26 ตุลาคม 2547 20:42 น.

:::กาสะลองกล่อมข้าว ฯ:::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์




1.	กาสะลองกล่อมข้าวเห็นพราวพร่าง
กลิ่นหอมเย็นยามผ่านทางกลางทุ่งฝัน
ข้าวก่องรวงเขียวเหลืองไล่ผืนกัน
เหมือนภาพวาดสีน้ำมันอันดาลใจ

2.	เก็บดอกกาสะลองมาฝากกัน
ก็คุ้นเหลือทั้งเชื่อมั่นใช่หรือไม่
ถักเปียยาวเป็นวาเป็นมาลัย
คล้องหทัยเชื่อมวันเชื่อมฝันงาม

3.	ลมต้องใบข้าวเป็นคลื่นเคลื่อน
เหมือนแก้มเปื้อนยิ้มไหวชวนใจหวาม
ข้าวที่ก่อง  ไกวรวงล้อห้วงยาม
ราวหยอกเอินและทักถามด้วยความคุ้น

4.	ว่าปีหน้าหรือปีไหนได้ข่าวดี
พบคู่รักเสียทีมีฝันอุ่น
ฝันเอ๋ยโรยลงกี่รอบเกินตอบคุณ
รักคว้างหมุนร้างกี่รอบยากตอบคำ

5.	กาสะลองกล่อมข้าวเห็นพราวพร่าง
กี่คนหนอที่เดินทางถึงพลบค่ำ
แล้วรุ่งใหม่ได้อ่านคร่าวกล่าวลำนำ
ออกบัตรเชิญมาชื่นฉ่ำอวยคำพร

6.	กล่อมเถิดกาสะลองเชิญกล่อมขวัญ
เราก็คงจรจรัลเหมือนวันก่อน
การ์ดแต่งงานไม่ได้พิมพ์ก็พิมพ์กลอน
เขียนคำอ้อนกาสะลองข้างกองฟาง

-ฮา				
25 ตุลาคม 2547 21:21 น.

:::กาสะลองกล่อมข้าว :::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



1.  กาสะลองกล่อมข้าวเห็นพราวพร่าง
กลิ่นหอมเย็นยามผ่านทางกลางทุ่งฝัน
ข้าวก่องรวงเขียวเหลืองไล่ผืนกัน
เหมือนภาพวาดสีน้ำมันอันดาลใจ

				
22 ตุลาคม 2547 11:58 น.

:ฟ้าลิขิต หรือตนเขียน:

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



     เธอตัดสินใจ    ดีแล้วหรือ
จึงแบมือถือตนเป็นคนขอ
โดยคุกเข่าลงแทบเท้ายอมเฝ้ารอ
เลือกเป็นคนพ่ายแพ้ต่อชะตากรรม

     คนตัดสินใจ    คือตัวเธอ
อย่าบ่นเพ้อออกไปให้ใครขำ
ว่าเทพไท้ไม่ใยดีใจสีดำ
เมื่อเธออยากเลือกทำเช่นนั้นแล้ว 
	
	เธอตัดสินใจใหม่   ไม่ได้หรือ
เลือกกำมือหยัดยืนขึ้นตรงแน่ว
ต้นทุนชีวิตเรายังพราวแพรว
เถิดเพื่อนแก้ว   เลือกการงานอันคนควร

				
21 ตุลาคม 2547 20:51 น.

:เขียนกลอนผ่านภาพ 6:

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

::::::::::ที่อยู่ที่ยืน:::::::::::::
                            
	หลังจากที่ลงไถแรก
รอยไถดูแปลกโค้งคด
ตรงไปนั่นใจกำหนด
บอกอยู่ตอนที่จรดไถ

	แรงลากที่ดึงและรั้ง
นั้นยังคงดึงต่อไป
แรงฉุดคือความเหนื่อยหน่าย
การไม่ได้ใจซักที

	จรดไถในรอบที่สอง
ครรลองไถเริ่มเข้าที่
รอยไถเหมือนใจแล้วซี
คราวนี้เริ่มเห็นเป็นนา

	หมายใจจักได้ปลูกฝัน
เชื่อมั่นในพันธุ์ข้าวกล้า
จะแตกกอขึ้นเต็มตา
ก่องรวงในช่วงเหมาะสม

	หมายเกี่ยวและเก็บรวงทอง
ใส่ยุ้งของความชื่นชม
พอให้คลายความขื่นขม
ในโลกที่วุ่นวายเหลือ

	ที่อยู่ที่ยืนหนึ่งหนึ่ง
จึงไม่ใช่หลุมคลุมเคลือ
ยินดีด้วยใจในเมื่อ
ข้าวเธอมีเหลือเผื่อคน.


				
20 ตุลาคม 2547 22:23 น.

:::คืนที่เยือกหนาวที่สุด :::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์






คืนเดือนมืด ดำมิด 

ลมหนาวพัดแรง 

น้ำค้างรินรดใบไม้ลงพรมใบหญ้า 

ดวงดาวเลือนหายไปในไอหมอกเยือก 

เรี่ยวแรงของชีวิตเจียนหลุดลอย 

ด้วยยากที่จะทานทนพิษหนาว 



ลมกระหน่ำซ้ำอีก 

กรามขบกดจนเกิดเสียงลั่น 

สะเทือนกะโหลกสมอง 

ร่างเปียกปอนสะท้าน 

ราวถูกจับกระชากสะบัด 

--------------- 

 คืนนั้นฉันผ่านมันมาได้ 




แต่คืนนี้ที่มีเธอ เขา และฉันอยู่ในห้องนี้ 
หัวใจของคนอ่อนไหวกำลังจะแตกทำลาย 

ยังจะมีความหนาวเหน็บเจ็บปวดใด 
สากรรจ์เท่านี้อีกหรือ 


ฉันอยากกลับไปมีน้ำตาอีกครั้ง 

เพื่อจะได้ร้องไห้ 

ฉันอยากกลับไปอยู่ในท้องของแม่ 

เพื่อที่จะรับรู้เพียงความรัก 
และความอาทรเต็มวิญญาณ 

--------------- 


 เสียงลมหายใจของเธอและเขา 

เยือกเฉียบ     เสียดเข้าไปสุดปลายสำนึกของฉัน 


--------------- 


 ก่อนการสิ้นสุดของกระแสสำนึก 
อันปวดระบมและหมุนคว้าง 

วิญญาณของฉันละเมอเจ็บร้าว .. 


เสียดายหัวใจ .

				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์