14 พฤษภาคม 2553 01:27 น.

สัปดาห์มิตรภาพริมรั้วหนังสือ

กวีปกรณ์

"สัปดาห์" ร้อนแห่งคิมหันต์ที่ผันผ่าน
"มิตรภาพ" แบ่งบานกลีบก้านสวย
"ริมรั้ว" รัก โรยลมร้อนรินระรวย
"หนังสือ" ช่วย ก่อสัมพันธ์ผูกสองใจ

เพราะความร้อนเรานั้นจึงร้อนรีบ
จากค่อยจีบจัดปกหนังสือใหม่
ร่วมร้อยเรียงเขียนคำ (วงเล็บไว้)
สานส์ซ่อนใส่สื่อสารผ่านบทตอน

แต่คิมหันต์ก็เป็นเพียงคิมหันต์
ความสัมพันธ์อุ่นใจเราไว้ก่อน
เป็นแรงหนึ่งพยุงผ่าน 'กอง' ไฟฟอน
จนจวนผ่านหน้าร้อนไปพร้อมกัน

สองเราต่างพักใจในเมษาฯ
ร่วมลงนอนหลับตาพริบพาฟัน
ลืมความร้อนเบียดใกล้ในสัมพันธ์
เหงื่อโทรมกายเรานั้นต่างเย็นกาย

แต่เพราะเราชิดใกล้เกินใจควร
ความสัมพันธ์ตรึงตรวนแต่ละฝ่าย
ที่หลบหนีเมษาฯ แสนวุ่นวาย
จบตอนท้ายทุบตรวนกลับหวนคืน

โลกความจริงจึงร้อนกว่าฟอนไฟ
กลายน้ำตาหยดไหลยากใจฝืน
รอยตรวนตรึงรำลึกวันเมื่อรืน
น้ำตารื้นเจ็บร้าวกว่าร้อนไฟ

ความสัมพันธ์จึงจากพร้อมเมษาฯ
ยากรู้ว่า "รัก" จะมาอีกคราไหม
หากวสันต์ เหมันต์ นั้นเป็นใจ
ย้อนรักเราคืนใหม่อย่าให้ลา...				
21 พฤศจิกายน 2552 15:56 น.

คือครรลองแห่งเราจงเข้าใจ

กวีปกรณ์

คือพันธะใดเล่าผูกเราไว้
คือคำถามที่ใครต่างไถ่ถาม
คือคำตอบยากค้นอยู่ทุกยาม
กลับงดงามเชื่อมเราเข้าด้วยกัน

แล้วเหมันต์ที่มาพร้อมธันวา
บอกเราว่าปีที่ผ่านนานหรือสั้น
เราต่างก้าวไปข้างหน้าแต่ละวัน
คล้ายลมโบยบอกนั่นคือสัญญา

เรายังตื่นและหลับ วันต่อวัน
บางความฝันปลุกเราให้เฝ้าหา
เพราะทุกก้าวตามกฎของเวลา
สิ่งใดรออยู่ข้างหน้า เกินกว่ารู้

แล้วสิ่งใดแยกเราไว้เสียไกลห่าง
ให้เวลาร่วมทางแค่เพียงครู่
ทุกสิ่งอย่างเปลี่ยนไป เราเฝ้าดู
สิ่งที่เห็นเป็นอยู่ยากเข้าใจ

แล้วคิมหันต์ที่มาพร้อมเมษา
บอกเราว่าฤดูนั่นสั้นเพียงไหน
เราต่างก้าวจากจุดเริ่มมาใกล้ไกล
คล้ายอาทิตย์บอกไว้ในแสงทอง

คือพันธะ ใดเล่าผูกเราไว้
แล้วสิ่งใดแยกเราเล่าเพื่อนผอง
สิ่งต่างต่างที่เราได้เฝ้ามอง
คือครรลองแห่งเราจงเข้าใจ
				
21 กันยายน 2552 16:50 น.

ฝนตกลงมาอีกแล้ว

กวีปกรณ์



สายฝนโปรยปรายเป็นสายฝน
ร่วงหล่นรินร้าวให้หนาวสั่น
หยดหนึ่งราวเข็มทิ่มแทงกัน
ล้านหยดกราดฉันหมื่นพันร้าว

กางร่มกันฝนฝืนทนฝ่า
ลมแรงโถมมาเกินกว่าหนาว
ฟ้าลั่นแลบฟ้าจ้าเพียงคราว
ตาบอดมืดราวไร้ทางไป

สายฝนฟูมฟายอีกสายฝน
ร่มหล่นเกินทานต้านลมไหว
บินลอยสูงลับลิบลาไกล
เปียกกายถึงใจในทันที

กอดตัวเองเอาไว้อย่าให้สั่น
โลกยังมีแสงตะวันอยู่บางที่
ฝนไม่ตกทั่วฟ้าเลยสักที
รุ้งกินน้ำยังมีเมื่อฝนจาง				
11 กันยายน 2552 22:59 น.

สัตว์ประหลาด

กวีปกรณ์

เห็นแขนขากว่าพันพาพรั่นพรึง
ตาดวงหนึ่งจับจ้องมองที่ฉัน
ปากมีเขี้ยวซุกไว้เพื่อไรกัน
หูไม่เห็นหากมันยังได้ยิน

พ่อครับพ่อครับ คุณแม่ขา
ช่วยปราบมันหากมาฆ่าให้สิ้น
ได้ลูกรักพ่อจะเหยียบมันจมดิน
จ้ะลูกจ๋าก่อนคืนสิ้นจงเข้านอน

นิทานจบจึงปิดเล่มหนังสือ
เถิดเด็กดื้อจงหลับลงกับหมอน
โอ้ ขวัญเจ้าจงมาอย่าสั่นคลอน
หากมันย้อนแม่จะปราบกำหราบลง

เห็นแขนขากว่าพันพาพรั่นพรึง
มือข้างหนึ่งหยิบกระดาษดินสอส่ง
ฉันวาดภาพตามที่เห็นลายเส้นวง
เป็นสัญญา "ยกธง" สิ้นสงคราม

อีกคืนแล้วพ่อเล่าแม่คอยเสริม
ปีศาจหนึ่งฮึกเหิมให้หวั่นหวาม
ไร้หนังสือให้เห็นต้องคิดตาม
หรือหมายความว่ายากเห็นแต่เป็นภัย

มันน่ากลัวอย่างไรใครต่างเล่า
ฉันกับน้องสองเราเฝ้าสงสัย
ต้องต่อสู่ฟาดฟันมันปราชัย
ผ่านพ้นวัยเติบใหญ่ไร้กังวล

ทุกคืนหลับไร้สิ้นสัตว์ประหลาด
ฉันยืนหยัดองอาจทุกแห่งหน
เหรียญกล้าหาญคือรางวัลกำนัลตน
อุปสรรคผ่านพ้นสู้ทนมัน				
27 กรกฎาคม 2552 02:39 น.

หน้าสุดท้าย

กวีปกรณ์

ช่วงชีวิตว่ายวนวังเวลา
บางครั้งเร็วบ้างช้ากว่าวันผ่าน
จดบันทึกบรรทุกเรื่องวันวาน
บางครั้งฝากฝันหวานหวังสักวัน

วันเดือนปีผ่านพ้นจนเล่มหนา
หน้าต่อหน้าขีดเขียนคอยฝากฝัน
เล่มต่อเล่มเพิ่มพิมพ์ยิ้มกับมัน
ก่อนเหล่านั้นลางเลือนยากเตือนใจ

ตัวละครคนเก่ายังเล่าเรื่อง
ตัวประกอบใช้เปลืองทั้งเก่าใหม่
ย้อนยามเยาว์มากคนค่อยเลือกใช้
พอเติบใหญ่กลับน้อยแต่ร้อยความ

ช่วงชีวิตว่ายวนวังเวลา
บ้างบางคนหายหน้าน่าไถ่ถาม
หวังรับรู้สาระทุกข์ สุขทุกยาม
หวังชีวิตทุกนามงามดั่งฝัน

ไม่รู้ผ่านมาแล้วกี่ร้อยหน้า
กระดาษหนา ดินสอเหลาหดสั้น
ยามนี้จะเหลือใครกี่คนกัน
หน้าสุดท้ายร้ายกว่านั้น "ฉันลำพัง"				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 1 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกวีปกรณ์