กวีปกรณ์
โลกใบหนึ่งสีเทาเขม่าไอเสีย
บางใครร้อนอ่อนเพลียเพราะอบอ้าว
แม้ท่ามกลางฟ้ามืดไม่เห็นดาว
บนทางเท้าเดินเลี่ยงมอเตอร์ไซค์
ยังพอเห็นดวงจันทร์สว่างหม่น
ไม่รู้ฝนจะสาดเสียเมื่อไหร่
หากกางร่มเพราะร้อนแสงหลอดไฟ
ฤดูฝนชั่วโมงใดใครจะเดา
ฉันยืนอยู่บนผืนดินดงป่าปูน
หญ้าคอนกรีตโบกพูนเป็นฐานเสา
กระจกกั้นผนังแบ่งแยกเขาเรา
ชมละครน้ำเน่ายามผ่อนคลาย
อาจจะเป็นเพราะฟ้าไร้แสงดาว
ความใฝ่ฝันของหนุ่มสาวทั้งหลาย
อยากจะเป็นดาราตะเกียกตะกาย
ราวกับเป็นความหมายของชีวิต
โลกยังคงหม่นเศร้าเขม่าไอเสีย
ฝนตกสุดละเหี่ยให้รถติด
บางทีก็ชื่นฉ่ำฝนมลพิษ
บนโลกที่เบี้ยวบิดสีหม่นเทา