22 เมษายน 2547 00:13 น.

คำสาปจากพระจันทร์

เจ้าขาว

เรื่องราวนี้เกิดขึ้น ณ ยอดเขาลูกหนึ่ง 
ซึ่งขึ้นชื่อว่า เป็นสถานที่ที่สวยงามที่สุดและอยู่ใกล้ท้องฟ้าที่สุดในโลก
และยังเป็นที่เล่าลือกันว่า มันเป็นยอดเขาต้องคำสาป
ชายหนุ่มผู้ใดที่หาญขึ้นไปถึงยอดเขาแห่งนี้ 
จะไม่ได้กลับลงมาข้างล่างอีก

เจ้าชายชูก้าที่ได้ยินคำร่ำลือนั้น
ปรารถนาจะได้ชื่นชมสถานที่แห่งนั้นสักครั้ง
จึงออกเดินทางขึ้นสู่ยอดเขา
โดยไม่หวั่นเกรงต่อคำสาปใดๆ

ตอนเช้าของวันครบรอบ8ปีที่ออกเดินทาง 
ในที่สุดเจ้าชายชูก้าก็มาถึงยอดเขา
และได้พบกับภาพอันน่าประหลาดใจ
ชายนับร้อยคนที่ยืนแหงนคอ พร้อมชูกำปั้นขึ้นสู่ท้องฟ้า
ครั้งแรกที่เห็น เจ้าชายชูก้าเข้าใจว่าเป็นรูปปั้น
เพราะทุกคนไม่มีใครเคลื่อนไหว
มีเพียงลมหายใจเบาๆและดวงตาที่กระพริบ
เป็นเครื่องบ่งบอกว่าร่างเหล่านี้คือมนุษย์  
และยังไม่ตาย

แม้จะพยายามเรียกเท่าไหร่ ร่างเหล่านั้นก็นิ่งเฉย
ที่พวกเค้ายังมีชีวิตอยู่ได้เป็นเพราะ 
มีชายพิการผู้หนึ่งคอยป้อนซุปให้กิน(ทีละช้อน)อย่างยากลำบาก
มือทั้งสองข้างของแก ถูกเจ้านายตัดขาด 
เนื่องจากแอบขโมยเสบียงกินระหว่างที่เดินทางมายังยอดเขา
น่าแปลกที่แกไม่แก้แค้นเจ้านายคืน 
ด้วยการตัดมือคู่ที่ชูนิ่งนั้นทิ้งเสีย ทั้งที่มีโอกาส

เจ้าชายชูก้าทราบจากชายพิการว่า
ทุกคืนเดือนมืด
ร่างทั้งหลายเหล่านี้จะกลับมาขยับอีกครั้ง
และสลบไสลไปอย่างเหนื่อยล้า
รอเวลาดวงจันทร์  ขึ้นสู่ท้องฟ้าในยามราตรีครั้งต่อไป
แล้วร่างทั้งหมดจะกลับคืนมาอยู่ในท่าเดิม
วันแล้ววันเล่าจนกว่าจะแก่ตายไปเอง

แล้วราตรีก็มาเยือน
คืนนี้พระจันทร์เต็มดวงสวยเด่นอยู่กลางฟ้ามืด
แม้จะเคยเห็นพระจันทร์มาตั้งแต่เล็ก
แต่เจ้าชายชูก้าไม่เคยประทับใจเท่าครั้งนี้มาก่อน
ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า สวยงามเกินกว่าจะหาสิ่งใดมาเปรียบ
จนอยากจะเก็บมาครอบครองไว้เป็นสมบัติส่วนตัว
และวินาทีนั้นเองที่เจ้าชายชูก้าเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่าง

เจ้าชายชูก้าไม่ได้กลับลงมาจากยอดเขา
เช่นเดียวกับคนอื่นๆที่ยังคงยืนแหงนหน้าชูกำปั้นอยู่บนยอดเขานั้น
ชายพิการคงนึกดีใจอยู่ไม่น้อยที่มือทั้งสองขาดไป
ไม่เช่นนั้นคงต้องหลงเสน่ห์แห่งดวงจันทร์
และเผลอเอื้อมมือไปคว้าเช่นคนอื่นๆ

ใครล่ะจะไข่วคว้าพระจันทร์มาครอบครองไว้ได้

แม้จะอยู่ใกล้พระจันทร์เพียงใด
แต่ยามที่มือข้างที่เอื้อมไปนั้นกำลง
สัมผัสอันว่างเปล่าภายใน จะเฆี่ยนตีหัวใจเจ้าของมือข้างนั้นจนแตกสลาย

ถึงอย่างนั้นก็ตาม
ไม่มีใครกล้าพอจะแบมือข้างนั้นออก
หรือแม้แต่จะลดมือกลับลงมา
ด้วยกลัวความจริงที่จะปรากฏว่า
พระจันทร์ยังคงลอยอยู่บนฟ้าเช่นเดิม
และความจริงนั้นจะคร่าเอาวิญญาณของตนไปตลอดกาล

มีเพียงคืนเดือนมืดเท่านั้น
ที่ทุกคนจะหาญลดมือลงมาได้
ด้วยการหลอกตัวเองว่า
พระจันทร์นั้นได้ถูกคว้าลงมาอยู่ในกำมือของตนแล้ว
และปล่อยใจยอมฝันไปกับความลวงนั้น

ตอนนี้  ชายพิการและเจ้าชายชูก้า
ยังคงป้อนอาหารให้แก่ชายหนุ่มคนอื่นๆต่อไป
ทั้งคู่ต่างรู้ซึ้งถึงความจริงที่ว่า
การแบมือออกไปรองรับลำแสงนวลนั้น
ก็เหมือนได้รับพรอันแสนวิเศษแล้ว
และพรนั้น จะช่วยให้เจ้าชายชูก้าผ่านพ้นราตรีในคืนเดือนมืดไปได้
โดยมิต้องพึ่งพาความฝันจอมปลอมใดๆ

ใครล่ะจะไข่วคว้าพระจันทร์มาครอบครองไว้ได้

คือเหตุผลที่เจ้าชายชูก้ายังคงอยู่ที่นั่น

เพื่อรอวันที่พระจันทร์ตัดสินใจลงมายังโลกนี้ด้วยตัว(ของเธอ)เอง				
19 เมษายน 2547 15:38 น.

คุ้นเคยใช่เคยชิน

เจ้าขาว

หอมเบาๆเวลาเธอมาใกล้
เธอผลักไสไม่อยากให้ได้กลิ่น
อ้างทำงานเหงื่อไคลอาบไหลริน
เปื้อนมลทินกลิ่นเหม็นหมองอย่าลองดม

พยายามหว่านล้อมเธอเท่าไหร่
ว่านวลไหลเธอหอมหวานไม่มีขม
เธอยังแสร้งบอกเราชินกลิ่นเคยดม
โธ่!ที่ชมกลิ่นตุ่นนี้(เพราะ)พี่คุ้นเคย				
24 มีนาคม 2547 02:18 น.

นิราศเชียงใหม่-สันทราย บ่ายวันอาทิตย์

เจ้าขาว

แสงส่องลงตรงกบาลพาลนึกหิว
กระเพาะกริ้วตะโกนก้องต้องผวา
ตั้งแต่ตื่นยังไม่ได้แตะข้าวปลา
พี่ตี้พาไปเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวเรือ

ตอนยังเด็กประถมจำได้ดี
อาจารย์ที่โรงอาหารดุปานเสือ
มื้อนั้นเป็นเส้นหมี่ลูกชิ้นเนื้อ
ใครกินเหลือโดนแกว่าน้ำตาคลอ

มาวันนี้มีประยุกต์ลูกชิ้นหมู
ดมกลิ่นดูถึงกับน้ำลายสอ
วัดสวนดอกออกซ้ายปุ๊บเห็นคนรอ
ชามเดียวพอไม่ขอเติมกลัวเพิ่มพุง

เสร็จธุระในเมืองของพี่ตี้
เราก็มีศึกใหญ่ให้รบพุ่ง
อุตส่าห์เดินทางมาจากกรุง
ทั้งหลานลุงนั่งเล่นเกมส์ออนไลน์

พี่แกแก่แต่หัวใจยังวัยหนุ่ม
เหมือนเสือซุ่มซ่อนลายพรางฤาจางหาย
วันดีดีคืนดีดีนี่แอบร้าย
แฟนซ้อนท้ายซิ่งฮาเล่เท่ห์เหลือเกิน

จนบ่ายสี่พี่ก็เกิดหิวอีกครั้ง
เราก็ยังกินได้ไม่เคอะเขิน
บุพเฟ่ห์เสต็กศาลเด็กนั่งเพลิน
เดี๋ยวนี้เจริญย้ายมาตั้งอยู่ริมปิง
				
16 มีนาคม 2547 13:18 น.

คลำบางคำ

เจ้าขาว

ชั้นและเธอต่างคลำไปในคำ 
บางคำอำชวนขำในความหมาย 
คนละคลำสองคลำปล้ำแทบตาย 
พบมากมายหลายคำในคำเดียว 

คำบางคำเราพยายามคลำ 
คลำบางคำทำเอาเราหวาดเสียว 
บางคนคลำไปแต่ในทางเดียว 
ที่ไม่เกี่ยวกับคำที่กำลังคลำ
				
15 มีนาคม 2547 02:44 น.

นิราศเชียงใหม่-สันทราย เช้าวันอาทิตย์

เจ้าขาว

แสงอรุณอุ่นเปลือกตาอ้าปากหาว
เมื่อคืนหนาวร้าวเพียงใดไม่อาจเอ่ย
กว่าจะข่มตาลงได้อย่างเคย
ก็ล่วงเลยไปหลับนอนตอนตีห้า
มาเชียงใหม่เที่ยวนี้มีที่พัก
สะดวกนักมานอนห้องน้องด้า
มันก็ช่างแสนดีเกินพรรณนา
ขันอาสาสละเตียงไปนอนพื้น
พี่ตี้โทรมาหาว่าว่างไหม
หันมองไปไอ้ด้ายังไม่ตื่น
จึงตกลงตามข้อเสนอที่พี่ยื่น
ออกไปยืนรอรถตรงริมทาง
สิบนาทีพี่ตี้ขับรถมารับ
สวัสดีครับพี่เป็นอย่างไรบ้าง
ไตร่ถามสารทุกข์แทบทุกอย่าง
คุยกระจ่างแจ้งทุกเรื่องที่ข้องใจ
ประเดี๋ยวเดียวก็ถึงโรงพยาบาล
ป้ายอาคารแจ้งนามรามสองไว้
ขึ้นลิฟท์ตรงลงชั้นสี่รี่เร็วไว
เข้าห้องไปไหงไม่เจอเธอ น้องออย
เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้
น้องตัวดีซ้อนรถเครื่องกับหนุ่มน้อย
อยู่ดีดีมีรถชนจนตัวลอย
ร่างกระจ้อยร่อยเยินเกินทำใจ
เหตุเป็นเพราะรถคันนั้นมันเมา
ก่อเรื่องเศร้าเผาทรวงให้กลวงไหม้
ทำน้องสาวแสนดีมีเภทภัย
หักทั้งไหล่ไหปลาร้าผ่าสมอง
ทั้งที่ซ้อมรับปริญญามาทั้งอาทิตย์
โอ้บัณฑิตย์ผิดแผนแค้นคูณสอง
เมียงมองเธอทำกายภาพน้ำตานอง
กรรมใดน้องก่อไว้ให้เวทนา				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเจ้าขาว
Lovings  เจ้าขาว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเจ้าขาว
Lovings  เจ้าขาว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเจ้าขาว
Lovings  เจ้าขาว เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเจ้าขาว