14 เมษายน 2546 00:44 น.

๏ ๏ ๏ ประวัติวันสงกรานต์ ..ตอนที่ ๑ ๏ ๏ ๏

อัลมิตรา



๑.
.....เพรงกาลอันล่วงแล้ว.................คณาวิสัย
นานเนิ่นเกินกัปป์ขัย..................ผ่านพ้น
เศรษฐีหนึ่งมากใน......................สมบัติ
เคหะสถานล้น.............................เลิศล้ำศฤงคาร ๚

๒.
.....ทรัพย์มากหากปราศผู้............สืบสกุล
เมียหนึ่งพอเจือจุน.....................เจตน์อ้าง
ครองเรือนต่างสนับสนุน...............เป็นสุข-  ยิ่งนา
ตราบเฒ่าเนาแนบข้าง.................คู่คล้องครองเกษม  ๚

๓.
.....เรือนชานตระหง่านใกล้..........โรงสุ-  ราแฮ
หากนักเลงเหล้าอุ*......................หนึ่งนั้น
มีบุตรสุดสวาทสุ-........................วรรณเทียบ
ผุดผ่องงดงามครั้น.....................เพ่งแล้วเพลินเหลือ ๚

๔.
.....ณ  อรุณรุ่งหนึ่งเจ้า.............คนเมา
เดินง่วนชวนหยักเหยา...............เพื่อนบ้าน
ผรุสวาททักทายเขา....................สุดหยาบ-  คายนา
ดูหมิ่นดุจจิตด้าน.......................ห่างด้วยคุณธรรม ๚

๕.
.....เศรษฐีมิขุ่นข้อง..................เคืองใจ
หากแต่คิดฉงนใน....................เรื่องย้ำ
เพียงเหตุเนื่องความใด..............จึงด่า  เรานอ 
ขอท่านอย่าเกินก้ำ....................เหตุแท้พึงขยาย ๚

๖.
.....คนเมาคราวกล่าวด้วย..........ขำขัน
อันท่านสินทรัพย์อนันต์...........พรั่งพร้อม
เรือกสวนไร่นาครัน..................เรือนใหญ่-  โตพ่อ
ปราศบุตรธิดาล้อม..................จักสิ้นวงศ์สกุล  ๚

๗.
.....กงการงานด้วยท่าน-...........เชียวฤๅ
ไร้ลูกสุขนั้นคือ.........................มากพ้น
มากบุตรสุดชำงือ*....................จิตขุ่น-  เคืองนา
โภคทรัพย์ดุจโจรปล้น................เปรียบได้ดังกัน๚

๘.
.....ทุกข์มากหากไร้ลูก..............หลานเหลน
คราวเฒ่าจักชัดเจน....................ส่อเค้า
กายปวดเมื่อยอีกเคน*.................โรคเบียด-  เบียนแฮ
ใครเล่าจักหยอกเย้า....................นวดเฟ้นเยียวยา ๚

๙.
.....คราชีพดับด่าวสิ้น..................ลมปราณ
สินทรัพยลับอันตรธาน.................เสื่อมด้วย
นาสวนไร่เรือนชาน.....................ตกแก่-  ใครฤๅ
ทนทุกข์ตราบมอดม้วย..................แม่นแท้คำเรา ๚

๑๐.
.....กุฏุมพีนิ่งด้วย.......................จำนน
ครุ่นคิดจิตสับสน.........................รุ่มร้อน
ปรารถน์บุตรสุดสวาทจน...............ผอมซีด-  เชียวนอ
ตรองตรึกนึกยอกย้อน..................สิ่งเร้นเป็นจริง ๚

				
12 เมษายน 2546 13:04 น.

@ ขอใครสักคน

อัลมิตรา

ในระหว่างวันที่มีทุกข์โศก
เหมือนทั้งโลกว่างเปล่าเหงาจริงหนอ
อยากมีคนเคลียเคล้าพะเน้าพะนอ
ช่วยเติมต่อความหวังกำลังใจ

คนที่คอยเคียงข้างร่วมสร้างฝัน
ทุกคืนวันเป็นมิตรอยู่ชิดใกล้
และเหนือสิ่งทั้งปวงคือห่วงใย
สามารถให้แสงสว่างทางชีวา

แค่เข้าใจจริงใจไม่ขอมาก
ก็ยังยากเกินให้ใฝ่ฝันหา
เพราะเท่าที่มีบ้างผ่านทางมา
นั่งมองตาแต่ไม่เข้าใจกัน

มีหรือไม่ใครที่มีรักแท้
อยากมีแค่สักคนบนทางฝัน
ร่วมชีวิตแสนหวานสานสัมพันธ์
ครองรักมั่นจนกว่าชั่วฟ้าดิน				
11 เมษายน 2546 22:46 น.

ฝันร้ายปลายหนาว

อัลมิตรา


ในอ้อมกอดแห่งฝันฉันยังอยู่ 
ยังคงคู่เคียงเขาเป็นเงาสอง 
โอบกระหวัดรัดกอดพลอดทำนอง 
สติต้องยั้งมั่นเพราะหวั่นใจ 

ด้วยวันนี้ไม่มีใครจะให้กอด 
ยังพร่ำพรอดเพ้อครวญและหวลไห้
คิดถึงเขาคนนั้นที่อยู่ไกล 
คนที่เก็บรักไปไม่คืนมา 

ทุกวันนี้อยู่ไปอย่างไร้จิต 
จะหาใครแนบชิดเสน่หา 
ไม่เคยเหมือนรักเก่าที่เคยมา 
จำต้องลาร้างไปไม่เนิ่นนาน 

ในใจนี้รู้ไหมมีใครอยู่ 
คอยเฝ้าดูคอยซ้ำถ้อยคำหวาน 
แม้จะร้างห่างไปนานแสนนาน 
ไม่พบพานแต่ยังฝังในใจ 

อยากจะร้องก้องไปให้ทั่วโลก 
เอาใจโศกดวงนี้ไปไว้ไหน 
หากไม่รักจะมาฝืนขืนไปไย 
อย่ายื้อไว้ดั่งเป็นเช่นพันธนาการ 

หรือจะรอจนสิ้นใจไปเสียก่อน 
จึงค่อยย้อนคืนให้ยามไฟผลาญ 
รู้ใช่ไหมใครทำลายรักแหลกราญ 
ดวงวิญญานสิ้นสลายกลายเป็นจุล 
				
11 เมษายน 2546 13:50 น.

รหัสแห่งหัวใจ

อัลมิตรา

 
จงรู้ว่าทุกวันฉันเคียงข้าง
มิลาร้างลืมเลือนหรือเคลื่อนหาย
แม้สุดสิ้นดินฟ้ามามลาย
มิคลอนคลายยังคงมั่นในสัญญา

เพราะจุดหมายแตกต่างเหมือนทางแยก
ซึ่งผิดแผกเกินขจัดปัดปัญหา
แสร้งยิ้มชื่นกลืนกล้ำซ่อนน้ำตา
กล่าวอำลาทั้งที่ใจร่ำไห้ครวญ

ความเป็นจริงยิ่งกว่าคำย้ำเจ็บไหน
ต้องข่มใจห้ามจิตมิคิดหวน
ความทรงจำยังหลอกหลอนซ้อนให้รวน
เหมือนโซ่ตรวนยากตัดอนาถจริง

อยากจะจบเรื่องราวรักเรานี้
ยังยากที่กลบเกลื่อนเบือนทุกสิ่ง
ห้ามอย่างไร ? ..ใจเอ๋ยเคยพักพิง
ด้วยทุกสิ่งผูกมัด...รหัสใจ


				
10 เมษายน 2546 20:59 น.

@..เปล่าหรอกนะ..

อัลมิตรา



ทุกครั้งเมื่อฟ้าหมองฉันมองเหม่อ
ก็แค่เผลออาทรเพราะอ่อนไหว
สงสารฟ้าว่าหม่นเหตุผลใด
แอบร้องไห้กับฟ้าน้ำตานอง

บางครั้งอาจโอยสะอื้นอย่างขื่นขม
เหมือนทุกข์ตรมสาหัสอกกลัดหนอง
แท้มิใช่ใจนี้มีโศกครอง
บังเอิญมองใบไม้ปลิดใบโปรย

แค่คนที่อ่อนไหวเกินไปหน่อย
น้ำตาคอยจะไหลร่ำไห้โหย
เห็นฟ้าหม่นใบไม้ปวงลาร่วงโรย
ก็เศร้าโดยฉับพลันทุกวันมา

แต่เพราะฉันมิใช่คนใจน้อย
จึงไม่ปล่อยน้ำตาไหลอย่างไร้ค่า
กับเรื่องที่เธอย้ำเอ่ยคำลา
แค่หยดหนึ่งของน้ำตา...อย่าหวังเจอ
				
Calendar
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอัลมิตรา
Lovings  อัลมิตรา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอัลมิตรา