    สัญญารักซึ่งเคยเอ่ยวจี
    ไม่พ้นปีก็เลือนเหมือนลืมคำ
    
    ห้องที่เคยกรุ่นไปด้วยไอรัก
    สร้างทุกข์หนักเกินฝืนทนกลืนกล้ำ
    เพียงย่างเท้าเข้าห้องต้องระกำ
    เหมือนเท้าย่ำเหยียบขยี้ลงที่ใจ
    
    ...................................
    
    
    ปล. เหลือเวลาอีก 1 ชม. แน่ะ .. อิอิอิ
    
    42.gif
  • สาวบ้านนา

    22 กุมภาพันธ์ 2549 23:28 น. - comment id 13538

    10.gif
    ใจดวงนี้ชินชากับรอยช้ำ
    ใครจะย้ำกี่เจ็บก็เฉยเฉย
    คนไร้ใจไม่มีแล้วรอใครเชย
    มันชาเฉยชอบเงียบงามตามลำพัง
    
    อย่าเยื่อใยเบื่อเบื่อแล้วอยากอยาก
    ตัดใจพรากหาคนใหม่ดั่งใจหวัง
    แทนที่ฉันไปตามฝันอย่าหยุดยั้ง
    คนที่หวังจะดีกว่านะดวงใจ
    
    ฆ่าฉันเสียวันนี้ดีกว่านะที่รัก
    อย่าฝากภักดิ์ให้พลีหลงหวั่นหวามไหว
    ลงมีดเชือดทาเกลือทั้งเนื้อใจ
    แล้วหันหลังลาไปอย่าไยดี
    
    ไม่เสียใจครางครวญรอยหวานเจ็บ
    แค่หนาวเหน็บสาสะใจจบแค่นี้
    ตราบวันตายลมหายใจสุดท้ายที่ฉันมี
    ขออโหสิ..พลีเลือดภักดิ์ทาสรักเธอเพียงชาติเดียว!
  • สาวบ้านนา

    22 กุมภาพันธ์ 2549 23:31 น. - comment id 13539

    10.gif
    ดอกไม้สีดำ..
    
    เมื่อฤดูกาลหวานดอกไม้ได้ผ่านพ้น
    น้ำผึ้งขมก็พล่านพิษให้ประจักษ์
    เสียเวลาเปล่าดายไร้ค่านัก
    พันธนารักแบกตรมตามตราบยามนี้
    
    ดอกไม้สีดำบานกลางใจคอยสั่งสอน
    ให้มองย้อนอย่าซ้ำรอยให้ถอยหนี
    เสียเวลาภาพมายาซึ่งไม่ใช่นะคนดี
    เก็บใจนี้ไว้คว้าดาวอย่าร้าวรอ
    
    เลิกค้นหามายาลมมายาลวง
    มาติดบ่วงมาติดตมมาเพ้อพ้อ
    มาสร้างรอยระกำให้ดวงใจใครไหวรอ
    เลิกเล่นล้อเหลิงลมว่าวให้เศร้าราน
    
    เก็บจิตวิญญาณดวงงามดวงสงบ
    เพื่อค้นพบดาวเดือนดอกไม้หวาน
    อยู่ลำพังกับความเงียบสร้างสรรงาน
    พลีกลอนกานท์เพื่อผองชนกุศลใจ...
  • เรียม

    22 กุมภาพันธ์ 2549 23:35 น. - comment id 13540

    ขอบใจคนดี..ที่ให้บทเรียน......
    
    ขอบใจคนดี สอนให้ เข้าใจโลก 
    ขอบใจ ความโศก หยิบยื่นให้ 
    ขอบใจ แรงฝัน บันดาลใจ 
    ขอบใจ ที่เสแสร้ง แกล้งหลอกกัน 
    
    ขอบใจ ให้หลงรัก ให้ขมขื่น 
    ขอบใจ ฝืนมีน้ำใจ มาให้ฉัน 
    ขอบใจ ที่ทำให้ ใจผูกพัน 
    ขอบใจฝัน ลมลม แล้งแล้งไป 
    
    ขอบใจบทเรียน บทหนึ่ง ของชีวิต 
    ขอบใจ ที่มีสิทธิ์ เข้าชิดใกล้ 
    ขอบใจ ที่หลงรัก และไว้ใจ 
    ขอบใจ คนเรานี้ ที่วกวน 
    
    ขอบใจ..แต่ต้องขอ จำใจจาก 
    จำใจพราก จากไกล ทุกแห่งหน 
    ขอจดจำ บทเรียนนี้ สอนใจตน 
    โลกบางคน ความดียาก ชนะใจ.....
  • วาตยากร

    22 กุมภาพันธ์ 2549 23:36 น. - comment id 13541

    -ลา-
    
    เงยหน้าเห็นหมู่ดาวพราวนภา
    บนดาดฟ้าที่เงียบเหงากับเงาฉัน
    คิดเรื่องย้อนเคยหวานผ่านคืนวัน
    เหมือนความฝันตอนตื่นมาแล้วลาเลือน
    
    แสนสุดเจ็บเมื่อจากไม่อยากจบ
    ยากจะลบในดวงหน้ามากรีดเฉือน
    กี่คำรักเคยเป่าหูกู่ย้ำเตือน
    กลับมาเคลื่อนห่างแล้แท้คำลวง
    
    ยืนโงนเงนเอนร่างไปข้างหน้า
    ปิดดวงตามิขืนแข็งแรงโน้มถ่วง
    ปล่อยมือแล้วทุกสิ่งทิ้งทั้งปวง
    ขอลาล่วงเพื่อพ้นผ่านการเดียวดาย
    
    สายลมเย็นผ่านระปะทะร่าง
    โลกหมุนคว้างดิ่งต่ำลอยคว่ำหงาย
    เหลืออีกเสี้ยวสะท้อนก่อนวางวาย
    คำสุดท้ายในภวังค์ \"ยังรักเธอ\"
    
    65.gif
  • เรียม

    22 กุมภาพันธ์ 2549 23:39 น. - comment id 13542

    10.gif
    หนี้เสน่หา
    
    ชดใช้หนี้เสน่หาแต่ปางก่อน
    ทำให้เธอร้าวรอนด้วยอ่อนไหว
    หนี้เสน่หายอมชดใช้ด้วยหัวใจ
    หมดหนี้ใจชาตินี้หมดสิ้นกัน
    
    หนี้หัวใจ ใช้หัวใจคืน จนเป็นแผล
    หนี้ที่แก้ ที่ล้าง ด้วยใจขวัญ
    ยกให้เธอไปให้หมด แล้วแล้วกัน
    เหลือแค่ฝัน ไว้ชาตินี้ ที่หลอนลวง
    
    หนี้รัก หนี้หัวใจ หนี้สวาท
    อย่าได้พบ ทุกชาติ ให้ห่วงหวง
    ชาติเดียวพอ ขอล้างใจ อย่าตามทวง
    อย่าติดบ่วง เหยื่ออารมณ์ ตรอมตรมใจ
    
    หมดหนี้แล้ว สาใจ แล้วสินะ
    เห็นจะจะ  ล้มละลาย เกินแก้ไข
    เหลือแต่ร่าง รอคืนกลับ ดับดับไป
    ส่วนหัวใจ แหลกเป็นธุลี อยู่ที่ใต้..ฝ่าเท้าเธอ
  • เรียม

    22 กุมภาพันธ์ 2549 23:49 น. - comment id 13543

    เปิดประตูภายในเพียงชั่วครู่
    รู้ทั้งรู้ไม่นานลงดาลปิด
    ก้าวเข้ามาฝากรอยน้ำผิ้งพิษ
    ให้สนิทเจ็บเศร้าราวชั่วกาล..
    
    โลกลวงหลอนย้อนรอยเจ็บวนซ้ำซ้ำ
    ยิ่งระกำยิ่งเสียใจในรอยผ่าน
    ก้าวใจนี้ที่ผิดรอยเจ็บอีกนาน
    ราวประหารชีวีวายตายทั้งเป็น!
    
    สะดุดคำสะดุดใจจึงต้องเจ็บ
    มันหนาวเหน็บถึงกระดูกดำย้ำรอยเห็น
    จิตวิญญาณผ่านปาฏิหารย์รักเชื่อใจเต้น
    ใจย้ำเป็นเช่นคืนฝันวันผ่านมา..
    
    เมื่อหน่วงหนักหนาวเหน็บเจ็บใจก็หยุดฝัน
    ก้าวสั้นสั้นก้าวยาวยาวหนาวเหว่ว้า
    เกิดแล้วดับรู้กับใจยอดชีวา
    ดับเสน่หาดับง่ายดาย..เพราะตายแล้ว!ตายทั้งเป็น!
  • สติแตก

    22 กุมภาพันธ์ 2549 23:53 น. - comment id 13544

    เจ็บอกกว่าตกตาล
    
    
    ปีนต้นตาลหวังชิมอยากลิ้มรส
    น้ำตาลสดว่าหวานสักปานไหน
    มิหวาดหวั่นความสูงมุ่งขึ้นไป
    แต่พอได้รู้รสหวานซ่านซึ้งทรวง
    
    ช่างหอมหวนชวนให้หัวใจปลื้ม
    เพียงได้ดื่มสุขแสนถึงแดนสรวง
    เพราะเพลิดเพลินไปเกินไม่จับงวง
    ร่างจึงร่วงเผลอหล่นตกต้นตาล
    
    ตูดกระแทกมันจุกลุกไม่ขึ้น
    สมองมึนนั่งงงน่าสงสาร
    แสนเจ็บปวดทุกข์ทนทรมาน
    แค่สังขารแตกหักไม่ยักตาย
    
    เจ็บครั้งใดไหนเล่าจะเท่านี้
    ดวงฤดีแหลกยับดับสลาย
    ร้าวระทมสิ้นพลังทั้งใจกาย
    รักมลายชอกช้ำเพราะคำลา
  • ท่องเมฆา

    22 กุมภาพันธ์ 2549 23:55 น. - comment id 13545

    ลืมคนเลว
    
    \" ที่ผ่านมาฉันแค่เผลอจึงเพ้อพก
    อย่ามายกข้อผูกพันจนขวัญหาย
    สิ้นสุดกันวันนี้ไม่เสียดาย
    ไปหาชายคนเก่าที่เฝ้ารอ \"
    
    ฉันฝืนใจเอ่ยคำอย่างช้ำชอก
    ฝืนเอ่ยบอกจำตัดใจรู้ไหมหนอ
    ใจมันแหลกเกินถ้อยคำน้ำตาคลอ
    เอ่ยเอื้อนหมดใจทดท้อทรมาน
    
    เธอเคยรู้บ้างไหมว่าใจฉัน
    เคยรำลึกถึงวันร่วมฝันหวาน
    รู้บ้างไหมเหตุใดไยร้าวราน
    ไหมสำรอกพันธนาการเพื่อสิ่งใด
    
    ฉันทำเพื่อเธอคนเดียวอยากให้รู้
    ทำเป็นแกล้งตัดโฉมตรูแล้วหวั่นไหว
    เพื่อให้เธอสมหวังดังตั้งใจ
    เธอจะได้ลืมคนนี้ที่มันเลว
  • ม้าลาย

    22 กุมภาพันธ์ 2549 23:55 น. - comment id 13546

    เสียงเพลงเก่าเคยฟังยังจำได้
    เปลวเทียนไหวเงาวาบย้อนภาพฝัน
    บรรยากาศพาไปในคืนนั้น
    สร้างเรื่องราวสารพันจนคืนนี้
    
    หันมองกลับนับร้อยก้าวรอยเท้า
    พานพบสุขผสานเศร้าผสมสี
    ระบายรูปหัวใจได้พอดี
    ตราบเรามีกันและกันตามสัญญา
    
    มรสุมมากมายในชีวิต
    เปลี่ยนความคิดให้ละดีเพื่อดีกว่า
    แรงคลื่นแรงลมพัดสาดซัดมา
    ลบศรัทธา-ความหวังหมดทั้งใจ
    
    ลบรอยเท้าบนผืนทรายเลือนหายลับ
    เหงาอยู่กับคืนวันอันหวั่นไหว
    คงมีเพียงเสียงเพลงบรรเลงไป
    ไม่มีใครกลับบ้านแล้ววันนี้
  • ป้าหมู

    23 กุมภาพันธ์ 2549 00:14 น. - comment id 13547

    สมชื่อ
    กระทู้ 108 ข้อความจริงๆ  หลากหลายลีลา  ฮี่ฮี่........
    41.gif41.gif
  • หยาดอรุณ

    23 กุมภาพันธ์ 2549 00:22 น. - comment id 13548

    เย้ ...
    ในที่สุด วินาทีสุดท้ายก็ผ่านไปได้
    
    หลากหลายอารมณ์จริงๆ เลย นั่งเฝ้ารออ่านงานของใครๆ แล้วได้เรียนรู้อะไรเยอะเลย
    
    กรรมการจะปวดหัวไหมหนอ ...
    งานแบบนี้สนุกดีนะคะ คุณทัด
    จัดอีกบ่อยๆ นะคะ ...
    
    สิงคารรส ... รสของวรรณศิลป์ อิอิ
  • หยาดอรุณ (แดดเช้า)

    24 กุมภาพันธ์ 2549 07:51 น. - comment id 13559

    ขอบคุณคุณทัด ที่นำหลักการเขียนและข้อสังเกตในงานมานำเสนอ เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างงาน
    
    แต่อยากจะรบกวนคุณทัด ช่วยแนะนำเกี่ยวกับการสร้างอารมณ์ให้กับการเขียนร้อยกรองหน่อยน่ะค่ะ  ถึงแม้ว่า เราจะเขียนกลอนถูกฉันทลักษณ์ ใช้คำตรงความหมาย กลอนไม่พาไป คือ คุมเรื่องได้แล้ว สิ่งสำคัญที่เรามักจะขาดไป ก็คือ อารมณ์กลอน
    
    จะเขียนกลอนให้สะเทือนอารมณ์ได้อย่างไร?
    คุณทัด พอแนะแนวทางได้บ้างไหมคะ ...
    อารมณ์กลอนเป็นสิ่งที่เป็นปัญหามากเลยสำหรับการเขียนงานของเรา แบบว่า เป็น นารีไร้ใจ อะค่ะ 
    
    ขอบคุณค่ะ : )
  • หยาดอรุณ (แดดเช้า)

    24 กุมภาพันธ์ 2549 08:47 น. - comment id 13560

    โห... ไม่ใช่ง่ายๆ เลยนะเนี่ย
    
    คุณทัด พอแนะนำวิธีการดำเนินเรื่องในบทร้อยกรองได้บ้างไหมคะ
    
    จะดำเนินเรื่องแบบเรื่องสั้นได้ไหม 
    มีการปูพื้น ดำเนินเรื่อง ปมปัญหา คลายปม แล้วจบลง 
    
    ในข้อจำกัดเพียงวรรคละ 8  คำ และยังจะต้องสะเทือนอารมณ์อีก ยังจะต้องเลือกเฟ้นคำอีก ไหนจะต้องคิดเทคนิคภาพรวมอีก
    
    เรื่องของเทคนิคการดำเนินเรื่อง นี่ก็สำคัญนะคะ ... คุณทัด พอมีข้อมูล หลักการ ความรู้ หรือความคิดเห็นดีๆ มาเสนอแนะไหมคะ ถือว่า เป็นวิทยาทาน และช่วยเด็กตาดำๆ ที่ยังไม่รู้แนวทางเลยอะค่ะ
    
    เผื่อจะได้ฝึกฝนบ่อยๆ 
    
    แต่ก็ อะนะ ... แค่รู้อย่างเดียว ไม่ลงมือฝึกฝน ไม่ลงมือทำ ไม่รู้จักแก้โจทย์ ทักษะก็เกิดขึ้นไม่ได้เนาะ
    
    จึงต้องอาศัยทั้งทักษะ และ ความรู้
    
    แหม ... ยากจัง แต่คงไม่เกินความพยายามเนาะ ไม่งั้นกวีดีๆ นักเขียนดีๆ จะเกิดขึ้นได้ยังไง ตั้งมากมาย
    
    ขอบคุณค่ะ คุณทัดหทัย
  • ทัดหทัย

    24 กุมภาพันธ์ 2549 08:14 น. - comment id 13561

    ไปลอกมาจาก http://www.sk.ac.th/club/Web%20T.Chutima%20New/Mainmenu.htm
    
    เพื่อจะบอกว่า การเขียนร้อยกรองนั้นไม่ได้อาศัยแค่การรู้ผังบังคับ
    
    แต่ต้องศึกษาอีกหลายๆ เรื่อง ทั้ง คำ ธรรมชาติ ฯลฯ
    แล้วจึงร้อยเรียงให้สื่อสารตามที่ต้องการ
    
    
    65.gif
  • ...หม่อมเจ้า...

    24 กุมภาพันธ์ 2549 09:36 น. - comment id 13562

    เฮ้ออออ อ่านเเล้วเหนื่อยจัง เเต่เราว่ากว่าจาทำได้อย่างนั้นนะ ต้องรู้จักคำเยอะมากๆเลยเนอะ ที่เราเขียนไปมันตรงกับที่เค้าเขียนไว้ตรงข้อบกพร่องทุกอันเลยอ่ะ ^^\" 
    
    
    เเต่ว่า คุณ ทัดหทัย คับ ถ้าเราจาเขียนกลอนเเบบเล่าเรื่องอ่ะงับ ต้องใช้คำตรงไปตรงมาด้วยไหมคับ บอกทีน้า พอดีเราเพิ่งเริ่มสนใจเองอ่า... ช่วยนะค้าบบ
    
    
    ยังงัยก็ขอขอบคุณมากเลยคับที่เอาคำเเนะนำเเล้วข้อบกพร่องที่ผิดมาให้ดู เเล้วไว้จาปรับปรุงคับ 29.gif29.gif29.gif29.gif29.gif29.gif29.gif
  • ปัจฉิมคลั่ง

    24 กุมภาพันธ์ 2549 12:54 น. - comment id 13564

    ถึง :คุณทัดหทัย (ที่รัก) อิ,อิ
      ข้าพเจ้ามีความ61.gif เสียดายและเสียใจเป็นยิ่งนักที่ไม่ทราบมาก่อนว่าจะมีกิจกรรมดี-ดีแบบนี้.. 
      ณ บรรทัดนี้ ข้าพเจ้าต้องการหรือกระสันอย่างยิ่งที่จะให้คุณพี่ทัดหทัยสุดหล่อมาดแมนฯลฯ ผลักดันและดันๆให้มีอีกรอบที่สอง,ที่สาม..และรอบเรื่อยๆ10.gif ครั้งต่อไปข้าพเจ้าและเหล่าจอมยุทธผู้พิสุทธิ์พเนจรจะนั่งรอเพื่อจิบเหล้าองุ่นเปรี้ยวๆหวานๆ ที่ใจกลางกระท่อมและเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างเงียบๆ เผื่อว่าคุณพี่ทัดหทัยจะเห็นใจ(บ้าง) ..... 59.gif  แด่ รอบที่สอง ....
  • ทัดหทัย

    24 กุมภาพันธ์ 2549 16:50 น. - comment id 13567

    ตามเว็บหลายๆ แห่งก็มีคำอธิบายถึงหลักการเขียนนะ
    แค่จะลองขวนขวายไปหาอ่านกันคงไม่ถึงกับเหลือบ่ากว่าแรง
    หรือจะเริ่มด้วยการอ่านวรรณกรรมดีๆ ให้มากก็ยังได้
    นักเขียนชื่อดังคนไหนๆ ก็มีพื้นฐานมาจากการเป็นนักอ่าน
    เหมือนการที่เราฟังเพลงบ่อยๆ แล้วร้องเพลงที่ฟังได้
    
    ส่วนเสียงเชียร์ให้มีกิจกรรมนี้อีก
    ขอถามกลับนิดเดียวว่าใครจะเอื้อเฟื้อของรางวัล
    และที่สำคัญใครจะช่วยผมหากรรมการมาตัดสิน
    
    54.gif24.gif
  • ทัดหทัย

    24 กุมภาพันธ์ 2549 20:43 น. - comment id 13573

    ความคิดเห็นที่ 41
    ความคิดเห็นที่ 49 
    ความคิดเห็นที่ 60 
    ความคิดเห็นที่ 93 
    ความคิดเห็นที่ 105 
    
    คือ 5 ชิ้นที่กรรมการเลือก
  • หยาดอรุณ

    24 กุมภาพันธ์ 2549 21:28 น. - comment id 13574

    กรี๊ด ...
    เก็ง งานของคุณ พระรอง ไว้ 
    ได้เข้ารอบด้วย ... มาเชียร์ๆ
    
    เย่ๆๆๆ
    
    แหะ แหะ ... แต่ว่า คัดเลือกแบบผิดความคาดหวังมากๆ เลยนะคะ : )
  • bluepebble

    24 กุมภาพันธ์ 2549 21:39 น. - comment id 13575

    มาเชียร์พี่รุ่ง กะคุณ บินเดี่ยวหมื่นลี้ ความเห็นที่ 60 ค่ะ โดนใจมากๆ 
    อ่านแล้วน้ำตาจะหยดเลย 66.gif
    
    มาฝากเนื้อฝากตัวค่ะ 29.gif
  • สีน้ำฟ้า

    24 กุมภาพันธ์ 2549 21:57 น. - comment id 13576

    11.gif
  • กวีปกรณ์

    24 กุมภาพันธ์ 2549 22:22 น. - comment id 13578

    โหวันนี้ดวงไม่ดีเลย...7.gif
    
    ทักษิณตกเก้าอี้...19.gif
    
    ตัวเองจะอกหักแหล่ไม่อกหักแหล่...10.gif
    
    งานไม่เข้ารอบ...66.gif
    
    แต่เข้ามาขอแสดงความยินดีกับผู้เข้ารอบทุก ๆ เลยนะคับ
    
    สมแล้วกับการได้ถูกคัดเลือกโดนใจกันทู้กกกคน6.gif
  • ...หม่อมเจ้า...

    24 กุมภาพันธ์ 2549 22:45 น. - comment id 13579

    เเต่ละคนที่ได้รับรางวัลเเต่งได้ดีเยี่ยมเลยงับ ขอนับถือจิงๆ29.gif29.gif29.gif เราคงมะมีความสามารถขนาดนั้นหรอกงับ เฮ้อออ..
    
    
    เเต่ก้ขอเเสดงความยินดีกับทุกคนที่ได้รับคัดเลือกนะงับ ราตรีสวัสดิ์งับ1.gif1.gif1.gif1.gif
  • ทัดหทัย

    25 กุมภาพันธ์ 2549 08:43 น. - comment id 13580

    การเมืองมีผลกระทบต่อการตัดสินของกรรมการจนได้
    
    ไม่ได้หมายความว่าเป็นการตัดสินตามใบสั่งหรอก
    แต่เมื่อเย็นวานที่เริ่มมีข่าวออกมาว่าจะมีการยุบสภา
    วงชุมนุมที่จะเป็นวงประชุมตัดสินงานนี้ก็กระจุยกระจาย
    
    กอนกูยปรึกษากับผมว่าจะทำยังไงดี
    ที่สุดก็ตกลงกันว่าให้กอนกูยนั่นแหละตัดสิน
    และด้วยเวลาที่เหลือจำกัด
    กอนกูยก็เลือกงานออกมา 5 ชิ้น
    แล้วบอกว่าให้ผมเลือกด้วยกับให้ผมชี้ขาด
    ตรงนี้ผมปฏิเสธ
    เพราะการบอกไปก่อนแล้วว่าจะไม่ขอมีส่วนในการตัดสิน
    แม้เป็นสามัญชนก็ควรรักษาวาจาสัตย์ 35.gif
    
    รอกันอีกนิด
    สำหรับคำแถลงอย่างเป็นทางการของกรรมการ
    
    แต่บอกคร่าวๆ ไว้ก่อนว่า
    กอนกูยบ่นอุบเลยว่าตัดสินใจยากมาก
    มีงานหลายชิ้นที่เขาอยากเลือกเข้ามาด้วย
    แต่ขอต่อรองว่าเลือก 10 ชิ้นให้ผมมาตัดเหลือ 5 ไม่สำเร็จ
    
    สิ่งสำคัญที่อยากบอกคนที่ไม่ติด 1 ใน 5
    ก็คืออย่าไปยึดติดกับผลการตัดสินจนเกินไป
    นี่คือปัญหาที่ผมบ่นมาก่อนแล้วว่าใครจะช่วยผมหากรรมการ
    เนื่องจากงานไหนก็งานนั้น มีคนคิดต่างเสมอ
    
    เจตนารมณ์ของการร่วมกิจกรรมนี้
    ควรเป็นการใช้โอกาสในการเติมความตั้งใจ
    และฉวยโอกาสศึกษาข้อดีข้อด้อยของตนเองกับคนอื่นไปพร้อมๆ กัน
    เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนางานเขียนต่อไป
    
    
    
    36.gif16.gif36.gif16.gif36.gif16.gif36.gif16.gif36.gif
  • หยาดอรุณ (แดดเช้า)

    25 กุมภาพันธ์ 2549 09:01 น. - comment id 13581

    น่านจิ ..
    เห็นใจกรรมการด้วยอะ
    
    เพราะว่า งานหลายชิ้นที่เก็งไว้ว่า เข้าขั้นดี แต่ทำไมไม่ติด 1 ใน 5
    
    แหม ... อุตส่าห์ลุ้นตัวเก็งไว้ตั้ง 3 - 4 คน ติดแค่คนเดียว (แอบให้คะแนนในใจนะ)
    
    แถมยังมี \"ม้ามืด\" เข้ามาได้อีกแน่ะ ... น่าอัศจรรย์ใจ
    
    อะนะ .. อะไรๆ ก็ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังได้เสมอเลย
    
    คุณทัด จัดอีกนะ ... เรื่องของรางวัลน่ะ ไว้ให้เรารวยๆ ก่อน เราจะช่วยสนับสนุน มีเงินเยอะๆ ก็อยากเอามาทำประโยชน์ให้สังคมมั่ง ขอให้ถึงวันนั้นก่อนนะ : )
    
    ส่วนเรื่องของการจัดหากรรมการ ... ยังอยู่เหนือวิสัยจ้ะ 
    
    รอลุ้นรางวัลพิเศษถูกใจกรรมการ .... หวังว่า จะไม่มีการยุบรางวัลเหมือนยุบสภานะจ๊ะ
  • สุกรวดี

    25 กุมภาพันธ์ 2549 10:00 น. - comment id 13582

    เข็นอาการ\"อกหักปลอมๆ\"มาร่วมสนุก
    จนติดกลุ่ม 1 ใน 5 ก็ดีใจค่ะ
    ขอขอบคุณเพื่อนๆ ที่ร่วมแสดงความยินดี
    ส่วนหลายๆท่านที่ไม่ \"เข้ารอบ\"ก็เอาใจนะคะ
    ในโอกาศหน้ายังมีค่ะ
    
    ขอขอบคุณ\"กรรมการ\"และคุณทัดหทัย
    ที่จัดให้มี\"กิจกรรม\" ทำให้มีโอกาสได้แสดงออก
    ขอบพระคุณค่ะ
    36.gif36.gif
  • ทัดหทัย

    24 กุมภาพันธ์ 2549 08:07 น. - comment id 13584

    ชวน  เพชรแก้ว(2519 : 77)  กล่าวว่า  กวีโวหาร  คือ  การใช้ชั้นเชิงในการแต่งให้มีรสของถ้อยคำลึกซึ้ง  กินใจโดยมุ่งเอาความรู้สึกด้านอารมณ์เป็นสำคัญ  ส่วนประจักษ์  ประภาพิทยากร(2525 : 167)  กล่าวว่า  กวีโวหารคือการที่กวีกล่าวอย่างเลียบเคียงไม่กล่าวอย่างตรงไปตรงมา  ทั้งนี้เพื่อให้ถ้อยคำนั้นน่าฟังหรือสะดุดใจ  และรู้สึกสะเทือนอารมณ์เป็นสำคัญ
    
                       การประเมินผลงานเขียนร้อยกรองในด้านกวีโวหาร  หมายถึง  การพิจารณางานเขียนร้อยกรองที่มีความไพเราะ  สร้างความประทับใจและให้จินตนาการด้วยวิธีต่างๆ  เช่น  การใช้คำอุปมาอุปไมย  การทำให้เกิดภาพพจน์หรือแนวความคิด  ความสอดคล้องหรือลีลาของเสียงของคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง  และความสละสลวย
    
                       การใช้คำอุปมาอุปไมย  คือ  การกล่าวเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งกับสิ่งหนึ่งเพื่อให้เกิดความเข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น  ชวน  เพชรแก้ว (2519 : 36)  กล่าวถึงอุปมาอุปไมยไว้ว่า  คือ  การเปรียบเทียบของสองสิ่งทั้งในด้านความเหมือนหรือความแตกต่าง  อุปไมย  คือเนื้อความความที่ต้องการกล่าวอุปมา  คือ  สิ่งที่นำมากล่าวเปรียบ  มักใช้คำเชื่อมระหว่างอุปไมยและอุปมาว่า  ดัง  กล  เช่น  เหมือน  เปรียบ  ดุจ  เพียง  ฯลฯ  เช่น
    
                       แล้วว่าอนิจจาความรัก                          เพิ่งประจักษ์ดังสายน้ำไหล
    
    (ความรัก -  อุปไมย  สายน้ำไหล -  อุปมา)
    
                       อันร้อยรสบุปผาสุมาลัย                         จะชื่นใจเหมือนสตรีไม่มีเลย
    (บุปผาสุมาลัย  อุปมา  สตรี  อุปไมย)
    
                       การทำให้เกิดภาพพจน์หรือแนวคิด  คือ  การใช้ถ้อยคำที่ทำให้เกิดภาพในจิต  หรือจินตภาพ  หมายถึง  ภาพที่ปรากฏในจินตนาการ  หรือในความรู้สึกของบุคคลตามที่บุคคลนั้นๆ  เคยประสบมา  การเกิดภาพในจิตหรือภาพพจน์นี้มีคุณค่ามากในด้านที่แสดงถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง  เช่น  เดียวกับการเกิดแนวความคิด  ซึ่งอาจเป็นแนวคิดเกี่ยวกับสัจธรรมในการดำเนินชีวิต  ความยุติธรรม  ความซื่อสัตย์สุจริต  เช่น
    
    ร้อยกรองที่ทำให้เกิดภาพพจน์
    
                       ผีเสื้อสวยแต้มสีที่กลีบแก้ม                   ชมพูแย้มแดงระยับสลับม่วง
    
    ก้านเกสรอ่อนฉ่ำน้ำผึ้งรวง                                       หยาดหยดพวงพุ่มระย้าจากคาคบ
    
    (เนาวรัตน์  พงษ์ไพบูลย์  2530 : 14)
    
    ร้อยกรองที่ทำให้เกิดแนวความคิด
    
                       ฟังต้นไม้สายน้ำย้ำให้หยุด                     หยดเสียทีเถิดมนุษย์หยุดสะสม
    
    หยุดปรุงแต่งแสร้งตามความนิยม                            สร้างสังคมโสโครกโลกจึงร้อน
    
                                                                                    (เนาวรัตน์  พงษ์ไพบูลย์  2530 : 18)
    
                       ความสอดคล้องหรือลีลาของเสียงของคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง  หมายถึง  ความไพเราะในด้านเสียงสัมผัส  เสียงวรรณยุกต์  ซึ่งเมื่อนำมาใช้อย่างเหมาะสมก็จะทำให้บทร้อยกรองไพเราะยิ่งขึ้น  เสียงในคำประพันธ์ไทย  เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บทกวีนิพนธ์มีค่าและน่าอ่านมากขึ้น  ซึ่งสอดคล้องกับภาษาที่มีวรรณยุกต์และมีเสียงสั้นเสียงยาว  เช่นภาษาไทยเป็นภาษาที่ได้เปรียบในการแต่งร้อยกรองเป็นอย่างยิ่ง  กวีไทยได้หยิบยกความได้เปรียบนี้มาใช้อย่างมีศิลปะ  ทำให้ร้อยกรองไทยมีลักษณะเด่นในเรื่องเสียง  ซึ่งยากที่จะแปลหรือถ่ายทอดเป็นภาษาอื่นได้อย่างครบถ้วน  ตัวอย่างบทร้อยกรองที่มีความสอดคล้องของเสียงของคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง  เช่น
    
                        ดูน้ำวิ่งกลิ้งเชี่ยวเป็นเกลียวกลอก      กลับกระฉอกฉาดฉัดฉวัดเฉวียน
    
    บ้างพลุ่งพลุ่งวุ้งวงเหมือนกงเกวียน                         ดูเวียนเวียนคว้างคว้างเป็นหว่างวน  
    
                       (นิราศภูเขาทอง 2527 : 204)
    
                       ความสอดคล้องและลีลาของเสียงของคำที่ใช้ในบทร้อยกรองบทนี้ไว้ว่า  เมื่ออ่านสองคำกลอนนี้ดังๆแล้ว  เราจะได้ยินน้ำเสียงเชี่ยวที่ไหลวนเป็นเกลียวคะคว้าง  แล้วกลับกระฉอกกระทบสองข้างลำเรือดังฉาดฉัด  เสียง/กล/และ/กร/กล้ำในคำกลิ้ง  เกลียว  กลอก  กลับ  กระ  ซึ่งดังเป็นน้ำเสียงกลั้วในลำคอ  ให้ความรู้สึกที่สมจริงสมจังกับเสียงจริงๆของน้ำที่กลิ้งเชี่ยวอยู่สองข้างลำเรือ  ยิ่งมีเสียง / ฉ / และ / ฉว /  ในคำ  เชี่ยว  ฉอก  ฉาด  ฉัด  ฉวัด  เฉวียน  ควบอยู่ด้วย  ยิ่งเป็นการเพิ่มพลังดันของน้ำที่เชี่ยวนั้นให้ฟังดูรุนแรงยิ่งขึ้น  ครั้นมีเสียง / พล / ในคำ  พลุ่ง  พลุ่ง  มาเสริมด้วยแล้วความรุนแรงของภาวะน้ำไหลเชี่ยวและเสียงที่ดังนั้นไม่เป็นที่น่าสงสัย  เสียง / คว / กว / และ / ว /  ไปคำคว้าง  เกวียน  และหว่าง  วน  ให้ภาพการหมุนเป็นวง  สวมรับกับเสียงและความหมายของคำ เวียน  นอกจากนี้เสียงตัวสะกดแม่/ กง / ในคำ วิ่ง พลุ่ง วุ้ง วง  กง คว้าง หว่าง  ยังให้ภาพวนเป็นวง  ซึ่งก็กลมกลืนกับเสียงตัวสะกดแม่ / กน / ในคำเฉวียน  เกวียน  เวียน  วน  ทำให้ภาพน้ำซัดที่ดังฉาดฉัดนั้นเป็นจังหวะที่สม่ำเสมอสมดุลให้ภาพการไหลวนและซัดสองข้างลำเรือของน้ำ  เป็นภาพที่มีระเบียบจังหวะจะโคนที่กลมกลืนมิใช่ยุ่งเหยิงไม่เป็นส่ำ
    
                       ความสละสลวย  คือ  ความไพเราะกลมกลืนของเสียง  และจังหวะของคำซึ่งเกิดจากความเหลื่อมล้ำของเสียงวรรณยุกต์  และเสียงสัมผัส  ความงามความไพเราะของกาพย์กลอนหรือร้องกลอนนั้นอยู่ที่เสียงกับจังหวะของคำเป็นสำคัญ  เสียงคือความเหลื่อมล้ำต่ำสูงของน้ำหนักแห่งเสียงของคน  จังหวะคือท่วงทำนองของกลุ่มคำที่จัดวางไว้เป็นวรรคตอน  หรือช่วงคำนั่นเอง
    
    ตัวอย่างบทร้อยกรองที่มีความไพเราะกลมกลืนกันของเสียงและจังหวะของคำ  เช่น
    
                        หนาวน้ำค้างกลางคืนสะอื้นอ้อน       จะกางกรกอดน้องประคองขวัญ
    
    เอาดวงดาราระยับกับพระจันทร์                              ต่างช่อชั้นชวาลาระย้าย้อย 
    
    (นิราศอิเหนา 2527 : 198)
    
                       ได้วิจารณ์ความไพเราะกลมกลืนกันของเสียงและจังหวะของคำของกลอนบทนี้ไว้ว่า  กลอนบทนี้ทุกวรรคจะเล่นเสียงเล่นน้ำหนักคำได้ไพเราะยิ่ง  เช่น  เล่นเสียงตรีกับเสียงเอกดังคำที่ว่า  ระยับกับพระจันทร์  คำระยับและคำพระเป็นเสียงตรี  มีเสียงกับเป็นเสียงเอกที่สอดตัดขึ้นมาอย่างได้น้ำหนักยิ่ง  โดยไปทอดลงด้วยคำว่าจันทร์  ที่เป็นเสียงสามัญ  คำว่า  ช่อชั้น  ซึ่งเป็นเสียงโทกับเสียงตรี  ทำให้เสียงนิ่มนวล  แผ่วลงด้วยเสียงกลาง  คือ  ชวาลา  แล้วทอดลงด้วยเสียงตรี  ซ้ำถึงสามพยางค์  คือระย้าย้อย  เรียกว่า  จบลงอย่างแผ่วกระซิบ  ดั่งทำนองเพลงที่มีลีลาสมบูรณ์
    
    ลักษณะข้อบกพร่องในด้านกวีโวหาร  มีดังนี้
    
    1.      ใช้อุปมาอุปไมยไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกต้อง  เช่น  ผมเธอดำเหมือนน้ำค้างในกลางดึก  ผมดำ  มักใช้เปรียบเทียบกับขนกาน้ำ  หรือความมืดในเวลากลางคืน  ไม่ควรเปรียบกับน้ำค้าง
    
    2.      การทำให้เกิดภาพพจน์หรือแนวคิดที่ผิดไปจากความเป็นจริง  หรือที่ควรจะเป็น  เช่น
    
    หางนกยูงเลื้อยระดะระริมรั้ว  ให้ภาพที่ผิดไปจากความเป็นจริง  เพราะดอกหรือต้นหางนกยูงไม่ใช่พันธุ์ไม้เลื้อย  หรือให้แนวคิดที่ผิดไปจากที่ควรจะเป็น  เช่น  
    ในโลกนี้มีอะไรไม่เที่ยงแท้  ทั้งเกิดแก่เจ็บตายล้วนคงมั่น  เป็นแนวคิดที่ขัดกับความจริงที่ว่า  ในโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน
    3.      ความสอดคล้อง  หรือลีลาของเสียงของคำ  ไม่สร้างความไพเราะแก่บทร้อยกรอง  เพราะขาดความประณีตในการเลือกใช้คำที่มีเสียงสัมผัสเสียงวรรณยุกต์ที่เหมาะสม  เช่น
                         สายหยุดพุดจีบจีน                             เจ้ามีสินพี่มีศักดิ์
    ทั้งวังเขาชังนัก                                                        แต่พี่ชอบเจ้าคนเดียว 
                       คำว่า ชอบ ในวรรคสุดท้ายใช้คำสุดท้ายไม่เหมาะสม  ทำให้ขาดจังหวะแห่งความสอดคล้องของเสียงของถ้อยคำ  ถ้าเปลี่ยนจาก  ชอบ  มาเป็นคำว่า  รัก  ก็จะได้ความไพเราะขึ้นในด้านความสอดคล้องของเสียงของคำ
    4.      ขาดความสละสลวย  คือ  ความไพเราะกลมกลืนกันของเสียงและจังหวะของคำ  เช่น
                       ปลูกต้นไม้คนละต้นถนนร่มรื่น       ความสดชื่นย่อมบังเกิดประเสริฐหนา
    ต้นไม้ให้ร่มเงาและคุณค่า                                   ขอจงมาปลูกกันทุกวันเอย
                       จะเห็นว่าเมื่ออ่านออกเสียงแล้วจะขาดความไพเราะ  รู้สึกตะกุกตะกัก  และมีลักษณะเหมือนกลอนพาไป  และมีข้อบกพร่องคือวรรคที่หนึ่ง 1 คำเกิน วรรคที่ 3 ผิด  เสียงวรรณยุกต์  วรรคที่ 2 และ 4 เป็นข้อความธรรมดาไม่น่าสนใจ  หากแก้ไขใหม่ให้สละสลวยขึ้นก็จะได้ดังนี้
    
                        ต้นไม้คือมิตรแท้แก้มลพิษ            ชุ่มชื่นจิตเพราะร่มรื่นชื่นหรรษา
    ให้ประโยชน์เหลือล้นคณนา                               ขอจงมาปลูกต้นไม้เพราะให้คุณ 
    
                       ในด้านการนำเสนอ  หมายถึง  การพิจารณาการประกอบรายละเอียดต่างๆที่เป็นส่วนประกอบของบทร้อยกรอง  เพื่อโน้มน้าวหรือทำให้ผู้อ่านไปถึงจุดมุ่งหมายที่ผู้เขียน  วางไว้ไม่ว่าจะเป็นจุดมุ่งหมายอย่างเป็นการจูงใจ  หรือโดยจิตใต้สำนึกก็ตาม  ในบทร้อยกรองชิ้นหนึ่งๆผู้เขียนจะใช้การนำเสนอต่างๆกันไป  อาจประสมประสานการนำเสนอหลายๆวิธีเข้าด้วยกัน  แต่ละคนจะมีวิธีการที่คิดค้นขึ้นมาเป็นการเฉพาะตัว  หรือประยุกต์  หรือเลียนแบบมาจากวิธีการที่เคยมีผู้ใช้อยู่เสมอ  ไพลิน  รุ้งรัตน์ (2525 : 71  74)  กล่าวถึงวิธีการนำเสนอของบทร้อยกรองสรุปได้ดังนี้
    
    1.      ใช้การสร้างภาพ  หมายถึง  การที่ผู้เขียนใช้ ภาพ เป็นเครื่องมือในการสื่อเน้นเนื้อหาของบทร้อยกรอง  อาจใช้ภาพที่เป็นจริง  เช่น   จับเคียวค้างวางลงเถิดลุงป้า   แสดงให้เห็นว่าลุงและป้านั้นจับเคียงรอฝนมานานแล้ว  อาจใช้ภาพโดยจินตนาการและภาพนามธรรม  เช่น   ตัวจะกินตัวเองไปทุกวัน  ซากเผ่าพันธุ์นี้ชื่อประชาชน 
    
    2.      ใช้สัญลักษณ์  หมายถึง  การใช้สิ่งหนึ่งแทนอีกสิ่งหนึ่ง  สัญลักษณ์อาจเป็นคำเดียว  หรือเป็นข้อความ  เป็นวิธีการหลีกเลี่ยงการกล่าวอย่างตรงไปตรงมา  เช่น  
    
           ทั้งนกเขาไฟป่าบินหลาล้อม  เจ้าขุนทองก็อยู่พร้อมนกสีเหลือง   นกเขาไฟ  และบินหลาเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่หลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม  นกขุนและนกสีเหลืองเป็น  
    
           ตัวแทนของคนรุ่นใหม่ ยุค 14 ตุลาคม 
    
    3.      เสนอความคิด  หรือความรู้สึกจากผู้เขียนถึงผู้อ่านโดยตรง  หมายถึง  การเขียนบทร้อยกรองเป็นสื่อแทนความคิดของกวีที่ค่อนข้างรวดเร็ว  ฉับไว  และมักจะเขียนสั้นๆตรงไปตรงมา  เช่น   ถ้าเธอไม่ก้าวไปไขว่คว้า  วันพรุ่งนี้ก็ไม่มีวันมาถึง 
    
    42.gif
  • แทนคุณแทนไท

    25 กุมภาพันธ์ 2549 15:31 น. - comment id 13587

    อ่านเพลินเลยครับคุณทัดหทัย เป็นกำลังใจสำหรับความตั้งใจดีครับ...
    
    คุณทำบ้านกลอนมีสีสัน น่าอยู่ขึ้นอีกโข1.gif
  • ทัดหทัย

    26 กุมภาพันธ์ 2549 17:03 น. - comment id 13589

    ดีจังเลย  ที่ไม่มีใครทวงรางวัล
    ไม่ถามด้วยซ้ำว่ารางวัลคืออะไร
    แปลว่ารางวัลไม่สำคัญเท่าการได้มีส่วนร่วม
    
    แต่ไหนๆ ก็บอกแล้วว่าจะให้
    รบกวนเจ้าของผลงานที่กรรมการเลือก
    ส่งชื่อ-ที่อยู่ไปที่ blueplanet@siamletter.com ด้วย
  • นางสาวใบไม้

    27 กุมภาพันธ์ 2549 15:20 น. - comment id 13592

    
    มาร่วมแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลทั้ง 5 ชิ้นงานค่ะ  และส่งการบ้านตามที่รับปากเจ้าของกระทู้  พี่ชาย  ทัดหทัย  ไว้  อย่างไรก็ตามก็ต้องขออภัยที่คงลงเป็นตอนๆไปเนื่องจากเวลากระชั้นเหลือเกิน  ทั้งนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่า  บทความชิ้นนี้คงเป็นประโยชน์  และเป็นแนวทางในการศึกษาเกี่ยวกับเขียนบทร้อยกรอง  หากความชอบอันใดที่พึงมีผู้เขียนขอรับไว้ด้วยความยินดี  ส่วนความผิดใดๆที่พึงมี(เช่นกัน)นั้นขอยกให้พี่ชายทัดหทัย  ด้วยความเคารพ.....  
  • นางสาวใบไม้

    27 กุมภาพันธ์ 2549 15:23 น. - comment id 13593

    บทวิพากษ์  :  อันเนื่อง..มาจากกลอนอกหัก
    เคยมีคนพูดไว้ว่า  \"คนที่มีความรัก  มักมีอารมณ์เป็นกวี\"  จะเป็นด้วยสาเหตุนี้หรือไม่ก็ตาม  เราจึงได้เห็นผลงานหลายๆ ชิ้นอันสืบเนื่องจากความรัก  ในครั้งนี้ก็เช่นกันบทประพันธ์ที่จะส่งเข้าแข่งขันถูกกำหนดเงื่อนไขให้วางโครงเรื่อง(Plot)  ของงานจากความผิดหวังจากความรัก ในหัวข้อ  อารมณ์กลอนตอนอกหัก  เมื่อเป็นเช่นนี้จึงเท่ากับว่าเป็นการวางโจทย์ไว้ให้ผู้ประพันธ์ได้ตอบคำถามได้อย่างอิสระ  ตามมุมมองเฉพาะตน  ดังนั้นการจัดองค์ประกอบอื่นๆ เพื่อให้สัมพันธ์กับโครงเรื่องจึงตกเป็นหน้าที่ของผู้ประพันธ์โดยปริยาย   จึงเห็นว่างานแต่ละชิ้นที่ถูกนำเสนอมีเนื้อความต่างกันไป  แต่จุดร่วมที่ผู้อ่านได้สัมผัสจากการจับความคืออารมณ์  ความรู้สึกผิดหวัง  เจ็บปวด  ซึ่งจะชัดเจนเพียงไรนั้นเป็นหน้าที่ของผู้ประพันธ์ที่จะต้องสื่อความให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจ  ส่วนจะทำให้ผู้อ่านเห็นคล้อยตาม ความคิดหลัก(Theme)  ของเรื่องหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความสามารถเชิงสุนทรียภาพ(Aesthetics) ของผู้ประพันธ์เอง ดวงมน  จิตร์จำนงค์ (2536:8)ได้ให้คำจำกัดความของสุนทรียภาพในภาษาไว้ว่าความหมายของถ้อยคำ  หรือกลุ่มต่างๆของถ้อยคำ  ซึ่งเป็นผลจากความประสานกลมกลืนอย่างเป็นเอกภาพของรูปแบบและเนื้อหา  ซึ่งเป็นสื่อแห่งความคิดและอารมณ์  ที่มีความประณีตซับซ้อน  และมีลักษณะเฉพาะของผู้แสดงออกซึ่งไม่ใช่ความหมายตามพจนานุกรม    จึงเป็นหน้าที่ของผู้อ่านทั้งในฐานะผู้รับสาร  และแม้แต่ผู้ประเมินคุณภาพของการสื่อสารที่จะพิจารณาว่าผู้ประพันธ์ใช้วัสดุอุปกรณ์เหมาะสมแก่เนื้อหา  และวัตถุประสงค์ของการสื่อสารหรือไม่   ก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้รับสารได้มากน้อยเพียงไร  ในที่นี้คือการสร้างความรู้สึกร่วมเพื่อให้ผู้อ่านเกิดความสะเทือนอารมณ์  และคล้อยตามจุดมุ่งหมายของผู้ประพันธ์  อันเป็นองค์ประกอบหลักในการประเมินค่าความงามของภาษาเชิงสุนทรียภาพดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น
    	กลอนอกหักจัดเป็นกลอนรักอีกรูปแบบหนึ่ง  แม้จะผูกเรื่องด้วยความผิดหวังแต่กลิ่นอายของบรรยากาศหอมหวานแห่งความรักก็ยังคงอยู่    ดังที่ปรากฏให้เห็นในบทประพันธ์  ดังที่หยาดอรุณเขียนว่า... (เผา)ใบหน้าติดตรึงเคยซึ้งทรวง  หากไม่รักจะจดจำได้ติดตรึงใจอย่างไรได้    เช่นเดียวกับ  สุกรวดีถ่ายทอดภาพความรักความหลังติดตาไว้อย่างชัดเจนว่า  ภาพถ่ายคู่เคียงชิดยังติดตา  คนรักกันย่อมปรารถนาแนบชิดกันทั้งกายและใจ ดังวรรคที่ว่า   สองหัวใจได้แนบชิดสนิทกัน   ในมุมมองของบินเดี่ยวหมื่นลี้  และ เคยรำลึกถึงวันร่วมฝันหวาน ของ ท่องเมฆา   จะเห็นว่าภาพความงดงามในความทรงจำแห่งรักที่ผู้ประพันธ์ถ่ายทอดผ่านการใช้คำและความหมาย จึงน่าจะเป็นสิ่งเร้าที่สร้างแรงกระทบต่อความรู้สึก  อันก่อให้เกิดความสะเทือนอารมณ์แก่ผู้อ่าน  ทั้งยังเป็นลักษณะร่วมในการปูเรื่องสู่ความผิดหวัง  อันเป็นจุดมุ่งหมายของการนำเสนออารมณ์อกหักตามที่โจทย์ได้กำหนดไว้    	
    ในส่วนของการดำเนินเรื่อง  การสื่อความ  และกลวิธีที่ใช้ในการสร้างบทประพันธ์มีความหลากหลายให้เห็นอยู่พอสมควร  ซึ่งนับว่าเป็นนิมิตหมายอันดีในการจุดประกายการสร้างสรรค์บทประพันธ์  และเป็นแนวทางในการศึกษางานเขียนบทร้อยกรองแก่ผู้สนใจ  ซึ่งจะนำมากล่าวถึงในโอกาสต่อไป
    ------------------------------------------------------
  • หยาดอรุณ

    27 กุมภาพันธ์ 2549 15:26 น. - comment id 13594

    เอางั้นเลยเหรอ ...
    
    หากความชอบอันใดที่พึงมีผู้เขียนขอรับไว้ด้วยความยินดี  ส่วนความผิดใดๆที่พึงมี(เช่นกัน)นั้นขอยกให้พี่ชายทัดหทัย  ด้วยความเคารพ.....  อิอิ
    
    รออ่านบทความมาหลายวันแล้วนะคะ .. คุณครูอ้อ ตั้งแต่ยุบสภามาแล้วนั่นแหละ
  • นางสาวใบไม้

    27 กุมภาพันธ์ 2549 15:36 น. - comment id 13595

    46.gif
    ...ว้า...ไม่รู้ว่ามีคนรอ....ค่ะ..น้องรุ่ง..
    ไงก็ต้องให้รอต่อไปอยู่ดีล่ะค่ะ
    ขอเข็นภาคสองมาลงต่อพรุ่งนี้นะคะ
    ชื่องาน...เผา...ซะด้วยสิคะ
    61.gif
    อย่าเอ็ดไป..เจ้าบ้านไม่อยู่
    ตัวใครตัวมัน..นะคะ..
    36.gif
    ขออภัยอีกครั้ง
    โพสแล้ว..ถึงเห็นว่าอ่านยาก
    เพราะจัดพิมพ์เก็บไว้ในword
    จะขอแก้ตัวในครั้งหน้านะคะ
    ------ขอบคุณค่ะ-----
  • พระรอง

    28 กุมภาพันธ์ 2549 07:56 น. - comment id 13602

    ขอบคุณครับที่ตัดสินให้ผมได้รับรางวัล ผมติดตามเวปมานาน แต่เขียนน้อย ค่อนไปทางอ่านเอาเล่นมากกว่า
    และอีกอย่างผมอยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง คงไม่สะดวกที่จะส่งของให้ผม แต่ผมจะให้ที่อยู่ของเพื่อนของผม 
    คงต้องรบกวนคุณทัดหทัยให้ส่งของรางวัลไปที่
    
    พรชัย  พรเทพบัญชา 
    
    8/82  ถ.สุนทรโกษา แขวงคลองเตย เขตคลองเตย
    กรุงเทพ 1011
  • บินเดี่ยวหมื่นลี้

    28 กุมภาพันธ์ 2549 10:11 น. - comment id 13606

    ขอขอบคุณมากครับที่งานเขียนของผมได้รางวัลและรางวัลนี้ผมขอยกให้กับคุณอัลมิตรา ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ผมเขียนกลอนชุดนี้ ที่อยู่ของคุณอัลมิตราคุณทัดหทัยคงพอจะทราบอยู่แล้วนะครับ...
    ขอขอบคุณอีกครั้งครับ
    
    31.gif
  • นางสาวใบไม้

    28 กุมภาพันธ์ 2549 12:16 น. - comment id 13608

    
    ตอนที่ 2   			      เผา
    	เผารูปถ่ายหลายใบให้เป็นเถ้า	ควันความเหงาแทรกมาน้ำตาไหล
    สิ่งทรงจำล้ำลึกตรึกตอกใจ		มีไหมใครเขี่ยเขม่าที่เข้าตา
    โหมไฟแค้นแน่นอกสะทกพรั่น		จะเผารักเผาฝันให้หมดค่า
    เผาถ้อยคำพร่ำเพ้อเผลอสัญญา		เผาใบหน้าติดตรึงเคยซึ้งทรวง
    ไหม้ใจคลั่งชิงชังหวังแทรกหนี		ไม่อยากมีภาพเธอยังเผลอห่วง
    อยากมุดดินจมใจให้สุดดวง 		มอดไฟหวงหวั่นหวาดแทบขาดใจ
    เผารูปถ่ายหลายใบให้เป็นเถ้า		ผงเขม่าปลิวลอยเป็นรอยไหม้
    เหลือเพียงเถ้าเทาดำช้ำทรวงใน		โลกทั้งใบสลายลงแล้วตรงนี้.
      					หยาดอรุณ
    
    	ชิ้นแรก **เผา**  :  หยาดอรุณ  เลือกที่จะเปลี่ยน**ความรัก**ที่ผิดหวังเป็น *..ไฟแค้น* 
    เธอจึงใช้กริยา ** เผา** ซึ่งสามารถจูงใจผู้อ่านได้นับแต่นาทีแรกที่เห็นชื่อเรื่อง    
    ด้วยนัยที่ซ่อนอยู่ชวนให้ติดตามว่ามีความสัมพันธ์กับเนื้อหาอย่างไร
    การตั้งชื่อบทประพันธ์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง  
    อันจะสื่อถึงแนวความคิด  และการตีโจทย์ของผู้ประพันธ์
    ในการเชื่อมโยงสิ่งที่โจทย์กำหนดมาสู่ ความคิดหลัก(Theme)  ของเรื่องในลำดับต่อไป
    
    	บทประพันธ์ ชิ้นนี้ถ่ายทอดเรื่องราวโดยใช้ **รูปถ่าย** เป็นตัวแทนของ**ความรัก..ความฝัน**
    อันเป็น**สิ่งทรงจำล้ำลึกตรึกตอกใจ**  ที่ต้อง**เผา**โดยเลือกใช้คำให้ความรู้สึกรุนแรง  **โหม/ไหม้/คลั่ง**  
    สอดรับเป็นอย่างดีกับความร้อนแรงของไฟที่แผดเผา   ให้สมกับความแค้นที่**แน่น-อก**
    ในวรรค **โหมไฟแค้นแน่นอกสะทกพรั่น**เสียงของคำตาย  **อก** หนักพอที่จะรับไฟแค้น
    เมื่อสัมผัสกับ **สะทก** ยิ่งทำให้ได้รับการเสริมที่เด่นชัดขึ้น  แต่เมื่อพิจารณาลึกลงไปในความหมาย
    อารมณ์โกรธ**แค้น**ต่างจากอารมณ์กลัวในคำ **สะทก/พรั่น** 
    เช่นเดียวกับในวรรค  **มอดไฟหวงหวั่นหวาดแทบขาดใจ**
    การใช้  **หวั่นหวาด**คือความรู้สึกกลัวนั้นไม่รับกับ**แทบขาดใจ**ซึ่งเป็นความรู้สึกโศกเศร้า  เสียดาย
    ทำให้ความที่ต้องการสื่อจึงยังไม่ชัดเจนและหนักแน่นเท่าที่ควรจะเป็น 
    
    	ระหว่างการดำเนินเรื่อง  ผู้ประพันธ์ได้สื่อความขัดแย้งของ**ความรู้สึก**ผ่านการลำดับความ
    โดยพรรณนาสลับระหว่างการกระทำ(เผา..)  กับความรู้สึก(เหงา,  ห่วง)  
    วิธีการลำดับสลับดังกล่าวได้สื่อถึงนัยของความ  **สับสน** ผ่านความขัดแย้งออกมาอย่างเด่นชัด
    ไม่ว่าจะ *ชิงชังหวังแทรกหนี  ไม่อยากมีภาพเธอยังเผลอห่วง* 
    แต่ขณะเดียวกันกลับ   *....หวั่นหวาดแทบขาดใจ* หรือ *เผารูปถ่ายหลายใบให้เป็นเถ้า*
    แต่กลับกลายเป็นว่า   **ควันความเหงาแทรกมาน้ำตาไหล** 
    หากเถ้าคือสัญลักษณ์ของความหมดสิ้น แต่ควันซึ่งน่าจะทำให้แสบตาจนน้ำตาไหล  
    แต่ผู้ประพันธ์เลือกให้เป็นสัญลักษณ์ของความเหงาที่ถึงกับทำให้น้ำตาไหลได้พอกัน   
    ความขัดแย้งระหว่างอารมณ์รัก  และแค้นที่เธอถ่ายทอดทำให้ผู้อ่านเห็นภาพความทุกข์ทน
    อย่างเหลือแสนของผู้หญิงคนหนึ่งที่พยายามจะทำลายความรักให้หมดสิ้น  
    ทั้งที่ยังรักอยู่เต็มหัวใจได้ชัดเจน 
    
    	หยาดอรุณเลือกใช้คำว่า  **เผา** มาสื่อซ้ำๆได้อย่างแนบเนียน 
     ในทางที่จะทำลายสัญลักษณ์แห่งความรักทุกอย่างที่เคยมีให้หมดสิ้น
    เพื่อ  **ลืม**  ความทรงจำทั้งหลายทั้งมวล   มีจุดเด่นตรงที่สามารถหาคำมาสอดรับ
    และเชื่อมโยงได้อย่างกลมกลืน  ทั้ง  *ควัน*  *เขม่า*  *เถ้า*  *มอด* 
     ใช้แทนความรู้สึก*เหงา* *หวง* อันเป็นนามธรรมได้อย่างชัดเจน
    แม้ในส่วนรายละเอียดของการใช้ภาษาอาจมีสะดุดบ้างเล็กน้อย  
    ได้แก่การใช้คำกริยา   หรือคำขยายที่ไม่รับกับบริบท
    เช่น  กริยา  *แทรก*ที่ใช้ในสองตำแหน่ง  1.  กริยาของควันที่เข้าตา  2.แทรกหนี 
    จะเห็นว่าต่างกันอย่างเห็นได้ชัด **แทรก**ไม่เหมาะจะใช้อธิบาย การเคลื่อนที่ของควันไฟ  
    แต่เมื่อนำมาใช้กับการหนี  ทำให้มองภาพได้ชัดเจนขึ้น  
    หรือ  *อยากมุดดินจมใจให้สุดดวง *
    **มุดดิน** อันมีนัยถึงความอับอาย มากกว่าการหลบลี้หนีหน้าทั่วๆไป
    แต่โดยรวมแล้ว  ผู้ประพันธ์สามารถสื่อความ  ทั้งภาพพจน์  และความรู้สึกได้อย่างชัดเจน  
    
    	บทสรุป..ทิ้งท้ายชิ้นงาน ด้วยความสะเทือนอารมณ์  เมื่อไฟแค้นถูกโหมเพื่อเผา  เพื่อทำลาย  
    ใช่เพียงภาพถ่าย  ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ  สิ่งทรงจำ ให้เหลือเพียง **เถ้าเทาดำ**  
    หากหัวใจดวงหนึ่งก็ถูกไฟรักไฟแค้น  เดียวกันแผดเผาจน  **..ช้ำทรวงใน**
    นี่ไม่ใช่หรือความเจ็บปวดของความผิดหวังในความรัก  
    ในวันที่หัวใจเจ็บช้ำจนได้บทสรุปว่า  **โลกทั้งใบสลายลงแล้วตรงนี้** 
    
    
    ------------------------------------------------------36.gif
  • หยาดอรุณ

    28 กุมภาพันธ์ 2549 17:25 น. - comment id 13614

    อ่านที่คุณครูอ้อเขียนวิจารณ์แล้วรู้สึกชื่นใจ
    นานๆ จะมีคนเขียนอะไรอย่างนี้ให้กับงานของเราสักที
    
    รายละเอียดบางอย่าง ... เราในฐานะคนเขียนเอง และถึงแม้จะอ่านทวนหลายรอบแล้ว อาจจะมองข้ามไป ด้วยมุมมองของคนเขียนที่ยังขาดความละเอียด แต่ในมุมมองของคนอ่าน ย่อมเห็นอะไรได้กว้างและลึกกว่ามากนัก 
    
    ยินดีที่มีคนช่วยสอบทาน เพื่อจะได้พัฒนางานตัวเองต่อไป 
    (แหะ แหะ ประโยคนี้พูดบ่อยแล้ว แต่รู้สึกว่า งานไม่ค่อยพัฒนาสักเท่าไหร่  รู้สึกการเรียนรู้ไม่รู้สิ้นสุดสักที การเขียนร้อยกรองนี่เนาะ)
    
    ขอบคุณค่ะ ที่ช่วยอ่านละเอียด : )
  • นางสาวใบไม้

    1 มีนาคม 2549 07:30 น. - comment id 13625

    
    
    ชิ้นที่สอง    : 
    เพราะเธอมีคนใหม่ใจจึงเปลี่ยน	
    เคยแวะเวียนเช้าค่ำทำเป็นเขิน
    เหมือนไม่คุ้นเคยพอต้องรอเชิญ	
    เธอหมางเมินเกินต่อข้อสัญญา
    
    ทนอดสูรู้เห็นเธอเป็นอื่น		
    ต้องกล้ำกลืนหม่นหมองมองข้างฝา
    ภาพถ่ายคู่เคียงชิดยังติดตา		
    เคยมาหาให้เห็นเว้นผ่านปี
    
    จึงช้ำหนักรักกลายสายสุดแก้	
    เป็นผู้แพ้แน่ใจในวิถี
    มิหลงเหลือเยื่อใยใจ*ดำดี*		
    ยามเธอมีรักใหม่ไว้ชื่นชม
    
    สุกรวดี   ถ่ายทอดอารมณ์อกหักด้วยถ้อยคำตัดพ้อเชิงน้อยใจ  
    ในอารมณ์กลอนที่นุ่มนวลแฝงความปวดร้าวต่อการเปลี่ยนแปลงไปของคนรัก   
    จากสิ่งที่เคยมีกลับลดน้อยถอยลง  
    งานชิ้นนี้มีจุดเด่นที่เสียงกับจังหวะ  อันเกิดจากการสัมผัสคำได้อย่างสละสลวย  
    มีจังหวะจะโคนที่เหมาะสม ตามแบบแผนสัมผัสของกลอนแปด ทุกวรรค  ทุกบท
    
    	จุดเด่นการใช้คำของสุกรวดี  คือการสร้างความประสานในเรื่องเสียงของคำ
    ที่ทำให้ภาพพจน์เด่นชัด  มีความหมายเสริมซึ่งกันและกัน  ซึ่งปรากฏอยู่เกือบทุกวรรค
    เช่น *แวะเวียน*  *คุ้นเคย*   *หมางเมิน*  *กล้ำกลืน*  *คู่เคียง*  *ติดตา*  *หลงเหลือ*
    *ดำดี*(ซึ่งมีความหมายแฝงนัยอยู่ด้วย)  *ชื่นชม*  เมื่อนำคำเหล่านี้มาใช้ได้ถูกที่ถูกทาง
    จึงส่งผลโดยตรงต่อความรู้สึกของผู้อ่านได้โดยง่าย
    
    	ในส่วนเนื้อความโดยรวมนั้น  มีความสอดคล้อง  และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน  
    ทั้งนี้เนื่องจากผู้ประพันธ์ได้พรรณนาจากเหตุไปสู่ผลอย่างเป็นลำดับเช่นในบทแรก  
    	**เพราะเธอมีคนใหม่ใจจึงเปลี่ยน		
    	เคยแวะเวียนเช้าค่ำทำเป็นเขิน
    	เหมือนไม่คุ้นเคยพอต้องรอเชิญ			
    	เธอหมางเมินเกินต่อข้อสัญญา **
    จึงทำให้ผู้อ่านสามารถมองเห็นภาพ  และจินตนาการถึงสิ่งที่จะตามมา
    ไม่ว่าจะเป็นอาการ  **ทนอดสูรู้เห็นเธอเป็นอื่น** หรือ 
    **ต้องกล้ำกลืนหม่นหมองมองข้างฝา**  ก็ตาม  
    การใช้กลวิธีดึงประสบการณ์ร่วมของผู้อ่านมาใช้  
    มีจุดเด่นตรงที่สามารถทำให้ผู้อ่านรู้สึกคล้อยตามได้โดยง่าย  
    แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้งานมีความน่าติดตาม  น่าสนใจน้อยลง  
    จึงเป็นภาระของผู้ประพันธ์ที่จะหากลวิธีอื่นๆเข้ามาแก้ข้อด้อยนี้  
    ซึ่งสุกรวดีเลือกใช้ **ภาพถ่ายคู่เคียงชิดยังติดตา**  ให้ผู้อ่านเกิดจินตภาพที่ชัดเจน 
    แม้ไม่สามารถทำให้เนื้อความโดดเด่นพอที่จะฉุดอารมณ์ราบเรียบที่ปูเรื่องไว้แต่แรกได้มากนัก  
    แต่ผู้ประพันธ์ได้แสดงให้เห็นลำดับขั้นตอนของการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
    จนถึงบทจบที่ยังคงย้ำความเศร้าด้วยคำ  *ช้ำหนัก*   *ผู้แพ้*
    แสดงเนื้อความพรรณนาความรู้สึกทดท้อออกมาอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
    ในวรรค  **จึงช้ำหนักรักกลายสายสุดแก้**  และ **เป็นผู้แพ้แน่ใจในวิถี**
    ความหมายของถ้อยคำใช่เพียงบอกเล่าหากน้ำเสียง(Feeling)  ยังบอกความรู้สึกของ *ผู้แพ้*
    ที่จำต้องยอมรับกับสิ่งที่เป็นไปอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง 
     ดังนั้นเมื่อผู้ประพันธ์จบลงด้วย **ยามเธอมีรักใหม่ไว้ชื่นชม** 
    จึงเป็นการทิ้งท้ายด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง  ทดท้อ  
    ขณะเดียวกันทำให้ผู้อ่านรับรู้ถึงน้ำหนักของอารมณ์อกหักแบบราบเรียบ  ค่อยเป็นค่อยไป  
    ทำให้ขาดความสะเทือนอารมณ์  เป็นเหตุให้ความน่าสนใจของงานชิ้นนี้ลดน้อยลงอย่างน่าเสียดาย
    
    ------------------ 36.gif
  • นางสาวใบไม้

    1 มีนาคม 2549 07:32 น. - comment id 13626

    
    
    	ชิ้นที่สาม  :   
    		เย็นยะเยียบเงียบสงบทรุดซบโลก		
    	หยาดน้ำค้างพรมโศกวิโยคสั่น
    	คืนเหน็บหนาวร้างเงาเจ้าเพ็ญจันทร์		
    	คล้ายความฝันถูกลบฝังกลบดิน
    
    	ช่างมืดมนอนธกาลเกินขานไข			
    	หนึ่งหัวใจล้าแรงและแหว่งวิ่น
    	จมความเจ็บปวดช้ำน้ำตาริน			
    	ฤๅจะสิ้นชีพดับพร้อมกับจันทร์
    
    	จันทร์เจ้าเอ๋ยเคยสว่างกระจ่างแจ้ง			
    	ทาบทอแสงอาบลานถักสานฝัน
    	สองหัวใจได้แนบชิดสนิทกัน			
    	สุดท้ายวันรักสลายก็กรายเยือน
    
    	เย็นยะเยียบเงียบสงบทรุดซบโลก			
    	น้ำตาโศกรินไหลใครจักเหมือน
    	ห่มคลุมทุกข์รุกใจไม่รางเลือน			
    	แม้นดาวเดือนยังลับหายมิชายตา
    
    	บินเดี่ยวหมื่นลี้  เริ่มพรรณนาบรรยากาศของค่ำคืนเพื่อบอกเล่าเรื่องราว  
    ให้ผู้อ่านเห็นภาพที่จะนำไปสู่ความคิดหลัก (Theme) ของเรื่อง  
    โครงสร้างของกลอนที่ผู้ประพันธ์ใช้เป็นวิธีมาตรฐานในการเล่าเรื่อง  
    คือการเริ่มสร้างบรรยากาศ นับแต่
    	**เย็นยะเยียบเงียบสงบทรุดซบโลก	
    	หยาดน้ำค้างพรมโศกวิโยคสั่น**
    เพื่อบอกเรื่องราวที่เป็นไปในเวลานั้น    
    ซึ่งผู้ประพันธ์สามารถดำเนินเรื่องได้อย่างสอดคล้องกลมกลืน  
    โดยเลือกใช้  **จันทร์  **หรือ** เจ้าเพ็ญจันทร์**
    เป็นอุปลักษณ์ หรือความเปรียบอิงแนวเทียบ( Metaphor)   
    มาเป็นสิ่งเชื่อมโยงให้เกิดอารมณ์สะเทือนใจ  
    อาจมองเผินๆว่าพระจันทร์เป็นสัญลักษณ์แทนคนอันเป็นที่รัก  
    แต่เมื่อพิจารณาลงไปพบว่าพระจันทร์ที่กล่าวนั้นล
    เป็นเพียงการอิงเพื่อกล่าวถึงคนรักเท่านั้น  ดังที่ผู้ประพันธ์เขียนว่า  
    	**จันทร์เจ้าเอ๋ยเคยสว่างกระจ่างแจ้ง		
    	ทาบทอแสงอาบลานถักสานฝัน
    	สองหัวใจได้แนบชิดสนิทกัน
    	สุดท้ายวันรักสลายก็กรายเยือน** 
    **จันทร์**จึงเป็นเพียงตัวแทนของความรัก  ความฝัน  ที่เคย**สว่างกระจ่างแจ้ง**
    ดังนั้นเมื่อ  **คืนเหน็บหนาวร้างเงาเจ้าเพ็ญจันทร์** 
     จึงเป็นเหตุให้  **คล้ายความฝันถูกลบฝังกลบดิน**
     เช่นเดียวกับเมื่อ  *...มืดมนอนธกาล...*ได้ทำให้  **หนึ่งหัวใจล้าแรงและแหว่งวิ่น**
     การใช้ความเปรียบอิงแนวเทียบ  จึงเป็นกลวิธีหลักในการสร้างความรู้สึกปวดร้าวได้อย่างชัดเจน
     ทำให้ผู้อ่านเกิดจินตภาพตาม และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสามารถรับรู้ความเจ็บปวดนั้น
    ได้สมดังจุดมุ่งหมายของผู้ประพันธ์ 
    
    	จุดเด่นอีกประการหนึ่งของบทประพันธ์ชิ้นนี้คือการเลือกคำมาใช้  
    ก่อให้เกิดความรู้สึกคล้อยตาม  เช่น  *เย็นยะเยียบ*  *เงียบสงบ* 
    ทั้งยัง *เหน็บหนาว* และ *มืดมนอนธกาล* ซึ่งเป็นสภาพบรรยากาศ
    ที่สอดคล้องอย่างเหมาะเจาะกับ **หนึ่งหัวใจล้าแรงและแหว่งวิ่น** 
    และในความเงียบนั้นไม่มีแม้เสียงสะอื้น  ผู้ประพันธ์เลือกใช้เพียง   **น้ำตาริน** 
    ได้เหมาะสมแก่โอกาสในบริบทนี้เป็นอย่างยิ่ง
    มีข้อสังเกตว่าแม้คำที่ใช้พรรณนาบรรยากาศจะให้ความรู้สึกชัดเจน  
    แต่ในบางวรรคเมื่อพิจารณาความหมายโดยรวมยังมีลักษณะการกล่าวลอยๆ 
    ซึ่งถ้าดูเฉพาะวรรคเช่น  **เย็นยะเยียบเงียบสงบทรุดซบโลก**
    ก่อให้เกิดคำถามว่า..ความเย็นกับความเงียบจะ..ทรุดซบโลก..ได้อย่างไร
    ถ้าเช่นนั้นอะไรที่แสดงกิริยา *ทรุด* ในเมื่อไม่ได้เอ่ยถึงเลย
    และอีกครั้งในวรรค **ห่มคลุมทุกข์รุกใจไม่รางเลือน**
    เกิดคำถามตามมาเช่นกันว่าทุกข์จะแสดงกิริยาห่มคลุมได้อย่างไร  
    ทั้งในวรรคก่อนหน้าก็ไม่ได้กล่าวถึงให้เห็นความต่อเนื่อง  
    จุดเล็กๆเหล่านี้มีส่วนทำให้ความกลมกลืนของเรื่องราวไม่ปะติดปะต่อ
    แม้ผู้ประพันธ์ก็พยายามรวบรวมเนื้อความอีกครั้งในวรรคถัดมาก็ตาม  
     วาณิช  จรุงกิจอนันต์  ( 2540 :177)  ได้กล่าวไว้ว่า 
    **เมื่อเขียนเสร็จกลอนทุกวรรคทุกบท  จะต้องสมบูรณ์ในตัวเองและสัมพันธ์กับบทอื่นๆ  
    เพื่อให้กลอนทั้งบทนั้นเป็นกลอนที่สมบูรณ์  คือเป็นกลอนที่ดี  **
    
    	เมื่อถึงบทสุดท้ายผู้ประพันธ์ได้หยิบเอา  **เย็นยะเยียบเงียบสงบทรุดซบโลก**
     มาใช้ซ้ำอีกครั้ง  จึงน่าจะเป็นความตั้งใจจะย้ำความรู้สึก *ทุกข์รุกใจ*
    ในบรรยากาศที่  *เยียบเย็น*  ยิ่งขึ้นในความรู้สึก   
    เพราะเมื่อกล่าวว่า  **แม้นดาวเดือนยังลับหายมิชายตา**  
    ยังแฝงไว้ด้วยน้ำเสียง(Feeling)  หมดอาลัยในความรักที่ไม่มีทางหวนคืน  
    สะท้อนความรู้สึกหมดสิ้นในสิ่งที่ปรารถนา  
    ราวกับจะถามว่าสะเทือนอารมณ์เพียงพอที่จะ *ทรุดซบโลก*..ได้หรือยัง
    งานชิ้นนี้จึงอาจเป็นตัวอย่างอันดีแก่ผู้สนใจการเขียนบทกวี
    โดยใช้ความเปรียบอิงแนวเทียบ ( Metaphor)  ในการนำเสนอ
     ดังเช่นที่บินเดี่ยวหมื่นลี้  สามารถนำเสนอได้อย่างน่าชื่นชม
    
  • นางสาวใบไม้

    1 มีนาคม 2549 07:52 น. - comment id 13627

    
    	ชิ้นที่สี่  :  
           กลายเป็นตัวตลกตอนอกหัก	
    หลายคนทัก..เฮ้ย !! เหงา,ปวดร้าวไหม ?
    เลยต้องปั้นหน้าขำ..ถามทำไม ?	
    หลุดจากปากคือ..ไม่  ใจยังดี
    ตัวตลกแอบร้องไห้ใจสะอื้น			
    รักขมขื่นหมกไว้ในอกนี่
    ฉาบฉวยอาจมองผ่านสุขนั้นมี	
    แต่ภายในทุกข์ล้นปรี่สุมที่เรา ...
    
    พระรอง  ได้ใช้กลวิธีในการนำเสนอบทประพันธ์
    ด้วยการตีโจทย์ต่างไปจากงานเขียนชิ้นอื่นโดยสิ้นเชิง  
    อันเป็นลักษณะเฉพาะตัวที่มีความโดดเด่น  และดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี  
    ขณะเดียวกันผู้อ่านยังคงสัมผัสได้ถึงลักษณะร่วมบางประการ
    นั่นคือความเจ็บปวดจากการ*อกหัก*อันเป็นโครงเรื่อง  (plot)  นั่นเอง  
    ผู้ประพันธ์ถ่ายทอดความรู้สึกผ่านบทบาทของตัวละคร  (character)  
    โดยใช้ **ตัวตลก**นักแสดงที่มอบรอยยิ้มให้แก่ผู้ชม  
    การบรรยายลักษณะ **...ตัวตลกตอนอกหัก**
    โดยเริ่มด้วย  *กลายเป็น..* บอกถึงที่มาของการนำเสนอ
    ด้วยน้ำเสียงเสียดสีแกมประชดประชันต่อสิ่งที่ตัวเองได้รับ  
    ภาพของตัวตลกในสายตาใครต่อใครที่ไม่อาจแสดงความรู้สึกที่แท้จริง
    ทำได้เพียง  *ปั้นหน้าขำ*  และ  **รักขมขื่นหมกไว้ในอกนี่**
    สะท้อนถึงความรู้สึกอึดอัดภายในใจ  ยิ่งเมื่อถูกซ้ำเติมด้วยความรวดร้าวเต็มหัวใจ
    จนต้อง  **แอบร้องไห้ใจสะอื้น**  จึงทำให้ความเจ็บปวดนั้นดูจะรุนแรงยิ่งขึ้น 
    เนื้อหาโดยรวมอาจดูธรรมดา  ใช้คำพื้นๆง่ายๆ  และยังสั้นๆกระชับความ
    แต่ในความธรรมดานั้นกลับสร้างอารมณ์สะเทือนใจได้เป็นอย่างดี
    ทั้งนี้ต้องถือว่าเป็นความสามารถเชิงสุนทรียภาพของผู้ประพันธ์โดยแท้
    ในการกำหนดลีลา  หรือท่วงท่าการแสดงออกของตัวละครออกมาได้ชัดเจน
     อันนำไปสู่ความคิดหลัก  (theme)ของเรื่องได้ตรงตามจุดมุ่งหมาย  
    กล่าวคือสามารถทำให้ผู้อ่านรู้สึกคล้อยตาม  ซาบซึ้งกับความเจ็บปวดที่ตัวละครได้รับ  
    ผ่านบทสนทนาในเครื่องหมายคำพูด  ด้วยถ้อยคำธรรมดาที่ใช้เป็นปกติในชีวิตประจำวัน
    **เฮ้ย !! เหงา,ปวดร้าวไหม ?**   **ถามทำไม ?**   **ไม่  ใจยังดี**
    ที่ผู้ประพันธ์นำมาสื่อความเพื่อเสริมบทบาทของตัวละครให้เด่นชัดยิ่งขึ้น
    ทั้งยังทำให้เกิดจินตภาพ  เหมือนผู้อ่านเข้าไปมีส่วนร่วมในการสนทนา  
    แล้วใครจะไม่สงสาร  *ตัวตลก..อกหัก*  ก็ให้รู้ไป
    
    	บทประพันธ์ชิ้นนี้  เป็นอีกหนึ่งในแนวทางการสร้างสรรค์บทกวี
    ที่หลีกหนีรูปแบบการนำเสนอ  และการตีความที่จำเจ  แต่ยังคงอรรถรสแห่งสุนทรียะ
    ได้ไม่น้อยหน้ากลอนอกหักรักหวานซึ้งชิ้นใด
    -------------------------------------------36.gif
  • ทัดหทัย

    1 มีนาคม 2549 10:22 น. - comment id 13629

    นางสาวใบไม้ได้ทำหน้าที่ของใบไม้ได้เป็นอย่างดี
    และจากจุดนี้.. ต้นกล้าเล็กๆ หลายต้นจะได้เติบโต
    ต้นไม้ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอแล้วหลายต้นก็จะได้ผลิดอกออกผล
    
    ขอเพียงอ่านแล้วคิดให้ถี่ถ้วนทั้งแง่บวกและมุมลบ
    ทั้งคำชื่นชมและคำติเตียน
    เพื่อเป็นแนวทางในการคิดและเขียนต่อๆ ไป
    
    อย่างไรก็ตาม
    ผมอยากเสริมว่าหากริจะเขียน  ก็ต้องหาความรู้
    ทั้งความรู้ที่จะเป็นเนื้อหาที่เขียนถึง
    และความรู้ที่จะเป็นเครื่องมือในการเขียน
    
    พูดไปก็ชักเขิน  เพราะทัดหทัยเองก็ยังเตาะแตะกับการเขียนเลย 62.gif
    
    เกือบลืม..  ขอบใจน้องสาวที่อุตส่าห์เขียนคำวิจารณ์ทั้งหมด 36.gif
    มีน้องสาวดีๆ ก็สบายไปหลายอย่าง  เนอะ
  • หยาดอรุณ

    1 มีนาคม 2549 20:22 น. - comment id 13633

    คุณทัด .. ไม่ขอบคุณยัยหยาดมั่งเหรอ
    แหม ... อุตส่าห์ช่วยปั่นกระแสกระทู้ อิอิ
    
    จัดอีกนะ คุณทัด ...
    จะเตรียมตัวมาร่วมสนุกด้วย
    และจะมาช่วยปั่นอีก
    
    ขอบคุณ ครูอ้อ ค่ะ อ่านคำวิจารณ์ที่ตั้งใจเขียนแล้ว ชื่นใจและได้ความรู้มากมาย 
    
    งานนี้ ... มาร่วมสนุกเพื่อฝึกฝนและศึกษา ถือว่า บรรลุเป้าหมายจริงๆ
    
    มาช่วยปั่นจนวินาทีสุดท้าย ...
  • สุกรวดี

    2 มีนาคม 2549 00:24 น. - comment id 13635

    สรุปว่า\"หยาดอรุณ\" 
    ผู้\"อกหักปลอมๆ\" ทำคะแนนนำไป
    ในฐานะที่\"ปลอม\"ได้สมจริง-สมจัง
    
    และต้องยอมรับว่า ตัวสุกรวดีเอง 
    เป็นคน ทื่อมะลื่อ เขียนกลอนทุกวัน
    แต่มักเขียนไปตามเนื้อผ้า 
    
    ไม่มีลีลา
    ขาดการจินตนาภาพ งานกลอนที่เขียน
    โปร่งใส แบบไม่ต้อง...ตีความ...
    มาถึงจุดนี้ได้ ก็พอใจแล้วค่ะ......
    
    ขอบคุณค่ะ\"นางสาวใบไม้\"
    36.gif36.gif
  • หยาดอรุณ

    2 มีนาคม 2549 01:30 น. - comment id 13636

    ยังไง้ ยังไง ขอมาปั่นกระทู้นี้ต่อแล้วกัน
    
    ฮาๆๆ
    นี่แหละน้า ... ผลของการที่กรรมการไม่สรุปว่า ใครชนะ ป้าหมู (สุกรวดี) ก็เลยสรุปซะเองเลยว่า ยัยหยาดได้คะแนนนำ
    
    แต่เราก็ยังขอโหวตให้ คุณ พระรอง ได้คะแนนนำ ในด้านการนำเสนอที่ไม่ซ้ำซาก และจุดพร่องน้อยที่สุด น้อยกว่าใครๆ กระชับเนื้อหาในจำนวนกลอนเพียง 2 บท และกลมกลืนในเนื้องานมากที่สุด
    
    อย่าทะเลาะกันนะ ... การตัดสินก็เป็นแค่การนำเกณฑ์มาวัดเพื่อคัดเลือกกลอนที่เขียนๆ ออกมา เป็นการกลั่นกรอง เพื่อเป็น \"กรณีศึกษา\" ให้เราได้เรียนรู้ร่วมกัน
    
    ไม่ใช่การตัดสินตัวตนอะไรของเราเลยสักนิดนึง (เขาตัดสินที่ชิ้นงานชิ้นนั้น ไม่ใช่ตัดสินชีวิตของเราสักหน่อย) สำคัญที่ว่า เราพัฒนางานเราตามกาลเวลาและประสบการณ์การเรียนรู้เหล่านี้ได้แค่ไหน ไม่ใช่ว่า เข้ารอบเพียงครั้งแล้วเราจะเก่งไปตลอดชีวิต และใช่ว่าการไม่ถูกคัดเลือกเลย จะเป็นความล้มเหลวเหลือประมาณ ... การเรียนรู้น่ะ ไม่มีที่สิ้นสุดหรอกค่ะ อยู่ที่ว่า เราจะหยุดเดิน หรือจะเดินไปข้างหน้าต่อไป 
    
    สุดท้าย .. ก็ขอขอบคุณคุณทัดหทัยนับร้อยครั้งพันครั้ง ในโอกาสที่ช่วยสร้างเวทีการฝึกปรือฝีมือค่ะ 29.gif29.gif29.gif
    
    เสียเทียนไปหลายเล่มเลยเรา ..
    จัดประกวดอีกนะ จะได้เตรียมเทียนเอาไว้จุด สร้างบรรยากาศ อารมณ์ปลอมๆ ขึ้นมาอีก อิอิ : )
    
    ขอยืนยันว่า งานนี้ไม่ได้ค่าหน้าม้าเข้ามาช่วยปั่นกระทู้นะคะ มาด้วยความเต็มใจจริงๆ ค่ะ ยังไง จะส่งรางวัลยอดนักปั่นกระทู้แนบมาพร้อมกับรางวัลเข้ารอบประกวดกลอนก็ไม่ว่าอะไรนะคะ ..
  • นางสาวใบไม้

    2 มีนาคม 2549 07:38 น. - comment id 13637

    
    	ชิ้นที่ห้า  ลืมคนเลว  :  ท่องเมฆา
    ลืมคนเลว
    *ที่ผ่านมาฉันแค่เผลอจึงเพ้อพก	
    อย่ามายกข้อผูกพันจนขวัญหาย
    สิ้นสุดกันวันนี้ไม่เสียดาย		
    ไปหาชายคนเก่าที่เฝ้ารอ *
    ฉัน.....ฝืนใจเอ่ยคำอย่างช้ำชอก	
    ฝืน.....เอ่ยบอกจำตัดใจรู้ไหมหนอ
    ใจ......มันแหลกเกินถ้อยคำน้ำตาคลอ	
    เอ่ย.....เอื้อนหมดใจทดท้อทรมาน
    เธอ.....เคยรู้บ้างไหมว่าใจฉัน	
    เคย.....รำลึกถึงวันร่วมฝันหวาน
    รู้.........บ้างไหมเหตุใดไยร้าวราน	
    ไหม...สำรอกพันธนาการเพื่อสิ่งใด
    ฉัน.....ทำเพื่อเธอคนเดียวอยากให้รู้	
    ทำ......เป็นแกล้งตัดโฉมตรูแล้วหวั่นไหว
    เพื่อ....ให้เธอสมหวังดังตั้งใจ	
    เธอ.....จะได้ลืมคนนี้ที่มันเลว 
    
    	 ท่องเมฆา  เปิดตัว  **ลืมคนเลว**  ด้วย..
    		**ที่ผ่านมาฉันแค่เผลอจึงเพ้อพก		
    		อย่ามายกข้อผูกพันจนขวัญหาย
    		สิ้นสุดกันวันนี้ไม่เสียดาย			
    		ไปหาชายคนเก่าที่เฝ้ารอ**
     	เพื่อถ่ายทอดคำพูดของสรรพนามบุรุษที่ 1  **ฉัน**  ที่กล่าวแก่คนรักในวันที่ **สิ้นสุด**
    โดยแสดงจุดยืนอย่างเด่นชัดว่า  *ไม่เสียดาย*ต่อสิ่ง *ที่ผ่านมา*  ผ่านน้ำเสียง(Feeling)หมางเมิน
    ไม่ไยดี  และคงความเด็ดขาดในความรู้สึกมากขึ้น  หากผู้ประพันธ์สามารถขยายความในวรรคที่ 2  
    ได้ชัดเจนกว่า **.....ขวัญหาย**อันแสดงถึงอารมณ์ตระหนก  ตกใจซึ่งไม่สอดรับกับความ
    ในวรรค **อย่ามายกข้อผูกพัน...**  แต่อย่างใด
    
    	ในบทที่  2  *ฉัน*  รำพึงรำพันเนื้อความขัดแย้งอย่างตรงกันข้าม(contrast)กับบทแรก
    โดยแสดงให้เห็นความขัดแย้งระหว่างการกระทำกับความรู้สึก  ด้วยคำว่า  *ฝืน*
    สื่อความหมายว่า  ที่ทำลงไปไม่ได้มาจากความรู้สึกที่แท้จริง  แต่  *จำตัดใจ*
    ทั้งที่ตัวเองต้อง  *ช้ำชอก*  *น้ำตาคลอ*  และ*ทรมาน*
    จะเห็นว่าผู้ประพันธ์สามารถประสานความขัดแย้งให้ประสานได้ดูกลมกลืน
    บอกที่มาที่ไปได้อย่างสมเหตุสมผล  ขณะเดียวกับที่แสดงความ *ทดท้อ*ได้อย่างชัดเจน
    
    	บทที่ 3  เริ่มต้นด้วยสรรพนามบุรุษที่ 2  *เธอ* ถูกตั้งคำถาม *รู้บ้างไหม*
    ด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ  ปนความน้อยใจเพื่อสื่อถึงความ *ร้าวราน*ภายในใจ
    ในบทนี้  ผู้ประพันธ์ใช้การอุปมา *ไหม*  มาตั้งคำถามเพื่อให้ *เธอ*เข้าใจในเหตุผล
    อาจเพราะคำว่า  *ไหม*  ถูกวางให้เป็นคำบังคับเพื่อให้รับกับกลวิธีการนำเสนอ
    ในรูปแบบกระทู้  จึงทำให้ผู้ประพันธ์ไม่มีทางเลี่ยงในการขยายความให้สอดคล้องกับเนื้อความ
    ที่ดำเนินมาก่อนหน้า  เพื่อจะสื่อให้  *เธอ*  และผู้อ่านเกิดจินตนภาพที่แจ่มชัด
    ว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นทำไปเพื่อ *เธอ*  การใช้ *ไหม*แสดงกิริยา *สำรอก*
    ออกมาเป็น*พันธนาการ*  เครื่องหมายแห่งการจองจำ  ผูก,มัด  
    เพื่อสื่อในความหมายยอมสละสิ่งที่ผูกพัน  หรือเครื่องหมายแห่งความรักก็ตาม
    ผู้ประพันธ์ยังไม่สามารถสื่อความได้ชัดเจน  ตรงตามจุดมุ่งหมาย  
    ส่งผลให้ความโดยรวมยังไม่ราบรื่น  เกิดภาพพจน์ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร
    
    	มาถึงบทสุดท้าย  *ฉัน*  คลี่คลายปมด้วยการตอบคำถาม  หากผู้อ่านสังเกตเห็น
    จะพบว่าคำตอบนั้นคือ  กระทู้ **ฉัน/ทำ/เพื่อ/เธอ**นั่นเอง
    	**ฉัน.....ทำเพื่อเธอคนเดียวอยากให้รู้			
    	ทำ......เป็นแกล้งตัดโฉมตรูแล้วหวั่นไหว
    	เพื่อ....ให้เธอสมหวังดังตั้งใจ			
    	เธอ.....จะได้ลืมคนนี้ที่มันเลว **
    	การคลี่คลายปม  *คนเลว*  จากการขยายความในบทนี้เอง  จะเห็นความเปรียบที่มุ่งเน้น
    จะสื่อความหมายที่ตรงกันข้ามกับความหมายของคำที่ใช้  หรือความเปรียบประชด(Irony)
    เพื่อจะทำให้ผู้อ่านคล้อยตาม ความคิดหลัก(Theme)  ของเรื่อง  และเกิดความสะเทือนอารมณ์
    ในวรรคสุดท้ายผู้ประพันธ์จึงเลือกใช้สรรพนาม *มัน* เพื่อเน้นย้ำได้รับกับ*คนเลว*
    สร้างความรู้สึกน่าชิงชังได้เป็นอย่างดี
    
    	ในประเด็นของการลำดับความหลักของเรื่องนั้น  ผู้ประพันธ์นำเสนอผ่านการวางกระทู้ 
    	** ฉัน.....ฝืน.....ใจ......เอ่ย.....(บทที่ 2)
    	เธอ.....เคย.....รู้.........ไหม.......(บทที่ 3)
    	ฉัน.....ทำ......เพื่อ.... เธอ.........(บทที่ 4)**
    ซึ่งเป็นทั้งการสร้างเงื่อนไขเพื่อเร้าความสนใจ  และสื่อความสู่ผู้อ่านโดยสร้างคำถามขึ้นภายในใจ 
    ให้เกิดความอยากรู้  อยากติดตาม  ก่อนจะสร้างความขัดแย้ง  แล้วประสานให้กลมกลืน  
    จากนั้นจึงขยายความต่อด้วยการตั้ง  และตอบคำถาม  อย่างเป็นลำดับ  แล้วจึงสรุปทิ้งท้ายในที่สุด
    	แม้เนื้อความโดยรวมสามารถสื่อความได้ค่อนข้างชัดเจนแต่อาจด้วยถ้อยคำ  สัมผัส  
    กระทั่งสำนวนภาษาที่เรียบง่าย  ไม่ได้แปลกใหม่และสะเทือนความรู้สึกมากนักจึงทำให้
    บทประพันธ์**ลืมคนเลว**  ยังไม่โดดเด่นจนถึงระดับที่เรียกว่า  **จับใจ**  
    
    ---------------------------------------------36.gif
  • นางสาวใบไม้

    2 มีนาคม 2549 08:06 น. - comment id 13638

    resize_id_259.jpg
    	ต้องขอออกตัวก่อนว่า  \"นางสาวใบไม้\"  ไม่ได้เป็นคณะกรรมการที่ร่วมพิจารณาคัดเลือก 
    และตัดสินผลงานครั้งนี้  เป็นเพียงผู้ชม  ผู้อ่าน  และติดตามความเคลื่อนไหวมาโดยตลอดเท่านั้น
    
    	และขอสารภาพว่า  รู้สึกเกร็งและมีความลำบากใจไม่น้อยในการเขียนบทวิพากษ์ครั้งนี้
    ด้วยเหตุที่ ในการศึกษาเพื่อวิเคราะห์วิจารณ์งานเขียนในเชิงสุนทรียภาพนั้น  ต้องอาศัยปัจจัย
    รวมทั้งทฤษฎีต่าง ๆ  มาประกอบการพินิจความอย่างละเอียด เพื่อให้ถูกต้อง  ชัดเจน  และเที่ยงตรง
    อย่างไรก็ดี  สิ่งที่หวังว่าจะเกิดแก่ผู้สนใจคือการสร้างมุมมองในการทำความเข้าใจ  ต่อแง่งามของ
    การแสดงออกทางความคิด  และอารมณ์  ทั้งในฐานะผู้ประพันธ์และผู้อ่าน  อันจะนำไปสู่การสืบสาน
    ซึ่งงานวรรณศิลป์ที่ยาวนานตลอดไป
    
    	สุดท้ายขอบคุณ  พี่ชาย*ทัดหทัย*ที่คะยั้นคะยอ..มอบโอกาสให้ทำหน้าที่ *ใบไม้*ได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
    
    ขอบคุณเจ้าของผลงานทุกท่านที่มอบแบบฝึกทั้ง 5 ชิ้นให้ทั้งโดยที่ตั้งใจ  และไม่ตั้งใจ  ...^______________^..
    
    ขอบคุณ*บ้านกลอนไทย*  สำหรับที่พำนัก  และสนามประลองอันอบอุ่น
    
    ขอบคุณแรงใจจาก*..คนของความคิดถึง..*  ที่มอบความเชื่อมั่นจนทำให้ก้าวมาถึงบรรทัดนี้..ในที่สุด
    
    				36.gif36.gifขอบคุณด้วยใจ......นางสาวใบไม้
    resize_id_00013_1.jpg
  • ทัดหทัย

    2 มีนาคม 2549 08:18 น. - comment id 13640

    ทีแรกกะว่าจะแจก PC ให้กับผู้เข้ารอบ
    แต่คิดไปคิดมาเปลี่ยนเป็น Notebook ดีกว่า
    
    ไงๆ ก็รอกันหน่อยเน้อ
    ช่วงนี้เลขาฯ ส่วนตัวของผมงานยุ่งน่ะ
    
    รอเธอว่างก่อน เพื่อจะไปเลือกซื้อและจัดส่ง
    
    อ้อ..ปากกาหรือดินสอคงมีกันแล้วนะ
    จะได้เอารางวัลไปเป็นที่บันทึกอะไรๆ ตามใจได้
    
    1.gif
  • แดดเช้า

    2 มีนาคม 2549 09:37 น. - comment id 13641

    ยังไงก็ขอลายเซ็นทัดหทัยด้วยเน้อ อิอิ
  • ท่องเมฆา

    2 มีนาคม 2549 12:35 น. - comment id 13644

    36.gif29.gif
    
    ขอขอบคุณกรรมการที่เลือกผลงานผม..สร้างความแปลกใจให้เล็กน้อย
    ขอบคุณคุณทัดหทัยที่เปิดเวทีประกวด..สร้างสีสันให้บ้านกลอน
    ขอบคุณนางสาวใบไม้ที่ช่วยวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา
    ขอบคุณทุกๆคนที่ร่วมสนุก..ทำให้บรรยากาศคึกคัก
    
    อืม..แล้วเมาส์ที่เตรียมไว้จะเอาไปเสียบกับอะไรล่ะนี่...555...
  • แต้ว

    1 พฤศจิกายน 2550 13:03 น. - comment id 19335

    รักเขามาก เจ็บมากอยากจะบอก ไม่อยากชอบให้ใจนั้นมันหวันไหว เมื่อตอนนี้รู้แล้วว่าเป็นไง รักต่อไปคงไม่มีใจให้กับเธอ
                         25.gif8.gif10.gif57.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน