27 เมษายน 2547 22:30 น.

เธอร่ำไห้ ในคืนหนาว

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



ใบไม้ใบน้อยลอยน้ำ

ปลิวมาจากลำต้นไหน

ลมพรูขู่กิ่งทิ้งใบ

หรือไรจึงลอยเลื่อนมา

คลื่นลมพรมไล่ไม่หยุด

แรงดุจจะผลักหินผา

เธอจึงลิ่วไปไกลตา

เกินกว่าจะตามถามทัน

ฉันนึกแต่ยังนิ่งอยู่

อยากรู้เธอถึงฝั่งฝัน

หรือลมจมใจแจ่มจันทร์

กับคืนและวันอ้างว้าง

ฉันนิ่งแล้วยิ่งทำใจ

ฟังข่าวเธอในทุกทาง

ใบไม้ใบกรอบบอบบาง

เคว้งคว้างท่ามกลางคลื่นคน

อวยชัยให้เธอถึงฝั่ง

พ้นคลื่นอันคลั่งตั้งต้น

อีกครั้งดังคนเหนือคน

มองจนเธอไป แสนไกล

..............................				
27 เมษายน 2547 04:48 น.

(((((((((ตอยแล่นแตร)))))))))

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


แตรแล่นตอยลอยลมมายินเรื่อย
ดูเฉื่อยเนือยกลับกระชับรับน้ำไหล
เย็นไอน้ำยามเย็นยิ่งเย็นใจ
แตรแล่นตอยลอยไปในราตรี

	น้ำที่หลั่งถั่งถอกกระฉอกฝั่ง
เป็นเสียงคล้ายความหลังครั้งเธอหนี
ไปจากเรือนความรักความภักดี
เหมือนไม่มีใยใจอาลัยกัน

	ยิ่งคลอกับลายไหลร่ำไรหา
แตรแล่นตอยคอยท่าวอนอย่าขัน
ลมเอยหอบหัวใจไปไหนกัน
วานหอบวันเวลามาเนาเรือน

	โยกเถิดโยกโตรกผาถ้าโยกได้
คลอนเรือนใต้สั่นเรือนต่ำทำเชือดเฉือน
ผู้ใดเหงาเอาให้ตายใต้เงาเดือน
แตรแล่นตอยคอยเหมือนไม่หวนมา

	เสียงซอไผ่ไล่รับขยับซ้อน
แอดออดกอต่อตอนร้าวรอนกว่า
ไผ่สีกอล้อลมพรมพร่างพา
เหน็บอุราเหนี่ยวทรวงถึงห้วงเยาว์

	แตรแล่นตอยลอยลมแล้วพรมซับ
เสียงทางพร้าวคว้างขวับสับคืนเหงา
เป็นริ้วรอยในราวทางเห็นบางเบา
เช่นเดียวกับรอยเขลาในเงาวัย

	บีบคั้นเถิดตอยแล่นแตรอย่าแค่เย้ย
ที่เคยเอ่ยรักพี่เคยมีไหม
ถ้าไม่รักกันแล้วก็แล้วไป
อย่าควงใครมาเย้ยคอยตอยแล่นแตร				
26 เมษายน 2547 21:39 น.

ละมุดออกลูกเป็นฟัก?!

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


จะเป็นไปได้ อย่างไรกัน
ละมุดมันมีกิ่งใบแบบไหนเล่า
ส่วนฟักเขียวฟักหอมลูกย่อมเยา
ก็เกือบเท่าโหนกวัวเท่าหัวลิง

ถ้าเป็นได้ก้านใบคงหักราน
ไม่อาจทานแรงถ่วงที่หน่วงกิ่ง
ฟังแล้วเหมือนเพ้อพกตลกจริง
ครั้นจะนิ่งก็ระแวงคลางแคลงใจ

คนที่พูดรุ่นราวคงคราวน้า
เดาน้ำเสียงและสีหน้า  มาไม้ไหน
สวนของแกห่างบ้านเราไม่เท่าใด
คืบเท้าไปก็คิดพรางต่างต่างนานา

จะเอายอดมาเปลี่ยนยอดก็ต่างเยื่อ
หากเปลี่ยนได้ก็จะเชื่อบ้างหรอกว่า
ละมุดออกลูกเป็นฟักประจักษ์ตา
และอาจออกลูกเป็นหมากับเป็นแมว

พอไปถึงจึงร้องอ๋อหัวงอหาย
ฟักออกลูกมากมายเป็นทิวแถว
บนต้นของต้นละมุดจนสุดแนว
เห็นความจริงเข้าแล้วจึงแจ่มใจ




เมื่อราคาของละมุดฉุดไม่อยู่
คนปลูกมากก็ตกลู่ลงไปใหญ่
ด้วยแรงแค้นความขัดสนจะบ่นไป
กลัวขัดใจนายเมืองมีเรื่องราวราว

จึงประชดเทวาและฟ้าดิน
เอาละมุดเพียงไว้กินเป็นกับข้าว
คาดไม่ถึงแค่นิดเดียวก็เกรียวกราว
เมื่อฟักเขียวใหญ่ยาวขึ้นเยอะแยะ

เมื่อละมุดกลับมาราคาดี
น้าก็มีละมุดใหญ่ขายอีกแหละ
เออแบบนี้ก็เข้าทีดูดีแฮะ
ไม่ได้แนะเพียงแต่นึกขำนิดนิด

ว่าน้านึกขึ้นได้อย่างไรกัน
เกษตรกรตอนนั้นต่างเสพติด
การรอคอยราคาประกันอันยอดฮิต
ไม่ได้คิดทางอื่นไหนเป็นไทยตัว

เมื่อละมุดออกลูกมาเป็นหมา
ได้พันธุ์ดีมีราคามิใช่ชั่ว
ลูกน้าจึงไม่จนตรอกกับคอกงัว
เพราะพ่อเขาเป็นดอกบัวพ้นน้ำบาน

สติและปัญญา เป็นของดี
ยิ่งหา ยิ่งมี ทุกสถาน
มีแล้วใช้กอปรกิจการงาน
จะให้ผลหอมหวานสำราญเอย .				
26 เมษายน 2547 12:08 น.

อยากเจอคนจริงใจ มีไหมแถวนี้...

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



ชื่อเรื่อง ผมยกมาจากเพลงลูกทุ่งทั้งดุ้น
แน่นอนผมกำลังจะพูดถึงเรื่องความรัก
ขอพูดถึงบ้างเถอะน่า
คุณพูดถึงความรักแล้วคนติด กัน..          ตรึม!!
--------------------------------------------------
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
21 กุมภาพันธ์ 2547




นี่เลยวันแห่งความรักมานานแร้ว(ล.ลิงหายไป-อัสนีและวสันต์ว่า)
แต่ความรักก็บ่แคล้วทำใจไหว(ไม่ได้คิดว่าจะทำใจในเรื่องรัก-เพราะรักนั้นทำให้หวามเสมอ)
รักนั้นหวานว่าปานอ้อยก็น้อยไป(หวานมากดูที่ยิ้ม)
รักเติมใจอยู่บ่จางอยู่ข้างรัก(ใช่-ผมเลือกที่จะอยู่ไม่ใช่หันหลังจาก)

ก็ด้วยรักก่อรูปที่ละน้อย(เธอก็คงจำได้วันแรกที่เราเริ่ม- มันไม่ใช่รักแรกพบ มันเป็นความใส่ใจกันตามที่ควรจะเป็นของคน)
แล้วรักค่อยแน่นแฟ้นแล้วแน่นหนัก
จนเมื่อคุยเรื่องหัวใจให้ชัดคัก
จึงเอ่ยถึงเรื่องหลักเรื่องรักเรา


ว่าจะเริ่มครอบครัวกันอย่างไร
เพื่อจะไม่แยกทางเหมือนอย่างเขา
เพื่อจะอยู่ครองกันอย่างนานเนา
จนแก่เฒ่าเบาใจไม่รุ่มร้อน

แล้วก็ทำตามนั้นตามสัญญา
ความรักจึงมีค่าขึ้นกว่าก่อน
รับผิดชอบหัวใจไม่แคลนคลอน
รับผิดชอบตอบย้อนไม่คลอนแคลน

หวานอย่างไรก็ไม่ทิ้งสิ่งควรทำ
แม้นต้องช้ำขมขื่นเป็นหมื่นแสน
เมื่ออยู่ในโลกทุกข์-สุขแกนแกน
ก็หาแผนที่ใจไว้ดูทาง

น้อยก็อดทนเอาหาเข้าออม
ไปก็เตรียมให้พร้อมไว้ทุกอย่าง
อยู่ก็สรรค์วันดีด้วยที่ทาง
คิดถึงวันพรุ่งพลางแม้คางยาน

เตรียมสิ่งใดไว้ให้คนรุ่นโหลน
ไม่ใช่มากแต่ซากโขนกับสุสาน
คิดไกลไกลไม่ใช่รักแบบดักดาน
คิดถึงบ้านเมืองด้วยช่วยให้ดี

ให้พวกเขาเนาเย็นเป็นคนสุข
ไม่ใชคนทนทุกข์ทุกถิ่นที่
ให้เขาได้ให้เขาเห็นสิ่งเด่นดี
คุณภาพชีวีมิแร้นแค้น

ทำการใหญ่ทำได้ไหมในการเล็ก
ทำเพื่อเด็กในดงอื่นอีกหมื่นแสน
ดงน้ำครำดงผู้ดีดงต่างแดน
ที่ขาดรักก็บ่แม่นจะนิดน้อย

อยากเจอคนจริงใจมีไหมแถวนี้
อยากเจอคนดีดี-ก็คงเจอแถวนี้บ่อย
ดีเพื่อตนแล้วเพื่อคนอีกหลายร้อย
หวังจิ๊บจ๊อยเท่านี้มีไหมเออ 


--------------------------------------------------

หวังจิ๊บจ๊อยแค่นี้ดีไหมเออ				
26 เมษายน 2547 06:57 น.

รับขวัญลมตะวัน-พี่ของปานตะเว็น

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


รับขวัญลมตะวันผู้กลับมาสู่อ้อมอกพ่อ
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
-----------------------



มาล้อมวงเถิดพี่น้องร้องเรียกขวัญ
ลมตะวันแก้วตาลูกยาเอ๋ย
จากเถื่อนเขาลำเนาไพรไม่คุ้นเคย
มาเนาเชยแนบชิดสนิททรวง

กินข้าวผีให้เจ้าฮากสำรากพลัน
หมากผีมันเล่ห์แรงแสลงหลวง
คายคำหมากอันพวกสางมันสร้างลวง
เพื่อหลอกดวงใจจ้อยไปต่อยตี

เมื่อเจ้าไปใครเขาก็เหงาหงอย
ลุงป้าคอยแก้วตาอย่าเบือนหนี
สู่อ้อมอกอย่าตกใจกับไมตรี
ความใยดีคือความหมายสายสัมพันธ์

เจ้ากับน้องต่อไปก็ใหญ่โต
ส่วนพ่อโซเสื่อมไปในธาตุขันธ์
ปานตะเว็นเป็นน้องลมตะวัน
จงรู้จักรักกันปันอาทร

ผูกข้อมือความหมายคือคลายเบา
จากความทุกข์ความเศร้าในคราวก่อน
กับผูกจิตสนิทสนมสุขสมพร
พ่อเรียกขวัญเป็นกลอนเป็นตอนไป

ลมตะวันอย่าขวัญเสียละเหี่ยโหย
อย่าโอดโอยว่าใยหนอพ่อผลักไส
ไปเรือนปู่อยู่ต่างบางอยู่ทางไกล
พ่อจนใจกับมีกรรมมันจำเป็น

เมื่อเข็ญข้นปนร้าวมันเบาลง
พ่อก็ตรงมารับเจ้าไวเท่าเห็น
ปู่กับย่ารักเรามากเห็นยากเย็น
ดูแลเจ้าตั้งแต่เป็นเด็กอมมือ

ลมตะวันขวัญตาอย่าเคืองพ่อ
ปานตะเว็นนั้นก็อย่าดึงดื้อ
มีอะไรให้ปรึกษาและหารือ
พี่ชายคือหัวแหวนแทนบิดา

	วันวานคือวันช้ำเราลำบาก
เมื่อตกยากบางคนเห็นเราเป็นหมา
เพราะข้าวสารกรอกหม้อต้องขอมา
แอบกินข้าวกับน้ำตาในซอกครัว

	 วันนั้นหม่นหมองเกือบร้องไห้
มาวันนี้ ดีใจได้ยิ้มหัว
ลมตะวันหันมาอย่าหวาดกลัว
ยามคืนรั้วเรือนเราคราวมีกิน

	ญาติพี่น้องล้อมวงอยู่ตรงหน้า
อาอาวป้าลุงใหญ่ไม่เคยหมิ่น
ให้พริกเขือเกลือปลาร้าเป็นอาจิณ
มีใจรินความการุณอุ่นกมล
	
	เสียงร้องรับเรียกขวัญวันบายศรี
เธอจงมีความฝันอันออกผล
คือกล้าแกร่งเป็นแสงชัยให้หมู่ชน
เราทุกคนล้วนนิยมชื่นชมเธอ




-------------------------------------------------
to be  continue				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์