12 พฤศจิกายน 2545 08:34 น.

ชนบท

อัลมิตรา

๑.
.....หวีดหวิวทิวทุ่งท้อง-...........................นาครวญ
ลมแผ่วแนวรวงรวน................................เลื่อมแล้
เรียงรายหมายชมชวน.............................เฉียดช่อ  งามเฮย
เหลืองเรื่อเฝือชะแง้.................................แต่ล้ำงามจริง ฯ

๒.
.....หลากพันธุ์พฤกษ์พืชน้ำ.....................ตามนา
อวดดอกออกงามตา...............................แต่งแต้ม
แพงพวยช่วยประดา.................................ประดับทุ่ง
บานเบ่งเกรงกลีบแง้ม.............................แช่มต้องหมองลม ฯ

๓.
.....หากหรีดหริ่งร่ายร้อง........................ตรองเสียง  สดับเทอญ
เพรียกแผ่วแนวรวงเรียง........................เยี่ยงเย้า
ทำนองถ่องจิตเพียง..............................ฉันท์เฉิด
ดังดุริยางค์เร้า.....................................เร่งร้องผองเพลง ฯ

๔.
.....ชายตาคราย่ำเท้า.............................คราวเยือน
ลมล่องมองดาวเดือน.............................เคลื่อนคล้อย
สกาวสะเก็ดเตือน..................................เดือนหล่น  หลีกฤา
พวยพุ่งจรุงชม้อย..................................ชมื่นฟ้าครารัต-  ติกาล ฯ

๕.
.....บรรจงตรงสู่ท้อง..............................ธารใส
บัวเผื่อนเหมือนเตือนใจ.........................ใฝ่คว้า
เหลืองหลากมากวิไล..............................หลบกลีบ  งามแฮ
คงเบ่งบานระย้า....................................รุ่งเช้าอรุณฉาน ฯ

๖.
.....พิศม์เพียงเมียงแล้วย่ำ.......................บทจร
จำจากหากอาวรณ์.................................ก่อนร้าง
กาลผันผ่านพลันคลอน..........................แคลนจิต  เราฤา
ภาพทุ่งผดุงอ้าง......................................ห่างให้หวลหา ฯ				
11 พฤศจิกายน 2545 23:43 น.

ธารศิลป์สร่างโศก

อัลมิตรา


.....ธาร...ไหลหลั่งดั่งน้ำ.....................ตาไหล
ศิลป์...ศาสตร์อาจขานไข...................ข่มเศร้า
สร่าง...รักหากอาลัย...........................หวลห่วง  นาแม่
โศก...เสื่อมหากจิตเฝ้า.......................ใฝ่น้องสมานฉันท์ ฯ

.....โศก...ไปใครไป่ใกล้......................ใจเรา
สร่าง...จากกำสรวลเซา......................เสื่อมแล้ว
ศิลป์...อาจมากลัดเกลา......................จิตรื่น  สราญนา
ธาร...หลั่งดังคลาดแคล้ว.....................ผ่านพ้นโศกา ฯ				
11 พฤศจิกายน 2545 22:51 น.

นักเรียนโคลง

อัลมิตรา

  
.....ฉันทลักษณ์หากผิดเพี้ยน................พจน์ขยาย
เพียงแค่บทสาธยาย.............................แผกบ้าง
พินิจจิตติดสักกาย*..............................แฝงอยู่
หากผิดอย่าคิดร้าง...............................จากห้องอาศรม ฯ

.....เพียรเขียนเวียนอ่านซ้ำ...................สบสมัย
อาจถ่องกถาอุทัย*................................ถี่ถ้วน
เรียงร่ายอาจพิศมัย...............................เสมือนท่าน-  พิชญ์นา
มิเนิ่นอาจเลิศล้วน-...............................ท่วงถ้อยกานท์กวี ฯ   
 
สักกาย... ความเป็นตัวของตัวเอง
กถาอุทัย...คำปรารภ...คำนำ...เรื่อง..

  				
11 พฤศจิกายน 2545 22:17 น.

ปลอบ..เพื่อน

อัลมิตรา


จักตอบถ้อยร้อยเรียงเผดียงบท
ทั้งร่ายรจน์พจนาคราโศกศัลย์
เหตุใดฤารักมาพรากจากชีวัน
คนรักกันใยพลันมาผันแปร

หากเคยเคียงเรียงชิดพิสวาท
มาคลายคลาดดั่งมีดบาดใจเป็นแผล
ถูกกระชากเจ็บร้าวหนาวดวงแด
คงมิใช่รักแท้อย่าอาวรณ์

เมื่อเวลาพาให้พบประสบรัก
แล้วก็หักพรากใจจากสายสมร
ควรแล้วหรือที่คิดอาลัยอาวรณ์
ด้วยเพราะย้อนกลับคืนฝืนไม่มี ...

ปล่อยให้ผ่านกาลปลอบชอบด้วยจิต
กลับย้อนคิดพิจารณาให้ถ้วนถี่
เจ็บตอนนั้นดีกว่าร้าวเฉาฤดี
ลุกขึ้นเถิดคนดีอย่าเศร้าใจ ..

				
11 พฤศจิกายน 2545 14:53 น.

ปณิธาน..ข้าพเจ้า

อัลมิตรา

  
.....หวานเอยเผยผ่านพ้อง......................พจน์พยางค์
สดับดั่งทิพย์ดุริยางค์..............................กึกก้อง
ข้าพฯ...ส่งโคลงปราศหมาง.....................จิตหม่น
หลายหลากวากย์โคลงคล้อง....................คล่องคล้ายเธียรไทย ฯ

.....สรรพรสอาจพ่ายแพ้.........................รสธรรม์ 
จักมั่นตราบนิรันดร์...............................ไป่ร้าง
ตาลหวานหากคืนผัน..............................แปรผ่าน
อาจจืดหมดรสค้าง.................................ซ่านลิ้มชิวหา ฯ

.....อันตาลหวานลิ้นอาจ..........................อันตรธาน
หากพจน์รจน์ขับขาน..............................เพราะพริ้ง
จักคงบ่งอนันตกาล................................นานเนิ่น
คงติดจิตสิงคลิ้ง*....................................ตราบฟ้าดินสลาย ฯ


สิงคลิ้ง ...สง่างาม งดงาม
 

				
Calendar
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอัลมิตรา
Lovings  อัลมิตรา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอัลมิตรา