13 ตุลาคม 2547 14:42 น.

:::เพื่อน:::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


นี่น้ำเย็นดื่มกินให้สิ้นเหนื่อย 
มาเถิดเพื่อนรินเรื่อยดับความหน่าย 
ไมตรีจิตมิตรภาพตราบวันตาย 
เกิดเป็นคนผจญร้ายอย่าได้กลัว 

เมื่อวันก่อนเราขมขื่น ได้ตื้นตัน 
ก็เพื่อนนั้นเจือจุนคุ้มบุญหัว 
เติมฟืนฝันวันรุ่งขึ้นค่อยตื่นตัว 
หลับเต็มอิ่มตื่นยิ้มยั่วเลิกกลัวพาล

คนกำหมัดหยัดยืนลุกขึ้นสู้ 
คนยังอยู่เพื่อสร้างฝันแม้วันผ่าน 
เมื่อหมดแรงอาจพักเดินไม่เกินการ 
นักต่อสู้พักเพื่ออ่านแลการณ์ไกล 

ตราบที่เรามิใช่ข้าวเมล็ดลีบ 
ย่อมแตกกลีบเติบต้นขึ้นจนได้ 
ก่อรวงก่องเต็มท้องนาน่าภูมิใจ 
เมล็ดไทย่อมยังพันธุ์นิรันดร .				
13 ตุลาคม 2547 03:03 น.

:::ขวาง::::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



 



ความรัก .. 

คือการครอบงำกันอย่างนี้ล่ะหรือ 

ถ้าใช่เช่นนั้น ฉันขออยู่คนเดียวดีกว่า 

อิสรภาพคือสิ่งที่มีค่าของฉัน 

ทำลายอิสรภาพ ก็คือทำลายฉัน 

ให้ฉันเป็นอย่างนั้น 
ให้ฉันเป็นอย่างนี้ 

มันเรื่องชวนหัวเสียจริง ๆ 
หากฉันต้องเป็นตามนั้น 



เธอว่า จิตใจฉันหยาบกระด้าง 

ให้มันหยาบไปเถอะ 
ถ้าหากฉันยังมีอิสระที่จะคิด 
และดำรงชีวิตเป็นตัวของตัวเอง 

ฉันทำให้ใครเดือดร้อนหรือ 

ก็เปล่า 

เพียงแต่ ไม่เป็นไปตามความคาดหวังของใคร 




เธอแสวงหา .. 

คนรักที่หัวอ่อน 
และทำอะไรอย่างที่เธอต้องการใช่ไหม 


ขอโทษทีนะ .. 

ที่นี่คงไม่มี .				
11 ตุลาคม 2547 23:41 น.

::::::::::::::ค่ำลง เอิงเอย:::::::::::::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


หลังเงาไม้ทอดยาวทาบผืนนา
ความมืดค่ำก็แผ่มานาแลหลัว
แนวไม้หมองคลองคูดูหม่นมัว
แนวเรือนชานดงด่านทั่วสลัวราง

เมื่อค่ำลงมืดแล้วแว่วเสียงแคน
ตอยแล่นแตรแหมแสนจะเปลี่ยวคว้าง
สะท้อนใจใครงกเงิ่นยังเดินทาง
บ่มีเรือนพักค้างแม้เพียงคืน

เห็นแสงไฟวอมแวมแต้มม่านค่ำ
ก็นึกถึงบทลำนำบทอื่นอื่น
ที่ปลอบคราวขมเค็มทุกข์เต็มกลืน
ให้หยัดยืนบ่ท้อต่อม่านภัย

ยิ่งค่ำ   ยิ่งมืดดำและยิ่งเปลี่ยว
ทางคดเคี้ยวกระชากชันชวนหวั่นไหว
ม่านความท้อเหมือนรอหยันบีบคั้นใจ
ใครยังไปต่อไปไม่หลบย้อน

รุ่งวันใหม่เมื่อเงาไม้ทอดทาบนา
คงถึงถิ่นพักสายตาเหมือนคราก่อน
แต่ค่ำนี้ทำฉันใดจะไม่นอน
หวั่นหลับในไปฟื้นตอนก่อนรุ่งวัน				
11 ตุลาคม 2547 12:38 น.

::::ห้วงค่ำของชีวิตบางคน:::::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



ผม..เดินทางมาแต่เช้า
และนี่ก็เพิ่งเที่ยง

เขา...เดินทางมาแต่เย็นวาน
เวลานี้นั่งพักอยู่ใต้ร่มไม้ใบบางที่มีอยู่ห่างๆกันและมีไม่กี่ต้น

เขามีข้าวของพะรุงพะรังรอบกาย
สัมภาระนั้นเขาหาและหอบหิ้วมาด้วย

ผมก็มีข้าวของบ้าง
สะสมได้ไม่มากนัก
กับไม่อยากแบกรับภาระที่ไม่จำเป็น
จึงแบ่งของกินของใช้ที่เกินจะใช้ให้คนอื่นไปบ้าง


ชายคนที่ผมเห็นเขานั่งอยู่ก่อนไม่ทักทายผมหรือใครๆ
เอาแต่ซึมแล้วโฮไห้สลับกันราวบ้า

เขาคงไม่บ้า

เขาว่า

อุตส่าห์สะสมข้าวของเงินทองมาเป็นกอบเป็นหอบ
ยังไม่ได้ใช้ก็จะจากมันไปเสียแล้ว

เมียอีกก็ยังสาว
ตายไปแล้วเธอคงมีผัวใหม่


ผมได้ยินก็ยิ้ม
ผมไม่ได้หยันเขา


เขาสะอื้นแรงขึ้น
เมียสาวของเขาปลอบว่าแม้เขาตายเธอก็จะไม่มีชายอื่น ขอให้สบายใจเถิด
คนร้องก็ยังไม่มีทีท่าจะผ่อนคลายความทุกข์หัวใจ


ผมคงช่วยอะไรเขาไม่ได้

ยังไม่บ่าย

แต่ผมต้องไปต่อ

ค่ำลงผมก็คงกลับถึงเรือน


แล้วในเวลาค่ำของชีวิตล่ะ ?

ข้าวของเงินทองของผม   
อะไรอย่างอื่นที่ผมหาไว้
จะให้ผมร่ำให้ทุกข์หัวใจเสียดมเสียดายอยู่จนวาระสุดท้ายของชีวิตด้วยหรือ

ให้ผมยักไหล่เถอะ

ชีวิตที่ผ่านมามันก็ทุกข์พอแล้ว

ยังจะต้องให้ร้องไห้ระทมทุกข์ไปพร้อมการสิ้นสุดของลมหายใจด้วยเทียวหรือ




แต่อืม...นี่จะบ่ายแล้ว ใช่ไหม				
10 ตุลาคม 2547 21:08 น.

::::::::::::::::ดอกหญ้าสีขาว:::::::::::::::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



	
	คงเคยเห็นเขาป่าและนากว้าง
และคงเคยเดินทางอย่างฝันใฝ่
จากทุ่งนามาสู่ความวิไล
ที่เขาและใครใครก็รู้สึกเช่นนั้น

	คงเคยเห็นดอกหญ้าอ่อน
ที่เติบโตกับดินดอนยามหวาดพรั่น
และอาจเห็นแดดแรงโรมรัน
ดอกหญ้ายับไปกับวันเวลา

	ปวดร้าวกับวันอันปวดร้าว
ความขมขื่นนั้นโหมราวกับว่า
ใครจงใจบีบคั้นชีวา
ให้แหลกยับย่อยลงอย่างธุลี

	โธ่เอ๋ยเขาป่าและนากว้าง
แม้ธัญญาสล้างแลสดสี
ก็เหมือนกับรกร้างเรื้อนานปี
เหนื่อยยากหากไม่มีดีอะไร

	แล้วดอกหญ้าอ่อน
ก็จากดินดอนหวังวันใหม่
มีความบริสุทธิ์เต็มหัวใจ
ก้าวเท้าเดินไปอย่างไม่เหนื่อยล้า

	วันใหม่วันแดดร้าว
คล้ายกับจะอารีให้คลายหนาวคราวฟันฝ่า
แต่ความจริงแดดเมืองที่ทาบทา
หาได้บริสุทธิ์อย่างนั้น

	หมอกเมือกหม่นควันพิษ
แสงแรงรอนริดความใฝ่ฝัน
ทุ่งธัญญาคุณค่าอนันต์
ซาบซึ้งหัวใจฉันแล้ววันนี้

	อยากคืนกลับท้องทุ่ง
แต่เหมือนความมืดมุงหมดทางหนี
แดดเมืองแท้แล้วมิได้อารี
มีแต่แผดเผาเราหม่นไหม้

	นึกถึงแสงทองรองเรือง
นึกถึงรวงข้าวสีเหลืองไสว
แดดเมืองจะบีบคั้นนานเท่าใด
หรือฉันต้องขาดใจในแดดร้าว


	ในเมืองใครแร้นแค้นแน่นหัวใจ
ไม่มีใครมีเยื่อใยสนใจกัน  .
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์