11 พฤษภาคม 2547 17:15 น.

กระจับต่งส่งข่าว

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


กระจับต่งส่งข่าว

ลงโต่งลงโต๊ะลงโต่ง
แม่คิ้วโก่งดีดพิณเสียงใส
พิณขนุนเสียงนุ่มหากแน่น
ฟังอยากแล่นไปเคียงกว่าใกล้

พิณใครหนอดีดล้อลอยลม
เรียมชื่นชมพิณจ่ายลายใหม่
ในราตรีที่จันทร์แจ่มนวล
คนเหงาครวญปนความหวามไหว

คิดถึงรักที่เคยเคียงกัน
บ่หมายวันจำพรากจากไกล
แต่ก็ต้องจำห่างจำเหิน
เรียมขัดเขินแม้เดินทางไหน

เป็นคนจรเร่ร่อนขายแรง
ถูกบ่แพงค่าแรงงานไพร่
สะสมเบี้ยแม้เพลียก็ทน
เกิดมาจนต้องเจียมจิตใจ

กระจับต่งส่งขาวเธอที
เรียมใยดีบ่มีเฉไฉ
อยากคืนเรือนฟังพิณเหมือนเก่า
หมายวันเราเอาใจแนบใน

ยินเสียงพิณถวิลเหว่ว้า
นึกเห็นหน้าน้ำตามันไหล
เรียมเอ๋ยเรียมจงเจียมจงเพียร
รอวันเวียนเนาสนานบ้านไพร

กระจับต่งส่งข่าวถ้วนถี่
แม้ยังบ่มั่งมี ก็ใยดีบ้างเป็นไร







-----------------------------
กระจับต่ง= พิณ , ซุง ,  โตดต่ง  ก็เรียก (ภาษาถิ่นอีสาน)

ต้งลุงตุง  เป็น เสียง พิณที่ออกทุ้มหน่อย 
โตะล่งต่ง   เสียงพิณที่ออกโปร่งมากขึ้น
โตดโต่ง   นี่ยิ่งโปร่งกังวาล

เสียงทุ้มหรือเสียงแหลมขึ้นอยู่กับลักษณะทึบ - บาง ของเนื้อและชนิดของไม้
และวัสดุที่ใช้ดีดสายพิณครับ				
11 พฤษภาคม 2547 14:04 น.

อีกแล้วเหรอ----หนาว

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



 คราเหมันต์หันมาอุราร้อน
อนาทรอ่อนไหวหัวใจเอ๋ย
นครนี้เปลี่ยนไปไม่เหมือนเคย
ทุกสิ่งดูงอกเงยแต่ไม่งาม

ไม่ห่วงตัวแต่กลัวลูกจะรับเคราะห์ 
ยิ่งคิดไปเหมือนใจเสาะเพราะยิ่งขาม
สังคมเปลี่ยนเหมือนบาปกรรมมันทำตาม- 
อำเภอใจของมันยามมันย่ามใจ

ข้ออ้างมันแสนง่ายได้ทุกกฎ
มันแหกค่ายได้หมดเกินสมัย
คือทำแล้วไม่หนักก้านกบาลใคร
ฟังแล้วเหนื่อยธาตุขัยได้เพียงนั้น

พิเคราะห์ดูจริงหรือเล่นเห็นแก่ตัว
จนแก่นใจมืดมัวและม่วงหมัน
คนรายรอบชอบคำเธอจำนรรจ์
ความชอบธรรมจึงพลิกผันเพียงผายมือ

จึงเห็นมากหลากรายในหลายแหล่ง
ความรุนแรงเหลือร้ายในหลายสื่อ
ความเอื้อเฟื้อผุกร่อนถูกต้อนตือ
ความมักได้ลุกฮือขึ้นกร้าวกราว

หิริโอตตัปปะผละหนี
ภูติผีและเทพเผินก็เหิรหาว
ดาริกากล่นเกลื่อนก็เปื้อนคาว
สังคมลอกแบบราวไม่รู้ร้าย

คราเหมันต์หันมาอุราร้อน
อนาทรอ่อนไหวหัวใจหาย
นครนี้เปลี่ยนไวใจจะวาย
ครูกับศิษย์หญิงชายเป็นข่าวคาว .				
11 พฤษภาคม 2547 13:16 น.

ชาวนาสำรวล

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


ชาวนาสำรวล

(ข้าขอกรวดน้ำอุทิศแรงงานและผลผลิตของข้าแด่ปวงท่านทั้ง 3 โลก)

------------------------------------------------------------
ตระหงานเมฆ ทบกลุ่ม คลุมม่านฟ้า
ราวกับว่า ช่างวาด วาดไว้ขู่
ลมหมุน ปั่นขอบหาว เห็นพราวพรู
ไม้น้อย ระเนนลู่ ก่อนไล้เกลียว

ฝนซัด ลงซ่าซ่าน ขึงม่านฝน
แห่งหน วาวตระการ บังม่านเขียว
พรรโษบล หล่นหลั่ง โครมคลั่งเทียว
โดยรอบเหลียว วาวพราว ราวต่างแดน

หลั่งมา เถิดผองข้า จะปลูกข้าว
ให้หอมไกล ไปถึงดาว เอาฬารแสน
ขาดน้ำ น้ำตาหยาด ยามขาดแคลน
น้ำหลาก บ่ยากแค้น ดอกแดนคน

ปลูกข้าว ชุบหัวใจ ในสุ่มโลก
เลี้ยงกาย คนทุกข์โศก ในโตรกหม่น
ยมหล้า มานุษย์ แมน แดนสากล
ล้วนคงตน จากข้าว อันเนานา

กอปรทาน ดาลผนวช คอยกรวดน้ำ
คือฝนฉ่ำ โรยฉันท์ เริงพรรษา
ไตรโลก คลายโศกเขลา เบาปัญญา
มีธารฟ้า พรมดิน จึงยินดี

มีฝนจึงเอื้อฝันอันเรืองโรจน์
ชูเชาวน์โชติชุบชีวินทุกถิ่นที่
ธัญญาก่องรวงเข้มคนเปรมปรีดิ์

สามโลกมีข้าวกินอย่าหมิ่นชน !!				
8 พฤษภาคม 2547 11:24 น.

บูชาพ่อ

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


ในวัยเยาว์เขลาเหลือพ่อเชื่อไหม
หนูอาศัยบทคาถาพ่อพาขาน
ท่องจำแม่นไม่เลือนล่วงจากดวงมาลย์
กล่อมวิญญาณให้เติบกล้าสู้หน้ากรรม

พ่อเสกเป่าเกล้ากระหม่อมพร้อมลูบหัว
บอกละชั่วแม้ต้องขมนะคมขำ
หนูก็จดลงใจใฝ่ถึงธรรม
เป็นธงนำปักที่ใจไม่ลบเลือน

จนวันนี้มีชัยและได้ดี
มากราบพ่อต่อหน้าพี่และผองเพื่อน
ในวัยเยาว์เขลาหงอพ่อคอยเตือน
ให้ธรรมเหมือนเครื่องกันอันตราย

คิดดีพูดดีทำดี..
คาถาอันนี้หรือมีขาย
อดทนอยู่ไม่หลู่งานอันเหนื่อยกาย
เก็บออมอยู่ไม่รู้หน่ายได้ลืมตา..

ลืมตาอ้าปากพ้นยากจน
เชื่อคำพ่อและเชื่อผลของคาถา
กราบเท้าพ่อขอแทนคุณตอบบุญญา
ค้อมวันทาศึกษาธรรมค้ำคุณเอย .				
2 พฤษภาคม 2547 00:23 น.

ฟ่อนคำ

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


(ฟ่อนคำของปู่)
------------------------------------


อืออื้อ นอนอู่เถิดหนูจ๋า

ไม่นอนจะอ่อนล้านะขวัญไถ

เติบโตจะท่องเที่ยวหนทางไกล

หรืออยู่เรือนทำไร่ประสาเรา


หลับตาพริ้มอิ่มอุ่นกับอ้อมอก

อย่าสะอื้นตื่นตระหนกวิตกเศร้า

ปู่จะเห่ย่าจะกล่อมถนอมเรา

มิให้หลานปู่เหงาแม้เสี้ยววัน


แม่ไปไร่สิหมกไข่มาหา..
แม่ไปนาสิหมกปลาสู่ขวัญ
นอนเถิดหล่าหลับตาลงเร็วพลัน
ปู่ย่ารักเจ้ามั่นเจ้าขวัญยืน


แม่เจ้ากำด้ามเคียวเกี่ยวข้าว
แม้ปีนี้เหน็บหนาวบ่เข็ญขื่น
รวงข้าวในแดดแก่แต่วานซืน
ถึงมะรืนก็เก็บกองกับลานไกล


ฟ่อนข้าวคือฟ่อนคำอยู่ตามทุ่ง
ครั้นเรียงกองอาจเอื้อมรุ้งเลยเชื่อไหม
เจ้าเชื้อทุ่งเทือกนานะยาใจ
จะลืมทุ่งไม่เป็นไรไม่ว่ากัน


พ่อเจ้าเหนื่อยแม่เจ้าล้าปู่ย่ารู้
เขารักทุ่งเหมือนกับปู่ที่เชื่อมั่น
ทุ่งสีทองจะผ่องใสไปนานวัน
ตราบที่เขาเชื่อมั่นสวรรค์นา


นอนเถอะหลานอย่ารำคาญที่ปู่คิด
ปู่อาจผิดที่เพ้อพล่ามตามประสา
เจ้าจะเป็นอะไรตามใจศรัทธา



อย่ารังเกียจข้าวจากนา
ก็แล้วกัน .				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์