7 พฤศจิกายน 2557 21:41 น.

ทางสายเปลี่ยว

คนกรุงศรี

ทางสายเปลี่ยว เดียวดาย ที่ปลายโลก

มีทุกข์โศก ปนเศร้า และเหงาหงอย

จะเหลียวหา ใครเขา ยังเฝ้าคอย

ตาละห้อย น้อยใจ ไร้คนแล

 

อยากมีใคร คอบมอบ เพื่อปลอบขวัญ

มาช่วยกัน เยียวยา รักษาแผล

ความว้าเหว่ เร่ถาม ตามรังแก

จนดวงแด ซึมซับ กับความตรม

 

ยกมือชู โปรดด้วย จงช่วยฉุด

ให้พ้นหลุด จากท่าม ความขื่นขม

ขอไออุ่น อบให้ หายซานซม

อย่าให้จม จนหาย ที่ปลายทาง

6 พฤศจิกายน 2557 22:05 น.

เงาอนาคต

คนกรุงศรี

สองดวงตา ฝ้าฟาง ร่างผอมแห้ง

กับเรี่ยวแรง หนึ่งที่ มีความหวัง

ทุกสิ่งล้วน ไม่มี ความจีรัง

ตราบเมื่อยัง คงอยู่ สู้ต่อไป

 

หลายเส้นเอ็น คดโค้ง หังโก่งงุ้ม

หนังห่อหุ้ม โครงสร้าง ร่างสั่นไหว

หูเคยรับ สรรพเสียง สำเนียงใด

ทั้งใกล้ไกล ดูเหมือน เริ่มเลือนลาง

 

ผิวเคยตึง กระชับ กลับแปรเปลี่ยน

จากนวลเนียน ก็ขรุขระ เริ่มกระด้าง

ผมที่เคย ดำขรับ กลับเจือจาง

ร่วงและบาง ปนหงอก สีดอกเลา

 

ฟันที่เคย เรียงแถว เป็นแนวสวย

ก็โย้ด้วย หลุดหรอ สิ้นหล่อเหลา

ทำจดจด จ้องจ้อง คล้ายย่องเบา

ทั้งแข้งเข่า แขนข้อ ทรมา

 

นี่แหละคือ นิยาม ของความแก่

กายอ่อนแอ สารพัน มากปัญหา

บ้างลูกหลาน เจ้ากรรม ไม่นำพา

ส่งบ้านพัก คนชรา น่าน้อยใจ

 

สองดวงตา ฝ้าฟาง ร่างแก่เฒ่า

คือภาพเงา อนาคตแท้ แน่ไฉน

เมื่อหนุ่มสาว ขาวผ่อง หน้ายองใย

พอหมดวัย ความชรา ...เข้ามาเยือน

 

1 พฤศจิกายน 2557 22:28 น.

กายกับใจ

คนกรุงศรี

ส่วนลึกใน ใจฉัน นั้นแข็งแกร่ง

แต่เรี่ยวแรง อ่อนล้า ท่าไม่ไหว

จะลุกนั่ง หวังอย่าง เราตั้งใจ

ดูกระไร แข้งเข่า เราโรยรา

 

หลังก็ยอก ศอกไหล่ ไม่เข้าที่

จะเยื้องย่าง สักที มีปัญหา

เดินกระย่อง ต้องเลาะ เกาะราวมา

อีกหูตา ฝ้าฟาง ช่างมืดมัว

 

แต่ก่อนเก่า กรำงาน การหลายอย่าง

ทั้งก่อสร้าง แบกหาม ทำมาทั่ว

จะถางไร่ ไถนา หาเคยกลัว

สร้างครอบครัว ด้วยแรง ลำแข้งตน

 

แม้ลำบาก ตรากตรำ ทำเพื่อเขา

ครอบครัวเรา เข้าใจ ในเหตุผล

ตั้งใจเรียน เขียนท่อง ต้องอดทน

แล้วทุกคน เขาจบ พบความจริง

 

วัยชะแร แก่ชรา เข้ามาเยี่ยม

จึงตระเตรียม ต้อนรับ กับทุกสิ่ง

สังขารา ร่วงไป ไม่ประวิง

แต่มิทิ้ง คุณธรรม นำชีวิน

 

ไม่เท้ากำ ค้ำกาย หมายเหยาะย่าง

สิ่งที่ต่าง คือใจ ใคร่ถวิล

ยังแข็งแกร่ง เกินค่า ถ้ายลยิน

มิเคยสิ้น ความคิด ...ผิดคนเดิม

 

30 ตุลาคม 2557 21:52 น.

วรรณศิลป์ สิ้นสาย

คนกรุงศรี

เหมือนโลกฝัน วันนี้ ขาดพี่น้อง

เมื่อเหลียวมอง หาใคร ก็ใจหาย

สุดไหวหวั่น ว่าตัว กลัวเดียวดาย

จะกลับกราย คืนเก่า อีกเท่าไร

 

ดั่งงานเลี้ยง เรานั้น มีวันจบ

ฉันจะพบ ความเศร้า ดั่งเก่าไหม

อยากเรียกร้อง ก้องฟ้า หาใครใคร

จงห่วงใย กันบ้าง เหมือนดั่งเคย

 

วรรณศิลป์ สิ้นสาย ลายอักษร

นักเลงกลอน นอนแกร่ว แล้วทำเฉย

ปลีกเวลา หลังงาน อย่าคร้านเลย

ที่เอื้อนเอ่ย กลัวจริง เกรงทิ้งกัน

 

มาเลียนล้อ ต่อคำ ลำเลียงถ้อย

ร่วมรวมร้อย วลี ที่เราฝัน

แม้มีทุกข์ ทุกข์ด้วย ช่วยแบ่งปัน

เหมือนเมื่อวัน ผันผ่่าน นมนานมา

 

 

28 ตุลาคม 2557 22:40 น.

จีรัง

คนกรุงศรี

ผิวหนัง เหี่ยวย่น ปนหยาบ

ฉายฉาบ ดวงตา พร่าหม่น

ความเศร้า เคล้าคละ ปะปน

ตัวตน ร้าวรอน อ่อนแรง

 

ริ้วรอย เส้นเอ็น เห็นชัด

สัมผัส ทั่วทุก ตำแหน่ง

เวลา หมุนเวียน เปลี่ยนแปลง

ความแกร่ง แรมร้าง ห่างไกล

 

ก่อนนั้น สง่า ผ่าเผย

มิเคย จะพรั่น หวั่นไหว

เดี๋ยวนี้ ที่เห็น เป็นไป

เพราะวัย เหลือน้อย คอยรอ

 

งกงก เงิ่นเงิ่น เดินสั่น

ผมฟัน ล่าถอย ร่อยหรอ

หลังไหล่ กลับโก่ง โค้งงอ

เสียงก้อ แหบเครือ เมื่อฟัง

 

ครุ่นคิด คำนึง แต่ต้น

ตัวตน หนก่อน ย้อนหลัง

ใดหรือ จะมี จีรัง

ถึงฝั่ง ก็ตอน นอนโลง

 

 

Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกรุงศรี
Lovings  คนกรุงศรี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกรุงศรี
Lovings  คนกรุงศรี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคนกรุงศรี