27 กันยายน 2552 21:45 น.
				
												
				
								กิ่งโศก
		
					
				
๏ ธารไหลลั่นคั่นค้าง.....ธารา
จมจ่อมเบียดแผ่นผา.....สาดพื้น
แนวสายวาดติดตา.....ตรึงแต่ง
ขับแข่งขานครึกครื้น.....คละเคล้าคีตโลม ๚ 
๏ ดุจเพลงส่งกรับเร้า.....เรียงกรอง
พิณพาทย์พลิ้วลำพอง.....พากย์พร้อย
จังหวะจับวางจอง.....จอดจ่อ  จิตเฮย
ระนาดรัวนำร้อย.....ร่ายเอื้อหวั่นคลอน ๚  
๏ นางรองนองหลั่งล้น......พสุธา
ฝอยฟ่องระดาษดา......ดื่นฟ้อน
ทอรุ้งพาดนภา......โค้งทาบ
สูรย์สอดแสงสะท้อน....สะท้านถิ่นสรวง ๚ 
๏ ใครค่อนคำแคะคุ้ย.....คานเคียง
สองใช่หนึ่งเอนเอียง......แอบอ้าง
ยลพบสบพักตร์เพียง.....ถ้อยถอด ถอยนา
เพชรหนึ่งงามสล้าง.....เอกเพี้ยงเฉิดโฉม ๚ 
๏  นางหนึ่งพึงหลั่งน้ำ     นัยน์นา
ลดหลั่นให้หรรษา        ตรึกไว้
ผิดหวังดั่งรักลา             เกิดก่อ  ใจแฮ
เพียงจะฝากสุขไซร้       สู่ฟ้าแดนดิน๚  
๏ นางรองนองหลั่งล้น.....เรียงทรวง  เรียมเฮย
นางหนึ่งน้าวแดดวง.....ด่ำแล้ว
นางใดเด่นเหนือพวง-......สร้อยพุ่ม พี่นา
นางดุจมณีแก้ว......เกิดครั้งเพรงกาล ๚ 
๏  จำจากจรพรากเจ้า.....จอมใจ
เผยยากยิ่งอาลัย........สุดรั้ง
ฝากสัตย์วัจน์คำนัย......กับแม่
แม้นมาดบ่มบุญยั้ง.....ยกย้อนหวนคืน๚ะ๛   
* กิ่งโศก*
๒๗ กันยายายน ๒๕๕๒
..ขอบคุณครูแก้วประเสริฐ ที่ชี้แนะบทโคลงนี้แก่ศิษย์กิ่งโศกเป็นอย่างมากครับ
- ขอบคุณภาพจากคุณแบมครับ				
			 
			
				18 กันยายน 2552 21:19 น.
				
												
				
								กิ่งโศก
		
					
				
๏ เสียงหึ่งสอดห่ามแสร้ง...      เสาะหา 
พลบค่ำพร่ำคอยพา......           เพรียกค้าง
ระฆังลั่นฆ้องลา.......              เริดครึก วัดเฮย
คนลีบแคบลู่ข้าง.......             ค่อยลี้คืนหลอน๚
 
๏ หริ่งซ่อนร่ำแสกร้อง...          ลึกชอน  ไชแฮ
นกออกหน่ายอกนอน.......        นึกอ้าง
คืนบ่งค่อนบนคอน.......           คนบ่น
กลเปรตกู่ป้องก้าง .......           กัดปลิ้นกอดเปรียง๚
 
๏ ผวาพี่หวาดพร้อง ....          พร่ำวอน
กลืนคิดก่นคาดกร .......          เกี่ยวข้อง
หลอกจิตล่อใจหลอน.......       หล่นจอด  ลงเฮย
นิมิตนาบเหมือนน้อง.......       หน่ายแม้นหนีเมิน๚
 
๏ กระซิบกระซาบก้อง ....       กระเซ็น  โชยนอ
จิตรุดจุดเรื่องเจน- .......         จบร้อน
ประจัญประจบเป็น .......         ประจักษ์   จ่อนา
ใช่เช่นเสียงแช่งซ้อน ........     สาปชี้สิ้นสม๚
 
๏ พินิจพิศเน้นเพี้ยง ....        พรรณา   นวลเฮย
คิดแตกขบตอกคา-  .......      คบต้น
หายกลัวแห่แก่นหา-  ......     เหตุเกิด  จริงเอย
เพียงพี่พบพ่ายพ้น   ......      แพร่งพื้นผีโพรง๚
 
 ๏ บอดรู้บอกร่างใบ้  .....       บุราณ
อย่าคาดหย่อนคิดยาน......     หยั่งข้อ
มือคลำมัดเค้นมาน.......         มุ่งเคร่ง
รู้รับเรียงร่างล้อ  .......          รุจน์รุ้งรูปรอย๚ะ๛
				
			 
			
				9 กันยายน 2552 15:18 น.
				
												
				
								กิ่งโศก
		
					
				
๏ ผองชนจมดิ่งห้วง .......ไสยา  สนิทเฮย
ตริณชาติถูกทาบทา .......หยดน้ำ
แสงสาดสะท้อนครา-...... จันทร์ส่อง  ผิวนอ
วาบวับระยิบย้ำ   ...........เกล็ดคล้ายเพชรมณี ๚ะ
๏ ผองชนจมห้วงดิ่งสู่ไสยา
หยาดน้ำค้างคงคาค้างกลีบช่อ
แสงเงินยวงต้องทาบสะท้อนทอ
เกล็ดแก้วล้อเพชรรุ่งรุ้งประกาย
๏ แลประจิมทิศาจันทราคล้อย
ราตรีค่อยเคลื่อนขับเลื่อนลับหาย
รังสีโศกพาดเส้นขอบฟ้าปลาย
อุษาโยคแย้มพรายขับศศิธร
๏ แผ่วรำเพยเผยกลิ่นสุคันธรส
รมบรรพตประทิ่นกลิ่นเกษร
ชนโลกีย์กลั้วหลงลืมนิวรณ์
จิตจอดจรอาเพศกิเลสเจือ
๏ ผการ่ำรสโชยโปรยปรายทั่ว
หาหากกลั้วเปลี่ยนกลิ่นกลับกลายเชื้อ
ยากชุบย้อมแยกเหง้าเส้นเถาเครือ
เบ่งอะเคื้อคงค่าดอกหญ้าเดิม
 ๏ มวลมนุษย์มากเหตุเจตน์ไม่นิ่ง
ถ้อยเท็จจริงยากหยั่งว่าหยุดเริ่ม
ปรับเปลี่ยนดำขาวแดงตัดแต่งเติม
พร่องหรือเพิ่มพบยากความพอดี
๏ หากใจคนมั่นคล้ายกลิ่นดอกหญ้า
ชนชาวฟ้าสรรเสริญจำเริญศรี
ยกสูงส่งคงค่าบารมี
ภพไตรนี้แซ่ซร้องร้องกำจร ๚ะ๛
ตริณ,ตริณชาติ......หญ้า
ไสยา........นอน
อะเคื้อ....งาม
เครดิตภาพ : Google ครับ 
				
			 
			
				2 กันยายน 2552 16:00 น.
				
												
				
								กิ่งโศก
		
					
				
๏ ฟ้าร้องเร้าแทรกเร้น  .....ร้อนกมล  นั้นเฮย
ก้องกึกกร้าวกลั้วกล  ......... กระหึ่มแกล้ง
สะท้านเปรี้ยงสะดุ้งสกนธ์  ....ได้ดะ 
เข้าสู่สิ้นหน้าแล้ง ..........      หลบน้ำฟ้าพรม ๚
๏ น้าวโน้มเนื้อพจน์เพี้ยง    ....ถ้อยจำนรร  แล้วแฮ
ใช้ผ่อนร้อนลิ้นพลัน    .......    เพริดแพร้ว
ป้อนปลื้มปลอบดิ้นดัน .........   ดื้ออ่อน  ได้นา
ฟ้าเฉกร้องพ้องแล้ว      ........ รูปคล้ายแค้นคำ  ๚
๏ ฟ้าแสร้งแกล้งปั่นให้  ...... สะท้อนจิต
ถ้อยยิ่งย้อนแย้งปลิด    ......  ปลดขั้ว      
ผู้นั้นยิ่งห้าวจริต        ...........จ้องจับ   แจ้งเฮย
ผู้หนึ่งนี้เคล้ากลั้ว    ..........   กระแทกซ้ำให้ตาย ๚
๏ โอ้นี้ร้องฝากไว้   .........    เน้นคำ   
ถ้อยส่งร้อยสร้อยนำ   .......  แนบยิ้ม
เว้นขึ้งเคียดแค้นงำ    ....... กลุ้มออก 
สล้างครอบแก้วแพร้วพริ้ม   .....อิ่มแย้มแฉล้มโลม ๚ะ๛
ทดลองแต่งโคลงแบบ รกโท(วรรณยุกต์โท มีมาก)
เครดิตภาพ : Google ครับ ขอบคุณผู้ที่หารูปให้ครับ
>