27 กันยายน 2547 07:22 น.

"มุมเล็ก..ใน..บ้านใหญ่"

เสือยิ้มมุมปาก

.. หลายวันแล้วที่ฉันต้องทนทุกข์ทรมานกับความรู้สึกปวดร้าวเยี่ยงนี้ ..
 ฉันต้องคอยหลบทุกสายตาที่จ้องจะเหยียดหยามฉัน แม้ฉันจะปวดร้าวเพียงใดฉันต้องเก็บซ่อนความรู้สึก ครั้นจะร่ำไห้..ปล่อยน้ำตาให้หยดหยาด..สายน้ำของฉันคงจะเป็นสีแดงเถือก..ฉันผิดด้วยหรือ?? .. ที่ฐานะของฉันมันไม่ร่ำรวยล้นฟ้าดั่งเช่นมหาเศรษฐีเหมือนเขา..ฉันผิดด้วยหรือ?? ที่ฉันเป็นคนบ้านนอก ในเมื่อบ้านนอกหรือที่ใดๆ ก็ล้วนผืนแผ่นดินไทยด้วยกันทั้งสิ้น กินข้าวด้วยกันทุกคน?? ฉันผิดด้วยหรือที่กินอาหารฝรั่งไม่เป็น?? ฉันผิดด้วยหรือที่พูดภาษาไทยด้วยสำเนียงที่ไม่ชัดมากนัก แต่ฉันก็พูดอังกฤษได้..ดีกว่าเขาเสียด้วยสิ (ฉันมั่นใจเช่นนั้น)?? ... แต่สิ่งเหล่านี้แม้จะกระทบกระเทือนใจฉัน..ฉันยังรับได้..ว่าคนมีเงินย่อมข่มคนจนกว่า..ข่มฉัน..ฉันทนได้..ทนเสียงกระแทกแดดดัน..เสียดสีได้..แต่..เขากระเทือนมาถึง "แม่"  บุพการีผู้ซึ่งฉันรักยิ่ง .. แล้วแม่ของฉันก็คือพี่สาวแท้ๆของเขานั่นแหละ..แม่เป็นมือข้างขวาของยายช่วยเลี้ยงน้องเล็กๆกว่า 12  คน จริงอยู่แม่ฉันอาจจะไม่มีเงินเป็นสิบๆล้าน แต่แม่ฉันก็เลี้ยงตัวเองได้ เลี้ยงครอบครัว มียศฐาบรรดาศักดิ์ มีความรู้ เป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไป..สิ่งเหล่านี้เขาอาจหาเพิ่มเติมได้ แต่ฉันเชื่อว่ามีอย่างหนึ่งที่เขาไม่มีแต่แม่ฉันมี คือ "ความรู้สึกเอื้ออาทร" 
       ..เมื่อวานนี้เอง..ฉันกำลังจะย่างกรายลงบันได..เผชิญหน้ากับความโหดร้ายของถ้อยมธุรสที่อาจผรุสวาทขึ้นทันทีทันใด ฉันได้ยินเขาพูดกับใครคนหนึ่งว่า "โตเป็นควายแล้ว ยังโทร.มาเหลย(เหลย - อีก= ภาษาถิ่นใต้)" แล้วจะให้ฉันคิดอย่างไร..ในเมื่อพ่อแม่ทุกคนย่อมเป็นห่วงลูกด้วยกันทั้งสิ้น..แล้วการมาของฉันครั้งนี้..เขาคะยั้นคะยอฉันเองมิใช่หรือ..แต่ฉันมา..แทนที่จะเป็นแขกบ้านแขกเมืองของเขา..ฉันกลับต้องเป็นคนทำให้เขาแทบทุกอย่าง..ฉันทำได้ไม่ดีนัก..แต่ฉันก็ตั้งใจ..จนสุดกำลังที่ฉันจะมี..เขากระแทกกระทั้นกับแม่ฉันทางโทรศัพท์อีกว่า "น้องยูโกะน่ะเหรอ เขาก็จัดของตามประสาคนเรียบร้อยน่ะสิ" .. อย่างนี้ก็หมายความว่า..เขาว่าฉันว่าไม่เรียบร้อยเลยหรือ..แล้วเขาไม่คิดบ้างเลยหรือว่า..คนเราต้องมีจุดในใจที่ไม่เท่ากัน...จะให้หยิบจับอะไรคล่องตัวไปหมดในบ้านคนอื่นก็ไม่ได้..ฉันไม่รู้ว่าสิ่งของอะไรที่จะต้องใช้อยู่ตรงไหน..ฉันจะทำถูกได้อย่างไร
        ..มากระทั่งวันนี้..16 มีนาคม วันเกิดฉัน ฉันถึงกับร่ำไห้..เมื่อยังไม่ได้กลับบ้าน..ฉันรอคอยวันนี้...ฉันโทร.ไปหาพ่อ..เพียงแค่ได้ยินเสียงพ่อคำแรก "เป็นอย่างไรบ้างลูก" ฉันถึงกับน้ำตาตก แต่ก็ต้องอดกลั้นความรู้สึก..ไม่ให้เสียงสะอึกสะอื้นพรั่งพรูออกมา เพื่อให้พ่อสบายใจ ไม่อยากให้พ่อเป็นห่วงฉันมาก.. จริงๆถ้าฉันนั่งรถประจำทางกลับ ฉันก็ทำได้..แต่ฉันไม่อยาก "แพ้" ..หนีเตลิดเปิดเปิงกลับบ้านไปก่อน..ฉันนึกในใจ.."ลูกทนได้..ลูกทนได้"
         ..แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันสุดจะทน..เมื่อพี่สาวคนโตของแม่และเขา โทร.มาหาเขาและบอกว่า แม่ของฉันไปล่ำเลิ่กเรื่องยาย...จะให้พี่สาวคนโตเลี้ยง...เขาอ้างว่าอย่าเอาเงินมาฟาดหัว..และเขาก็ด่าแม่ของฉันอีกว่า "มึงนิ เวลามีความสุขก็ไปมีกันแต่ส่วน แต่มีทุกข์ก็แล่นมาหากู" ((ฉันได้ยินจากคำบอกเล่า..นึกในใจ "ไอเหี้ย แล้วยายคิ่ม ไม่ใช่แม่มึงเหรอ เกิดหัวมึงมารึป่าว ไอสัตว์สันดาร อกตัญญูพ่อแม่ตัวเอง มึงไม่เจริญหรอก")) แม่ฉันน้อยใจ..เครียด..กระทั่งเข้าโรงพยาบาล แม่คิดว่า..ไปคุยเรื่องยาย..แก้ปัญหา..หาทางออกให้ยาย..มันผิดด้วยหรือ..ในเมื่อมียายเพียงคนเดียว..ลูกยาย 12 คน เลี้ยงยายไม่ได้หรือ (ยายเคยพูดกับฉันเช่นนี้) .. มีอีกสิ่งหนึ่งที่ฉันผูกใจเจ็บกับพี่สาวของแม่คือ หล่อนโกงสมบัติพัสถารของยาย..ของญาติพี่น้องไปเป็นเรือนล้าน ที่ยายต้องมีอาการหลงๆลืมๆอันมี่ต้นเหตุจากความเครียดก็เนื่องด้วยสาเหตุนี้นั่นเอง ยายเป็นโรคdementia รักษาไม่หาย..ความทุกข์มิได้เกิดกับคนไข้..แต่เกิดกับคนเฝ้า..คนเลี้ยงดู....
         ...ตั้งแต่บัดนั้น..ถึงบัดนี้..ฉันไม่เคยคิดจะปริปากคุยกับพวกเขาเหล่านั้นเลย..2 ปีแล้ว นับจากวันนั้น ฉันแม่พ่อ ไม่เคยย่างเหยียบไปบ้านของพี่สาวคนโตเลย..."จะบานชาติ..กันไปเลย"				
26 กันยายน 2547 15:41 น.

"..ปิดเทอม.."

เสือยิ้มมุมปาก

ปิดเทอม..นึกถึงอะไร..??
          ((นอน))
          ((ดูทีวี))
          ((เล่นเน็ต))
          ((ปลูกต้นไม้))
          ((อ่านหนังสือ))
          ((..ทำไรดีหว่า..))

             
                                        "ง่วงก็นอน..ร้อนอาบน้ำ"


           ...จะมีอะไรดีไปกว่าการได้..อยู่บ้าน..ทำอะไรเล็กๆน้อยๆไปเรื่อยเปื่อย..
   
                           ขอแค่..
 
            "ให้ฉันรัก..ในสิ่งที่ฉันทำ
                         ..ฉันจึงเลือกทำในสิ่งที่ฉันรัก"				
23 กันยายน 2547 08:40 น.

"เพียงเสี้ยวหนึ่ง"

เสือยิ้มมุมปาก



. . . ค น ที่  เ ร า อ ย า ก ใ ห้ เ ค้ า โ ท ร . ม า ห า   เ ค้ า ก ลั บ ไ ม่ โ ท ร . ม า ห า   . .   เ ค้ า โ ท ร   . ห า ค น อื่ น   . .  
 " ค น อื่ น "
. . . m s g . . . เ ร า เ ค ย ตั้ ง ห น้ า ตั้ง ต า ร อ  .. แ ต่ ก็ . . " ว่ า ง เ ป ล่ า  "   เ ค้ า ส่ ง ห า ค น อื่ น . . รั  บ ขอ  ง ค น อื่ น 
 .  . . ใ ช่ สิ ! !    เ ร า ค ง ไ  ม่ สำ คั ญ พ อ สำ  ห รั บ เ ธ อ  แ ล้ ว น ะ ...
เ ร า ห ย อ ด ตู้ ส า ธ า ร ณ ะ เ พื่ อ คุ ย กั บ เ ค้ า . . เ ค้ า ทำ ไ ด้ เ พี ย ง โ ช ว์ เ บ อ ร์ . . น า น ๆ ๆ ๆ . . ที 
แ ต่ พ อ เ ค้ า คุ ย กั บ ค น อื่ น . . เ ขา โ ท ร . ไ ป ห า .  . โ ด ย ไม่ เ สี ย ด า ย. . ก ร ะ บิ ด ก ร ะ บี้ ..
แ ม้ แ ต่ น้ อ ย . .
' เ ศ ร้ า น ะ    แ ต่ ไ ม่ เ ป็ น หร อ ก . . เ ร า เ ข้ า  ใ จ . . ยั ง ไ ง ก็ ยั ง รั ก เ ค้  า ค น นั้ น   ผู้ ซึ่ ง เ ป็ น ห นึ่ งใ น   
F 7   ที ม ..				
19 กันยายน 2547 08:58 น.

. ผั ด ฉ่ า . . ตอนที่ [ 10 ] กลับบ้าน

เสือยิ้มมุมปาก

กลับจากพัทยา ผัดฉ่าก็วิ่งไปหาพี่โย่งที่วัด เนื่องด้วยมีเรื่องสุขสมระคนปนเศร้าจะเล่าให้พี่โย่งฟังหลายเรื่องและจะไปทวงของฝากด้วยเช่นกัน
         ......................- - - - - พี่โย่งก็ตื่นเต้นที่จะอวดอัลบั้มภาพจากเมืองนอก เด็กทั้งสองแลกเปลี่ยนภาพและความคิดกันดู..เสียงหัวร่อต่อกระซิกเกิดขึ้นอยู่เนืองๆ ........ 
          ...ในคราที่ผัดฉ่าเขียนเรื่องสั้นๆได้สักเรื่องหรือสองเรื่อง เธอก็จะวิ่งไปให้คนนู้นอ่านที คนนี้อ่านที ตาชอบอ่านเรื่องที่เธอเขียนมา ตาบอกว่า มันใสดี ส่วนยาย..นานๆจึงจะยอมอ่านเรื่องของเธอเสียที..ส่วนพี่โย่ง..เฝ้าแวะเวียนหาอ่านเรื่องที่เธอเขียนเป็นประจำ..และชอบล้อเธอเสมอๆว่า  นักเขียนก๋ากั๋น  โดยให้เหตุผลว่า เรียกไว้ก่อนเผื่อนาคตได้เป็นนักเขียน จะได้ไม่ลืมนักอ่านคนนี้ไง
       .........และผัดฉ่าก็กลับมาเป็นผัดฉ่าจอมซ่าคนเดิม........				
19 กันยายน 2547 08:56 น.

. . ผั ด ฉ่ า . . ตอนที่ [ 9 ] กรุลิ้นชัก

เสือยิ้มมุมปาก

แม่มีเรื่องราว..ภาพการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตมากมาย.. แม่เคยไปเที่ยวต่างประเทศหลายครั้งหลายครา ทั้งไปเรียน ไปทำงาน ไปเที่ยว ไปหาหมอ หรืออะไรก็แล้วแต่ แม่จัดอัลบั้มภาพเรียงตามปีพ.ศ. ..คิดว่าแม่คงรู้มาก่อนหน้าว่าแม่จะอยู่กับผัดฉ่าได้ไม่นาน แต่แม่ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากบอกให้ผัดฉ่ารู้ รวมถึงสมุดบันทึกเล่มเก่า..ที่สุดจะเก๋าเล่มหนึ่ง ภายในนั้นมีหลากหลายเรื่องราวที่ประเดประดังเข้ามาในช่วงชีวิตของแม่ .. ผัดฉ่าได้รู้เรื่องราวของชายผู้ซึ่งเรียกว่าพ่อของเธอ..เธอลืมชายผู้นี้ไปแล้ว..ผัดฉ่าไม่ได้อยากรู้ว่าเขายังคงมีชีวิตอยู่หรือไม่อย่างไร..ผัดฉ่ามีแม่ที่ผัดฉ่ารัก..มียาย มีตา ที่ห่วงใยผัดฉ่า ก็เพียงพอ 
	
         แม่มีสมบัติให้ผัดฉ่าหลายชิ้น ทั้งบ้าน ที่ดิน ธุรกิจ แต่ผัดฉ่าไม่ต้องการ ผัดฉ่าต้องการเพียงแต่ หนังสือซึ่งเป็นผลงานทางความคิดของแม่เท่านั้น..ผัดฉ่าอยากจะเก็บมันไว้..เก็บไว้ในความทรงจำของเธอ..เธอสัญญากับตัวเองว่า จะหัดเขียนหนังสือให้เก่งเหมือนแม่ของเธอ ..ผัดฉ่าอยากจะสานต่อเจตนารมย์ของแม่ให้คงอยู่ต่อไป...				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเสือยิ้มมุมปาก
Lovings  เสือยิ้มมุมปาก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเสือยิ้มมุมปาก
Lovings  เสือยิ้มมุมปาก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเสือยิ้มมุมปาก
Lovings  เสือยิ้มมุมปาก เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเสือยิ้มมุมปาก