25 เมษายน 2550 14:58 น.

.... เรื่องควายควาย(ตอนที่2)....

กระต่ายใต้เงาจันทร์



ไอ้เผือกหันมามองผม       คราวนี้แววตาฉายแววเวทนาผมทีเดียว .....  เอาน่าไอ้เข้มมึงอย่าไปจำมันเลยน่ะ    ถ้าจะทำงานใหญ่ต้องร่วมมือกัน....

ไอ้เข้มคงจะงอนที่ถูกสหายสนิทปรามเช่นกัน


จึงสะบัดก้น   เดินตุปัดตุเป๋    ไปกินอาหารของมันต่อ    

ผมมองท่าทางของมันแล้ว     อยากเดินเข้าไปแตะมันสักป้าป


ชะหน๋อย....โตเป็นควายแต่ทำตัวยังกะตุ๊ด

ได้เผือกเสนอความผิด...."   กูว่าเราควรประท้วง  "

ผมยืนตัวแข็ง   เหมือนโดนน่ะจังงัง       กว่าจะเอ่ยปากย่นๆของตัวเองออกมา


"      ประท้วง     มึงจะประท้วง    ประท้วงอะไรของมึง        ประท้วงสังคม    ประท้วงนายทุน  หน้าลือด        ประท้วง ผืนดิน    ที่นา   หญ้าแพรก          ประท้วง      ประท้วงมันเข้าไป    ประท้วงอะไรก็ได้   ก็ได้           
มึงจะบ้ารึไงว่ะ    ทำเพื่ออะไรกัน    ผมส่ายหน้าไปมา        ทั้งไม่เห็นด้วย

ทั้งไล่แมลง     เหลือบ    ริ้น   ไร    ที่บินมาตอม    หู   ตอมตา     จนน่ารำคาญ

ไอ้เผือก   หันมามองหน้าผม.....นิ่งนาน.....
กว่าจะระบายลมหายใจ   ออกมาอีกพรืดใหญ่


"     มึงคิดว่า   ชีวิต    ชีวิตมึงดีแล้วหรือ   ทุกวันนี้    มึงพอใจแค่นี้น่ะเหรอ  "? 
"   เฮ้อ....ผมทำเช่นเดียวกับมันบ้าง   ก็ไม่ใช่จะพอใจอะไรหรอก    เพียงแต่กูมองไม่เห็นประโยชน์ของการประท้วง  จริงๆว่าทำไปแล้วจะได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา

เป็นครั้งแรก  ที่ผมพูดได้ยาวขนาดนี้และดูเหมือนจะบั่นทอน    ความคิดไอ้เผือกได้ดีทีเดียว    ถ้าหากไอ้เข้มไม่เดินแทรกเข้ามาเสียก่อน


มันว่ามึงขี้ขลาดนี่หว่า

พวกขี้ขลาดมักทำอะไรโง่ๆได้ทั้งนั้น

กูไม่ได้ขี้ขลาด   ผมตวาด     "   มึงเพิ่งเกิดมาดูโลก   ได้ไม่นาน    คงไม่รู้หรอกว่า   ในอดีตสมัยหนุ่มๆ    กูผ่านอะไรมาบ้าง

เพื่ออะไรกัน   หรือเพื่อว่า   ได้มายืนอยู่ตรงนี้   แบบควายตัวหนึ่งน่ะเหรอ    

ไอ้เข้มอ้อมแอ้มอยู่นาน    ในที่สุดมันก็โพล่งความคิด  ของตัวเอง   ออกมาจนได้

ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลยว่ะ

เพราะอย่างน้อย  เราก็ได้ความสะใจบ้างหรอกน่าหรือว่ามึงจะเถียง

ผมยิ้มมุมปาก      จ้องมันเขม็ง  นี่   อายุผมไล่เลี่ยกับมันแล้วมัน   ละก็คงกระโจนใส่มันทั้งตัวไปแล้ว
เฮ้ย...มันช่างมีความคิดแบบควายๆจริง....				
23 เมษายน 2550 15:14 น.

เรื่องควายควาย(ตอนที่1)

กระต่ายใต้เงาจันทร์



ที่ราบเวิ้งว้าง         เมื่อก่อนมันเคยเขียวชอุ่ม          ยอดต้นกล้าปลิวไสวเหมือนหยอกล้อกับสายลมและแสงแดด            อยู่เป็นนิจ        น้ำและดินที่เคยอุดมสมบูรณ์       แต่ตอนนี้กับหมดไปเหมือนหัวใจมนุษย์


เมื่อผ่านมาสี่เดือนก่อน     เพื่อนๆยังอยู่กันครบ           แต่เพราะต้องการอิสรภาพมากเกินไป       จึงต้องจากไปอย่างน่าเศร้าใจเช่นนี้

แต่นั่นน่าจะเป็นข้อแก้ตัวตะหาก

ชีวิตของพวกเราน่าจะดีกว่านี้น่ะ     ไอ้เผือก     รำพึง     ขณะยืนพักแดดใต้ร่มไม้บนคันนา   สายตามันทอดยาวไกล  ออกไปสู่ผืนนาโล่งกว้างที่มีริ้วรอยตีนกา  เหมือนใบหน้าของมัน

มึงหมายความว่าอะไร             ผมถาม

อิสรภาพไงหล่ะ   มึงไม่โหยหาบ้างเหรอ

ผมอึ้งไปนาน      กว่าจะมีคำถามใหม่ออกมา

มึง...คิดทำอะไร...

มันมองหน้าผมเขม็ง       พลางระบาย    ลมหายใจ      พรืดพราด       อย่างจะเดินอย่างไม่สบอารมณ์       ก่อนจะเดิน  เข้าไปหา    ไอ้เข้ม       สหายอีกหนึ่งที่ยืนละเอียด      อาหารกลางวัน    อยู่บนคันนาซึ่ง  ไม่ไกลกันนัก


ผมเดินตามไปติดๆ     เพื่อค้นหาคำตอบ      จากคำถามเดิมอีกครั้ง


มึงไม่บอกกูเลยว่ามึงคิดอะไร?

เงียบ.....ไม่มีเสียงตอบจาก  ไอ้เผือก

ไอ้เข้มยืนข้างๆ   งยหน้าขึ้นมองผม    จากนั้น   ค่อยๆเผยรอยยิ้มติดเหงือกสีดำ
ของมันออกมาอย่างเย้ยหยัน

มันว่า"       โง่เป็นควายอย่างนี้มึงจะรู้อะไรกับขาว่ะ				
17 เมษายน 2550 15:47 น.

ใต้คลื่นผืนทะเล

กระต่ายใต้เงาจันทร์


เวลาเหนื่อย     เวลาท้อแท้     เวลาอยากหยุดพักเรื่องงาน   กับหลายสิ่งหลายอย่าง
ที่ในหลายคน   หรือแต่ละคน    ที่รับผิดชอบต่างกันไป     ผู้คนทั้งหลาย   มักจะนึกถึงทะเล  ซึ่งหมายถึงตัวฉันด้วย      แต่ที่ฉันชอบมองมากกว่าผิวน้ำของทะเล   คือสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใต้ท้องทะเลนั้น   เหมือนบางครั้งสงบ    เมื่อบางครั้งหยุดนิ่งแต่บางทีเหมือนรอคอยโอกาส    ที่จะโดนมรสุมซัดซาดทำให้ท้องทะเล   ปั่นป่วน
ทะเลเหมือนตัวแทน    หลายอารมณ์ที่ตอบสนองความรู้สึกหรืออารมณ์ทางจิตใจ


ฉันเคยนั่งมองทะเล  กลับที่เดิม   ตรงไหนกันน่ะ   ที่ท้องทะเลช่วยรักษา  โรคหรืออาการ  เหล่านี้ได้     แสงสีนวลของพระจันทร์  หรือหาดทรายที่สะท้อนเงาล้อเล่นหยอกเย้ากับแสงสีนวล   หรือจะเป็นเม็ดทราย   ที่มีอณูเม็ดเล็กละเอียด   ซึมซึบความอ่อนหวาน    อยู่ในเม็ดทรายเหล่านั้น    หรือท้องทะเลสีฟ้าที่เปล่งประกายระยิบระยับสวยจับตาสะท้อนเงา   เป็นคลื่นที่ผิวน้ำ   หรือแม้กระทั่งบรรยากาศรอบๆที่อยู่ทั่วตัวเรา

ไม่ทราบว่า  มีกี่คนกัน  ที่ได้กลิ่นน้ำทะเล   โรคร้ายที่เกาะกุมหัวใจ  จะเบาบางไปได้   หรือทำให้เรา  หลงลืมได้ชั่วขณะ

คงแล้วแต่อาการ  ของแต่ละคน   เวลาอยู่ที่ท้องทะเล  ได้ชื่นชมบรรยากาศมีแต่ความสุข   มีสิ่งดีๆให้ชีวิตมากมาย      แต่ถึงเวลากลับ     กลับหงอยเหงา   นำความเศร้า  และอดีตติดตัวกลับมา   อย่างทำอย่างไร  ก็ลืมไม่ได้   คงเหมือนเราได้บำบัดหัวใจ      บำรุงหัวใจให้อบอุ่น   เพื่อจะทำให้เราเข้มแข็งขึ้น  มีแรงสู้กับโรคร้ายที่เกาะกุมหัวใจได้ต่อไป    แต่กลับซ่อนความเศร้า    และ  ความอาลัยอาวรณ์  
ซึ่งเหมือนบางครั้ง  กลับทำให้เราโหยหา   อยากกลับไปหา  ท้องทะเลไม่สิ้นสุด
สำหรับฉันจุดที่สวยที่สุด     คือเรานั่งมองทะเลอยู่อย่างนั่น   จนสุดปลายของเส้นขอบฟ้า    ซึ่งไม่รู้ว่าขอบฟ้ากับเส้นของขอบทะเลบรรจบกันตรงไหน

เหมือนไม่สิ้นสุด    เหมือนเราแสวงหาความต้องการ   ของจิตใจ   แต่สุดท้าย   สิ่งที่ต้องการคือ   การปลดปล่อย     หรืออยากทิ้งสิ่งเลวร้ายลงไป   จะอาจจะเป็นได้ว่า  เก็บซึมซับสิ่งดีๆซ่อนไว้ในความทรงจำตลอดไปชั่วชีวิต


ทะเลคงเป็นสิ่งเดียว   ที่เราทิ้งอะไรลงไป    แล้วไม่มีใครหาเจอ   เหมือนความลับที่ฉันเก็บไว้คู่กับทะเล

คงจะมีแต่ฉันกับท้องทะเล    เท่านั้นที่จะรู้				
6 เมษายน 2550 15:28 น.

จงรวบรวมความกล้า....เดินหน้าออกจากความกลัว...

กระต่ายใต้เงาจันทร์


มนุษย์มีความเคลื่นไหวตลอดเวลา


แต่มีหลายคนเหมือนกัน  ที่ไม่อยากขยับตัวไปไหน


กลัวความผิดหวัง  ความผิดพลาด     เหมือน  เต่าที่หดหัวในกระดอง    ด้วยเหตุผลคือ   ไม่กล้า

มีหลายคน   ไม่ยอมตัดสินใจ   ในสิ่งที่ตัวเอง   อยากทำสักที
เพราะไม่กล้าตัดสินใจ   และกลัวการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับชีวิต


สำหรับฉัน   เคยคิดว่า   ชีวิตจะต้อง  สวยงาม     เพราะวางแผนไว้ตั้งแต่เด็ก  ว่าจะเรียนอะไร   ทำงานอะไร   มีคุณพ่อคุณแม่   ปูทางทุกอย่างทุกเส้นทางจนฉันสูญเสีย    คุณพ่อ   ที่ผลักดัน  ให้กำลังใจ  ช่วยเหลือทุกอย่าง

ความกลัวจึงเริ่มคลืบคลานเข้าสู่หัวใจ

ความเปลี่ยนแปลงเริ่มเกิดขึ้นกับชีวิต


ความเปลี่ยนแปลงคือสิ่งเดียวที่ทำให้ฉันรู้  ว่าเรากำลังเคลื่อนไหว 

คนที่อยู่กับสิ่งเดิมๆนานๆมักรู้สึกเบื่อหน่าย  ท้อแท้  สิ้นหวัง

หลายคนไม่พอใจกับงานที่ทำอยู่แต่ไม่กล้าเดินออกมาเพราะกลัวว่าจะเจอเรื่องที่แย่กว่านี้


ฉันเชื่อว่าสักวัน  สวรรค์ต้องมีรางวัลสำหรับคนกล้า
และจะลงโทษคนออ่นแอที่ย่ำแย่อยู่กับที่
ท้อถอยและยอมแพ้อะไรง่ายๆ

คนเรามีชีวิตเดียวอย่าผูกมันกับความกลัว

ที่จะบั่นทอนชีวิตเรามาเรื่อยๆ

มีหลายคนบอกว่าคนมีความรัก  มักจะมีความทุกข์ตามมาเสมอ
แต่ทุกคนยังร่ำร้องเรียกหา   กล้าสัมผัสและเผชิญหน้ากับมัน

แล้วชีวิตคนเรา  จะยอมหยุดนิ่งและท้อถอยง่ายหรือ

นานเท่าใดเท่าที่คุณคิดแต่   ไม่กล้าลงมือกระทำ
ความสำเร็จและความล้มเหลวคงไม่เกิดขึ้นในชีวิต
จงยอมรับและกล้าที่จะก้าวออกมา
เพื่อเรียนรู้มหาลัยแห่งชีวิต				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกระต่ายใต้เงาจันทร์
Lovings  กระต่ายใต้เงาจันทร์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกระต่ายใต้เงาจันทร์
Lovings  กระต่ายใต้เงาจันทร์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกระต่ายใต้เงาจันทร์
Lovings  กระต่ายใต้เงาจันทร์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกระต่ายใต้เงาจันทร์