22 เมษายน 2547 07:46 น.

If i am in Lord Buddha monkhood

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


ผมจะสงบจิต
ศึกษาพระธรรมวินัย
ให้แตกฉาน
ศึกษา  ปฏิบัติดัดสันดาน
หมายเอาพระนิพพานเป็นสำคัญ

ไม่เข้าถึงจะไม่บึ่งมาร้องป่าว
มาประกาศเรื่องราวเป็นข่าวขัน
เจียมจิตตรงยึดหลักของมรรคพลัน
เพื่อดับวันเวียนทุกข์และสุขเอย				
22 เมษายน 2547 05:51 น.

เออ มันก็จริงของลูก

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



อ้ายหนู ...มานี่หน่อย

อะไรครับพ่อ
หนูอาบน้ำหรือยัง
อาบแล้วครับ
จริงหรือลูก ( พ่อมองเห็นลูกค่อนข้างมอมแมม )
จริงเสียยิ่งกว่าจริง ( ถ้อยคำของเจ้าลา ในหนังเรื่องเชร็ค )

แล้วกินข้าวหรือยังล่ะ
เรียบร้อยแล้ว พ่อ

เอ๊ะ วันนี้ลูกทำอะไรเร็วขึ้นมากเชียว

ก็ วันนี้ปีใหม่นี่นา

งั้นหรอกเหรอ

เอางี้แล้วกัน
ปีใหม่พ่อจะให้พร

( เด็กน้อยเดินเข้ามาใกล้ ๆ พ่อลูบหัวของเขา แล้วจึงเป่ากระหม่อม)

ลูกรับผิดชอบมากขึ้น
ปีใหม่นี้ของให้ลูกเรียนเก่งขึ้น

และโตขึ้นให้ร่ำรวยด้วย ( เพราะตอนนี้พ่อก็เป็นโรคถุงเงินตีบตัน )

ลูกว่า

จริงเร้อพ่อ
ถ้าพรของพ่อเป็นจริง
ทำไมไม่ให้รวยตอนนี้

( พ่อเจอของจริงเข้าให้แล้ว )

เออ มันก็จริงของลูก
ถ้าเราไม่ทำงาน ทำการ
เงินทองมันจะมาจากไหน

อย่างน้อยมันต้องทำงาน

ทำงานเป็นเดือน เงินก็ไหลมาเป็นเดือน

ทำงานเป็นวัน เงินก็ไหลมาเป็นวัน

ไม่เป็นไร พูดผิดพ่อพูดใหม่ได้

ปีใหม่นี้ พ่อจะรักลูกให้มากขึ้นครับ

เด็ก ป.1 ที่อยู่ต่อหน้า ว่า

ผมก็จะรักพ่อมากขึ้นเหมือนกันครับ

พูดแล้วเข้าก็ผละจากอ้อมกอดของพ่อไป

พ่อมองตาม 

และนึก ว่าพรสำหรับตัวเอง

คืออะไร ในปีนี้

แล้วก็มานึกออก ว่า

ความจริงผมได้พรที่มีค่ามากที่สุด
มาตั้งแต่วันที่เขาเกิดแล้ว				
21 เมษายน 2547 19:11 น.

ลูก

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

หลับเถิดลูกยาในราตรี
เจ้าเหนื่อยล้ากับหน้าที่ดูทุกข์เศร้า
พ่อเห็นลูกเหนื่อยท้อบ่บรรเทา
ได้แต่เอาใจช่วยด้วยหัวใจ
พ่อเรียนต่ำทำนาประสายาก
แม้ลำบากบ่บ่นพ่อทนได้
อยากให้ลูกเล่าเรียนแล้วเป็นไท
เติบโตมีชีวิตใหม่ไม่โง่งัว
แสวงหาภูมิปัญญาบรรดามี
ก่อกรรมดีบ่ตกต่ำลงทำชั่ว
ครองชีวิตชาญฉลาดบ่ขลาดกลัว
มีความคิดเป็นของตัวบ่มัวตรม
ลูกอดทนบากบั่นในวันนี้
ย่อมจะมีวันหัวเราะอย่างเหมาะสม
มิใช่หนอนอย่าหลงว่ายฟายอาจม
เป็นมนุษย์ควรชื่นชมคุณความดี
หลับเสียเถิดลูกแก้วแล้วค่อยลุก
เอาบทเรียนชีวิตปลุกตนทุกที่
รู้จักโลกแจ่มกระจ่างสร้างชีวี
พ่อต่ำต้อยคนนี้เป็นแรงใจ .
-------------------------------------------------
ผมโพสต์ ลูกยาไว้แล้ว
แต่ยกมาอีกรอบหนึ่ง  ข้างต้น
คุณข้ามไปเลยก็ได้
แล้วมาเริ่มตรงนี้



คุณเชื่อไหมครับ 
ผมมีความรู้สึกว่าตนเองมีลูกตั้งแต่ยังเรียนหนังสือไม่จบ
และยังหาแม่ของลูกไม่ได้

ผมวาดภาพความเป็นพ่อของตัวเองเอาไว้ง่ายๆ
ว่า
ผมต้องเป็นพ่อที่รักลูก
แคร์ความคิด ความรู้สึกของเขา
ลูกคือเพื่อน
พ่อต้องเป็นเพื่อนของลูก
ที่เขาพึ่งได้
ที่เขาบอกความคิดของเขาได้
ที่เขาเปิดเผยมุมที่เขาไม่กล้าพูดกับคนอื่นได้
ฯลฯ

ผมใช้เวลาหลายปี
หาแม่ของลูก

ผู้หญิงแต่ละคนที่รู้จักผม
และแอบคาดหวัง
เป็นคนดีมาก
ดีจนผมรู้สึกต่ำต้อย


มันต่ำต้อยเสียจนผมคิดว่า
ถ้าแต่งงานกัน
ผมคงกลายเป็นเพียงอ้ายหมาตัวหนึ่ง

ถึงวันนี้    ผมมานั่งคิด
ก็เห็นว่า
ดีแล้วที่รักแต่ละครั้ง
มันจบไปก่อนที่จะกลายเป็นการครองคู่

ผมกลับไปหาเพื่อน
บอกหัวใจตรงไปตรงมา

เราตัดสินใจกันไม่นานนัก
เพราะรู้จักกันมานานมาก

และคงไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก
ไม่ต้องสร้างภาพโกหกกันด้วย


เมื่อแต่งงาน
ผ่านวันขม
มาถึงวันสมสุข

ผมมีลูกชายถึง 2 คน

ผมรักเขา
รักของเราทุ่มไปที่ลูก

ในชีวิต
ผมขาดอย่างอื่นมาตลอดเส้นทางลมหายใจ
แต่วันนี้ผมไม่ขาดสิ่งใดแล้ว

เพราะความรัก
ความรักที่ผมมีต่อภรรยา
ความรักที่ภรรยาของผมมีต่อลูก
ความรักเรามีต่อลูก
มันได้ทำให้ความขาด  ความขัดสน
ค่อยๆ  บางเบาลง
จนทำให้เราไม่ทุกข์ท้อในความความแร้นแค้นจนเกินไป


ความรัก
เป็นยาที่ดีเหลือเกิน

ยาใจ
คงพูดเช่นนั้นได้มั้งครับ

เมื่อเรามอบให้แก่คนอื่น
โดยเฉพาะลูก
และผู้เกิดตามหลังเราในสังคม				
21 เมษายน 2547 05:37 น.

หมาน้อย เด็กชาย และหญิงวัยกลางคน

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์




เธอโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่นะ
ขณะที่คนบ้านนั้นถีบเธอออกมา
เขาก็เข้าไปโอบอุ้มเธอมาโอบกอด
เขารักเธอ และดูแลเธอเป็นอย่างดี

แล้ววันต่อมา เขาออกไปข้างนอกกับพี่สาว
แม่ของเขาเตะเธอกระเด็น
เพราะเธอลักกินเศษเนื้อในครัว
ที่หล่อนเตรียมทำกับข้าวสำหรับลูกชาย

เธอ เป็นเพียงลูกหมา
ส่วนลูกชาย หล่อนปรารถนาให้เขาเติบโตเข้มแข็ง
เธอร้องเสียงหลงอยู่นาน
ก่อนหลบไปครางอิ๋งอิ๋ง ในมุมหม่นหม่น

เขากลับมา ถามหาหมาตัวน้อยน้อย
แม่ของเขาบอกว่า มันหลบไปนอน
ให้ลูกล้างมือมากินข้าว
เขาไปล้างมือและมานั่งลงข้าง ๆ สำรับข้าว หมาน้อยได้กลิ่นอาหารและได้ยินเสียงของเขา
วิ่งมาไม่ทันได้ดูหน้าหลัง
หล่อนถีบเข้าที่ซี่โครงขวา เต็มเท้า
หมาน้อยกลิ้งไปตามแรงถีบ
ร้องเสียงหลง

เมื่อลุกขึ้นได้ก็หลบไปหมอบอยู่ห่าง ๆ

หงอย เชื่อง เซื่องซึม

มองแบบหวาด ๆ มาทางเด็กน้อย

เด็กชาย ขวัญใจของแม่ตาแดง
เริ่มจะร้องไห้

แม่รู้ แม่เห็น แม่ปลอบ
โถ ลูกชายของแม่ ต้องเข้มแข็งซิลูก

แม่ลูบหัวลูกชายอย่างอ่อนโยนและใยดี

หมาน้อยแนบคางลงกับพื้นมองนางและเขา

พอหมาน้อยเริ่มขยุกขยิกกัดเกาเห็บเหา

นางก็เอาไม้กวาดมาฟาดตี
 .				
20 เมษายน 2547 21:27 น.

Born to be ?

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


บอร์นทูบี
โดย ก่อพงษ์  พงษพรชาญวิชช์

-------------------------------

พ่อว่า
ชีวิตคนทั้งหลายคล้ายลูกโป่ง
มีเค้าโครงออกแบบไว้ให้ขยาย
แม้มาจากโรงงานใดก็ไม่วาย
แตกต่างภายในชั้นผิวอันบาง

อาจเล่นรูปทรงสวยงามด้วยสี
อาจดูดีแล้วตีค่ามาต่างต่าง
แม้เป่าโป่งก็คงใหญ่ในต่างทาง
รวมทั้งแตกได้กลางความวางใจ

บางลูกโป่งเป่าใหญ่ได้งามนัก
ทั้งน่ารักน่าชมสมสมัย
บางลูกโป่งก็ซึมรั่วอยู่ทั่วไป
เป่าก็ไป่เป็นรูปร่างอย่างอยากเป็น

บางลูกโป่งเป่าหน่อยก็พลอยแตก
บางลูกโป่งพองแต่แรกให้เรียมเห็น
อยากให้โตตึงเหมือนกับเดือนเพ็ญ
กลับล้อเล่นแบนแฟบลงแบบเบา

แต่ไม่มีลูกโป่งใดพองได้เอง
อยากให้เป่งพองใหญ่ตั้งใจเป่า
เป็นลูกโป่งแบบไหนหนอใจเรา
พองแล้วเฉาเป่าแล้วฉายหรือดายแด




----------------------------

เขียนในนาม ก.พ.
ในเว็บฯหญิงไทย
ขอบคุณครับผม				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์