11 เมษายน 2547 14:51 น.

แสนสวน พันยุทธภูมิ

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


บทกวีแนวทดลอง
เขียนจดหมายถึงตัวเอง #4
ชุด เกิดและตายในความจน

ยกสุดท้ายของขุนแข้งนฤมิต
แสนสวน   พันยุทธภูมิ
-------------------------------------------------------

	เตะซ้าย   ถีบขวา  และเตะซ้าย
ยักย้ายรุกขยับสับสีข้าง
ด้วยแข้งขวาจั๋งหนับราวจับวาง
พับในถ่างเป็นโดนซ้ำอย่าสำรวย

	ยกแรกถึงยกห้าลีลาดี
แสนสวนมีมากมายแม่ไม้สวย
ผู้คนชมผู้คนเชียร์บ่เสียมวย
แม้เซียนอยากให้เขาช่วยล้มมวยกิน

	มวยไม่ใช่อันธพาลนี่  ก.พ.
การพนันขันต่อสิเหม่หมิ่น
คนชกมวยเลี้ยงชีวาเพียงหากิน
ใครควรหมิ่นเชิงมวยด้วยเดิมพัน

	เกิดจากปลักรึต้องล้มลงจมปลัก
หัวใจรักการต่อสู้อยู่อย่างฝัน
หอบเอาแรงกับลมใจไปต่อวัน
ในค่ายมวยมุ่งมั่นถึงเมืองแมน

	เริ่มจากสิบเป็นร้อยรับค่าตัว
บ่เคยกลัว  แต่บ่กล้าออกขาแขน
ล้มมวยหมายเงินตาเหยียบหน้าแฟน
ชกลมไปแกนแกนกินสินบน

	มือตีนปิดด้วยทองไหมน้องเอ๋ย
เราควรเฉยหรือต่อยตีแบบมีผล
ปกป้องผู้อ่อนเขลาคราวอับจน
จากอิทธิพลอันธพาล

	แต่นั่นแหละยกสุดท้ายก็มาแล้ว
แสนสวนแผ่วสังเวียนไหวในวันผ่าน
ผืนผ้าใบร้างลิ่มเลือดหลังวันวาน
เซียนมวยยังหยอดคำหวาน-เสียดายมึง

	แสนฯจำหลอกสายตาประชาชี
เพราะพ่อที่ป่วยไข้ไร้ที่พึ่ง
ต้องรักษาด้วยเงินแสนแถนบ่นอึง
แสนก็จึงแทนรูปมวยด้วยรูปแมว

	ที่สุดแสนฯก็สุดขมตรมหัวอก
ชะตาตกเซียนก็หายไปเป็นแถว
ไม่มีผู้มาดูแลมีแต่แจว
แสนฯตายแล้วจากแผลโทรมคราวล้มมวย .				
11 เมษายน 2547 06:15 น.

ขวัญข้าว

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


คิดถึงพ่อบ้างไหม
ดวงใจของพ่อเอ๋ย
เราห่างกันจังเลย
ราวกับอยู่ต่างฟากฟ้า

เคยโอบขวัญเจ้ากับอ้อมอก
เคยเล่าเรื่องตลกให้เริงร่า
พานับดาวพราวพร่างกลางนภา
ผูกเปลนอนที่เถียงนาหอมป่าไพร

เจ้าเล่นเป็นเพื่อนอยู่กับพ่อ
พ่อลืมความเหนื่อยท้อทั้งสิ้นได้
ยิ้มของเจ้าเติมความหวังโลกทั้งใบ
บ่ให้กว้างอย่างแร้นไร้ความร่าเริง

อยากให้ลูกแก้วย้อนไปเยือนรัง
อยู่ข้างหลังแม่ห่วงหาน้ำตาเจิ่ง
รู้ไหม ที่ลูกไปแบบเปิดเปิง
ทั้งวงเวิงย่ายายตายทั้งเป็น


ขวัญใจของพ่อเอ๋ย
ทุกคนเอ่ยชื่อขวัญข้าวเย้าลูกเล่น
ใครกันเล่าว่าเจ้าเป็นซากเดน
ลูกของพ่อดีเด่นแต่ไหนมา

พ่อแม่ยังคงเป็นผืนแผ่นดิน
คือซึมซับได้ทั้งสิ้นเลยไม่ว่า-
สิ่งนั้นดีสิ่งนี้เลวไร้ราคา
เพียงหวังให้ลูกเติบกล้าขึ้นสมวัย

มาเถอะลูกกลับคืนสู่อ้อมอก
ฟังนิทานเรื่องตลกเรื่องใหม่ใหม่
ให้พ่อเป็นลาช้างก็ยังได้
มาหนุนหมอนใบใหญ่นับดาวกัน

มาฟังเพลงแสงดาวพ่อจะกล่อม
ปู่จะเป่าที่กระหม่อมให้จอมขวัญ
แม้นใครอื่นจะคาดหวังลูกอย่างนั้น
แม่กับพ่อไม่คาดคั้นดอกแก้วตา

เพื่อนของเจ้าอาจรักเจ้าเท่าพ่อ
บางทีเพราะมีสิ่งพอให้คบหา
เมื่อไรเจ้าจนใจให้พึ่งพา
คงเห็นเขาเบือนหน้าแล้วอย่างไร

อ้อมกอดของพ่อยังว่างเปล่า
แม้พ่อแกร่งก็รู้ร้าวและหวั่นไหว
พ่อรู้ว่าน้ำตาพ่อตกใน
ตราบที่เห็นหัวใจลูกเฉยเมย				
10 เมษายน 2547 17:45 น.

นบพระ

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


บทกวีแนวทดลอง  จดหมายถึงตัวเอง #3
ชุด เกิดและตายในความจน

รำลึกข่าว   พระอาจารย์         ละขันธ์แล้ว
----------------------------------------------------------------

ทิวารวิโชติขับหนาว
ราตรีกลับตากดาวต่อฟ้า
ขึ้นแรมนะเด่นพราวสลับหลุบ
ทุกข์ดับบ่เกี่ยวฟ้าสุขถ้วนนิรันดร์สมัย
-----------------------------------------------------------------

	ฝึกใจไปถึงไหน   ทิด ก.พ.
กำหนดแบบยุบกับหนอหรือแบบไหน
เพ่งดวงแก้วได้เห็นแล้วหรืออย่างไร
ฤานิ่งไหวจับจังหวะขณะจร

	หรือติดตามลมเบาที่เข้าออก
หรือเพ่งในเพ่งนอกพินิจขอน
อันขังเมือกเสลดไขในนิวรณ์
หรือยืนเดินนั่งนอนเพียรรู้ตาม

	รึห่างวัดแล้วก็ตัดใจมิลง
เวียนว่ายโลภโกรธหลงบ่หวาดขาม
เคล้าบ่ละคละอยู่นั่นโลกีย์กาม
ลืมนึกแสงวาววามพระนิพพาน

	ฟังเถิดสาธุชนเกิดบนโลก
ใครไม่โศกตรมที่ไม่มีบ้าน
ใครไม่ทุกข์จริงหนอแม้ขอทาน
ใครไม่รานร้าวแย่ตามแฟชัน

	นุ่มห่มผ้าย้อมฝาดเพียงสามผืน
หลับแล้วตื่นฝึกตนพ้นสวรรค์
พ้นจากพรหมยมหล้าอาทิตย์จันทร์
เข้าผู้นั้นเกิด-ตายในสัจธรรม

	คนเคารพนบอยู่มิรู้หน่าย
แม้คนผู้เวียนว่ายในวงต่ำ
ยังเด็กดอกบัวหงอขอตัดกรรม
ทั้งที่ทำทางส่งลงอบาย
	

	ยังปฏิบัติธรรมไหม ก.พ.
หรือจมบ่ออบายภูมิ-อวดภูมิหลาย
หรือหลงศักดิ์รักหน้าลืมว่า   ตาย
ก็อยู่ตรงหน้านายไปหน่อยเดียว !!!				
10 เมษายน 2547 10:04 น.

ฝ่าฝน

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



วันที่เหงาเศร้า ร้าวราน

อยากได้ยินคำอ่อนหวานจากเธอ

แต่ห่างไกลกันเหลือ รู้ไหมใจฉันเพ้อ

ฉันคิดถึงเธอ

ฉันรักเธอเหลือเกิน

เดินทางอย่างเหงาเศร้า ร้าวรอน

อยากให้มีคนอาทรและเข้าใจ

แต่ยามนี้เราห่างกันไกล

ฉันเหมือนไม่มีใครเลย

อ้างว้างสุดอ้างว้าง

เส้นทางนี้เหงาเหลือเอ่ย

ฉันคิดถึงเธอจังเลย

ฉันรักเธอเหลือเกิน

อยากเดินตากฝน

ให้เปียกปอนจนชุ่มไป

เปียกโชกให้สะใจในความเหงาร้าวรอน

คาดหวังลม ๆ แล้ง ๆ

ให้รักกลับมาเหมือนก่อน

แต่สิ่งที่แน่นอน

คือนับวันห่างไกล .				
9 เมษายน 2547 18:40 น.

สมฉีกับสมปี

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


บทกวีแนวทดลอง

เขียนจดหมายถึงตัวเอง # 2
ชุด เกิดและตายในความจน


:รำลึกถึง สมฉี-สมปี ผู้รับใช้ชาติและมหาชน


ทรามเชยมีนามว่า สมฉี
น้องสาวชื่อสมปี เถื่องจ้อย ( ชื่อสกุล)
สองสมดับชีวี ฟังขื่น หัวอก
เธอตกนรกร้อย- โรคร้าย รุมขยำ

----------------------------------------------
             
             ก.พ.จำได้ไหม
ใครคนซื่อชื่อสมฉี
อีกคนคือสมปี
คนข้างเรือนเหมือนเพื่อนขวัญ

             เคยให้มะขามอ่อน
ได้ลูกหม่อนแบ่งกินกัน
เป็นเพื่อนเรียนร่วมชั้น
ก่อนจากกันออกไปไกล

            สมฉีมีโอกาส
รับใช้ชาติในกรงใหญ่
สมปีค่อยตามไป
คอยรับใช้มหาชน

              ทั้งสองต้องภาระ
คล้ายกับจะบ่หมองบ่น
แลกเบี้ยด้วยเนื้อตน
ดูเป็นคนบ่แยแส

             ต่อโลกที่โฉดฉล
และต่อคนที่รังแก
เมื่อเซียวคนเหลียวแค่
ซากชีวันอันขลาดเขลา

               ใครเคยข่มสมฉี
ใครเคยขี่อย่าหลงเงา
โรคเอดส์จะรวบเหมา
เอาไปฆ่าอย่าขวัญหาย

             กับสมปีบ่ต่าง
คนทั่วบางที่เป็นชาย
ล้วนแต่จะแพ้พ่าย
เพราะยางอายมันดับสูญ

             ใช่แต่ในเมืองดอก
ที่กามงอกอย่างพอกพูน
บางนอกเหลืองดอกคูน
ก็ก่นพรหมจรรย์ขาย

           ใครรวยกำเงินซื้อ
ที่แย่งยื้อก็มากมาย
HIVใครหน่าย
เห็นซื้อขายกันออกตรึม				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์